Android News
Snapdragon 8 Gen 2 สรุปฟีเจอร์น่าสนใจ รายชื่อมือถือที่ใช้
Snapdragon 8 Gen 2 เป็นแพลตฟอร์มมือถือรุ่นล่าสุดและดีที่สุดจาก Qualcomm วันนี้ทีมงาน iphone-droid.net จะพาไปสรุปทุกสิ่งเกี่ยวกับชิปเซ็ตตัวนี้ และรายชื่อมือถือที่ใช้ชิปอันทรงพลังนี้

หัวข้อเนื้อหาในบทความ
Snapdragon 8 Gen 2 ออกแบบมาเพื่อขับเคลื่อนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตรุ่นใหม่ล่าสุดและดีที่สุด ด้วยคุณสมบัติขั้นสูง เช่น การประมวลผล AI, การเชื่อมต่อ 5G และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ดีขึ้น ชิปนี้พร้อมปฏิวัติอุตสาหกรรมมือถือได้อย่างไร ไปดูกันครับ
Snapdragon 8 Gen 2 สรุปฟีเจอร์น่าสนใจ

- AI ที่ก้าวล้ำ: AI Engine ประกอบด้วยตัวประมวลผล Qualcomm Hexagon พร้อมการอนุมานแบบไมโครไทล์ที่ปฏิวัติวงการและตัวเร่ง Tensor ที่เร็วขึ้นเพื่อประสิทธิภาพ AI ที่เร็วกว่ารุ่นก่อน ถึง 4.35 เท่า นอกจากนี้ การรองรับความแม่นยำของ INT4 ยังเพิ่มประสิทธิภาพต่อวัตต์ได้ถึง 60% สำหรับการอนุมาน AI ตลอดการประมวลผล
- การเล่นเกมระดับแชมเปี้ยน: Qualcomm Adreno GPU เจเนอเรชันถัดไป การเรนเดอร์กราฟิกเร็วขึ้น 25% นอกจากนี้ คลังแสงเต็มรูปแบบของคุณสมบัติ Snapdragon Elite Gaming ยังเพิ่มความสมจริงที่เหนือชั้น รวมถึงมาตรฐานอุตสาหกรรมสำหรับ Ray Tracing ที่เร่งด้วยฮาร์ดแวร์แบบเรียลไทม์ ให้แสง การสะท้อน และการส่องสว่างที่แท้จริงสำหรับประสบการณ์การเล่นเกมระดับเดสก์ท็อป
- การจับภาพอันชาญฉลาด: Qualcomm Spectra บรรจุ 18-bit triple Cognitive ISPs และกล้อง Always-Sensing พร้อม AI ซึ่งช่วยยกระดับทุกประสบการณ์ Snapdragon Sight อย่างชาญฉลาด นอกจากนี้ ยังสามารถจับภาพเดี่ยวสูงสุด 200MP ที่ 3.2 กิกะพิกเซลต่อวินาที
- เร่งประสิทธิภาพ: Kryo CPU ให้ประสิทธิภาพที่เร็วขึ้น 35% และประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดีขึ้น 40% การปรับปรุงเหล่านี้มาจากสถาปัตยกรรมไมโครใหม่ล่าสุด ซึ่งแปลงหนึ่งคอร์ประสิทธิภาพเป็นคอร์ประสิทธิภาพเพิ่มเติม เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดแบบมัลติเธรดด้วยความเร็วสูงสุด 3.36GHz
- ประสิทธิภาพ 5G ที่ก้าวล้ำ: Snapdragon X70 5G Modem-RF มาพร้อมกับ Qualcomm 5G AI Processor, Qualcomm Smart Transmit และ Qualcomm 5G PowerSave เพื่อความก้าวหน้าล่าสุดในด้านความเร็ว การครอบคลุม และความหน่วง รวมถึงช่วงและความสเถียรการเชื่อมต่อ
- Wi-Fi 7: ระบบเชื่อมต่อมือถือ Qualcomm FastConnect 7800 รองรับ Wi-Fi 7 เชิงพาณิชย์ครั้งแรกที่มี High Band Simultaneous (HBS) Multi-Link โดยให้ความหน่วงต่ำระดับ VR, เพิ่มความเร็ว Wi-Fi 6 มากกว่าสองเท่าสูงสุดถึง 5.8Gbps นอกจากนี้ยังรองรับ Dual Bluetooth, LE Audio และ Snapdragon Sound พร้อมระบบเสียงรอบทิศทางเพื่อประสบการณ์เสียงที่ดื่มด่ำ
แพลตฟอร์มมือถือนี้ได้รับการออกแบบอย่างชาญฉลาดด้วย AI ที่ก้าวล้ำ เพื่อมอบประสบการณ์ที่พิเศษอย่างแท้จริง โดยเฉพาะเทคโนโลยีด้าน AI ที่มีประสิทธิภาพที่เร็วขึ้น การเชื่อมต่อที่เหนือชั้น การเล่นเกมระดับขั้นสูง การจับภาพอันชาญฉลาด และอื่นๆ อีกมากมาย
Qualcomm AI Engine ที่มาพร้อมกับชิปรุ่นใหม่นี้ต้องบอกเลยว่าเร็วที่สุดและล้ำหน้าที่สุดของ Qualcomm ที่จะมอบประสบการณ์ที่ใช้งานง่ายสุดๆ เช่น การประมวลผลภาษาธรรมชาติที่เร็วขึ้นพร้อมการแปลและการถอดเสียงหลายภาษา, การถ่ายวิดีโอภาพยนตร์ด้วย AI, การรองรับคำสั่งเสียงโดยตรงสำหรับแอป, บอท AI สำหรับเกมระดับขั้นสูง และอื่นๆ
นอกจากนี้ ยังได้นำ AI มาสู่ระบบ RF โมเด็ม Snapdragon X70 5G ด้วยโปรเซสเซอร์ 5G AI ตัวแรกและตัวเดียวในระบบโมเด็ม RF ทำให้ชิปตัวนี้เป็นแพลตฟอร์มการเชื่อมต่อมือถือที่ล้ำหน้าที่สุดเท่าที่เคยมีมา และ Qualcomm ไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น เพราะในเรื่องของกล้อก็ขับเคลื่อนโดย Cognitive ISP รายแรกของอุตสาหกรรมที่เปิดใช้งานการจับภาพอันชาญฉลาด พร้อม Semantic Segmentation แบบเรียลไทม์สำหรับการปรับแต่งภาพถ่ายและวิดีโอ
เปรียบเทียบชิป Snapdragon 8
ชิปเซ็ต | CPU สูงสุด | Cellular Modem-RF | Wi-Fi / Bluetooth | กล้อง ISP Bit Depth | การชาร์จ | เทคโนโลยีการผลิต |
---|---|---|---|---|---|---|
Snapdragon 8 Gen 2 | 3.36 GHz | SnapdragonX70 5G Modem-RF System | FastConnect 7800 | 18-bit | Quick Charge 5 | 4 nm |
Snapdragon 8+ Gen 1 | 3.2 GHz | SnapdragonX65 5G Modem-RF System | FastConnect 6900 | 18-bit | Quick Charge 5 | 4 nm |
Snapdragon 8 Gen 1 | 3 GHz | SnapdragonX65 5G Modem-RF System | FastConnect 6900 | 18-bit | Quick Charge 5 | 4 nm |
เห็นความล้ำของชิปเซ็ตตัวนี้กันแล้ว หลายคนก็น่าจะอยากทราบว่าในบ้านเราตอนนี้มีมือถือรุ่นใดบ้างที่ใช้ชิปตัวนี้ ถ้าอย่างนั้นก็ไปดูพร้อมกันเลยครับ
รายชื่อมือถือที่ใช้ Snapdragon 8 Gen 2
Samsung Galaxy S23 Ultra (Snapdragon 8 Gen 2 for Galaxy)

- รุ่น RAM 8GB + 256GB ราคา 43,900 บาท
- รุ่น RAM 12GB + 512GB ราคา 49,900 บาท
- รุ่น RAM 12GB + 1TB ราคา 59,900 บาท
Galaxy S23 Ultra แน่นอนว่าต้องมาพร้อมกับลิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 2 Mobile Platform ที่ปรับแต่งเองสำหรับ Galaxy โดยเฉพาะ และการปรับปรุงครั้งใหญ่ในเรื่องของกล้องหลักเป็นเซ็นเซอร์ ISOCELL HP2 ความละเอียด 200MP
ฟีเจอร์ด้านการถ่ายวิดีโอก็น่าสนใจ อย่างการมีโหมดวิดีโอ Astro Hyperlapse หรือการปรับปรุงความเสถียรของวิดีโอให้ดีขึ้นกว่ากล้องหลัก 108MP ตัวเก่าด้วยฟีเจอร์ Adaptive VDIS รวมไปถึงแบตใหญ่ 5000mAh ชาร์จเร็ว 45W
- หน้าจอ: 6.8 นิ้ว ความละเอียด 1440 x 3088 พิกเซล Dynamic AMOLED 2X, 120Hz, HDR10+
- ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับด้วย One UI 5.1
- ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2
- GPU: Adreno 740
- RAM: 8GB/12GB
- ความจุเครื่อง: 256GB/512GB/1TB
- microSD card: ไม่รองรับ
- กล้องหลัง 4 ตัว:
- กล้องหลักความละเอียด 200 ล้านพิกเซล f/1.7
- กล้อง Periscope ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล f/4.9
- กล้อง Telephoto ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล f/2.4
- กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/2.2
- กล้องหน้า: 12 ล้านพิกเซล f/2.2
- การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จเร็ว 45W
Samsung Galaxy S23+ (Snapdragon 8 Gen 2 for Galaxy)

- รุ่น RAM 8GB + 256GB ราคา 37,900 บาท
- รุ่น RAM 8GB + 512GB ราคา 42,900 บาท
Galaxy S23 ทุกรุ่นจะใช้ชิปเซ็ต Qualcomm ที่ผลิตโดยเฉพาะ ซึ่งมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Snapdragon 8 Gen 2 for Galaxy คือเป็นชิปที่ออกมาให้มีความเร็วสัญญาณนาฬิกาที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับชิปเซ็ตรุ่นปกติ
สำหรับกล้องนั้นยังคงมีเซ็นเซอร์ 50MP ซึ่งก็ต้องขอบคุณชิปเซ็ตใหม่ที่ใส่มาให้เพราะทำให้สามารถบันทึกวิดีโอ 8K ที่ 30fps (เพิ่มขึ้นจาก 24fps ของปีที่แล้ว) กล้องอัลตร้าไวด์ 12MP และกล้องเทเลโฟโต้ 10MP ซูมออปติคอลได้ 3x
- หน้าจอ: 6.6 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2340 พิกเซล Dynamic AMOLED 2X, 120Hz, HDR10+
- ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับด้วย One UI 5.1
- ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2
- GPU: Adreno 740
- RAM: 8GB
- ความจุเครื่อง: 256GB/512GB
- microSD card: ไม่รองรับ
- กล้องหลัง 3 ตัว:
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/1.8
- กล้อง Telephoto ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล f/2.4
- กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/2.2
- กล้องหน้า: 12 ล้านพิกเซล f/2.2
- การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่: 4700mAh ชาร์จเร็ว 45W
Samsung Galaxy S23 (Snapdragon 8 Gen 2 for Galaxy)

- รุ่น RAM 8GB + 128GB ราคา 30,900 บาท
- รุ่น RAM 8GB + 256GB ราคา 33,900 บาท
Galaxy S23 มือถือ Samsung รุ่นเล็กสุดนั้นก็มีสเปคเหมือนกับ S23+ รุ่นพี่ทุกอย่าง ยกเว้นขนาดหน้าจอที่ให้มา 6.1 นิ้ว กะทัดรัด พกพาง่าย โดยสิ่งที่เพิ่มเข้ามาใหม่ในปีนี้ ได้แก่ Vision Booster ซึ่งปรับสีและคอนทราสต์ให้เข้ากับสภาพแสงโดยรอบ และฟีเจอร์ Enhanced Comfort เพื่อลดอาการปวดตา
นอกจากนี้ก็ใช้ชิปเซ็ตตัวเดียวกับรุ่นพี่ และลำโพงเสียงสเตอริโอ Tuned by AKG สำหรับกล้องก็มีเซ็นเซอร์ 50MP และแบตเตอรี่ 3900mAh รองรับชาร์จเร็ว 25W
- หน้าจอ: 6.1 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2340 พิกเซล Dynamic AMOLED 2X, 120Hz, HDR10+
- ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับด้วย One UI 5.1
- ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2
- GPU: Adreno 740
- RAM: 8GB
- ความจุเครื่อง: 128GB/256GB
- microSD card: ไม่รองรับ
- กล้องหลัง 3 ตัว:
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/1.8
- กล้อง Telephoto ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล f/2.4
- กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/2.2
- กล้องหน้า: 12 ล้านพิกเซล f/2.2
- การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่: 3900mAh ชาร์จเร็ว 25W
Xiaomi 13 Pro

- รุ่น 12GB + 512GB ราคา 39,990 บาท
การอัปเกรดที่ใส่มาในรุ่นนี้คือความสว่างสูงสุดสำหรับการใช้งานทั่วไปที่ 1,200 นิต ในขณะที่การเพิ่มความสว่างสูงสุดระหว่างการเล่นวิดีโอ HDR สามารถสูงถึง 1,900 นิต มาพร้อมกับหน่วยความจำ RAM LPDDR5X และที่เก็บข้อมูลภายในตัวเครื่องก็เป็นชนิด UFS 4.0 เจเนอเรชันใหม่ด้วย
จอแสดงผลของ Xiaomi 13 Pro ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับ Xiaomi 12 Pro คือมีหน้าจอขนาด 6.73 นิ้ว อัตราการรีเฟรชตัวแปร 120Hz เป็นแผงจอแบบ LTPO ความละเอียด 1440 x 3200 พิกเซล รองรับการแสดงผล HDR10+, Dolby Vision, HLG และการลดแสง DC 1920Hz โดยจอแสดงผลยังมีเซ็นเซอร์อุณหภูมิสีโดยรอบที่ช่วยให้ปรับอุณหภูมิสีได้ทันที
- หน้าจอ: 6.73 นิ้ว ความละเอียด 1440 x 3200 พิกเซล, LTPO OLED, 1 พันล้านสี, 120Hz, Dolby Vision, HDR10+
- ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับด้วย MIUI 14
- ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2
- GPU: Adreno 740
- RAM: 12GB
- ความจุเครื่อง: 512GB
- microSD card: ไม่รองรับ
- กล้องหลัง 3 ตัว:
- กล้องหลักความละเอียด 50.3 ล้านพิกเซล f/1.9
- กล้อง Telephoto ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/2.0
- กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/2.2
- กล้องหน้า: 32 ล้านพิกเซล
- การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่: 4820mAh รองรับชาร์จเร็ว 120W
Xiaomi 13

- รุ่น 12GB + 256GB ราคา 29,990 บาท
จอแสดงผลของ Xiaomi 13 ตอนนี้ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย คือ 6.36 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล อัตราการรีเฟรช 120Hz (ไม่ใช่ LTPO) รองรับการแสดงผล Dolby Vision, HDR10+ และรองรับ HLG มีเซ็นเซอร์อุณหภูมิสีโดยรอบ
กล้องหลังได้ Leica เช่นเดียวกัน โดยกล้องหลักมีขนาด 50 MP, f/1.8, เทียบเท่าเลนส์ 23 มม. และ Hyper OIS ในขณะที่กล้อง Telephoto มีขนาด 10MP มีระบบกันสั่น OIS พร้อมเลนส์ Leica รูรับแสง f/2.0 และซูม 3x ส่วนกล้อง Ultra-wide มีความละเอียด 12MP รูรับแสง f/2.2 ไม่รองรับออโต้โฟกัส
- หน้าจอ: 6.36 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล, AMOLED, 120Hz, Dolby Vision, HDR10+
- ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับด้วย MIUI 14
- ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2
- GPU: Adreno 740
- RAM: 12GB
- ความจุเครื่อง: 256GB
- microSD card: ไม่รองรับ
- กล้องหลัง 3 ตัว:
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/1.8
- กล้อง Telephoto ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล f/2.0
- กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/2.2
- กล้องหน้า: 32 ล้านพิกเซล f/2.0
- การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่: 4500mAh รองรับชาร์จเร็ว 67W
OnePlus 11

- รุ่น 8GB + 128GB ราคา 29,990 บาท
- รุ่น 16GB + 256GB ราคา 32,990 บาท
OnePlus 11 5G สมาร์ทโฟนตัวท็อปสุดของ OnePlus ประจำต้นปีนี้ โดยมาแบบเลขเดียวๆ ไม่ต้องมีคำว่า “Pro” เพราะทุกอย่างนั้นจบในรุ่นนี้แล้วครับ ไม่ว่าจะเป็นขุมพลัง Snapdragon 8 Gen 2, หน้าจอ 2K แบบ 120Hz พร้อมกล้อง 50MP ที่ร่วมพัฒนากับทาง Hasselblad
ด้วยความแรงที่จัดเต็มมาให้ใน OnePlus 11 5G ทำให้ระบบระบายความร้อนต้องอัปเกรดตามไปด้วย ซึ่งในรุ่นนี้ก็มาพร้อม Cryo-velocity VC Cooling รุ่นใหม่ที่ใช้โครงสร้างโมเลกุลหกเหลี่ยมคู่กับวัสดุคริสตัลผลึกกราฟีนที่ใหญ่ที่สุดช่วยให้ระบายความร้อนได้เร็วกว่าเดิม
- หน้าจอ: 6.7 นิ้ว ความละเอียด 1440 x 3216 พิกเซล LTPO3 Fluid AMOLED, 1 พันล้านสี, 120Hz, Dolby Vision, HDR10+
- ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับด้วย OxygenOS 13
- ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2
- GPU: Adreno 740
- RAM: 8GB/16GB
- ความจุเครื่อง: 128GB/256GB
- microSD card: ไม่รองรับ
- กล้องหลัง 3 ตัว:
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/1.8
- กล้อง Telephoto ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล f/2.0
- กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล f/2.2
- กล้องหน้า: 16 ล้านพิกเซล f/2.5
- การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จเร็ว 100W
Redmagic 8 Pro

- รุ่น 12GB + 256GB ราคา 26,990 บาท
- รุ่น 16GB + 512GB ราคา 32,990 บาท
RedMagic 8 Pro หน้าจอ OLED ขนาดใหญ่ 6.8″ ความละเอียด 2480 x 1116 พิกเซล Refresh rate 120Hz และใช้กล้องหน้าแบบใต้หน้าจอ 16MP จึงทำให้ทั้งด้านหน้านั้นเป็นจอไปทั้งหมด ใช้หน่วยความจำ RAM แบบ LPDDR5X + ความจุ UFS 4.0
มาพร้อมระบบระบายความร้อนใหม่ VC Cooling Ice 11.0 ขนาดใหญ่ 2068mm³ ใหญ่ที่สุดเท่าที่ Nubia เคยทำมาเลย ช่วยให้เล่นเกมได้ต่อเนื่องโดยที่ตัวเครื่องไม่ร้อนสะสม นอกจากนี้ที่กรอบตัวเครื่องยังมีปุ่ม Shoulder มาให้ด้วยความเร็วสูง 540Hz เป็นปุ่มด้านข้างที่ตอบสนองได้ไวที่สุดเลยก็ว่าได้ ในส่วนของแบตเตอรี่ให้มาจุใจ 6000mAh ชาร์จเร็ว 65W
- หน้าจอ: 6.8 นิ้ว ความละเอียด 1116 x 2480 พิกเซล AMOLED, 1 พันล้านสี, 120Hz
- ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับด้วย Redmagic OS 6
- ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2
- GPU: Adreno 740
- RAM: 12GB/16GB
- ความจุเครื่อง: 256GB/512GB
- microSD card: ไม่รองรับ
- กล้องหลัง 3 ตัว:
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/1.8
- กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.2
- กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล f/2.4
- กล้องหน้า: 16 ล้านพิกเซล
- การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่: 6000mAh ชาร์จเร็ว 65W
iQOO 11

- รุ่น 16GB + 256GB ราคา 29,990 บาท
iQOO 11 5G สมาร์ทโฟนเกมมิ่งที่มาพร้อมชิปเซ็ตเรือธง Qualcommและได้จอแสดงผล E6 AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 2K ปัดจอลื่นสุดๆ ด้วยรีเฟรชเรทระดับสูงสุด 144Hz ตอบโจทย์สายเกมที่สุดสำหรับรุ่นนี้
ด้านดีไซน์ตัวเครื่องเรียกว่า Legend White ที่มาพร้อมแถบโลโก้ 3 สี อันเป็นเอกลักษณ์ของทาง BMW M Motorsport ค่ายรถแข่งระดับโลกที่พาร์ทเนอร์การออกแบบร่วมกับ iQOO แถมใส่ RAM มาให้ขนาด 16GB และความจุตัวเครื่อง 256GB ส่วนแบตเตอรี่ขนาด 5000 mAh รองรับชาร์จไว FlashCharge 120W และกล้องหลักความละเอียด 50MP
- หน้าจอ: 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1440 x 3200 พิกเซล LTPO4 AMOLED, 1 พันล้านสี, 144Hz, HDR10+
- ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับด้วย Funtouch OS 13
- ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2
- GPU: Adreno 740
- RAM: 16GB
- ความจุเครื่อง: 256GB
- microSD card: ไม่รองรับ
- กล้องหลัง 3 ตัว:
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/1.9
- กล้อง Telephoto ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล f/2.5
- กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.2
- กล้องหน้า: 16 ล้านพิกเซล f/2.5
- การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จเร็ว 120W
HONOR Magic5 Pro

- รุ่น 12GB + 512GB ราคา 29,990 บาท
HONOR Magic5 Pro มาพร้อมหน้าจอโค้ง 4 มุมขนาด 6.81″ มี Refresh rate สูง 120Hz แบบ LTPO ได้รับการอัปเกรดดีไซน์ใหม่หมดด้วย Star Wheel Triple Camera ด้วยวงแหวนกล้องหลังขนาดใหญ่ที่ให้ความสมมาตรกว่าที่เคย กล้องหลัง 3 ชุดใหม่ความละเอียด 50MP ทั้งหมด จัดเต็มด้วยชิปเซ็ตตัวท็อป และแบตเตอรี่ 5100mAh ชาร์จไวแบบสาย 66W และแบบไร้สาย 50W อีกด้วย
- หน้าจอ: 6.81 นิ้ว ความละเอียด 1312 x 2848 พิกเซล LTPO OLED, 1 พันล้านสี, 120Hz, HDR10+
- ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับด้วย MagicOS 7.1
- ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2
- GPU: Adreno 740
- RAM: 12GB
- ความจุเครื่อง: 512GB
- microSD card: ไม่รองรับ
- กล้องหลัง 4 ตัว:
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/1.6
- กล้อง Periscope ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/3.0
- กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/2.0
- TOF 3D
- กล้องหน้า: 12 ล้านพิกเซล f/2.4 และ TOF 3D
- การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่: 5100mAh ชาร์จเร็ว 66W
ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลของชิป Snapdragon 8 Gen 2 ที่มีฟีเจอร์น่าสนใจเพียบๆ พร้อมรายชื่อมือถือที่ใช้ชิปตัวนี้ในไทย และเพื่อนๆ ใช้งานรุ่นไหนกันอยู่บ้าง อย่าลืมกดติดตามแฟนเพจ @iPhoneDroid.net และทวิตเตอร์ @iPhone_Droid จะได้ไม่พลาดข่าวสารดีๆ ด้วยนะครับ