เปรียบเทียบ iOS vs Android: ข้อดีข้อเสียแบบชัดๆ ปี 2025

โดย Wattana S.

วงการสมาร์ตโฟนปัจจุบันมีอยู่สองยักษ์ใหญ่ iOS (โดย Apple) และ Android (โดย Google) ยังฟาดฟันกันไม่มีใครยอมใคร! แต่ละฝ่ายก็มีแฟนคลับเหนียวแน่น แต่หากใครกำลังตัดสินใจซื้อเครื่องใหม่ วันนี้จะมาพามาเจาะลึก ข้อดีข้อเสียของทั้งสองระบบ แบบไม่เข้าข้างใคร!

iOS vs Android

เปรียบเทียบ iOS vs Android: ข้อดีข้อเสียแบบชัดๆ

หัวข้อiOS (Apple)Android (หลายแบรนด์)
ข้อดี– ลื่นไหล เสถียร
– อัปเดตรวดเร็ว
– ปลอดภัยสูง
– Ecosystem เชื่อมกันดี
– ตัวเลือกหลากหลาย
– ปรับแต่งได้เต็มที่
– รองรับนวัตกรรมใหม่
ข้อเสีย– ปรับแต่งได้น้อย
– ราคาแพง
– ยังใช้ Lightning บางรุ่น
– อัปเดตช้าในบางรุ่น
– เสี่ยงมัลแวร์
– ประสบการณ์ต่างกันในแต่ละแบรนด์
ราคาโดยเฉลี่ยค่อนข้างสูง เริ่มต้นประมาณ 20,000+ บาทหลากหลาย เริ่มต้นตั้งแต่ 3,000 – 40,000+ บาท
อัปเดตระบบได้พร้อมกันทุกเครื่องขึ้นอยู่กับแบรนด์และรุ่น
การปรับแต่ง UIจำกัด (ระบบปิด)ปรับแต่งได้มาก
ความปลอดภัยสูง แอปปลอดภัยปานกลาง เสี่ยงมัลแวร์
พอร์ตชาร์จLightning, USB-Cส่วนใหญ่ใช้ USB-C
ความเข้ากันกับอุปกรณ์ดีมากกับอุปกรณ์ Appleขึ้นอยู่กับแบรนด์ เช่น Samsung, HUAWEI
ข้อดีของ iOS (iPhone)

ข้อดีของ iOS (iPhone)

  1. ความเสถียรและลื่นไหล
    ระบบปิดที่ Apple ควบคุมทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ทำให้ iOS มีความเสถียร ใช้งานได้ลื่นแม้หลายปีผ่านไป
  2. อัปเดตซอฟต์แวร์รวดเร็ว
    เมื่อ iOS เวอร์ชันใหม่ออกมา ผู้ใช้ iPhone ส่วนใหญ่จะได้รับพร้อมกันทันที ต่างจาก Android ที่ต้องรอผู้ผลิตแต่ละค่าย
  3. ความปลอดภัยสูง
    ระบบ iOS มีมาตรฐานความปลอดภัยแน่นหนา App Store ก็เข้มงวดเรื่องแอปปลอมและมัลแวร์
  4. ระบบ Ecosystem แบบไร้รอยต่อ
    ถ้าใช้ Mac, iPad, Apple Watch อยู่แล้ว iPhone จะเสริมพลังให้ชีวิตคุณสะดวกขึ้นอย่างชัดเจน

ข้อเสียของ iOS

  • ความยืดหยุ่นต่ำ
    iOS ไม่เปิดให้ปรับแต่งมากนัก เช่น เปลี่ยนธีม หรือลงแอปนอก App Store
  • ราคาสูง
    สเปกใกล้เคียงกันแต่ iPhone แพงกว่าสมาร์ตโฟน Android หลายรุ่นอย่างเห็นได้ชัด
ข้อดีของ Android

ข้อดีของ Android

  1. ตัวเลือกหลากหลาย
    มีมือถือหลายแบรนด์ หลายระดับราคา ตั้งแต่รุ่นประหยัดราคาหลักพัน ไปจนถึงรุ่นพรีเมียมสุดล้ำ
  2. ปรับแต่งได้เต็มที่
    อยากเปลี่ยนธีม หน้าตา UI หรือลงแอปนอก Play Store ก็ทำได้ง่ายกว่า iOS
  3. รองรับนวัตกรรมใหม่เร็วกว่า
    เช่น จอพับ กล้องซูมไกล ระบบชาร์จไว – มักเห็นใน Android ก่อน

ข้อเสียของ Android

  • อัปเดตช้า/ไม่ทั่วถึง
    ขึ้นอยู่กับแบรนด์และรุ่น บางเครื่องอัปเดตแค่ 1-2 ปี หรือไม่ได้อัปเดตแม้แต่เวอร์ชันเดียวก็มี
  • มีความเสี่ยงเรื่องความปลอดภัย
    แอปบน Play Store ผ่านการตรวจสอบน้อยกว่า App Store ทำให้มัลแวร์เล็ดลอดได้บ่อยกว่า
  • ประสบการณ์ใช้งานต่างกันในแต่ละแบรนด์
    บางรุ่นลื่นไหล บางรุ่นหน่วง ทั้งที่เป็น Android เหมือนกัน

สรุป iOS หรือ Android ดี?

  • ถ้าชอบความลื่นไหล ปลอดภัย ใช้ Ecosystem ของ Apple ซึ่งชัดก็ชัดเจนอยู่แล้วว่า iOS เหมาะมากกว่า
  • ถ้าอยากปรับแต่งเอง มีงบจำกัด หรืออยากเลือกอุปกรณ์หลากหลาย Android คือคำตอบสำหรับโจทย์นี้

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More