รีวิว Huawei P8lite ดีไซน์เรียบหรู มีสไตล์ ราคาย่อมเยา

Huawei P8lite สมาร์ทโฟนรุ่นเล็กราคาประหยัดในซีรีส์ P8 มาพร้อมหน้าจอแสดงผลขนาด 5 นิ้ว HD ขุมพลังจากชิปประมวลผล Kirin 620 แบบ 64 บิต Octa-core กับแรม 2GB และกล้องถ่ายรูปขนาด 13 ล้านพิกเซล

สรุปข้อมูลและสเปค Huawei P8lite (ALE-Lo2)

• ราคาเปิดตัว 7,990 บาท (มิถุนายน 2558)
• ขนาดตัวเครื่อง 143.0 x 70.6 x 7.7 มม.
• น้ำหนัก 131 กรัม
• 2G : GSM 900 / 1800 / 1900 MHz
• 3G : HSDPA 850 / 900 / 2100 MHz
• 4G : LTE band 3(1800), 7(2600), 8(900), 20(800)
• รองรับ 2 ซิม (Micro SIM + Nano SIM)
• หน้าจอแสดงผลขนาด 5 นิ้ว HD ความละเอียด 720 x 1280 พิกเซล (294ppi)
• ระบบปฏิบัติการ Android 5.0 Lollipop
• ชิปเซ็ต Hisilicon Kirin 620
• ซีพียู 64 บิต Octa-core 1.2 GHz Cortex-A53
• กราฟิก (GPU) Mali-450MP4
• หน่วยความจำ RAM 2 GB
• หน่วยความจำ ROM 16 GB เพิ่มความจำภายนอกได้ด้วย microSD สูงสุด 128 GB (ต้องใช้ช่องใส่ SIM 2)
• กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล แฟลช LED
• กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล
• รองรับ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, Bluetooth 4.0
• GPS/ A-GPS, GLONASS
• วิทยุ FM
• แบตเตอรี่ Li-Po 2200 mAh (ถอดเปลี่ยนเองไม่ได้)

 

ตัวเครื่อง ดีไซน์ และหน้าจอแสดงผล

Huawei P8lite เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นเล็กที่ปรับสเปคและดีไซน์จากรุ่นพรีเมียมลงมาเพื่อเน้นไปยังกลุ่มตลาดระดับล่างถึงกลาง โดยตัวเครื่องเป็นพลาสติกแต่ดีไซน์ฝาหลังให้มีความหรูหราขึ้น ถ้ามองผ่าน ๆ ก็ดูคล้าย P8 เหมือนกัน ซึ่งเจ้าตัว P8lite จะมีขนาดตัวเครื่องเล็กกว่า แต่หนากว่าเล็กน้อย เมื่อเทียบกับ P8

 

หน้าจอแสดงผลของ P8lite มีขนาดกว้าง 5 นิ้ว ซึ่งให้สัดส่วนหน้าจอมาประมาณ 68.3% ของตัวเครื่อง ความคมชัดระดับ HD โดยความหนาแน่นของจุดพิกเซลประมาณ 294 พิกเซลต่อนิ้ว หากผู้ใช้งานที่คุ้นตากับจอ Full HD อยู่แล้วเมื่อดูหนังหรือเล่นเกม อาจรู้สึกได้ทันทีว่าหน้าจอของ P8lite คมชัดน้อยกว่า แต่ด้วยระดับราคาของของรุ่นนี้ถือว่าให้หน้าจอ HD มาเต็มที่แล้วครับ

 

เหนือหน้าจอมีเลนส์กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และช่องลำโพงสำหรับเสียงสนทนา ด้านล่างหน้าจอมีโลโก้ HUAWEI ส่วนปุ่มนำทางจะอยู่บนหน้าจอแสดงผล

 

ขอบด้านบนมีช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม. และไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวน

 

ขอบด้านล่างมีพอร์ตเชื่อมต่อขนาด microUSB, ไมโครโฟน และช่องลำโพง

 

ขอบทางด้านขวามีมีปุ่มปรับระดับเสียง, ปุ่มปิด/เปิดเครื่อง, ช่องใส่ SIM จำนวน 2 ช่อง ขนาด Micro SIM และ Nano SIM หรือใส่ microSD card แทนช่องใส่ SIM 2 ก็ได้ ส่วนขอบทางด้านซ้ายไม่มีปุ่มใด ๆ

 

ด้านหลังตัวเครื่องมีเลนส์กล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และแฟลช LED ซึ่งฝาหลังไม่สามารถแกะเปิดออกได้ ภายในมีแบตเตอรี่ขนาด 2200 mAh

 

อินเตอร์เฟซและฟังก์ชั่นการใช้งาน

Huawei P8lite มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 5.0.1 Lollipop ครอบทับด้วย Emotion 3.1 UI ซึ่งในหน้าจอล็อกสรีนจะเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์ไปเรื่อย ๆ ทำให้ไม่จำเจและดูสวยงาม สามารถแตะหน้าจอแล้วปัดเพื่อปลดล็อคเข้าสู่หน้าจอหลักหรือหน้าโฮมได้ทันที

 

ในหน้าล็อกสกรีนสามารถปรับแต่งได้ด้วยนะ ซึ่งทำได้ง่าย ๆ โดยการปัดขอบด้านล่างขึ้นในหน้าล็อคสกรีนจะมี Lockscreen quick โผล่ขึ้นมา แล้วเลือกเมนู “หน้าปก” ซึ่งสามารถเลือกเพิ่มรูปภาพได้เองสำหรับแสดงในหน้าล็อคสกรีน และไม่เพียงแต่สามารถตั้งค่าภาพล็อคสกรีนได้ ยังสามารถเรียกใช้งานเครื่องบันทึกเสียง, เครื่องคิดเลข, ไฟฉาย และกล้องถ่ายรูปได้

 

ในหน้าโฮมสามารถจัดเรียงไอคอนแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ได้ รวมถึงเพิ่มวิดเจ็ต เปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์ เปลี่ยนเอฟเฟ็กต์การเลื่อนหน้า หรือเปิดใช้งานการเขย่าเพื่อจัดเรียงไอคอนหน้าโฮมใหม่ก็ได้

 

การจัดเรียงไอคอนจะเรียงมาให้แบบ 4 x 5 แถว ซึ่งสามารถลากไอคอนแอพพลิเคชั่นมารวมกันเป็นโฟลเดอร์ได้ด้วย เหมาะกับการจัดกลุ่มแอพพลิเคชั่นหมวดหมู่เดียวกัน เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานเมื่อติดตั้งแอพพลิเคชั่นจนมีจำนวนมาก ๆ และเมื่อปัดหน้าจอลงจะมีเมนูค้นหา และแสดงรายการแอพพลิเคชั่นที่ใช้งานล่าสุด

 

P8lite ก็มีระบบธีมมาให้เลือกดาวน์โหลดใช้งานเหมือนกัน สำหรับใครที่เบื่อหน้าตาเดิม ๆ ก็เข้าไปดาวน์โหลดใช้งานกันได้แบบฟรี ๆ

 

การแจ้งเตือนจะแสดงรายการแบบไทม์ไลน์ เลือกแตะที่รายการเพื่อเปิดดู หรือปัดซ้าย/ขวาเพื่อลบการแจ้งเตือน และอีกส่วนจะเป็นส่วนของ Controal Panel หรือเมนูทางลัด ซึ่งจะมีเมนูสำหรับปิด/เปิดการทำงานแบบรวดเร็ว ไม่ต้องเข้าเมนูการตั้งค่าให้ยุ่งยาก

 

ในส่วนของ Task Switcher หรือ App Switcher จะเป็นในส่วนของการแสดงรายการแอพพลิเคชั่นที่เปิดใช้งานอยู่ สามารถแตะที่รายการเพื่อเข้าใช้งานต่อได้ทันที หรือปัดที่รายการแต่ละอันเพื่อปิดการทำงาน หรือปัดด้านล่างขึ้นเพื่อปิดการใช้งานทั้งหมด

 

หน้าจอมีเลือกใช้งาน 2 แบบคือแบบมาตรฐาน และแบบเรียบง่าย ซึ่งแบบเรียบง่ายจะมีไอคอนขนาดใหญ่ คล้าย ๆ รูปแบบไทล์ของ Windows Phone และตัวหนังสือเมนูต่าง ๆ ก็ใหญ่ตามไปด้วย ฟีเจอร์นี้ออกแบบมาสำหรับผู้ที่เริ่มต้นใช้งานสมาร์ทโฟนครั้งแรก เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน

 

จะสังเกตเห็นว่าที่แถบสถานะด้าานบนหน้าจอจะมีการแสดงชื่อเครือข่าย, แสดงความเร็วของอินเตอร์เน็ต และไฟแสดงสถานะต่าง ๆ สามารถเข้าไปปิดหรือเปิดใช้งานได้ในเมนู “การตั้งค่าการแสดงผล” รวมถึงปรับโทนแสงของหน้าจอก็ได้

 

ฟีเจอร์น่าสนใจเกี่ยวกับการควบคุมการเคลื่อนไหวที่มีให้ใช้งานบน P8lite ได้แก่

• คว่ำหน้าจอเพื่อปิดเสียงเรียกเข้า หรือเสียงปลุก
• เขย่าเพื่อจัดเรียงไอคอนหน้าโฮมใหม่
• เมื่อหน้าปิดอยู่ ให้เคาะหน้าจอ 2 ครั้งเพื่อเปิดหน้าจอ
• วาดตัวอักษรบนหน้าจอขณะหน้าจอปิดอยู่ เพื่อเรียกใช้งานแอพพลิเคชั่นตามที่ได้ตั้งค่าไว้ เช่น วาดตัวอักษร M เพื่อเรียกใช้งานแอพพลิเคชั่นเล่นเพลง เป็นต้น

 

ปุ่มนำทางแถบด้านล่างหน้าจอก็สามารถเลือกสลับตำแหน่งกันได้ตามความถนัด

 

การใช้งานมือเดียว เป็นการลดขนาดการแสดงผลให้เป็นหน้าต่างขนาดเล็กลง สามารถใช้งานมือเดียวได้

 

แผงปุ่มไอคอนลัด เป็นการเปิดใช้งานไอคอนที่รวมไอคอนปุ่มนำทางไว้ในปุ่มเดียวและปุ่มนี้จะลอยอยู่บนหน้าจอทุกหน้า

 

การเชื่อมต่อ

Huawei P8lite ที่ใช้ในการรีวิวนี้เป็นรุ่นโมเดล ALE-Lo2 รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แต่ถ้าต้องการใส่ microSD card ต้องใช้ช่องใส่ซิม ซึ่งจะเหลือใช้งานเพียงซิมเดียว โดยรองรับเครือข่าย 3G/4G ทั้ง 2 ช่อง คือไม่ว่าจะใส่ซิมช่องใดก็ตาม ก็สามารถเลือกสลับการใช้งาน 3G/3G ไปที่ซิมใดซิมหนึ่งได้ที่เมนูการตั้งค่า ส่วนอีกซิมก็จะรับได้แค่ 2G อัตโนมัติ

Huawei P8lite รองรับเครือข่าย 4G LTE Cat.4 ความเร็วดาวน์โหลดสูงสุด 150Mbps, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n (ซึ่งไม่รองรับ Wi-Fi 802.11ac), Bluetooth 4.0 with A2DP, EDR, และโหมด LE (ประหยัดพลังงาน) ส่วนการเชื่อมต่อผ่านสายรองรับ microUSB 2.0

นอกจากนี้ก็รองรับ GPS/GLONASS, มีวิทยุ FM ในตัว แต่รุ่นโมเดล ALE-Lo2 ไม่มีเทคโนโลยี NFC นะครับ

 

แบตเตอรี่และการจัดการพลังงาน

P8lite ให้แบตเตอรี่มา 2200 mAh ซึ่งถือว่าน้อยมากสำหรับสมาร์ทโฟนหน้าจอ 5 นิ้วที่มีฟังก์ชั่นให้ใช้งานหลากหลาย แต่ยังดีที่ Huawei ใส่โหมดสำหรับจัดการพลังงานมาให้ ซึ่งมีทั้งโหมดประหยัดพลังงานแบบปกติ คือใช้งานได้ปกติแต่จะปิดการทำงานบางอย่างเพื่อลดการใช้งานพลังงาน

ส่วนโหมดประหยัดพลังงานขั้งสูง เหมาะสำหรับเปิดใช้งานยามฉุกเฉิน ซึ่งโหมดนี้จะเปลี่ยนหน้าจอเป็นขาวดำ และใช้งานได้เฉพาะฟังก์ชั่นพื้นฐาน ได้แก่ การโทร ข้อความ เป็นต้น เพื่อยืดระยะเวลาแบตเตอรี่ให้อยู่ได้นานที่สุด

 

ตรวจสอบเซ็นเซอร์ด้วย Android Sensor Box และมัลติทัช

• Accelerometer Sensor ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้
• Light Sensor สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอและแผงปุ่มกดให้เหมาะสม
• Orientation Sensor ระบบปรับมุมมองการแสดงผลหน้าจออัตโนมัติ
• Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน
• Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
• Magnetic Sensor ตรวจวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก
• รองรับมัลติทัชสูงสุด 10 จุด

Huawei P8lite ไม่มี Gyro Sensor ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบ 3 แกน ซึ่งเป็นตัวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นหลากหลายในการควบคุม

 

ผลทดสอบคะแนน Benchmark เพื่อวัดประสิทธิภาพการทำงาน

Huawei P8lite รันระบบปฏิบัติการ Android 5.01 Lollipop ซึ่งเป็น 64 บิต, ชิปเซ็ต Hisilicon Kirin 620 ซีพียู 64 บิต Octa-core 1.2GHz กับจีพียู Mali-450MP4 และแรม 2GB

ผลการทดสอบ AnTuTu ในโหมด 64 บิต ซึ่งเป็นการทดสอบการเข้าถึงการทำงานของแรมและประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยประมวลผลกราฟิกหรือจีพียู ทำคะแนนรวมได้ 31,623 คะแนน ระดับคะแนนถือว่าอยู่ในระดับที่ดีมากเมื่อเทียบกับรุ่นในระดับราคาเดียวกัน ซึ่งคะแนนยังใกล้เคียงกับรุ่นที่ใช้ชิป Snapdragon 615 และผลทดสอบคะแนนรวมจาก Quadrant Standard ได้ 9,291 คะแนน ผลคะแนนตัวนี้ถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับรุ่นในระดับราคาเดียวกัน

 

ผลการทดสอบด้วย Geekbench 3 เพื่อวัดประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยประมวลผลโดยรวม ผลทดสอบ Single-core ทำได้ 577 คะแนน และ Multi-core ทำได้ 2,547 คะแนน

 

กล้องถ่ายรูป

Huawei P8lite มีกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล หน้าตาเมนูการใช้งานดูเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน เลือกจะถ่ายรูปหรือวิดีโอได้ทันทีโดยเลื่อนแถบทางด้านขวา หรือปิด/เปิดแฟลช และสลับกล้องหน้า/หลังจากแถบทางด้านซ้าย และกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล

 

โหมดถ่ายภาพหลัก ๆ ได้แก่ พาโนรามา, HDR, โฟกัสทั้งหมด, ภาพที่ดีที่สุด, ลายน้ำ และสมุดโน้ตแบบเสียง

 

กล้องของ p8lite ถ่ายภาพขนาดความละเอียดสูงสุด 13 ล้านพิกเซล (4160 x 3120 พิกเซล) อัตราส่วน 4:3, สามารถแนบแผนที่ลงในภาพถ่าย, ตั้งเวลาถ่าย, ตรวจจับรอบยิ้มเพื่อชัตเตอร์, Tracking Auto Focus หรือติดตามโฟกัสวัตถุกำลังเคลื่อนที่อัตโนมัติ และปรับค่า ISO ได้สูงสุด 1600

 

การแตะหน้าจอโฟกัส สามารถแยกจุดโฟกัสกับจุดวัดแสงจากจุดโฟกัสได้ ซึ่งฟีเจอร์นี้ช่วยได้เยอะมากเวลาถ่ายภาพเมื่อเลือกจุดโฟกัสแล้วแต่แสงไม่ได้หรือมืดเกินไป ก็สามารถแจกจุดวัดแสงไปตำแหน่งอื่นเพื่อให้ได้แสงที่ต้องการในขณะที่จุดโฟกัสยังอยู่ที่ตำแหน่งเดิม

 

ขณะถ่ายรูปยังมีฟิลเตอร์ให้เลือกใช้งานได้ด้วย โดยไม่ต้องมาเลือกแต่งรูปภายหลัง

 

↑ ภาพด้านบนถ่ายด้วยโหมดออโต้ ไม่ใส่ฟิลเตอร์ ↑

 

↑ ภาพด้านบนถ่ายด้วยโหมดออโต้  ใส่ฟิลเตอร์ Blue หรือสีน้ำเงิน ↑

 

↑ ภาพด้านบนถ่ายด้วยโหมดออโต้ ใส่ฟิลเตอร์ Individuality หรือโดดเด่น ↑

 

↑ ภาพด้านบนถ่ายด้วยโหมดออโต้ ใส่ฟิลเตอร์วินเทจ ↑

 

โหมดแต่งสวยสำหรับคนชอบเซลฟี่หน้าเนียน ๆ ขาว ๆ ก็มีให้เลือกใช้งานเช่นกัน ปรับความเนียนได้ตามชอบใจ

 

เก็บภาพเซลฟี่ในแนวนอนจะได้ภาพแนวยาวเต็ม ๆ และเก็บวิวโดยรอบได้กว้างอีกด้วย

 

นอกจากนี้ยังมีโหมดเพอร์เฟคเซลฟี่ ซึ่งเป็นการถ่ายเซลฟี่ในทุกมุมแล้วนำองค์ประกอบมารวมเป็นภาพเดียวให้ได้ภาพที่สมบูรณ์แบบที่สุด เมื่อถ่ายโหมดนี้แล้วระบบจะจดจำใบหน้าผู้ถ่ายสำหรับการถ่ายเซลฟี่ในครั้งหน้าด้วย ส่วนการบันทึกวิดีโอรองรับความละเอียดสูงสุด 1080p ที่ความเร็ว 30 เฟรมต่อวินาที โดยจัดเก็บไฟล์เป็นสกุล MP4

ตัวอย่างภาพถ่าย

สรุปจุดเด่น

• หน้าจอ 5 นิ้ว HD
• ระบบปฏิบัติการ Android 5.0.1 Lollipop
• ชิปประมวลผล Octa-core 64 บิต
• แรม 2GB
• กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล มีฟังก์ชั่นให้ใช้งานหลากหลาย
• กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล
• รองรับการใช้งาน 2 ซิม และใช้งาน 4G LTE ในไทยได้
• เพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ด้วย microSD สูงสุด 128GB

จุดสังเกตเพิ่มเติม

• แบตเตอรี่ 2200 mAh ถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับฟังก์ชั่นการใช้งานของตัวเครื่อง

ขอขอบคุณ หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย)