รวม 7 ฟีเจอร์บน iOS 26 ที่ต้องใช้ iPhone 15 Pro ขึ้นไปเท่านั้น !!

โดย Shine

ใน iOS 26 เราได้เห็นฟีเจอร์ใหม่บน iPhone กันเยอะพอสมควร ซึ่งนอกเหนือจากดีไซน์แบบ Liquid Glass ที่เป็นตัวชูโรงหลักแล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่ใช้งานกันเพียบ และก็มีบางฟีเจอร์ที่ต้องใช้งานบน iPhone 15 Pro ขึ้นไปเท่านั้นด้วย ซึ่งจะมีอะไรบ้าง เรามีรวบรวมมาให้ !

ฟีเจอร์หลักๆ ที่ต้องใช้งานบน iPhone 15 Pro ขึ้นไปจะเป็นการใช้งานโมเดลภาษาขนนาดใหญ่ที่ต้องใช้การประมวลผลที่เร็วและแรงครับ โดยฟีเจอร์ทั้งหมดที่ต้องใช้ชิปรุ่นใหม่ มีดังนี้

  • Live Translation ในข้อความ, FaceTime และโทรศัพท์ : มอบการแปลแบบเรียลไทม์ในแอปการสื่อสารของ Apple โดยจะแปลข้อความโดยอัตโนมัติขณะที่เราพิมพ์ แสดงคำบรรยายสดระหว่างการโทร FaceTime และพูดคำแปลออกเสียงระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์
  • การใช้งาน Shortcuts ด้วยฟีเจอร์ AI : เพิ่มการดำเนินการแอป Shortcuts ใหม่ที่ใช้โมเดลปัญญาประดิษฐ์ของ Apple ช่วยให้ผู้ใช้สร้างรูปภาพ สรุปข้อความ และเข้าถึงการตอบสนองของ AI ภายในเวิร์กโฟลว์อัตโนมัติได้
  • คำแนะนำ Reminders และการจัดระเบียบการแจ้งเตือน : ใช้ AI บนอุปกรณ์เพื่อแนะนำงานใหม่และรายการซื้อของตามข้อความที่พบในข้อความและอีเมล ในขณะที่จัดหมวดหมู่รายการงานเป็นหมวดหมู่ที่จัดระเบียบโดยอัตโนมัติ
  • การสร้างพื้นหลังข้อความและข้อเสนอแนะการสำรวจ : เพิ่มคำแนะนำการสำรวจที่ขับเคลื่อนโดย AI สำหรับการสร้างที่ง่ายดาย และเปิดใช้งานการสร้างพื้นหลังแบบกำหนดเองผ่านการผสานรวม Image Playground ซึ่งเหนือกว่าตัวเลือกพื้นหลังมาตรฐานที่มีให้สำหรับผู้ใช้ทั้งหมด
  • การติดตามคำสั่งซื้อของ Apple Wallet : ใช้ AI เพื่อดึงข้อมูลการติดตามคำสั่งซื้อโดยตรงจากอีเมลในกล่องจดหมายโดยไม่ต้องให้ผู้ค้าเข้าร่วมในระบบติดตามของ Apple
  • ฟีเจอร์ใหม่ของ Genmoji และ Image Playground : ปรับปรุงเครื่องมือรูปภาพของ Apple Intelligence ที่มีอยู่ด้วยความสามารถในการผสมอีโมจิเข้าด้วยกัน ปรับแต่งตัวละครที่สร้างขึ้น และเข้าถึงตัวเลือกสไตล์ที่ขับเคลื่อนโดย ChatGPT รวมถึงเอฟเฟกต์อะนิเมะ ภาพวาดสีน้ำมัน และสีน้ำ
  • Visual Intelligence พร้อมภาพหน้าจอ : ขยายคุณสมบัติ AI ที่ใช้กล้องเพื่อทำงานร่วมกับภาพหน้าจอทั่วทั้งระบบ ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถวิเคราะห์เนื้อหาที่จับภาพไว้สำหรับการช้อปปิ้ง กิจกรรมในปฏิทิน และการรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม

นอกเหนือจากฟีเจอร์ด้านบนนี้ ในรุ่น iPhone 14 Pro และก่อนหน้าจะยังใช้งานฟีเจอร์หลักๆ ได้เหมือนกัน แต่จะต่างกันตรงที่ฟีเจอร์ AI นั้นจะไม่สามารถใช้งานได้ครับ

และที่สำคัญ ฟีเจอร์ Spatial Scenes ที่เป็นวอลเปเปอร์เพื่อตรวจจับฉากหลังเพื่อให้ภาพดูมีมิติมมากขึ้น นั้นใช้งานได้ตั้งแต่ iPhone 12 ขึ้นไป เพราะจริงๆ แล้วฟีเจอร์นี้ใช้งาน AI ก็จริง แต่ไม่ใช่ Apple Intelligence (ใช้ Neural Engine ที่มีอยู่ในชิปใหม่ๆ อยู่แล้วครับ)

ที่มา : MacRumors

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More