
รีวิว iQOO Neo 10 สมาร์ตโฟน “เต็มแม็กซ์ในทุกแมตช์” ที่เป็นเกมมิ่งโฟนรุ่นแรกในประเทศไทยที่มาพร้อมขุมพลัง Snapdragon 8s Gen 4 รุ่นใหม่จาก Qualcomm ควบคู่กับชิป Q1 เสริมพลังในด้านการประมวลผลกราฟิกเพื่อให้เราได้ใช้งานแบบเต็มแม็กซ์ในทุกแมตช์ !! และยังได้แบตเตอรี่ Bluevolt ขนาดใหญ่ 7000mAh ชาร์จเร็วแบบ 120W FlashCharge และฟีเจอร์อื่นที่มาเอาใจผู้ใช้งานแบบจุใจแน่นอน
สรุปสเปค iQOO Neo 10
- ขนาดตัวเครื่อง : 163.72 x 75.88 x 8.09 มม.
- น้ำหนัก : 206 กรัม
- หน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1.5K (2800 × 1260 พิกเซล), 452 PPI อัตราส่วน 20:9 รองรับ Refresh Rate 144Hz แสดงผลสี 1.07 พันล้านสี, Contrast ratio: 8000000:1 สัดส่วนพื้นที่ต่อหน้าจอ 93.42% และความสว่างสูงสุดเฉพาะส่วน 5500nits
- หน่วยประมวลผล : Snapdragon 8s Gen 4 Octa-core ความเร็ว 3.21GHz
- GPU : Adreno 825
- RAM : 12/16GB LPDDR5X Ultra
- ROM : 256/512GB UFS 4.1
- กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 2 เลนส์ดังนี้
- เลนส์หลักความละเอียด 50MP, รูรับแสง f/1.79 เซ็นเซอร์ Sony IMX882 ขนาด 1/2″ รองรับกันสั่น OIS
- เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 8MP รูรับแสง f/2.2
- กล้องหน้า 32MP รูรับแสง f/2.45
- ระบบปฏิบัติการ Android 15 ครอบทับด้วย Funtouch OS 15
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4, 5G, NFC และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่ Bluevolt ความจุ 7000mAh รองรับชาร์จเร็ว 120W FlashCharge
แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
มาแกะกล่อง iQOO Neo 10 กันก่อน !
ตัวกล่อง iQOO Neo 10 มาในรูปแบบกล่องสีดำ ซึ่งจะมีชื่อรุ่น iQOO Neo เป็นแนวนอน และมีเลข “10” สะท้อนอยู่ด้านหลัง

เปิดมาชั้นแรกจะเจอตัวเครื่องเลย โดยหน้าจอมีการติดฟิล์มกันรอยมาให้เรียบร้อยแล้วครับ

มาอีกชั้นจะเป็นซองใส่เคสซิลิโคนแบบสีดำทึบ ซึ่งทั้งสีส้มและดำจะได้แบบเดียวกันด้วย รวมถึงยังมีคู่มือการใช้งานเบื้องต้นครับ

และท้ายสุดจะให้หัวชาร์จ 120W FlashCharge แบบหัวกลมมาให้ และสายก็จะเป็นแบบ USB Type-C to C อีกด้วย

รวมๆ แล้วทั้งหมดที่ให้มาในกล่องจะมีดังนี้
- ตัวเครื่อง iQOO Neo 10 พร้อมติดฟิล์มกันรอย
- อะแดปเตอร์ 120W
- สาย USB Type-C to Type-C
- เคสซิลิโคนสีดำทึบ
- เข็มเปิดถาดซิม
- คู่มือการใช้งานเบื้องต้น

ดีไซน์ Porthole เทียบระดับเรือธง สวยงาม แต่แฝงความทรงพลัง !
เรามีดีไซน์ของ iQOO Neo 10 มาให้ชมกันครบ 2 สี คือ สีส้ม Blazing Orange และสีดำ Cosmic Black บอกเลยว่าทั้งคู่มีสไตล์ที่ต่างกันแบบสุดขั้ว ขอเริ่มด้วยสี Blazing Orange ที่เป็นสีหลักของตระกูลนี้ที่เหมือนจะเป็นสีส้มเพลิงที่มีความดุดัน แข็งแกร่ง และดูแรงตามขุมพลังที่ใช้อย่าง Snapdragon 8s Gen 4 ซึ่งจะมีการไล่ระดับความเข้มจากล่างขึ้นบนอย่างสวยงาม

ขณะที่สี Cosmic Black จะเป็นสีดำที่ได้ความพรีเมียม แบบเรียบๆ และดูคลาสสิก สบายตามากๆ

ตัวเครื่องยังจับถือได้สะดวก ฝาหลังมีความโค้งที่ขอบทั้ง 4 ด้านเพื่อให้รับอุ้งมือได้ดีมากๆ โดยขอบเครื่องด้านข้างจะเป็นแบบแบนเรียบทั้งหมดครับ

โมดูลกล้องในรุ่นนี้ใช้เป็นแบบ Porthole ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรุ่นเรือธงของ iQOO เอง ทำให้ iQOO Neo 10 มีความพรีเมียมเกินราคาและมีความเป็นเอกลักษณ์

ทั้งนี้ ด้วยแบตเตอรี่ที่ถูกใส่เข้ามาถึง 7000mAh แต่ก็ยังทำความบางได้ดีมากที่ 8.09 มม. และน้ำหนักเครื่องอยู่ที่ 206 กรัม

พร้อมทุกสถานการณ์ด้วยมาตรฐาน IP65
iQOO Neo 10 ใช้งานได้ในหลายสถานการณ์ด้วยมาตรฐานทนน้ำ-ทนฝุ่น IP65 ที่ป้องกันละอองน้ำหรือช่วงที่ใช้งานในตอนฝนตกได้แบบต่อเนื่องด้วย

ระบบระบายความร้อน 7K Ultra VC Liquid Cooling ขนาดใหญ่
หากพูดถึงสมาร์ตโฟนเกมมิ่งแล้ว สิ่งที่สำคัญมากๆ คือระบบระบายความร้อน ใน iQOO Neo 10 ก็จัดแผ่นระบายความร้อน VC Liquid Cooling ขนาดใหญ่ถึง 7000 ตารางมิลลิเมตร ทำให้ความร้อนถูกกระจายไปไปทั่วฝาหลัง ส่งผลให้ความร้อนระบายเร็วขึ้นและใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพได้นานกว่าเดิมครับ

ทนทานเต็มแม็กซ์ด้วยการกันกระแทกตามมาตรฐาน MIL-STD-810H
ไม่ใช่แค่ความสวยงามเท่านั้น iQOO Neo 10 รุ่นนี้ยังได้โครงสร้างที่ทนต่อการตกกระแทกตามมาตรฐาน MIL-STD-810H ทางการทหารของสหรัฐอเมริกาเลยทีเดียว มีการเสริมความหนาที่มุมเครื่องทั้ง 4 ด้าน ป้องกันได้อย่างเต็มที่เวลาการตกกระแทก ชิ้นส่วนภายในจะได้รับแรงน้อยลงกว่าเดิม ทั้งนี้หน้าจอแสดงผลยังใช้เป็นกระจก Shield Glass ที่ทนต่อการตกกระแทกได้ดีกว่าเดิมถึง 150% และยังติดทับด้วยฟิล์มคุณภาพสูงที่ติดมาตั้งแต่โรงงานเลย

หน้าจอ 1.5K Eyecare AMOLED ไหลลื่น 144Hz !!
iQOO Neo 10 จัดหน้าจอที่เหมาะกับการเล่นเกมเป็นหลักมาให้ใช้งานเต็มที่ ตั้งแต่พาเนล AMOLED ขนาดใหญ่ 6.78 นิ้ว ระดับ 1.5K อัตราส่วน 20:9 สีสันยังแสดงได้มากถึง 1.07 พันล้านสี พร้อม Contrast ratio: 8000000:1 โดยที่ขอบหน้าจอก็บางเฉียบมากๆ ทำให้มีสัดส่วนพื้นที่การแสดงผลหน้าจอมากถึง 93.42% และก็ยังมีการหรี่แสงที่มีความถี่สูงถึง 4320Hz และรองรับ DC Dimming ที่ความสว่างสูงสุด ซึ่งทำให้เวลาจ้องหน้าจอนานๆ จะไม่รู้สึกเมื่อยล้าดวงตา

รุ่นนี้ยังเอาใจสายเกมด้วยการรองรับ Refresh Rate 144Hz ควบคู่กับ 3000Hz E-sports Instantaneous Touch Sampling Rate เรียกว่าการตอบสนองระหว่างการสัมผัสหนาจอจะรวดเร็วมากๆ ทำให้การกดปุ่มต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเกมนั้นเร็วมากแบบเรียลไทม์เลย

นอกจากนี้ ช่วงเวลาที่เราต้องใช้งานทกลางแจ้งก็หายห่วง เพราะความสว่างสูงสุดแบบทั้งจอที่ 2000nits หรือสว่างสูงสุดบางส่วนได้ถึง 5500nits เรียกว่าแดดจ้าๆ ก็ยังเอาไม่ลง !!

พาชมรอบเครื่องกันอีกนิด
เราพลิกมาดูรอบๆ เครื่องกันสักหน่อยว่ามีอะไรอยู่จุดไหนกันบ้าง ที่หน้าจอจะได้กล้องหน้า Punch Hole มาให้ตามปกติ โดยมีลำโพงสเตอริโออยู่ที่ขอบด้านบนด้วย

ด้านล่างจะมีช่องใส่ซิมการ์ดมาให้ 2 ซิม จะเป็นแบบพลิกหน้า-หลังครับ ถัดไปเป็นไมโครโฟนตัวหลัก ตามด้วยพอร์ต USB Type-C และลำโพงสเตอริโออีกตัว


ด้านบนจะเป็นไมโครโฟนตัวที่ 2 เพื่อใช้ในการตัดเสียงรบกวน

ขอบด้านขวาจะมีปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่ม Power มาให้

และฝั่งด้านหลังจะมีโมดูลกล้องหลังแบบ Porthole มีกล้องหลังคู่ พร้อมไฟแฟลช LED ทรงกลมที่มุมขวาล่าง

ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน
มาพร้อม Funtouch OS 15 (Android 15) ไหลลื่นและเสถียรกว่าเดิม
สำหรับ iQOO Neo 10 แกะกล่องมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุดอย่าง Android 15 ที่ถูกครอบทับด้วย Funtouch OS 15 มีความเสถียรมากขึ้น ใช้งานไหลลื่นอีกด้วย และการตอบสนองก็ทำได้ยอดเยี่ยมเลย

การใช้งานใน Funtouch OS 15 ยังมีให้เราได้ปรับแต่งหน้าจอหลัก โดยเฉพาะไอคอนที่เปลี่ยนได้ตามใจชอบ ทั้งแบบค่าเริ่มต้นหรือแบบสวยงาม สามารถปรับความโค้งของขอบไอคอนได้ หรือจะเป็นสีสันของระบบที่ปรับได้ตามใจเช่นกัน


ระบบความปลอดภัยจัดมาให้ครบ
ในรุ่นนี้มาพร้อมระบบความปลอดภัยที่นอกเหนือจากรหัสผ่านทั่วไปแล้ว ก็ยังมีการสแกนลายนิ้วมือที่อยู่ใต้หน้าจอด้วย ซึ่งการทำงานรวดเร็ว มีความเสถียรและความปลอดภัย ขณะที่การสแกนใบหน้าก็ทำได้รวดเร็วเหมือนกัน


ลำโพงสเตอริโอเสียงกระหึ่ม ดังสูงสุด 300%
ลำโพง 2 ตัวแบบสเตอริโอ ใช้งานได้กระหึ่ม เสียงดัง มีมิติ โดยเฉพาะในการเล่นเกมที่ได้ประโยชน์ในจุดนี้ไปเต็มๆ ในการฟังเสียงทิศทางในเกมได้อย่างชัดเจน หรือถ้าใครชอบดูวิดีโอก็จะได้รับความบันเทิงที่จุใจมากขึ้นกว่าเดิม

Circle to Search วงเพื่อค้นหาได้ง่ายเหมือนเดิม
ในรุ่นนี้ก็มาพร้อมกับฟีเจอร์ Circle to Search ที่ให้เราได้ค้นหาสิ่งที่อยู่บนหน้าจอได้เลยทันที เพียงแค่กดปุ่ม Home หรือแถบนำทางค้างไว้ จากนั้นก็ให้วงสิ่งที่ต้องการเพื่อค้นหาข้อมูลได้ทันที



ลบวัตถุหรือคนได้ง่ายๆ ด้วย AI Erase
ด้านการใช้งานก็ยังมี AI เข้ามาช่วยในเรื่องการลบวัตถุหรือคนออกได้แบบง่ายๆ เลย ตรงนี้ถือว่า iQOO Neo 10 ทำได้ดีมากๆ เพราะไม่ใช่แค่ลบ แต่ยังมีการแต่งเติมองค์ประกอบในภาพได้สมบูรณ์และแทบจะดูเนียน 100% เลย



ปรับภาพให้คมชัดขึ้นได้ด้วย AI Photo Enhance
นอกจากการลบวัตถุที่ไม่จำเป็นแล้ว ก็ยังมี AI Photo Enhance ที่สามารถปรับความคมชัดของภาพให้ดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งใครที่มีภาพถ่ายเก่าๆ ก็ใช้ฟีเจอร์นี้ปรับให้ดูเป็นปัจจุบันได้ด้วยครับ



ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่
Snapdragon 8s Gen 4 รุ่นแรกในไทย พร้อมชิป Q1 ความแรงแบบเต็มแม็กซ์
หน่วยประมวลผลหลักใน iQOO Neo 10 คือ Snapdragon 8s Gen 4 ซึ่งรุ่นนี้เป็นรุ่นแรกในไทยที่ให้เราได้สัมผัสความแรงแบบเต็มแม็กซ์ในทุกแมตช์ ชิปตัวนี้มาพร้อมความเร็ว Clock สูงสุด 3.21GHz มี 8 คอร์ แบบ All-Big-Core ทั้งหมด และใช้กระบวนการผลิตขนาดเล็ก 4nm เรียกได้ว่ามีความแรงเป็นน้องๆ ของตัวเรือธง
และไม่ใช่แค่ชิป Snapdragon 8s Gen 4 เท่านั้น แต่รุ่นนี้ยังมาพร้อมชิป Q1 เพื่อใช้ในการประมวลผลด้านกราฟิกให้สวยงามมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม มีการปรับปรุงคุณภาพของภาพในเกมให้สูงขึ้นกว่าเดิม มีการแต่งเติมเฟรมที่แทรกเข้าไปเพื่อให้ภาพดูไหลลื่นมากขึ้นแบบเห็นได้ชัดเจน ทั้งยังช่วยให้หลายเกมทลายขีดจำกัดด้านประสิทธิภาพเพื่อให้รองรับเฟรมเรทสูงสุดถึง 144FPS ด้วย

RAM LPDDR5X Ultra แรงขึ้น พร้อมเพิ่มส่วนขยายได้สูงสุด 16GB
RAM ในรุ่นนี้ให้มาเป็นแบบ LPDDR5X Ultra มีความเร็วแบนด์วิทช์ที่เร็วขึ้นกว่าเดิมและประหยัดพลังงานได้ดีกว่าแบบธรรมดาด้วย รวมถึงยังขยาย RAM ได้อีก โดยรุ่น RAM 12GB จะเพิ่มได้อีก 12GB ส่วนรุ่น 16GB จะเพิ่มได้ 16GB
และยังมี ROM UFS 4.1 ที่ให้ความเร็วในการอ่านและเขียนมากขึ้น จะเห็นได้ชัดเวลาอัปเดตหรือติดตั้งแอปพลิเคชั่นในตอนแรกหลังจากเปิดเครื่องมาใช้งานครับ

ผลการทดสอบบน AnTuTu v10 และ Geekbench 6
- ผลคะแนนการทดสอบด้านประสิทธิภาพด้าน CPU, GPU และหน่วยความจำบน AnTuTu 10.3.6 ได้มาที่ 2,144,270 คะแนน
- ผลคะแนนด้าน CPU บน Geekbench 6 ทำ Single-Core ไปที่ 2,139 คะแนน และ Multi-Core ที่ 7,161 คะแนน

มาพร้อม AI SuperLink ใช้งานเสถียรขึ้นแม้พื้นที่สัญญาณอ่อน
ในเรื่องการเล่นเกม อีกอย่างที่สำคัญมากๆ คือเรื่องสัญญาณการเชื่อมต่อ ใน iQOO Neo 10 มาพร้อมกับเทคโนโลยี AI SuperLink เป็นการดีไซน์เสาอากาศรอบทิศทาง 360 องศา ช่วยให้การเชื่อมต่อมีความเสถียรและไหลลื่นตลอดการใช้งาน แม้จะเป็นในพื้นที่อับสัญญาณ หรือในตอนที่เราเล่นเกมและอุ้งมือบังขอบเครื่องที่เป็นจุดรับสัญญาณ

ทดสอบการเล่นเกม
มาถึงการทดสอบการเล่นเกมแบบจริงจังกันหน่อย เราได้เล่น 4 เกม คือ Garena Delta Force, ROV, PUBG Mobile และ Honkai: Star Rail ซึ่งแต่ละเกมก็เล่นได้ไหลลื่นทั้งหมด เล่นแบบเต็มแม็กซ์ในทุกแมตช์ ส่วนรายละเอียดแบบเจาะลึกแต่ละเกมก็มีไว้ตามข้อมูลด้านล่างนี้เลย

Garena Delta Force



ขอประเดิมด้วยเกม Garena Delta Force ที่เป็นเกมแนว FPS ที่ภาพสวย กราฟิกดี ในรุ่นนี้เราสามารถปรับได้ 2 แบบ คือ มาตรฐาน + 120fps หรืออัลติเมท + เฟรมเรทสูงมาก ซึ่งเราลองเล่นแบบแรก คือเน้นความลื่นๆ เฟรมเรท 120fps โดยโหมดที่เราเล่นจะมีทั้ง Warfare ในรูปแบบ Attack and Defend ที่ต้องยึดฐานคู่ต้อสู้ไปเรื่อยๆ และด้วยความที่รุ่นนี้ใช้ชิป Snapdragon 8s Gen 4 ก็ทำให้เล่นได้แบบลื่นจัดๆ รวมถึงการเปิด Ultra Game Mode พร้อมโหมด Monster ที่รีดพลังให้ขั้นสุด เสริมกับความลื่นของหน้าจอ 144Hz ก็ยิ่งทำให้การเคลื่อนที่และการกดปุ่มต่างๆ ตอบสนองได้ไวและเรียลไทม์มากๆ






ขณะที่ในโหมด Operation ที่เน้นการทำภารกิจ ก็อาจจะไม่ได้เน้นเรื่องการตอบสนองมากเพราะไม่ได้เล่นกับผู้เล่นคนอื่น ก็ปรับภาพขึ้นมาให้สวยงามแบบอัลติเมท + เฟรมเรทสูงมากได้ เพื่อให้ได้อรรถรสอีกแบบ ซึ่งก็เล่นได้ลื่นๆ สบายมากครับ






นอกจากนี้ ก็ทำให้เห็นเลยว่า iQOO Neo 10 ได้ประโยชน์จาก VC Liquid Cooling ขนาด 7,000 ตร.มม. ไปเต็มๆ คือตัวเครื่องไม่ได้สะสมความร้อนจนถือเล่นไม่ได้ รู้สึกได้แบบอุ่นๆ เท่านั้น ตลอดในช่วงที่ทดสอบประมาณ 1 ชั่วโมงครับ รวมไปถึงแบตเตอรี่ก็ยังเหลือๆ ลดไปราวๆ 15% จากช่วงที่ทดสอบเกมนี้ ด้วยแบตที่ให้มาถึง 7000mAh

ROV

เกมที่ 2 อย่าง ROV แน่นอนว่าการเปิดกราฟิกทุกอย่างปรับได้สูงสุดทั้งหมด การเล่นภายในเกมทำได้ยอดเยี่ยมตลอดทั้งเกม มีความไหลลื่น เฟรมเรทนิ่ง และหน้าจอก็ตอบสนองต่อการสัมผัสได้ไวด้วย




PUBG Mobile

มาต่อที่ PUBG Mobile ในเกมนี้รองรับโหมดเสริมของระบบที่เป็นการแทรกเฟรมในเกม ทำให้รันได้สูงสุดที่ 144FPS จากปกติที่อยู่ประมาณ 60-90FPS ทำให้ภาพมีความสมูธและดูไหลลื่นไปหมดทุกอย่างจริงๆ ขณะที่การปรับภาพก็รองรับสูงสุดทั้งหมดด้วย คือ กราฟิก Ultra HDR และเฟรมเรท Ultra





Honkai: Star Rail

ท้ายสุดเป็นเกม Honkai: Star Rail ก็รองรับโหมดแทรกเฟรมเหมือนกัน แต่จะอยู่ที่สูงสุด 90FPS ครับ ส่วนการปรับภาพก็เลือกปรับสูงสุดได้เองเลย ไม่มีกระตุกแน่นอน และภาพระหว่างการเล่น การต่อสู้ หรือ Cut Scene ก็ทำได้เยี่ยมครับ





แบตเตอรี่ Bluevolt ใหญ่ 7000mAh พร้อมชาร์จเร็ว 120W FlashCharge
ใครที่อยากได้แบตใหญ่ๆ ใช้งานนาน iQOO Neo 10 ตอบโจทย์สุดๆ เพราะให้มาแบบ Bluevolt ขนาด 7000mAh จะเล่นเกมหรือใช้งานทั่วไปก็เล่นได้เต็มวันจริงๆ หากใครที่ไม่เล่นเกมต่อเนื่องชาร์จเพียงครั้งเดียวตอนเช้าก็เหลือๆ มาถึงเย็นด้วยครับ

ถ้าใช้งานจนแบตหมดก็รองรับการชาร์จเร็วถึง 120W FlashCharge ซึ่งเราได้ทดลองชาร์จจริงจากแบตเหลือประมาณ 6% ได้มาถึง 50% ในเวลาแค่ 16 นาที จากนั้นก็ชาร์จจนเต็ม 100% ในเวลารวมทั้งหมดเพียง 45 นาทีเท่านั้นครับ หมดกังวลเรื่องแบตเยอะแล้วจะใช้เวลานานในการชาร์จไปได้เลย


นอกจากนี้ หากใครที่อยากจะเล่นเกมไปด้วย ชาร์จไปด้วยก็ยังรองรับการชาร์จบายพาส (Bypass) ที่กระแสไฟจะชาร์จเข้าไปที่เมนบอร์ดโดยตรง แบตไม่ลดระหว่างที่เราเล่น และที่สำคัญคือทำให้เครื่องไม่ร้อนด้วยครับ

กล้องพลัง AI ถ่ายสวยพร้อมใช้งาน คมชัด 50MP
iQOO Neo 10 ได้กล้องที่คุณภาพยอดเยี่ยมมากในการเป็นสมาร์ตโฟนที่เน้นการเล่นเกมเป็นหลัก แต่เรื่องนี้ก็ยังไม่ทิ้งไป โดยสเปคหลักๆ ของกล้องรุ่นนี้เราสรุปไว้ให้ชมกันอีกรอบ !
- เลนส์หลัก 50MP, f/1.79, IMX882 มีกันสั่น OIS
- เลนส์ Ultra-Wide 8MP, f/2.2
- กล้องหน้า 32MP, f/2.45

กล้อง AI ประมวลผลไวพร้อมจบได้หลังกล้อง
พาดูกล้องในโหมดหลักของรุ่นนี้จะถ่ายได้ 2 ระยะแบบคมชัด คือ 1x (26 มม.) และ 2x (51 มม.) ภาพที่ได้หลังกล้องรุ่นนี้จะมีความอิ่มของสีที่ค่อนข้างสูง แต่ไม่จัดจนเกินไป ยังคงมีความเป็นธรรมชาติอยู่ ทั้งยังรองรับการถ่ายภาพย้อนแสง HDR ได้ค่อนข้างเก่งเลยทีเดียว ฉากหน้าไม่มืดและฉากหลังก็ยังปรับให้เห็นได้ชัดเจน และที่ชอบอีกอย่างคือแม้จะไม่มี Macro แต่ถ้าเราใช้ระยะ 2x และไปใกล้ๆ วัตถุก็ยังคงโฟกัสได้ชัดเจนอยู่และก็ทำได้ดีเลยล่ะครับ
ทั้งนี้ในโหมดกลางคืนก็ได้ Super Night Mode เข้ามาช่วยทำได้สวยงาม โดยเฉพาะในฉากที่ยังมีแสงอยู่ในระดับหนึ่ง จะเห็นการเก็บรายละเอียดของแสงที่ไม่ฟุ้ง มีความชัดเจนของวัตถุและรายละเอียดของพื้นผิวอยู่ครับ ขณะที่ Noise ก็น้อยลงด้วย



































เสริมด้วย 2 ฟิลเตอร์เพิ่มอารมณ์ในการถ่ายภาพ
ในรุ่นนี้มาพร้อมกับฟิลเตอร์ขาวดำและภาพยนตร์ ทำให้เราได้อารมณ์ของภาพที่แตกต่างจากเดิม ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนเลยครับ โดยภาพก็มีความคมชัดและสวยงามตามโหมดปกติเลย















ขยายพื้นหลังให้สุดได้อีกด้วย AI Image Expander
ในฟีเจอร์นี้จะเป็นการขยายพื้นหลังต่างๆ ที่เราต้องการเพื่อให้ภาพดูกว้างขึ้นกว่าเดิม ซึ่งความฉลาดของ AI รุ่นนี้ทำได้ยอดเยี่ยม มีการแต่งเติมเสริมวัตถุเข้ามาได้อย่างแนบเนียนและสมบูรณ์จนแยกไม่ออกเลยว่าใช้ AI ในการแต่งเพิ่มเติมครับ

ภาพต้นฉบับ (ซ้าย) / ภาพหลังใช้ AI Image Expander (ขวา)






Ultra-Wide ถ่ายสวย เก็บมุมได้กว้าง
สำหรับการถ่ายภาพมุมกว้างถือว่ายังทำได้ดี สีสันมีความสดใส สวยงาม พร้อมถ่ายย้อนแสงได้สบายๆ เลยครับ ส่วนมุมมองภาพก็กว้างและเก็บได้ครบตามที่ต้องการเลย







Portrait ถ่ายสวย ละลายหลังอย่างมีมิติ
สำหรับแบรนด์ iQOO ทำได้ดีในการถ่ายภาพบุคคล โดยเฉพาะการละลายฉากหลังที่มีระดับและมีมิติ ทำให้ตัวบุคคลไม่ดูลอยจนเกินไป ขณะที่ความสวยงามบนใบหน้าของบุคคลก็ทำได้ดี ปรับมาให้ดูธรรมชาติ และสกินโทนก็มีความสว่างด้วย ทั้งนี้ก็ยังมีรูปแบบการเบลอให้ 3 แบบ คือ ธรรมชาติ โฟกัสแบบหมุน และฟองสบู่




















เซลฟี่สวยคมชัด 32MP
กล้องหน้าของ iQOO Neo 10 ทำได้ดีในแทบทุกสภาพแสงเลยครับ ไม่ว่าจะแสงจ้า แสงน้อย หรือย้อนแสง ใบหน้าก็ยังดูโดดเด่นขึ้นมาและยังปรับความบิวตี้บนใบหน้าได้แบบธรรมชาติมากๆ ด้วยครับ







สรุปการใช้งาน iQOO Neo 10
ขอสรุป iQOO Neo 10 สั้นๆ ตามสโลแกนของรุ่นนี้เลยคือ “เต็มแม็กซ์ในทุกแมตช์” จริงๆ เอาใจสายเกมแบบขั้นสุดแล้วครับ ตั้งแต่ราคาที่อยู่แค่หมื่นกลางๆ แต่สเปคเรือธง Snapdragon 8s Gen 4 + ชิป Q1 ที่เสริมเข้ามา เล่นได้ทุกเกมบนสมาร์ตโฟน ปรับกราฟิกได้สุด และเครื่องก็ไม่ร้อนจนเกินไปด้วย แถมยังได้หน้าจอ AMOLED 144Hz 1.5K ใหญ่ 6.78 นิ้ว แล้วก็ยังเล่นได้นานด้วยแบตเตอรี่ Bluevolt 7000mAh ชาร์จเร็วสูงถึง 120W อีกด้วย ถือว่าครบเครื่องเรื่องเล่นเกมจริงๆ ทั้งนี้ แม้ว่าจะเน้นเรื่องประสิทธิภาพที่มีความแรงมากๆ ในราคาคุ้มๆ แต่เรื่องกล้องก็ยังไม่ปล่อย เพราะยังใช้งานได้ดีมาก ถ่ายสวย จบหลังกล้องได้เลยจริงๆ ครับ

ราคาและวันวางจำหน่าย iQOO Neo 10
iQOO Neo 10 จะมีทั้งหมด 2 สี คือ Blazing Orange และ Cosmic Black โดยมีความจุ 2 แบบ 2 ราคา ดังนี้
- 12GB + 256GB : 15,900 บาท
- 16GB + 512GB : 17,900 บาท
iQOO Neo 10 เริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้เป็นต้นไป
