รีวิว iQOO 15 สมาร์ตโฟนขุมพลัง MVPs ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Elite Gen 5 ที่เหนือชั้นและแรงที่สุด

โดย Shine

รีวิว iQOO 15 สมาร์ตโฟนเกมมิ่ง Performance Beyond Next มาพร้อมขุมพลังระดับ MVPs ที่ใช้ขุมพลังเรือธงที่แรงที่สุดบนสมาร์ตโฟนอย่าง Snapdragon 8 Elite Gen 5 พร้อมประสบการณ์ที่เหนือกว่าไปอีกขั้น ได้สเปกจัดเต็ม หน้าจอ Samsung M14 OLED รุ่นแรกของ Android พลังแบตเตอรี่ 7000mAh ชาร์จเร็ว 100W FlashCharge พร้อมใช้ระบบ OriginOS 6 เป็นครั้งแรกของ iQOO ด้วยครับ

สรุปสเปก iQOO 15

  • ขนาดตัวเครื่อง : 163.65 x 76.8 x 8.28 มม. (สี Zen) และ 163.65 x 76.8 x 8.17 มม. (สี Legend)
  • น้ำหนัก : 221 กรัม (สี Zen) และ 220 กรัม (สี Legend)
  • หน้าจอแสดงผล iQOO x Samsung 2K M14 LEAD OLED ขนาด 6.85 นิ้ว ความละเอียด 2K (3168 × 1440 พิกเซล) อัตราส่วน 19.8:9 รองรับ Refresh Rate 144Hz แสดงผลสี 1.07 พันล้านสี, Contrast ratio: 8000000:1 สัดส่วนพื้นที่ต่อหน้าจอ 94.37% และความสว่างสูงสุด 6000nits
  • หน่วยประมวลผล : Snapdragon 8 Elite Gen 5 Octa-core ความเร็วสูงสุด 4.6GHz
  • GPU : Adreno 840
  • RAM : 12GB/16GB LPDDR5X Ultra
  • ROM : 256GB/512GB UFS 4.1
  • กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 3 เลนส์ดังนี้
    • เลนส์หลัก 50MP, รูรับแสง f/1.9 เซ็นเซอร์ Sony IMX921 ขนาด 1/1.56″ รองรับกันสั่น OIS
    • เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 50MP รูรับแสง f/2.1
    • เลนส์ Super Periscope Telephoto 3x ความละเอียด 50MP รูรับแสง f/2.7 เซ็นเซอร์ Sony IMX882 ขนาด 1/1.95″ รองรับกันสั่น OIS
  • กล้องหน้า 32MP รูรับแสง f/2.2
  • ระบบปฏิบัติการ Android 16 ครอบทับด้วย OriginOS 6
  • รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 7, Bluetooth 6.0, 5G, NFC และพอร์ต USB Type-C
  • แบตเตอรี่ความจุ 7000mAh รองรับชาร์จเร็ว 100W FlashCharge และชาร์จไร้สาย 40W

แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล

แกะกล่อง iQOO 15

ตัวกล่องของ iQOO 15 มาแบบเข้มๆ ด้วยตัวกล่องสีดำเข้ม พร้อมระบุชื่อรุ่น “iQOO 15” ตัวใหญ่ๆ มาไว้ตรงกลาง โดยที่อุปกรณ์ในกล่องให้มาครบๆ เลย ดังนี้

  • ตัวเครื่อง iQOO 15 พร้อมติดฟิล์มกันรอย
  • อะแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 100W FlashCharge
  • เคสซิลิโคนแบบทึบ (เครื่องสี Zen ได้เคสสีเทา และเครื่องสี Legend จะได้เคสสีขาว)
  • สาย USB Type-C to Type-C
  • เข็มเปิดถาดซิม
  • คู่มือการใช้งานเบื้องต้น

ดีไซน์สวยงามลงตัว พรีเมียมมากกว่าเดิม !

งานดีไซน์รอบนี้ iQOO 15 มาพร้อมการเปลี่ยนแปลงในเรื่องลูกเล่นของสีสันที่เพิ่มความสวยงามและลงตัวมากขึ้นในสี Zen ที่หากมองในมุมปกติจะเป็นตัวเครื่องสีเทาที่มีสีแดงเล็กๆ ในบางมุมที่ให้ความคล้ายกับลวดลายภูเขาไฟแห่งสมรรถนะ สื่อถึงพลังอันยิ่งใหญ่และความแรงขั้นสูงสุด !!

และเมื่อลองขยับไปมุมมองที่กระทบแสงมุมอื่นๆ ก็จะได้สีแดงที่เพิ่มเข้ามาที่ส่วนล่างไปถึงส่วนบนอีกเล็กน้อย เพิ่มมิติความสวยงามให้มากขึ้นจริงๆ

ส่วนอีกสีจะเป็นสี Legend ที่เป็นสีขาวแบบนวลๆ ผิวสัมผัสดูนุ่มๆ ใครที่ชอบสีพื้นๆ พรีเมียมเรียบหรู ต้องมาที่สี Legend ได้เลย ในสีนี้ยังได้สัญลักษณ์การแข่งรถแบบ 3 สี เสมือนการเริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่ และการสร้างตำนานตามชื่อของสีนี้ด้วย !!

รอบๆ ตัวเครื่องจะเป็นแบบแบนเรียบทั้งหมด ตัวขอบเป็นอะลูมิเนียมสวยงาม ทำให้การจับถือกระชับมือ ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องก็อยู่ที่ 215 กรัม ไม่ได้หนักจนเกินไปด้วยครับ

ใช้งานหลายสถานการณ์ด้วยการทนน้ำ-ฝุ่น IP68/69

อีกการอัปเกรดจะเป็นมาตรฐานทนน้ำและฝุ่น IP68/69 โดยที่สามารถใช้งานได้ต่อแม้ฝนตกหนักๆ หรือเครื่องตกน้ำครับ

ระบบระบายความร้อน VC Liquid Cooling ขนาดใหญ่ถึง 8000 ตร.มม.

ด้วยตัวเครื่องที่เน้นเรื่องประสิทธิภาพระดับสูง เรื่องการใส่ตัวระบายความร้อนก็ใหญ่ๆ เหมือนกัน โดยให้มาเป็น VC Liquid Cooling ขนาดใหญ่มากถึง 8K หรือ 8,000 ตารางมิลลิเมตร โดยเป็นแบบแผ่นเดียว ทำให้การกระจายความร้อนจะเฉลี่ยไปทั่วตัวเครื่อง ไม่โดนกระจุกแค่จุดเดียว ทำให้เราสามารถใช้งานเครื่องที่ยังคงเต็มประสิทธิภาพได้นานขึ้นกว่าเดิมครับ

หน้าจอสวยงามแบบ Samsung M14 OLED รุ่นแรกใน Android

iQOO 15 มาพร้อมกับพาเนลหน้าจอ iQOO x Samsung 2K ชนิด M14 LEAD OLED ที่เป็นรุ่นแรกใน Android ที่ได้ใช้งาน โดยมีขนาดใหญ่เต็มตาถึง 6.85 นิ้ว ความละเอียด 2K มีอัตราส่วน 19.8:9 แสดงสีสันแบบขั้นสูง 1.07 พันล้านสี พร้อมด้วย Contrast ratio: 8000000:1 และขอบหน้าจอก็บางมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้มีสัดส่วนพื้นที่ต่อหน้าจออยู่ถึง 94.37%

ด้วยการที่เป็นสมาร์ตโฟนเกมมิ่งก็รองรับ Refresh Rate สูงสุด 144Hz ทำให้เล่นเกมที่รองรับความถี่สูงๆ ได้หลายเกมด้วยครับ เดี๋ยวไว้เราลองเล่นให้ชมกัน !

นอกจากนี้ ความสว่างหน้าจอก็ถนอมสายตาสุดๆ ตั้งแต่ต่ำสุดเพียง 1nits ไปจนถึงสว่างสูงสุดเฉพาะจุดถึง 6000nits หรือหากสว่างทั่วหน้าจอเท่ากันจะได้สูงสุด 2600nits เรียกว่าสู้แสงแดดกลางแจ้งได้แน่นอน

พาชมรอบเครื่อง

พาดูรอเครื่องกันนิดหน่อย ส่วนบนหน้าจอจะได้ลำโพงสำหรับการสนทนามาให้ และมีกล้องหน้า Punch Hole ความละเอียด 32MP ด้วย

ด้านข้างฝั่งขวาจะได้ปุ่ม Power และปุ่มปรับระดับเสียงมาให้ด้วย

ฝั่งด้านบนกันบ้าง มีลำโพงสเตอริโอคู่มาให้ พร้อมมีเซ็นเซอร์อินฟราเรด และไมโครโฟนในการตัดเสียงรบกวน

ด้านล่างจะได้ช่องใส่ซิมการ์ดแบบ 2 ช่อง เป็นแบบพลิกหน้า-หลัง ตามด้วย ไมโครโฟนตัวหลัก พอร์ต USB-C และลำโพงสเตอริโอคู่อีกตัว

และท้ายสุดที่ด้านหลังจะมีกล้อง 3 เลนส์ พร้อมไฟแฟลช LED ที่เรียงอยู่ในตัวโมดูลเป็นแบบสี่เหลี่ยม โดยยังมีความพิเศษเป็นไฟแฟลช RGB อยู่รอบๆ ฐานกล้องด้วย ซึ่งเราสามารถปรับเป็นสีสันต่างๆ ได้ตามต้องการเหมือนกันครับ

ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน

แกะกล่องมาพร้อม OriginOS 6 รุ่นแรกของ iQOO

เรียกว่าไม่ต้องรออัปเดตกันเลยสำหรับ iQOO 15 ที่มีการแกะกล่องมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 16 ที่ครอบทับด้วย OriginOS 6 ซึ่งนี่เป็นรุ่นแรกของ iQOO ที่แกะกล่องมาแล้วได้เลยด้วย โดยความพิเศษจะมีฟีเจอร์ต่างๆ มาให้เพียบ ตั้งแต่ความไหลลื่นมากขึ้น เสถียรกว่าเดิม มี Origin Island และที่ไม่พูดไม่ได้เลยคือรุ่นนี้การันตีอัปเดต Android ถึง 5 รุ่น และแพทช์รักษาความปลอดภัยถึง 7 ปี

วอลเปเปอร์ปรับแต่งเยอะขึ้นกว่าเดิม !

ด้วยความที่เป็น OriginOS 6 ก็จะมีลูกเล่นใหม่ๆ เข้ามาพอสมควร หนึ่งในนั้นจะมีการปรับแต่งวอลเปเปอร์ที่ทำได้มากขึ้น มีหลายรูปแบบใหม่เราได้ใช้งานกัน มีโซนนาฬิกาที่ปรับแต่งได้ ยืดหรือหดตามใจชอบเลย

ที่สำคัญยังมีฟีเจอร์พลิกการ์ดที่เมื่อเราเอียงมือถือไปทางซ้าย กลาง หรือขวาก็จะได้ภาพที่แตกต่างกันทั้งหมดเลย เป็นการเพิ่มมิติแบบใหม่ที่ให้เราใช้งานได้อย่างสนุกขึ้น อย่างในตัวอย่างนี้ตรงกลางจะเป็นภาพปก โทนสีฟ้าส้ม เมื่อพลิกการ์ดที่ 2 จะเป็นสีฟ้า และการ์ดที่ 3 เป็นสีม่วง

รวมความฉลาดไว้ที่ Origin Island

Origin Island จะเป็นเกาะที่แสดงผลที่ส่วนบนของหน้าจอ ซึ่งมีคำแนะนำที่ฉลาดมากๆ ในการใช้งานแต่ละอย่าง ที่จะแสดงผลเมื่อมีการทำงานต่างๆ เช่น การแชร์ไฟล์ ก็จะมีแอปพลิเคชั่นที่แนะนำขึ้นมาให้เราได้เข้าถึงเลยทันที เช่น แอปไฟล์ หรือโซเชียลมีเดียต่างๆ เป็นต้น หรือจะมีหน้าต่างระหว่างการเล่นเพลง หรือการทำงานอื่นๆ แบบเรียลไทม์เลย

เข้าพื้นที่ส่วนตัวให้ปลอดภัยมากขึ้นด้วย Private Space

OriginOS 6 มาพร้อมกับฟีเจอร์ Private Space หรือพื้นที่ส่วนตัว ที่จะเป็นพื้นที่ๆ แยกออกจากส่วนปกติแบบสิ้นเชิง เหมือนเราถือสมาร์ตโฟนอีกเครื่องไว้เลย ซึ่งการเข้าถึงก็ง่ายมากๆ แค่เลื่อนตรงแถบแอปที่ปักหมุดด้านล่างไปทางซ้าย ก็จะเจอกับ Private Space ที่ซ่อนเอาไว้ จากนั้นก็จะให้เราตั้งค่ารหัสผ่านและลายนิ้วมืออีก 1 ชุดครับ ซึ่งไฟล์ รูปภาพ แอปพลิเคชั่นทั้งหมดก็จะต้องติดตั้งใหม่ตามที่เราต้องการใช้งานในพื้นที่นี้ครับ

สแกนลายนิ้วมือแม่นยำขั้นสูงแบบ 3D Ultrasonic

การสแกนลายนิ้วมือที่อยู่ในรุ่นนี้ให้มาเป็นแบบ 3D Ultrasonic ที่มีความแม่นยำขั้นสูงในการสแกน สามารถปลดล็อคได้แม้ว่านิ้วมือกำลังเปียกอยู่ด้วยครับ

ลำโพงสเตอริโอเสียงกระหึ่ม

ในการเล่นเกม เรื่องลำโพงเป็นส่วนสำคัญในการให้อรรถรสเต็มที่มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งใน iQOO 15 มีการเสริมให้ลำโพงเก็บเสียงภายในเกมได้ละเอียดขึ้นกว่าเดิม มีมิติมากขึ้น เสียงมีความกว้าง ได้ยินได้ชัดเจน ทำให้เราได้เสียงระหว่างการเล่นเกมหรือชมวิดีโอได้สมจริงมากขึ้น

ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่

ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง MVPs อย่าง Snapdragon 8 Elite Gen 5

iQOO 15 มาพร้อมขุมพลังเรือธงรุ่นล่าสุดของ Qualcomm ที่เร็วแรงมากที่สุดอย่าง Snapdragon 8 Elite Gen 5 แบบ Octa-core ความเร็ว Clock สูงสุด 4.6GHz โดยผลิตด้วยกระบวนการ 3nm ของ TSMC โดยยังมี GPU Adreno 840 รุ่นใหม่ที่ให้ประสิทธิภาพด้านการประมวลผลกราฟิกสูงขั้นสูง ภาพที่แสดงออกมาสมจริงมากขึ้นด้วยครับ

มาพร้อมชิป Q3 ประมวลผลกราฟิกโดยเฉพาะ

แน่นอนว่า iQOO มีการใส่เข้ามาให้อยู่แล้ว โดย iQOO 15 ได้เสริมพลังชิป Q3 ที่ทำงานคู่กับ Snapdragon 8 Elite Gen 5 ซึ่งเป็นชิปเกมมิ่งที่ช่วยให้การเล่นเกมมีความลื่นไหลมากขึ้น โดยเฉพาะเกมที่รองรับเทคโนโลยี Ray Tracing และ Game Super Resolution ที่เพิ่มความละเอียดให้สูงขึ้นเป็นระดับ 2K เพิ่มความไหลลื่นขึ้นมาเป็น 144fps ด้วย จากปกติที่เกมส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 60fps หรือ 120fps เท่านั้น และภาพที่ได้จะมีความสมจริงมากขึ้น แสงและเงาแบบจัดเต็มด้วย

ซึ่งเราก็มีภาพเทียบในเกม Genshin Impact ที่เปิดและปิด Ray Tracing มาให้ชมกันด้วยครับ

RAM จัดมาเร็วแรงแบบ LPDDR5X Ultra ระดับ 9.6Gbps คู่กับ ROM UFS 4.1

RAM ที่ให้มาใน iQOO 15 จัดมาเป็นแบบ LPDDR5X Ultra ที่มีความเร็วในการอ่าน/เขียนสูงสุดถึง 9.6Gbps ซึ่งจะเห็นการทำงานเลยว่าเร็วมากขึ้นจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการโหลดหรือติดตั้งแอปพลิเคชั่นต่างๆ หรือการใช้งานภายในเกมที่กราฟิกหนักๆ การได้ RAM ที่มีความเร็วสูงมากขึ้นก็ช่วยในให้การทำงานเสถียรและนิ่งกว่าเดิม

ที่สำคัญยังได้ ROM UFS 4.1 ที่ให้ความเร็วในการอ่าน-เขียนของไฟล์ต่างๆ ซึ่งทำได้เร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 36% หรือจะเป็นการติดตั้งแอปพลิเคชั่นก็เร็วขึ้นถึง 50% ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนมากๆ ในตอนตั้งค่าหลังเปิดเครื่องที่จะมีการอัปเดตหลายแอปมากๆ เพียงเวลาไม่กี่นาทีก็พร้อมใช้งานได้แบบครบทุกแอปแล้วครับ

ผลการทดสอบบน AnTuTu v11 และ Geekbench 6

  • ผลคะแนนการทดสอบด้านประสิทธิภาพด้าน CPU, GPU และหน่วยความจำบน AnTuTu 11.0.5 ได้มาที่ 3,985,001 คะแนน
  • ผลคะแนนด้าน CPU บน Geekbench 6 ทำ Single-Core ไปที่ 3,619 คะแนน และ Multi-Core ที่ 10,380 คะแนน

ทดสอบการเล่นเกมกันหน่อยดีกว่า

iQOO 15 ที่เน้นเรื่องการเล่นเกมก็เราจัดเล่นเกมหนักๆ มาให้แบบครบๆ ไม่ว่าจะเป็น Genshin Impact, ROV, PUBG Mobile และ Asphalt Legends ซึ่งแต่ละเกมเราปรับแต่งยังไง และใช้ประโยชน์จากชิป Q3 ในส่วนไหนบ้าง มาดูกันครับ

Genshin Impact

เปิดกันด้วยเกมหนักๆ อย่าง Genshin Impact กันเลยดีว่า เราเปิดภาพทุกอย่างแบบสูงสุดทั้งหมด รวมถึงเฟรมเรท 60FPS ซึ่งการเล่นได้ยอดเยี่ยมมากๆ ไม่มีอะไรติเลย การสัมผัสทำได้ติดนิ้ว ไม่มีอาการกระตุกเลย

ที่สำคัญเกมนี้ยังรองรับการกับการใช้บนชิป Q3 แบบเต็มที่ ตั้งแต่การเปิด Ray Tracing ได้ตามที่บอกไปด้านบน สามารถปรับความละเอียด Game Super Resolution ได้ตั้งแต่ดั้งเดิม สูงพิเศษ และสูงสุด ทั้งยังเปิดเฟรมเรทแบบสูงพิเศษถึง 144FPS ได้ด้วยครับ

การปรับ Game Super Resolution

PUBG Mobile

ต่อกันด้วยเกม PUBG Mobile เราจะสามารถเปิดกราฟิกได้สูงสุดที่สุดอยู่แล้วแน่นอน ซึ่งความพิเศษคือยังรองรับการปรับแต่งภาพความละเอียดสูงเหมือนกับ Genshin Impact และปรับเฟรมเรทได้สูงสุดเป็น 144FPS ได้เลย จากปกติที่วิ่งแค่ 72FPS เท่านั้นครับ

Asphalt Legends

ต่อกันด้วยเกม Asphalt Legends ที่จะสามารถเปิดภาพกราฟิกสูงสุดได้เลย ปรับความไหลลื่นเป็น 120FPS ได้สบายๆ โดยที่สามารถเปิดภาพความละเอียดสูงสุดได้ด้วย และแน่นอนว่าภายในเกมได้ภาพที่สวยๆ คมๆ จัดเต็มมากๆ ยิ่งฉากในเกมที่มีเอฟเฟ็กต์เยอะๆ ก็ยิ่งได้อรรถรสในการใช้แบบจัดเต็มมากๆ ด้วยครับ

Garena Delta Force

ขอปิดท้ายกันด้วยเกม Garena Delta Force เราสามารถเปิดได้หลักๆ 2 แบบ คือเน้นเฟรมเรทสูงๆ (คุณภาพ HD + เฟรมเรท 120FPS) หรือจะเน้นภาพสวย (คุณภาพสูงสุด + FPS สูงมาก) ซึ่งเราได้ใช้งานการเล่นเกมนี้แบบเน้นเฟรมเรท คือปรับเป็นแบบแรกเลย โดยเราเล่นในโหมด Attack & Defend ที่บอกเลยว่าเล่นได้ลื่นหัวแตก ! ทุกอย่างดีไปหมด ทั้งภาพที่สวย เฟรมเรทลื่นไม่มีดรอป และการตอบสนองของหน้าจอก็ทำได้เร็วมากๆ ด้วยครับ

แบตฯ ใหญ่ 7000mAh พร้อมชาร์จเร็ว 100W FlashCharge

iQOO 15 จัดแบตเตอรี่มาให้ถึง 7000mAh ซึ่งนี่เป็นแบตเตอรี่เทคโนโลยีซิลิคอนแอโนดรุ่นที่ 4 แล้ว ช่วยให้ได้ใช้งานจริงๆ อยู่ได้รอดตลอดวันครับ หรือถ้าจะเล่นเกมก็ได้ประมาณ 4 – 8 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับเกมว่าเล่นเกมที่กราฟิกหนักขนาดไหนครับ

ทั้งนี้หากแบตฯ จะหมดจริงๆ ก็ยังชาร์จได้เร็วมากๆ ถึง 100W FlashCharge ที่ชาร์จเต็ม 0-100% ได้ในเวลาไม่ถึงชั่วโมงแน่นอน และใครที่มีแท่นชาร์จไร้สายก็ยังรองรับความเร็วสูงสุด 40W ด้วย ซึ่ง iQOO 15 เป็นรุ่นแรกของ iQOO ที่รองรับชาร์จไร้สายด้วย

นอกจากนี้ การความที่เป็นเกมมิ่งโฟน ก็ยังมาพร้อมฟีเจอร์การชาร์จแบบบายพาสที่เป็นการชาร์จเข้าเมนบอร์ดโดยตรง ทำให้สามารถเสียบสายชาร์จไปพร้อมเล่นเกมไปได้โดยที่แบตฯ ไม่ลดลงจากเดิม แล้วยังช่วยให้เครื่องไม่ร้อนจนเกินไปด้วยครับ

กล้องทรงพลัง 50MP ครบทั้ง 3 เลนส์

แม้ว่าจะเน้นเรื่องประสิทธิภาพระดับเรือธงในด้านการเล่นเกม แต่เรื่องกล้อง iQOO 15 รอบนี้จัดมาเต็มมากๆ ด้วยกล้องหลัง 3 เลนส์ที่คมชัด 50MP ทั้งหมดเลย โดยเราขอสรุปสเปกไว้ให้อีกรอบแบบสั้นๆ ดังนี้

  • เลนส์หลัก 50MP, f/1.9 เซ็นเซอร์ IMX921 รองรับกันสั่น OIS
  • เลนส์ Ultra-Wide 50MP, f/2.1
  • เลนส์ Super Periscope Telephoto 3x 50MP, f/2.7 เซ็นเซอร์ IMX882 รองรับกันสั่น OIS
  • กล้องหน้า 32MP, f/2.2

กล้องทรงพลัง 50MP ถ่ายสวยด้วยเซ็นเซอร์ Sony

มาดูเรื่องการถ่ายผ่านเลนส์หลักกันก่อนเลย รอบนี้ iQOO 15 จัดมายอดเยี่ยมมาก ตั้งแต่เซ็นเซอร์ Sony IMX921 ที่เคยใช้มาใน vivo X200 ที่เป็นเรือธงมาแล้วด้วย เรื่องสีสัน คุณภาพการถ่ายหายห่วงไปเลยแน่นอน เรื่องของโทนสีทำได้ดี จัดจ้านสวยงาม ไดนามิกค่อนข้างเยอะ เก็บแสงและเงาได้เยี่ยมเลยในรอบนี้ครับ ที่สำคัญ ยังได้กันสั่นระดับ CIPA 4.5 ที่เป็นในระดับ SLR อีกด้วย

และอีกอย่างที่ iQOO 15 นำเข้ามาในเรื่องกล้องคือหยิบยืมมาจากฝั่ง vivo ด้วย ไม่ว่าจะเป็นฟิลเตอร์ 4 แบบ ได้แก่ B&W, TEXTURE, VIVID (ภาพส่วนใหญ่ใช้โหมดนี้) และ NATURAL รวมถึงโหมดฟิล์ม 3 แบบ ได้แก่ เนกาทีฟคลาสสิก (ฟิล์ม NC), ฟิล์มโพสิทีพ (ฟิล์ม CC) และฟ้าใส (VB)

Live Photos รองรับทั้งโหมดหลัก และ Portrait

ในรุ่นนี้ยังรองรับการใช้งาน Live Photos ได้ด้วยครับ ซึ่งความพิเศษจะรองรับทั้งโหมดหลักและโหมด Portrait เลย ซึ่งภาพที่ได้จะเก็บเป็นวิดีโอสั้นๆ ได้ประมาณ 3 วินาที (กดค้างที่ภาพในอัลบั้มเพื่อใช้ Live Photos) และสามารถเลือกภาพหลักเพื่อเปลี่ยนช็อตที่อาจจะพลาดไปเล็กน้อย และยังคงความสวยงามได้ทีหลังด้วยครับ

มาพร้อมโหมด 4 ฤดูกาลด้วยเหมือนกัน

iQOO 15 ยังมาพร้อมโหมดกล้อง 4 ฤดูกาลมาให้เหมือนกัน ที่รองรับทั้งฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว ซึ่งโหมดนี้รองรับทั้งการใช้งานแบบถ่ายทั่วไปและโหมด Portrait ด้วย !

จัดเลนส์ซูม Super Periscope Telephoto 3x มาให้อีกระยะ

รอบนี้ iQOO 15 ได้ใส่เลนส์ Periscope มาให้เราได้ใช้งานกัน มาพร้อมกับอัลกอริทึม NICE ช่วยเสริมความคมชัดของภาพให้สูงขึ้น เพิ่มพลังการซูมระยะไกลได้เลยสูงสุด 100x แต่หากจะเป็นออปติคอลจริงๆ จะอยู่ที่ 3x แต่ด้วยการเป็นเลนส์ Periscope ในรุ่นนี้ก็สามารถถ่ายได้ที่ระยะ 5x, 10x หรือไปที่ประมาณ 20x – 30x ก็ยังได้ภาพที่คมชัดอยู่ และยังใช้งานได้จริง

Portrait ถ่ายสวย ครบถึง 5 ระยะ

จากการที่ให้เลนส์ Periscope เข้ามา ก็ให้เราสนุกกับการถ่ายภาพได้มากขึ้นกว่าเดิม โดยในการถ่าย Portrait จะมี 5 ระยะมาให้ใช้งาน คือ 23mm, 35mm, 50mm, 85mm และ 100mm บอกเลยว่าทุกระยะทำได้ยอดเยี่ยมมากๆ ละลายหลังดี คมชัด และยังปรับแต่งสีผิวได้ดี ไม่ติดเหลือง รวมถึงใบหน้าก็ยังดูเป็นธรรมชาติด้วยครับ

Ultra Wide-Angle คมชัด 50MP

ใครที่ชอบใช้งานถ่ายภาพมุมกว้าง เก็บครบๆ iQOO 15 จัดมาให้แล้วกับความละเอียด 50MP ช่วยให้เราเห็นรายละเอียดต่างๆ ในภาพที่อยู่ในมุมมองที่กว้างชัดเจนมากขึ้น รวมถึงสามารถเก็บแสงและเงาทำได้ดีเลยทีเดียว

กล้องหน้า 32MP เซลฟี่ได้สวยสะใจ !

สำหรับกล้องหน้าของ iQOO 15 ก็ให้มาคมชัด 32MP สวยงาม ปรับบิวตี้ได้ธรรมชาติ ดูผิวเนียนแบบไม่เวอร์เกินไปด้วยครับ

สรุปการใช้งาน iQOO 15

จากที่ได้ลองใช้ iQOO 15 บอกเลยว่านี่คือความแรงขั้นสุดของสมาร์ตโฟนเกมมิ่งแห่งยุคจริงๆ ที่ไม่ใช่แค่ได้ขุมพลังระดับเรือธงอย่าง Snapdragon 8 Elite Gen 5 เท่านั้น แค่ยังมีชิปเกมมิ่งเสริมพิเศษอย่าง Q3 เข้ามาด้วย ซึ่งทำให้รีดประสิทธิภาพของเกมให้ไปได้สุดกว่ารุ่นอื่นๆ รวมถึงหน้าจอแสดงผลก็ทำให้ไหลลื่นถึง 144Hz ซึ่งนอกจากจะใช้งานทั่วไปได้ลื่นแล้ว ก็ยังรองรับกับหลายเกมอีกด้วย ขณะที่แบตเตอรี่รอบนี้ให้มาถึง 7000mAh อยู่ได้นาน อึดทั้งวันจริง (ถ้าไม่เล่นเกมบ่อยๆ) และยังมีชาร์จเร็ว 100W FlashCharge อีกด้วย ทั้งนี้สเปกอื่นแทบทั้งหมดก็ช่วยส่งให้ทั้งหมดมีความเร็วขึ้นจริงๆ ตั้งแต่ RAM LPDDR5X Ultra + ROM UFS 4.1 และที่ขาดไม่ได้จริงๆ คือ ระบบปฏิบัติการ OriginOS 6 ที่นอกจากฟังก์ชันจะเยอะ พร้อม UI สวยๆ แล้ว ก็ยังช่วยให้การทำงานไหลลื่นขึ้น และเสถียรมากกว่าเดิมแบบรู้สึกได้เลย

นี่ยังไม่รวมถึงดีไซน์ที่จัดมาแบบสวยงาม 2 สไตล์ ทั้งสี Zen สำหรับคนที่ชอบสีสันที่มีมิติ มีลูกเล่นเยอะๆ ส่วนใครชอบแบบคลีนๆ ต้องไปสีขาว Legend ได้เลยครับ

ราคาไทย iQOO 15

ราคา iQOO 15 ในไทยจะมี 2 ความจุ ดังนี้

  • RAM 12GB + ROM 256GB : 29,900 บาท
  • RAM 16GB + ROM 512GB : 32,900 บาท

iQOO 15 พร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More