Connect with us

Featured

รีวิว iQOO 12 5G สมาร์ตโฟน “Monster Inside” ประสิทธิภาพทรงพลังด้วยชิปเรือธง SD 8 Gen 3 l ดีไซน์ระดับพรีเมียม l กล้องหลังสุดล้ำ

Published

on

รีวิว iQOO 12 5G สมาร์ตโฟนที่ได้ฉายาว่าเป็น “Monster Inside” หรือปีศาจที่อยู่ภายในด้วยประสิทธิภาพทรงพลัง ชิปเซ็ตเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3 พร้อมได้ดีไซน์ระดับพรีเมียมที่ได้ลวดลายของ BMW M Motorsport เข้ามาผสานให้ลงตัวกับ iQOO และยังได้กล้องหลังสุดล้ำที่มาพร้อมฟีเจอร์ระดับท็อปครบ !

สรุปสเปค iQOO 12 5G

  • ขนาดตัวเครื่อง : 163.22 × 75.88 × 8.10 มม.
  • น้ำหนัก : 203.7 กรัม
  • หน้าจอแสดงผล LTPO AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1.5K+ (2800 × 1260 พิกเซล), 452PPI อัตราส่วน 20:9 รองรับ Refresh Rate 144Hz, 2000Hz touch sampling rate, 8,000,000:1 Contrast Ratio, แสดงผลสี 1.07 พันล้านสี, สัดส่วนพื้นที่ต่อหน้าจอ 93.43%, ความสว่างหน้าจอสูงสุด 3,000 นิต และค่าความถี่ 2160Hz PWM Dimming
  • หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3 Octa-core ความเร็วสูงสุด 3.3GHz
  • GPU : Adreno 750
  • RAM : 16GB LPDDR5X
  • ROM : 512GB UFS 4.0
  • กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 3 เลนส์ ดังนี้
    • เลนส์หลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.68 รองรับกันสั่น OIS + EIS
    • เลนส์ Ultra-Wide Angle ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 มุมกว้าง 119 องศา
    • เลนส์ Periscope 3x ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.57 รองรับกันสั่น OIS, ซูม 10X HD และสูงสุด 100x
  • กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.45
  • ระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย Funtouch OS 14
  • รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4, NFC, 5G และพอร์ต USB Type-C
  • แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 120W Ultra-Fast Charging

แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล

แกะกล่อง iQOO 12 5G

iQOO 12 5G ได้ความพิเศษตั้งแต่ตัวกล่องกันเลย ทั้งตัวกล่องเป็นสีดำสนิทครอบทั้งหมด ให้ความรู้สึกถึงความแรงที่อยู่ภายใน และที่ด้านหน้าจะได้ชื่อแบรนด์ iQOO แบบมันเงาสะท้อนอย่างสวยงาม ร่วมกับสัญลักษณ์ BMW M Motorsport ที่เป็น Premium Partner ของ iQOO ไว้ด้วยกันครับ ซึ่งไม่ว่าจะได้สีไหนก็จะได้กล่องแบบเดียวกันครับ

เปิดออกมาจะเจอกับตัวเครื่องเป็นอย่างแรก โดยที่ตัวเครื่องจะติดฟิล์มกันรอยที่หน้าจอมาให้ตามปกติครับ

สิ่งที่อยู่ใต้ตัวเครื่องจะเป็นการ์ดโปสเตอร์แบบแข็งที่เป็นรูปรถรุ่น BMW M4 ที่ทาง iQOO หนึ่งในสปอนเซอร์หลักของ BMW M Motorsport นั่นเองครับ

และในชั้นล่างก็จะได้อุปกรณ์เสริมมาครบ ไม่ว่าจะเป็นเคสใส, คู่มือการใช้งานเบื้องต้น, เข็มเปิดถาดซิม, อะแดปเตอร์หัวกลมกำลังไฟ 120W และสาย USB Type-C to Type-C

ดีไซน์สุดพรีเมียมที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก BMW M Motorsport

เรื่องความโดดเด่นตั้งแต่แรกเห็น ก็ต้องมาพูดถึงเรื่องดีไซน์ภายนอกกันก่อนเลยครับ iQOO 12 5G ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก BMW M Motorsport ที่เป็นพรีเมียมพาร์ทเนอร์ของแบรนด์มาเต็มๆ ซึ่งใน iQOO 12 5G Legend Edition หรือตัวเครื่องสีขาวจะได้แถบ 3 สี ได้แก่ สีแดง-ดำ-น้ำเงิน อันเป็นเอกลักษณ์ของ BMW M Motorsport ที่มาติดอยู่ด้านหลังเครื่องด้วย ซึ่งแถบ 3 สีจะบ่งบอกถึงประสิทธิภาพและการควบคุมอันเหนือชั้น

เราจะเห็นว่า iQOO 12 5G Legend Edition จะได้ความพรีเมียม สวยงาม และละมุนมาเต็มๆ โดยไม่เพียงแค่มีชื่อแบรนด์และ BMW M Motorsport เข้ามาติดเท่านั้น แต่ยังแฝงไปด้วยจิตวิญญาณนักแข่งของ BMW M Motorsport ผสานกับสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของสมาร์ตโฟน iQOO อีกด้วย

สำหรับตัวเครื่องสีขาวนี้จะเป็นการใช้ฝาหลังด้วยวัสดุกระจกผิวมันแบบ Porcelain Enamel Glass สีขาว เสริมด้วยลวดลายพีระมิด 3 มิติแบบ Nano-Optical จำนวนมาก แถมยังตัดกับขอบตัวเครื่องที่เป็นอะลูมิเนียมสีเงินมันเงา ทำให้ทุกอย่างลงตัวมากๆ ในเรื่องของดีไซน์ครับ

ลักษณะตัวเครื่องของ iQOO 12 5G จะได้ความโค้งมนทั้ง 4 มุมที่ทำให้เราจับถือได้ง่ายและมั่นคง ไม่รู้สึกว่าต้องกลัวหล่นง่ายๆ

เรามาดูกันอีกสีที่โดดเด่นไม่แพ้กันเลย ใครที่มองหาสีคลาสสิกสีดำก็ต้องมาดูที่ iQOO 12 5G Alpha Edition กันต่อ โดยในสีนี้จะเป็นการเน้นการใช้เอฟเฟกต์ของแสงและเงา พร้อมวัสดุฝาหลังแบบผิวด้าน Fluorite AG Glass ทำให้ได้สีดำที่สมบูรณ์แบบไม่เหมือนใคร ทั้งยังผสานความเงาที่ละเอียดอ่อนอย่างลงตัวให้เราได้ชื่นชมกันด้วย

และที่ต้องสังเกตกันได้แน่นอนเลยคือผิวด้านหลังของสีดำจะมีลักษณะคล้ายกลิตเตอร์ ซึ่งพอเข้ามาอยู่ใน iQOO 12 5G Alpha Edition แล้ว ก็เป็นการสื่อถึงการสะท้อนตัวตนของรถแข่งบนสนามที่เข้าเส้นชัยด้วยความเร็วสูงและทิ้งร่องรอยเป็นฝุ่นระยิบระยับท่ามกลางแสงแดดอย่างสวยงาม

ตัวเครื่องบางเฉียบพร้อมกันน้ำ-ฝุ่นระดับ IP64

iQOO 12 5G มาพร้อมกับตัวเครื่องที่มีความบางมากๆ เมื่อดูแบตเตอรี่ที่ให้มาถึง 5000mAh แต่ยังทำออกมาได้อยู่ที่ 8.1 มม. เท่านั้น ส่วนน้ำหนักก็อยู่ที่ 203.7 กรัม ซึ่งก็ค่อนข้างเบาเมื่อเทียบกับสมาร์ตโฟนเรือธงครับ และที่ขาดไม่ได้เลยคือมาตรฐานกันน้ำและฝุ่นที่มาในระดับ IP64 ทำให้กันฝุ่นได้เต็มที่และกันละอองน้ำได้ครับ (ย้ำว่าละอองน้ำ ไม่ใช่การนำลงไปจุ่มนะครับ !!)

โมดูลกล้อง Porthole อันเป็นเอกลักษณ์

เราได้เห็นความสวยงามของผิวฝาหลังไปแล้ว ก็มาดูกันต่ออีกนิดกับโมดูลกล้องหลังที่ดูจะแปลกตาอยู่บ้าง โดยใน iQOO 12 5G เป็นการใช้ดีไซน์ที่เรียกว่า Porthole ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการผจญภัย ความมุ่งมั่นของนักเดินทางที่มักจะมองผ่าน “Window To The World” เพื่อบันทึกหรือมองหาเรื่องราวใหม่ๆ ข้างหน้า

หน้าจอขั้นเทพ LTPO AMOLED 144Hz ใช้งานไหลลื่น พร้อมแสดงผลสีแบบจัดเต็ม

ได้ยลโฉมตัวเครื่องกันไปแล้ว เรามาเริ่มเจาะลึกด้านสเปคหน้าจอกันต่อครับ iQOO 12 5G จัดเต็มเรื่องหน้าจอแสดงผลที่ให้มาเป็นแบบ LTPO AMOLED ขนาดใหญ่ 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1.5K+ (2800 × 1260 พิกเซล) มีค่าความหนาแน่นพิกเซลที่ 452PPI อัตราส่วนแบบ 20:9 ทั้งยังได้ค่า Contrast Ratio 8,000,000:1 แสดงผลสี 1.07 พันล้านสี และมีสัดส่วนพื้นที่ต่อหน้าจอถึง 93.43% ซึ่งสเปคทั้งหมดนี้ทำให้เราได้ใช้งานทั้งการใช้งานทั่วไป ดูวิดีโอ สตรีมมิ่ง หรือเล่นเกมได้เต็มตา สีสันสดใส สีดำเป็นดำ และขอบบางๆ ของหน้าจอก็ทำให้รู้สึกได้ว่าไม่มีอะไรมาบังกวนใจด้วย

และในเรื่องความไหลลื่นของหน้าจอก็รองรับ Refresh Rate สูงสุด 144Hz ซึ่งจะเปิดให้เป็นอัตโนมัติหรือปรับสุดตลอดเวลาก็ได้ครับ และยังได้ 2000Hz touch sampling rate เพื่อการตอบสนองต่อการกดได้ไวเวลาเล่นเกมจะเห็นได้ชัดเจนมากๆ และที่ขาดไม่ได้ในยุคนี้คือการรองรับ 2160Hz PWM Dimming ที่ช่วยให้เราใช้งานได้นานขึ้นโดยไม่รู้สึกถึงความเมื่อยล้าดวงตาจนเกินไปครับ

สู้แดดสบายด้วยความสว่างสูงสุดถึง 3,000 นิต

ใครที่ใช้งานกลางแจ้งบ่อยๆ หายห่วงได้เลย เพราะหน้าจอเรือธงรุ่นนี้ได้ความสว่างหน้าจอสูงสุดถึง 3,000 นิตเมื่อเปิดใช้งานแบบ HDR ส่วนถ้าเป็นโหมด Sunlight ปกติจะอยู่สูงสุดที่ 1,400 นิตครับ

พาชมรอบเครื่อง

มาดูกันต่อที่รอบๆ เครื่องกันบ้าง ที่ด้านบนจะเป็นกล้องหน้าแบบ Punch Hole และบริเวณขอบหน้าจอบางด้านบนที่แอบอยู่จะมีลำโพงสเตอริโอมาให้อีกตัวครับ

ทางด้านล่างตัวเครื่องจะได้ช่องใส่ซิมการ์ดแบบ NanoSIM มาให้ 2 ช่อง ซึ่งจะเป็นแบบพลิกหน้า-หลังครับ ถัดไปจะเป็นไมโครโฟนตัวที่ 1 ตามด้วยพอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวที่ 1 ครับ

ทางด้านขวาจะเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่ม Power ตามปกติ โดยการสแกนลายนิ้วมือจะไปอยู่บนหน้าจอนั่นเองครับ

สำหรับรุ่นนี้จะได้ช่องสำหรับปล่อยเสียงช่วยลำโพงที่ขอบด้านบน และเซ็นเซอร์อินฟราเรดมาให้

และสุดท้ายที่ด้านหลังจะเป็นกล้อง 3 เลนส์ อยู่ในกรอบ โดยที่ไฟแฟลช 2 ดวงจะอยู่ด้านนอก คู่กับตัวอักษรที่เขียนไว้ว่า “ULTRA SENSING 1.68-2.57/15-70 ASPH.”

ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน

ได้ระบบปฏิบัติการตัวล่าสุดอย่าง Android 14 และ Funtouch OS 14

iQOO 12 5G เป็นสมาร์ตโฟนตัวแรกๆ ในไทยที่แกะกล่องมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 14 ตั้งแต่แกะกล่องเลยครับ โดยตัวซอฟต์แวร์ก็ขยับขึ้นมาเป็น Funtouch OS 14 ซึ่ง UI เหมือนจะมีความสะอาดตามากขึ้น ตัวอักษรมีการปรับใหม่ให้ดูทันสมัยกว่าเดิม พร้อมใช้งานได้ไหลลื่นกว่า Android 13 แบบที่รู้สึกได้ครับ

ลำโพงสเตอริโอสุดกระหึ่ม

เรือธงรุ่นนี้จัดลำโพงคู่มาแบบสเตอริโอให้เราใช้งานด้านความบันเทิงได้เต็มอรรถรส ไม่ว่าจะเล่นเกมหรือดูวิดีโอต่างๆ ก็ทำได้เต็มที่ คมชัดและเสียงมีมิติมากครับ

รองรับทั้งการสแกนลายนิ้วมือและสแกนใบหน้าครบ !!

การที่ iQOO 12 5G ใช้หน้าจอพาเนล AMOLED ก็แน่นอนว่าจะเป็นการรองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอครับ ซึ่งการทำงานนั้นรวดเร็วและเสถียรมากๆ แถมยังสแกนได้ทุกจากทุกมุมของการวางสมาร์ตโฟนเลยครับ

ส่วนการสแกนใบหน้าก็ทำได้ตามมาตรฐาน ที่มีความรวดเร็วและแม่นยำเช่นกัน

รองรับ Always on Display หลายรูปแบบมากขึ้น

อีกฟีเจอร์ที่มาพร้อมจอ AMOLED จะเป็น Always on Display (AOD) เพื่อแสดงข้อมูลหลักๆ เช่น เวลา วันที่ การแจ้งเตือน หรือแบตเตอรี่คงเหลือเมื่อล็อกหน้าจออยู่ ซึ่งรูปแบบพิเศษใน iQOO 12 5G จะเป็นการ “การผจญภัยของดวงดาว” ที่ไม่ว่าจะเป็แบบไหนก็สวยงามทั้งหมดครับ

ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่

ชิปเซ็ตเรือธงเจนล่าสุด Snapdragon 8 Gen 3 ขนาด 4nm

iQOO 12 5G ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผลรุ่นล่าสุดจาก Qualcomm อย่าง Snapdragon 8 Gen 3 แบบ Octa-core (1+5+2 คอร์) ซึ่งชิปตัวนี้เป็นการใช้สถาปัตยกรรมขนาด 4nm แบบ N4P จาก TSMC

ความเร็วของชิปตัวนี้ให้มาสูงสุดที่ 3.3GHz ผ่านแกนประมวลผลหลัก Cortex-X4 ที่ให้มา 1 คอร์ + คอร์ประมวลผลระดับสูง Cortex-A720 ขนาดใหญ่ 5 คอร์ + คอร์ประมวลผลขนาดเล็ก Cortex-A520 อีก 2 คอร์ โดยคอร์ทั้งหมดจะปรับการทำงานอย่างเหมาะสม ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานทุกส่วนเป็นได้อย่างเต็มที่ครับ

และไม่ใช่แค่ชิปเท่านั้น แต่ GPU Adreno 750 ที่ใช้บน Snapdragon 8 Gen 3 ก็ยังทำงานเพื่อให้เราเล่นเกมได้อย่างเต็มที่ เต็มประสิทธิภาพ ปรับสุดได้ทุกเกมและเล่นได้อย่างไหลลื่นมากๆ ที่สำคัญชิปเซ็ตรุ่นนี้ยังรองรับเทคโนโลยี Ray Tracing เพื่อให้ภาพในเกมที่รองรับนั้นสวยงามพร้อมความสมจริงมากขึ้นกว่าเดิม

ชิปพิเศษ Q1 เพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ

ไม่ใช่แค่ชิป Snapdragon 8 Gen 3 มาให้เท่านั้น แต่ยังได้ชิป Q1 ที่เป็นชิปเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ ช่วยปรับค่าความหน่วงให้น้อยลงกว่าเดิม, ปรับความละเอียดของภาพให้คมชัดขึ้น คงที่ 1.5K พร้อมเฟรทเรทให้นิ่ง ทั้งยังช่วยให้ความไหลลื่นของหน้าจออยู่ที่ 144Hz ตลอดเวลาที่เราใช้งานครับ

มี RAM ได้มากถึง 32GB ผ่านการขยาย RAM !!

ใน iQOO 12 5G ให้ RAM มาอยู่ที่ 16GB แบบ LPDDR5X อยู่แล้ว ซึ่งจริงๆ ก็เพียงพอ และใช้แทบไม่หมดแล้วครับ ซึ่งส่วนขยาย RAM ก็ยังเพิ่มได้อีก 16GB รวมเป็น 32GB ก็ยิ่งทำให้เราเปิดแอพได้มากขึ้นและระบบทำงานต่างๆ ในพื้นหลังก็ทำได้เยอะมากโดยไม่หยุดการทำงานครับ

ผลการทดสอบบน AnTuTu และ Geekbench 6

ผลคะแนนการทดสอบด้านประสิทธิภาพด้าน CPU, GPU และหน่วยความจำบน AnTuTu 10.1.3 ได้มาที่ 2,058,179 คะแนน

ผลคะแนนด้าน CPU บน Geekbench 6 ทำ Single-Core ไปที่ 2,202 คะแนน และ Multi-Core ที่ 6,750 คะแนน

ก่อนจะเล่นเกมต้องมาดูที่ Ultra Game Mode กันก่อน !!

สำหรับ iQOO 12 5G จะมาพร้อมฟีเจอร์ Ultra Game Mode ที่จะเป็นอีกตัวช่วยให้เราเล่นเกมได้อย่างเต็มที่มากขึ้น ปิดการแจ้งเตือนต่างๆ และลดการทำงานในพื้นหลังลงได้ด้วยครับ และเมื่อเข้าไปในเกมแล้ว จะมีหน้าต่างให้เปิดโหมด Monster ที่จะรีดทุกพลังของชิปประมวลผลเพื่อเล่นเกมโดยเฉพาะ

ทดสอบการเล่นเกม

ROV

มาเริ่มที่เกมเบาๆ อย่าง ROV กันก่อนครับ ไม่ต้องบอกก็น่าจะพอเดากันได้ว่าสามารถเปิดกราฟิกและเฟรมเรทได้สูงสุดทั้งหมด รวมถึงจะเปิดเอฟเฟ็กต์หมอกและซอฟต์ไลท์ด้วยก็ได้ครับ การเล่นในเกมจริงก็ลื่นๆ เฟรมนิ่งๆ 60fps แทบจะตลอด ส่วนช่วงไหนที่ฉากแสงสีเยอะๆ ก็ลงมานิดเดียวอยู่ที่ 58-59fps ครับ

Genshin Impact

ต่อมาเป็นเกมหนักๆ กันเลยอย่าง Genshin Impact ที่จริงๆ เปิดภาพระดับสูงสุดพร้อมเฟรมเรท 60fps ได้ด้วยครับ รายละเอียดและความสวยงามของภาพได้คมชัด แสงและเงาทำได้เยี่ยมมากๆ เวลาเคลื่อนไหว ไม่เจออาการกระตุกหรือภาพเกิดรอยหยักอะไรครับ

Arena Breakout: Tactical FPS

และท้ายสุดเป็นเกม Arena Breakout: Tactical FPS ที่เป็นเกมแนว FPS แบบใหม่ที่มีให้เล่นกันครับ ภาพและกราฟิกสามารถเปิดสุดได้ครบ โดยแสงและเงานั้นสวยและคมชัดครับ และการเล่นก็ไหลลื่น กดได้แบบตอบสนองไว ไม่มีอะไรติดขัดครับ

แผ่นกระจายความร้อน Vapor Chamber ขนาดใหญ่ !

ในการเล่นเกมก็ต้องมีความร้อนเกิดขึ้นกันอยู่แล้วครับ หากเล่นนานๆ ก็จะเกิดความร้อนขึ้นได้แน่นอน แต่สิ่งสำคัญคือการระบายความร้อนที่ใน iQOO 12 5G ได้ระบบระบายความร้อนแบบ Vapor Chamber ขนาด 6K แบบ 4 โซนเพื่อให้กระจายความร้อนได้ดีและทำให้เราเล่นได้ต่อเนื่องมากขึ้น ไม่เจอเครื่องดับเองหรือการปิดแอพฯ ทั้งนี้ ภายในระบบยังมีระบบควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะ (Smart Temperature Control Strategy) ที่ช่วยให้อุณภูมิตัวเครื่องไม่สูงจนเกินไปครับ

แบตเตอรี่ใหญ่ใช้งานได้นาน พร้อมรองรับ 120W Ultra-Fast Charging

iQOO 12 5G ให้แบตเตอรี่มาถึง 5000mAh ในการใช้งานทั่วไป (ที่ไม่ได้เล่นเกมติดต่อกันนาน) ก็อยู่ได้เกือบตลอดทั้งวันแล้วครับ ไม่ต้องกังวลอะไรมากเท่าไหร่ ส่วนการชาร์จนั้นเร็วในระดับ 120W Ultra-Fast Charging ที่เราลองชาร์จจริงๆ จากการที่มีการใช้งานจริง จากแบตเหลือประมาณ 14% ไปจนถึง 100% ใช้เวลาไปเพียง 38 นาทีเท่านั้นครับ

กล้องหลังสุดล้ำพร้อมฟีเจอร์ระดับโปร

iQOO 12 5G ไม่ได้มีดีแค่ประสิทธิภาพเพื่อการเล่นเกมเท่านั้น แต่ยังจัดชุดกล้องหลังระดับโปรมาให้เราได้ใช้งานพ้รอมกับฟีเจอร์ล้ำๆ ซึ่งกล้องหลังที่ได้จะมี 3 เลนส์ ตามนี้

  • เลนส์หลัก 50MP
  • เลนส์ Ultra-Wide 50MP
  • เลนส์ Periscope 3x 64MP

โดยแต่ละเลนส์จะได้คาวมสามารถในการใช้งานที่ต่างกันไป และแต่ละฟีเจอร์ก็พร้อมใช้งานได้ในราคาที่ยอดเยี่ยมและถ่ายสนุกสุดๆ ครับ ใครที่ชอบลูกเล่นกล้องเยอะๆ บอกเลยว่าถ่ายไม่มีเบื่อเช่นกัน

ตอนเริ่มต้นการใช้งานกล้อง iQOO 12 5G จะมีให้เราเลือกรูปแบบสีของภาพ 3 แบบ ได้แก่ “สดใส” ที่จะได้ความมีชีวิตชีวาและความสดใสของภาพ, “มีมิติ” จะได้ความวินเทจและมีเลเยอร์มากขึ้น และ “ธรรมชาติ” ที่จะได้ความสมจริงของธรรมชาติมากที่สุดครับ ซึ่งในรีวิวนี้เราจะใช้งานเป็นค่าเริ่มต้นที่ระบบตั้งมาให้คือโหมด “สดใส” ครับ

รวมไปถึงลายน้ำของภาพก็จะมีให้เลือกหลายแบบตามใจชอบเลยครับ ตั้งแต่แบบปกติ หรือจะเป็นแบบลายน้ำที่ขอบ แบบศิลปะ หรือเป็นลาดลายอื่นๆ ที่ปรับแต่งข้อความได้เองด้วยครับ แต่ส่วนรอบนี้ขอเลือกเป็นแบบขอบด้านล่างแล้วกันครับ

เลนส์หลักระดับโปรพร้อมเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ 1/1.3″

มาเปิดกันที่เลนส์หลักที่มักจะใช้งานกันบ่อยๆ ก่อนครับ iQOO 12 5G ใช้เซ็นเซอร์ OmniVision OV50H ขนาดใหญ่ 1./1.3″ ซึ่งเซ็นเซอร์นี้ทำมาเพื่อการถ่ายภาพในทุกช่วงเวลาจริงๆ ถ่ายภาพกลางวันก็สวย สีสันสดใสเป็นธรรมชาติ เก็บแสงและเงาได้ครบ เห็นรายละเอียดของบริเวณเล็กๆ ในภาพได้ชัด ไม่เจออาการขอบเบลอหรือภาพแตกเกินไป ที่สำคัญ AI ในรุ่นนี้ก็ทำได้ยอดเยี่ยม ไม่ได้ปรับแต่งให้สีสดเวอร์จนเกินไปครับ

Snapshot เก็บภาพเคลื่อนไหวให้หยุดนิ่งได้ง่ายๆ

อีกความสามารถในเลนส์หลักคือการรองรับฟีเจอร์ Snapshot ที่ใน iQOO 12 5G สามารถจับภาพความเคลื่อนไหวให้คมชัดและสมบูรณ์แบบได้ทันที ไม่ว่าจะคนวิ่ง สัตว์ หรือรถต่างๆ ที่เคลื่อนไหวเร็ว โดยการถ่ายภาพในโหมดนี้ไม่ต้องรอประมวลผลอะไรเลย แค่ปรับไปที่โหมดนี้และกดถ่าย ก็จะได้ภาพที่อยู่ตรงหน้าแบบเรียลไทม์เลย แถมยังปรับซูม 3x ออปติคอลได้อย่างคมชัดและเสริมมุมมองต่างๆ ให้แปลกใหม่ได้ด้วย

ถ่ายภาพมุมกว้างได้คมชัดผ่านเลนส์ Ultra-Wide 50MP

ในเลนส์มุมกว้างรุ่นนี้ให้มุมกว้างมาที่ 119 องศา ซึ่งเป็นมุมมองที่กำลังพอดีมากๆ เพราะองศานี้ทำให้ภาพไม่ได้บิดเบี้ยวหรือโค้งที่ขอบมากจนเกินไป ส่วนการเก็บรายละเอียดก็ทำได้ไม่แพ้เลนส์หลักเลยครับ สีสันสวยงาม แสงและเงาก็คมชัดเจนดี ไม่มีอะไรต้องติมากมายครับ

Portrait สวยเป็นธรรมชาติพร้อมถ่ายได้ถึงระยะ 3x

ใครที่ชอบถ่าย Portrait หรือภาพบุคคล ในรุ่นนี้จะรองรับการถ่ายหลายระยะ ตั้งแต่ระยะ 23mm (1x), 46mm (2x) และ 70mm (3x) ซึ่งในระยะ 1x และ 2x จะเป็นการใช้เลนส์หลักถ่าย ส่วน 3x จะขยับไปใช้เลนส์ Periscope เข้ามาช่วย โดยแต่ละระยะจะได้ความคมชัดที่คมกริบ ยิ่งระยะไกลขึ้น การเบลอหลังก็ยิ่งละลาย มีมิติมากขึ้นกว่าเดิมและการตัดขอบก็คมกริบเลยทีเดียว รวมถึงการปรับแต่งใบหน้าก็ให้ความเป็นธรรมชาติในสไตล์ของ iQOO แถมสกินโทนก็ทำได้ดีเยี่ยมเลยครับ

ปรับสไตล์ของภาพบุคคลด้วย Multi Style Portrait

ในฟีเจอร์นี้ก็เป็นไปตามชื่อเลย เป็นการนำฟิลเตอร์ต่างๆ เข้ามาใช้งานที่มีให้เลือกเยอะพอสมควร ไม่ว่าจะแบบธรรมชาติ, การแพนกล้อง, ภาพยนตร์วินเทจ, เฟรนช์อิมเพรสชัน, สีฟ้าน้ำทะเล, ภาพคนโดยใช้แฟลช และปาร์ตี้

ซูมไกลสะใจผ่านเลนส์ Periscope สูงสุด 100x !!

มาพูดถึงเลนส์ Periscope เพื่อให้ซูมในระยะไกลกันบ้างครับ โดยเลนส์นี้การถ่ายระยะซูมออปติคอลจะอยู่ที่ 3x ที่จะถ่ายได้แบบไม่เสียรายละเอียดอะไรครับ แต่จริงๆ ระยะ 10x HD Zoom ก็ทำได้ดีมาก คมชัดเหมือนแทบจะเป็นออปติคอลแล้วครับ และใครอยากซูมสะใจก็ทำได้สูงสุดที่ 100x ครับ ส่วนที่ชอบอีกอย่างเมื่อซูมไกลๆ เลยคือการรองรับกันสั่นแบบ OIS ผสานกับระบบ AI ที่จะล็อกเฟรมภาพเอาไว้ให้เลย ไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้องก็ถ่ายภาพนิ่งๆ ได้เหมือนกัน

ในตัวอย่างนี้จะเรียงตั้งแต่ 0.6x, 1x, 2x, 3x, 10, และ 100x ครับ

ภาพกลางคืนที่มองเห็นได้ถึงดวงดาว

โหมดกลางคืนในรุ่นนี้จัดเต็มมากๆ ด้วยการได้ภาพที่ออกมาสว่างมากขึ้น รายละเอียดของวัตถุเห็นได้ชัด และการปรับไฮไลท์ก็ทำได้ดี ช่วยทำให้ภาพไม่ฟุ้งเกินไปครับ ทั้งยังมี Night Filter ที่เสริมความแตกต่างให้สวยงามไปอีกแบบในตอนกลางคืนครับ

ที่สำคัญภาพกลางคืนในรุ่นนี้ ไม่ใช่แค่ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้เท่านั้น แต่ยังส่องให้เห็นถึงดวงดาวในโหมด “ดาว” ที่จะเป็นการซ้อนภาพที่สว่างหลายภาพเข้าด้วยกันโดยใช้ AI เข้ามารวมให้ได้ภาพที่ดีที่สุดออกมาเป็น 1 ภาพครับ ซึ่งหากถ่ายในเมืองอาจจะเห็นดวงดาวได้ไม่ชัดมากเพราะปกติจะต้องถ่ายในที่มืดจริง อย่างบนเขาหรือทุ่งโล่งๆ ครับ

รวมถึงการรองรับโหมด Super Moon เพื่อถ่ายภาพดวงจันทร์โดยเฉพาะ ระบบภายในจะสามารถตรวจจับดวงจันทร์และปรับให้คมชัดขึ้นแม้ว่าจะซูม 100x ก็ตามครับ (แอบเสียดายตรงที่ช่วงที่ถ่ายนั้นเลยช่วงที่เต็มดวงพอดีครับ)

เปลี่ยนมุมมองภาพให้แตกต่างด้วยฟีเจอร์ Fish Eye

ในโหมดนี้จะเป็นการสร้างเอฟเฟ็กต์แบบใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร ทำให้ได้ภาพที่แตกต่างหลายมุมมองผ่านเลนส์ Ultra-Wide ครับ โดย Fish Eye ใน iQOO 12 5G ยังมีให้ใช้งานหลายแบบ ได้แก่ ลูกบอลคริสตัล, ดาวเคราะห์น้อย และบ้านกระต่าย ซึ่งแต่ละแบบทำให้การถ่ายภาพสนุกมากขึ้นจริงๆ

รองรับ Telephoto Macro ได้ในระยะ 6X

การถ่ายภาพ Macro ในรุ่นนี้จะไม่ใช่เป็นการส่องเข้าไปในระยะใกล้ๆ เพื่อให้ได้ภาพ แต่จะเป็นการซูมแบบ Tele Macro 3x (70mm) และสูงสุด 6x (140mm) ผ่านเลนส์ Periscope เพื่อให้ได้เห็นภาพที่ใกล้มากขึ้น แต่ความพิเศษคือรองรับการปรับระดับการเบลอฉากหลังเพื่อเพิ่มมิติได้ได้อีกด้วย

ถูกใจสายเซลฟี่ด้วยการปรับแต่งแบบเป็นธรรมชาติ

กล้องหน้าของ iQOO 12 5G ทำออกมาได้ดีในระดับที่ใช้งานได้อย่างสวยงาม มีการปรับแต่งใบหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ ยังคงเห็นรายละเอียดบนใบหน้าได้อยู่ ไม่ได้ปรับให้เนียนจนเกินไปครับ และยังรองรับโหมด Portrait เพื่อเบลอฉากหลังได้เนียนๆ เหมือนกับกล้องหลังเลยด้วย

สรุปการใช้งาน iQOO 12 5G

ราคาและวันวางจำหน่าย

iQOO 12 5G มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ iQOO 12 5G Legend Edition (สีขาว) และ iQOO 12 5G Alpha Edition (สีดำ) โดยในไทยมีความจุเดียวให้เลือกคือ 16GB + 512GB ในราคา 27,990 บาท สามารถพรีออเดอร์ได้ระหว่างวันที่ 6 – 24 ธันวาคมนี้ และจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 ธันวาคมนี้ครับ

iQOO 12 5G ราคา : 27,990 บาท 

โปรโมชันพรีออเดอร์

1. เปิดจอง 6 ธ.ค. 66 – 21 ธ.ค. 66 Exclusive เฉพาะ Shopee เท่านั้น

  • ผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน
  • E-VIP (มูลค่า 9,999.-) ประกันตัวเครื่องเพิ่มเป็น 2 ปี และเพิ่มประกันหน้าจอแตก 1 ปี 1 ครั้ง
  • พิเศษสำหรับลูกค้า Early Bird ส่วนลด 840.-
  • รายละเอียดส่วนลดเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ Shopee 

2. เปิดจอง 22 ธ.ค. 66 – 24 ธ.ค. 66 ที่ vivo Brand Shop, เว็บไซต์ vivo.com และตัวแทนจำหน่าย Shopee, Lazada, TikTok, Thisshop, com 7 online, IT City online, TG online, Jaymart online

iQOO 12 5G วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการวันที่ 25 ธ.ค. 66 ทุกช่องทาง ที่ vivo Brand Shop, เว็บไซต์ vivo.com และตัวแทนจำหน่าย Shopee, Lazada, TikTok, Thisshop, com 7 online, IT City online, TG online, Jaymart online พร้อมรับสิทธิพิเศษ ดังนี้

  • ผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน
  • E-VIP (มูลค่า 9,999.-) ประกันตัวเครื่องเพิ่มเป็น 2 ปี และเพิ่มประกันหน้าจอแตก 1 ปี 1 ครั้ง สำหรับลูกค้าที่ซื้อภายในวันที่ 28 ม.ค. 67 เท่านั้น

หมายเหตุ : รายละเอียดการผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน โปรดสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ตัวแทนจำหน่ายแต่ละช่องทาง

กำลังฮอต

Featured1 วัน ago

รีวิว Redmi Note 13 Pro 5G สมาร์ทโฟนที่ใช้ขุมพลังตัวท็อป SD 7s Gen 2 พร้อมกล้องหลัง 200MP และชาร์จไว 67W 

รีวิว Redmi Note 13 ...

HUAWEI Band 9 ราคาเริ่มต้น 1,299 บาท HUAWEI Band 9 ราคาเริ่มต้น 1,299 บาท
Featured4 วัน ago

5 ข้อควรรู้ก่อนเลือกซื้อสมาร์ทแบนด์ กับความครบเครื่องของ HUAWEI Band 9 สมาร์ทแบนด์ที่เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ทุกรุ่น ดูแลสุขภาพยืนหนึ่งในราคาเริ่มต้น 1,299 บาท

ใครที่อยู่ในช่วงเริ่...

Apple News1 สัปดาห์ ago

AIS เปิดบริการ AIS Care+ with AppleCare Services รายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้ผู้ใช้อุ่นใจมากขึ้น สบายใจที่สุด

AIS คว้า AppleCare S...

Featured1 เดือน ago

รีวิว vivo Y100 5G สนุกกับสเปกเต็ม 100 ด้วยขุมพลัง SD 4 Gen 2 5G ดีไซน์อัปเกรดสุดพรีเมียม พร้อมชาร์จเร็ว 80W FlashCharge

รีวิว vivo Y100 5G น...

Featured1 เดือน ago

รีวิว realme 12+ 5G | realme 12 Pro+ 5G “Be a Portrait Master” ด้วยกล้อง Periscope ระดับเรือธง | ดีไซน์นาฬิกาหรู | ชาร์จไว 67W SUPERVOOC

รีวิว realme 12+ 5G ...

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก