Connect with us

Apple News

เทียบสเปค iPhone 13 ทั้ง 4 รุ่น เลือกรุ่นไหนไว้ใช้งานดี ?

Published

on

ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ iPhone 13 Series ประเทศไทยจะเริ่มเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้ากันแล้วครับ แต่ใครที่ยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อรุ่นไหนดี วันนี้เราจะมาเทียบสเปคกันให้ดูชัดๆ ครับ

ดีไซน์และการออกแบบ

ทั้ง 4 รุ่นมาพร้อมดีไซน์โดยรวมแบบเดิมครับ แต่รอยบากมีขนาดเล็กลงกว่าเดิมถึง 20% โดยที่หน้าจอจะใช้วัสดุ Ceramic Shield เหมือนกันทั้งหมด ซึ่งรุ่น Pro จะมีสแตนเลสสตีลเกรดเดียวกับที่ใช้ทำเครื่องมือศัลยกรรม ขณะที่รุ่นธรรมดาจะเป็นอะลูมิเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศ ทั้งนี้ทั้ง 4 รุ่นจะมีมาตรฐานกันน้ำและฝุ่นที่ IP68 (ลึกสุด 6 เมตร นานสุด 30 นาที)

หน้าจอแสดงผล

ในเรื่องของหน้าจอแสดผงลต้องบอกว่ารุ่นธรรมดาและรุ่น Pro มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนครับ ซึ่งรุ่น Pro มาพร้อมจอภาพ Super Retina XDR พร้อม ProMotion รองรับ Refresh Rate สูงสุด 120Hz ทั้งยังปรับได้อัตโนมัติตั้งแต่ 10-120Hz เพื่อการประหยัดพลังงาน ส่นรุ่นปกติทั้ง iPhone 13 mini และ iPhone 13 จะเป็นหน้าจอ Super Retina XDR เหมือนเดิมครับ

ส่วนขนาดและความละเอียดหน้าจอของแต่ละรุ่น มีดังนี้

  • iPhone 13 mini ขนาด 5.4 นิ้ว ความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซลที่ 476 ppi
  • iPhone 13 ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 2532 x 1170 พิกเซลที่ 460 ppi
  • iPhone 13 Pro ขนาด 5.4 นิ้ว ความละเอียด 2532 x 1170 พิกเซลที่ 460 ppi
  • iPhone 13 Pro Max ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2778 x 1284

ขณะที่สิ่งที่เหมือนกันในเรื่องหน้าจอจะมีตั้งแต่จอภาพ HDR, True Tone, ขอบเขตสีกว้าง (P3), Contrast Ratio 2,000,000:1 (ทั่วไป) และความสว่างสูงสุด 1,200 นิต (HDR) แต่ความสว่างทั่วไปของรุ่น Pro อยู่ที่ 1,000 นิต แต่รุ่นธรรมดาอยู่ที่ 800 นิตครับ

สเปคภายใน

ส่วนสเปคภายในทั้ง 4 รุ่นจะมาพร้อมขุมพลัง A15 Bionic ทั้งหมด โดยเป็น CPU แบบ 6‑core ใหม่ ซึ่งมีคอร์ด้านประสิทธิภาพ 2 คอร์ และคอร์ด้านประหยัดพลังงาน 4 คอร์ พร้อม Neural Engine แบบ 16‑core ใหม่ แต่สิ่งที่รุ่น Pro เหนือกว่าคือ GPU ที่มาแบบ 5‑core ใหม่ ส่วนรุ่นธรรมดาจะมี 4 คอร์ครับ ขณะที่ความจุรุ่น Pro จะมีตั้งแต่ 128/256/512GB และ 1TB ส่วนรุ่นธรรมดาจะมี 128/256/512GB ครับ

ส่วนแบตเตอรี่ iPhone 13 Pro Max สามารถเล่นวิดีโอได้นานสุด 28 ชั่วโมง, iPhone 13 Pro ได้ 22 ชั่วโมง, iPhone 13 ได้ 19 ชั่วโมง และ iPhone 13 mini ได้ 17 ชั่วโมง โดยทั้ง 4 รุ่นสามารถชาร์จเร็วผ่านสายได้สุงสุดที่ 20W เท่ากัน หรือไร้สายแบบ MagSafe ได้สูงสุด 15W และผ่าน Qi สูงสุด 7.5W

กล้อง

มาถึงเรื่องกล้องกันบ้างครับซึ่งรุ่น Pro จะมีกล้องหลัง 3 เลนส์ ดังนี้

  • เลนส์ Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.5
  • เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
  • เลนส์ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.8

ส่วนรุ่นธรรมดามีกล้องหลัง 2 เลนส์ ดังนี้

  • เลนส์ Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.6
  • เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

สิ่งที่เหมือนกัน

ซึ่งความพิเศษที่เหมือนกันแล้วคือระบบกันสั่นไหวแบบ Sensor-Shift ที่เข้ามาให้กับทุกรุ่นแล้ว ทั้งยังรองรับหารถ่าย Night Mode, Deep Fusion, HDR, Portrait Mode, บันทึกวิดีโอระดับ 4K@24fps, 25fps, 30fps หรือ 60fps, บันทึกวิดีโอ HDR ในแบบ Dolby Vision สูงสุด 4K@60fps และฟีเจอร์ใหม่อย่างโหมดภาพยนตร์ (Cinematic Mode)

สิ่งที่ต่างกัน

ในรุ่น Pro จะมีความพิเศษในการถ่ายภาพนิ่งแบบ Apple ProRAW, ภาพถ่ายบุคคลในโหมดกลางคืน, สามารถซูมออปติคัลได้ถึง 6 เท่า พร้อมซูมดิจิทัลได้สูงสุด 15 เท่า, ถ่าย Macro ใกล้ถึง 2 ซม., สามารถบันทึกวิดีโอ ProRes สูงสุด 4K@30fps สำหรับรุ่นความจุ 256GB ขึ้นไป (1080p @30fps สำหรับพื้นที่จัดเก็บข้อมูล ความจุ 128GB) และ LiDAR Scanner ยังคงมีแค่ในรุ่น Pro เท่านั้นครับ

นอกจากนี้ กล้องหน้าจะเป็นแบบ TrueDepth ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 เหมือนกันทั้งหมดครับ แต่รุ่น Pro สามารถถ่ายวิดีโอ ProRes ได้เหมือนกล้องหลังอีกด้วย

ราคาและวันวางจำหน่ายในไทย

iPhone 13 mini

  • 128GB : 25,900 บาท
  • 256GB : 29,900 บาท
  • 512GB : 37,900 บาท

iPhone 13

  • 128GB : 29,900 บาท
  • 256GB : 33,900 บาท
  • 512GB : 41,900 บาท

iPhone 13 Pro

  • 128GB : 38,900 บาท
  • 256GB : 42,900 บาท
  • 512GB : 50,900 บาท
  • 1TB : 58,900 บาท

iPhone 13 Pro Max

  • 128GB : 42,900 บาท
  • 256GB : 46,900 บาท
  • 512GB : 54,900 บาท
  • 1TB : 62,900 บาท

iPhone 13 ทั้ง 4 รุ่น ในประเทศไทยจะเริ่มเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ และพร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 ตุลาคมนี้ครับ

กำลังฮอต

HUAWEI Band 9 ราคาเริ่มต้น 1,299 บาท HUAWEI Band 9 ราคาเริ่มต้น 1,299 บาท
Featured2 วัน ago

5 ข้อควรรู้ก่อนเลือกซื้อสมาร์ทแบนด์ กับความครบเครื่องของ HUAWEI Band 9 สมาร์ทแบนด์ที่เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ทุกรุ่น ดูแลสุขภาพยืนหนึ่งในราคาเริ่มต้น 1,299 บาท

ใครที่อยู่ในช่วงเริ่...

Apple News7 วัน ago

AIS เปิดบริการ AIS Care+ with AppleCare Services รายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้ผู้ใช้อุ่นใจมากขึ้น สบายใจที่สุด

AIS คว้า AppleCare S...

Featured4 สัปดาห์ ago

รีวิว vivo Y100 5G สนุกกับสเปกเต็ม 100 ด้วยขุมพลัง SD 4 Gen 2 5G ดีไซน์อัปเกรดสุดพรีเมียม พร้อมชาร์จเร็ว 80W FlashCharge

รีวิว vivo Y100 5G น...

Featured1 เดือน ago

รีวิว realme 12+ 5G | realme 12 Pro+ 5G “Be a Portrait Master” ด้วยกล้อง Periscope ระดับเรือธง | ดีไซน์นาฬิกาหรู | ชาร์จไว 67W SUPERVOOC

รีวิว realme 12+ 5G ...

Featured1 เดือน ago

รีวิว Xiaomi 14 | 14 Ultra เรือธงกล้องเทพในสองขนาด พร้อมการถ่ายภาพและวิดีโอระดับ Next-Generation ของ Leica!

รีวิว Xiaomi 14 Seri...

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก