รีวิว Huawei nova 3 สมาร์ทโฟน 4 กล้อง AI และจัดเต็มด้วยสเปคเรือธง ราคาไม่แพง

Huawei nova 3 สมาร์ทโฟนระดับกลางที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีและฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดเหมือนกับรุ่นเรือธง ซึ่งทาง Huawei ขนานนามเจ้ารุ่นนี้ว่าเป็นนักฆ่านักฆ่าเรือธง ด้วยสเปคที่จัดเต็ม ในราคาที่คุ้มค่าที่สุด มาดูกันว่าจะจริงสมกับฉายาหรือไม่

ปีนี้เป็นปีทองของ Huawei เลยก็ว่าได้ ด้วยยอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงตอนนี้ก็หลากหลายรุ่นในทุกระดับราคา โดย nova series เป็นกลุ่มสมาร์ทโฟนสำหรับคนรุ่นใหม่ที่กำลังมองหามือถือที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ในราคาที่ไม่แพงจนเกินไป

สรุปข้อมูลและสเปค Huawei nova 3

• ราคาเปิดตัว 16,990 บาท (สิงหาคม 2018)
• ขนาดตัวเครื่อง 157 x 73.7 x 7.3 มิลลิเมตร
• น้ำหนัก 166 กรัม
• หน้าจอขนาด 6.3 นิ้ว IPS ความละเอียดระดับ FullHD+ (2340 x 1080 พิกเซล)
• ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo ครอบด้วย EMUI 8.2
• ชิพเซ็ต Kirin 970 Octa-core
• จีพียู Mali-G72 MP12
• แรม 6GB
• ความจุตัวเครื่อง 128GB ใสเมมเพิ่มได้สูงสุด 256GB
• กล้องหลังเลนส์คู่ 16 ล้านพิกเซล (RGB) รูรับแสง f/1.8 และ 24 ล้านพิกเซล (Monochrome) รูรับแสง f/1.8
• กล้องหน้าเลนส์คู่ 24 ล้านพิกเซล (RGB) รูรับแสง f/2.0 และ 2 ล้านพิกเซล (Depth sensor)
• พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C, Wi-Fi ac, Bluetooth 4.2
• แบตเตอรี่ 3750mAh ชาร์จไว 9V/2A
• จดจำใบหน้าและสแกนลายนิ้วมือ

กล้องถ่ายรูป

Huawei nova 3 เป็นสมาร์ทโฟนที่มีกล้องถ่ายรูปมากถึง 4 ตัว และทำงานด้วย AI ที่รองรับการประมวลลผลชิพ Kirin 970 ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง จึงทำให้รุ่นนี้ถ่ายรูปได้ง่ายในทุกสถานการณ์ โดยเป็นเลนส์คู่หน้าความละเอียด 24 + 2 ล้านพิกเซล และเลนส์คู่ด้านหลัง 24 + 16 ล้านพิกเซล

กล้องหน้าเลนส์คู่มีความฉลาดในการรู้ฉากหลังที่กำลังเซลฟี่ด้วย AI แล้วระบบจะทำการปรับเฉดสีของภาพเซลฟี่ให้เหมาะสมกับแต่ละฉาก เพื่อให้ภาพออกมาสวยงามที่สุด เช่น ฉากหลังเป็นภายในอาคาร หรือฉากหลังเป็นต้นไม้ ก็จะปรับเฉดสีอีกแบบหนึ่ง เป็นต้น โดยที่ผู้ใช้งานไม่ต้องต้องค่าใดๆ เลย

Portrait Mode กล้องหน้าคู่ที่มีกล้อง Depth Sensor ทำหน้าที่ในการเก็บระยะความลึกของภาพ จึงทำให้การละลายฉากหลังทำได้เนียนมากๆ ทำเอฟเฟ็กต์โบเก้ได้สวยงาม

กล้องหลังเลนส์คู่และรู้ฉากหรือวัตถุที่กำลังถ่ายในรุ่น Huawei nova 3 เป็นการถ่ายทอดฟีเจอร์ที่ดีที่สุดในการถ่ายรูปให้กับสมาร์ทโฟนระดับกลาง ให้สามารถถ่ายรูปไม่ว่าจะถ่ายแบบไหนก็เป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคน ด้วยความฉลาดของ AI ที่ผู้ใช้งานไม่ต้องตั้งค่ากล้องก็ถ่ายรูปออกมาได้แบบมืออาชีพ ตอนนี้สามารถเรียนรู้ภาพและจำแนกภาพที่กำลังถ่ายได้ถึง 22 หมวดหมู่ ซึ่งเป็นฟีเจอร์แบบเดียวกับในรุ่นเรือธงของ Huawei

การถ่ายภาพบุคคลด้วย Portrait Mode ต้องยอมรับว่า Huawei พัฒนาให้ทุกคนสามารถได้ภาพสวยงามระดับมือชีพ โดยไม่ต้องตั้งค่ากล้องใดๆ เลย ซึ่งการตัดขอบตัวแบบแล้วทำเอฟเฟ็กต์ละลายฉากหลังเพื่อให้ตัวแบบมีความโดดเด่นนั้นทำออกมาได้เนียนมากๆ

ตัวอย่างภาพถ่าย Portrait สวยจากกล้อง Huawei nova 3

ความประทับใจในการถ่ายภาพด้วย Portrait Mode จากกล้อง Huawei nova 3 นอกจากภาพที่สวยงามแล้ว ระบบโฟกัส การตรวจจับใบหน้า และการประมวลผลภาพหลังจากกดชัตเตอร์ถ่ายภาพ ทำได้อย่างรวดเร็ว เรียกได้กดชัตเตอร์ปุ๊บได้ภาพทันที ไม่มีอาการหน่วงให้เห็น

3D Portrait Lighting เป็นโหมดที่ใช้ความสามารถของ AI ในการตรวจจับใบหน้าแบบ 3 มิติ เพื่อปรับใบหน้าให้ออกมาสวยงามเป็นธรรมชาติ และสามารถปรับเปลี่ยนแสงไฟต่างๆ ได้ภายหลัง

ภาพดอกไม้ที่มีสีสันสวยงาม เมื่อถ่ายผ่านกล้องของ Huawei nova 3 จะได้เฉดสีที่ดูสวยงาม สีสันสดใสมากขึ้น

จากภาพถ่ายอาหารจะเห็นว่า AI มีการปรับเฉดสีให้ดูน่ากินมากขึ้น ซึ่งภาพถ่ายที่ถูกปรับด้วย AI ยังสามารถเลือกปิดได้ทั้งก่อนถ่ายและหลังถ่าย อยากได้แบบไหนก็เลือกได้เลย

3D Qmoji เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่จะสร้างความสนุกผ่านกล้อง nova 3 โดยการสร้างตัวการ์ตูนสุดน่ารักตามการขยับของใบหน้าเรา รองรับการบันทึกเป็นเป็นวิดีโอพร้อมกับใส่เสียงได้

ในโหมดของ AR Lens มีการอัพเกรดฟีเจอร์ของ AR Sticker โดยการเพิ่มวัตถุ 3 มิติเข้ามาเป็นส่วนของรูปภาพที่ดูสมจริงมากขึ้น

AR Gesture effect ความสนุกรูปแบบใหม่ที่ใช้ท่าทางมือในการเรียกใช้งานเอฟเฟ็กต์ต่างๆ และถ่ายได้ทั้งภาพนิ่งหรือวิดีโอ

ดีไซน์ตัวเครื่องและหน้าจอแสดงผล

Huawei nova 3 มีการดีไซน์ตัวเครื่องแบบใหม่สำหรับปี 2018 ที่มีการเลือกวัสดุตัวเครื่องที่เป็นกระจกโค้ง 3D Glass และการไล่เฉดสีที่ฝาหลังตัวเครื่องให้มีความแปลกใหม่ สวยงาม ซึ่งก็ได้รับเสียงตอบรับจากแฟนๆ Huawei เป็นอย่างดี นับตั้งแต่สี Twilight ใน P20 Pro และในรุ่นนี้ใช้ชื่อสี Iris Purple ที่เป็นโทนสีน้ำเงินผสมกับสีม่วง

ตัวเครื่องที่เป็นกระจก 3D Glass นอกจากจะทำให้ตัวเครื่องดูมีสไตล์และพรีเมียมแล้ว ยังผสานดีไซน์กับกรอบตัวเครื่องที่เป็นโลหะผิวมันเงาและมีความโค้งเว้า ช่วยให้การจับใช้งานกระชับมือมากขึ้นด้วย เพราะความโค้งขอบด้านหลังและกรอบตัวเครื่องจะสอดรับกับอุ้งมือของคนรับพอดี รวมไปถึงขอบกระจกจะไม่มีขอบคมด้วย จึงทำให้จับแล้วรู้สึกสบายมือ

พื้นด้านหน้าจะเต็มไปด้วยพื้นที่สำหรับหน้าแสดงผลที่ขยายให้ชิดขอบทุกด้านในอัตราส่วน 19.5:9 จึงทำให้รุ่นนี้มีหน้าจอที่ใหญ่ถึง 6.3 นิ้ว ในขนาดตัวเครื่องที่ยังสามารถจับถนัดในมือเดียว ซึ่งปัจจุบันอัตราส่วนนี้ถือเป็นอัตราส่วนที่กว้างที่สุดบนสมาร์ทโฟนแล้ว

บริเวณขอบด้านบนหน้าจอจะมีรอยบากสำหรับติดตั้งเซ็นเซอร์ต่างๆ รวมไปถึงกล้องหน้าเลนส์คู่ โดยลำโพงสำหรับใช้ในการโทรศัพท์จะมีตะแกรงที่ทำมาจากโลหะครอบอยู่ และมีการซ่อนไฟ LED ไว้ภายในด้วย ซึ่งไฟสำหรับการแจ้งเตือนตัวนี้อาจจะมองไม่เห็นในบางมุม

ด้านหลังมีเลนส์กล้องคู่แนวตั้ง ชิดมุมซ้ายบน ซึ่งเมื่อถือถ่ายรูปในแนวนอนจะเห็นว่าการออกแบบนั้นดูคล้ายกับกล้องถ่ายรูปของจริง และมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่บริเวณกลางตัวเครื่อง

nova 3 มีพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C

ถาดใส่ซิมเป็นแบบไฮบริด รองรับการใช้งานพร้อมกันทั้ง 2 ซิมหรือจะใส่ microSD card เพื่อเพิ่มพื้นที่จัดเก็บให้กับตัวเครื่องในช่องซิม 2 ก็ได้เช่นกัน

อินเตอร์เฟซและฟังก์ชั่นการใช้งาน

Huawei nova 3 มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo กับ EMUI 8.2 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดแล้วในขณะนี้จาก Huawei ซึ่งหน้าตาโดยรวมยังคงให้ความรู้สึกที่ดูเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน โดยค่าเริ่มต้นของระบบปฏิบัติการนี้จะถูกตั้งค่าให้แอพทุกตัวที่ดาวน์โหลดมาจะถูกเรียงไว้ในหน้าจอโฮมทั้งหมด แต่สามารถเปิดใช้งาน App Drawer ได้ และอีกหนึ่งความสบายตาเมื่อเปิดเครื่องใช้งานครั้งแรกจะเห็นว่าแอพพลิเคชั่นที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องน้อยมาก มีเพียงแอพพื้นฐานเท่านั้น

Huawei nova 3 มีหน้าจอขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซล ที่มีเมนูการตั้งค่าให้ปรับโทนสีบนหน้าจอได้ตามการใช้งานทั้งโทนสีเย็นและโทนสีอุ่น โดยสีมาตรฐานจะถูกตั้งค่ามาให้แบบปกติตามค่าสี sRGB และสามารถปิดการแสดงผลบริเวณหน้าจอรอยบากได้ด้วย โดยในส่วนของการแจ้งเตือนและแผง Quick Settings มีพื้นหลังสีขาว สามารถปรับแต่งเมนูต่างๆ ในส่วนนี้ตามการใช้งานของเราได้

หน้าจอแบบ FullView Display สัดส่วน 19.5:9 จะเป็นหน้าจอที่มีความกว้างและยาวมากกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไป เหมาะกับการดูคอนเทนท์ผ่านเว็บเบราว์เซอร์แล้วไม่ต้องเลื่อนหน้าจอบ่อยๆ หรือดูหนัง วิดีโอต่างๆ ก็จะเห็นมุมมองที่กว้างกว่าเดิม รวมถึงสำหรับการเล่นเกมก็จะได้มุมมองภาพในเกมที่กว้างมากกว่าปกติ เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนทั่วไปที่มีอัตราส่วน 16:9 หรือ 18:9 ซึ่งถือเป็นข้อดีที่สำคัญสำหรับคนเล่นเกม เพราะการเห็นพื้นที่ที่กว้างขึ้นจะช่วยให้เห็นศัตรูที่อยู่รอบๆ มากขึ้น ทำให้สามารถเตรียมความพร้อมในการต่อสู้ได้ดีกว่า

การแชร์ไฟล์ผ่าน Huawei Share เวอร์ชั่นใหม่ที่มาพร้อมกับ nova 3 สามารถแชร์ไฟล์กับคอมพิวเตอร์ Windows และ Mac ได้ทันที ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมเพิ่มเติมหรือเชื่อมต่อด้วยสายให้ยุ่งยาก โดยเป็นการใช้ Wi-Fi วงเดียวกันในการเข้าถึงไฟล์สาธารณะบนเครื่อง nova 3 และไม่ต้องกังวลว่าจะมีความปลดภัยหรือไม่ เพราะการเข้าถึงไฟล์ได้ต้องมีชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านที่เรากำหนดไว้บนสมาร์ทโฟน

ความฉลาดของ nova 3 ที่มีเทคโนโลยี AI ยังทำให้แอพแกลเลอรี่มีความสามารถในการตรวจจับใบหน้าและจดจำใบหน้าของแต่ละบุคคลได้ เพื่อแยกเป็นอัลบั้มเดียวกัน ทำให้สามารถค้นหารูปภาพได้ง่ายมากขึ้น รวมถึงการแบ่งอัลบั้มตามสถานที่ เรียงตามวันที่ และประเภทของรูปถ่ายได้ด้วย

ระบบความปลอดภัยสำหรับใช้ยืนยันตัวตนมีทั้งการปลดล็อคด้วยใบหน้าบน nova 3 เป็นอีกขั้นของการปลดล็อคหน้าจอได้อย่างรวดเร็วแม้ในที่แสงน้อยหรือที่มืด ด้วยอินฟราเรดในการตรวจจับใบหน้าที่แม่นยำและรวดเร็วกว่าเดิม ซึ่งจากการใช้งานพบว่าระบบทำงานได้รวดเร็วมากภายในเสี้ยววินาที

ด้านประสิทธิภาพการทำงานของ Huawei nova 3 ใช้ชิพประมวลผล Kirin 970 ตัวเดียวกับที่ใช้ในรุ่นเรือธงของ Huawei ซึ่งถือเป็นครั้งแรกด้วยที่มีการนำชิพตัวท็อปมาใช้งานกับสมาร์ทโฟนระดับกลาง ตัวซีพียูแบ่งการทำงานออกเป็น 2 ระดับคือ Quad-core A73 เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ความเร็ว 2.36GHz และ Quad-core A53 เพื่อการทำงานที่ต้องการประหยัดพลังงาน ความเร็ว 1.8GHz มาพร้อมจีพียู Mali-G72 MP12 ซึ่งเป็นชิปตัวแรกของ Huawei ที่มาพร้อมหน่วยประมวลผลพิเศษ Neural Processing Unit (NPU) สำหรับงานประมวลผล AI เฉพาะอีกด้วย โดยผลการทดสอบ AnTuTu เป็นการทดสอบภาพรวมของการทำงานในส่วนของหน่วยความจำแรม และประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยประมวลผลกราฟิกหรือจีพียู nova 3 ทำคะแนนรวมได้ 201,417 คะแนน ซึ่งเป็นผลคะแนนที่มีประสิทธิภาพในระดับเดียวกับรุ่นเรือธง

ผลการทดสอบด้วย Geekbench 4 เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการทำงานและการประมวลผล การทดสอบนี้จะทำการประมวลออกมาเป็นตัวเลขแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ Single-Core และ Multi-Core หากได้คะแนนยิ่งสูงประสิทธิภาพการทำงานจะยิ่งดี โดยผลทดสอบของ nova 3 ทำคะแนน Single-Core ได้ 1,919 คะแนน และ Multi-Core ทำได้ 6,663 คะแนน

ทดสอบเล่นเกม Lineage2 Revolution ที่เป็นการพัฒนาด้วย Unreal Engine 4 ซึ่งมีภาพและกราฟิกที่สวยงามมาก โดยทำการทดสอบด้วยการเลือกตั้งค่าตัวเกมให้มีกราฟิกสูงสุด ความละเอียดภาพสูงสุด จะพบอาการกระตุกอยู่บ้างระหว่างการเล่น แต่เมื่อตั้งค่ากราฟิกลดลงในระดับกลางสามารถเล่นได้ลื่นไหล

ทดสอบเล่นเกม PUBG Mobile สุดยอดเกมแอ็คชั่นใหม่ล่าสุดที่พัฒนาด้วย Unreal Engine 4 เป็นเกมที่มีภาพและกราฟิกที่สวยงามมาก สามารถเล่นได้ลื่นไหล

รองรับการเล่นเกม ROV ในโหมดเฟรมเรตสูง และมุมมองของภาพเกมก็จะได้มุมที่กว้างมากขึ้นด้วยเพราะสัดส่วนหน้าจอที่ยาว แต่อย่าลืมว่าการเล่นเกมในโหมดนี้จะค่อนข้างเปลืองแบต และเครื่องจะร้อนเร็วกว่าโหมดปกติ

สำหรับแบตเตอรี่ 3750mAh ใช้งานทั่วไปได้เกือบทั้งวัน และรองรับ SuperCharge 9V/2A จาการทดสอบใช้งานจะใช้เวลาชาร์จเต็มจาก 0 – 100% ประมาณ 2 ชั่วโมง ถือว่าช่วยได้มากในช่วงเวลาเร่งด่วน ไม่ต้องรอนาน โดยใช้อะแดปเตอร์ที่ให้มาในกล่องชาร์จได้เลย

สรุปจุดเด่น

• Huawei nova 3 จัดสเปคตัวเครื่องมาได้แบบเหนือคู่แข่งมากเมื่อเทียบระดับราคาที่เท่ากัน เรียกได้ว่าเป็นรุ่นที่ออกมาฆ่านักฆ่าเรือธงตามที่ Huawei บอกเอาไว้จริงๆ
• ชิพประมวลผล Kirin 970 และแรม 6GB ซึ่งเป็นสเปคเรือธง แต่ราคาระดับกลาง จากการใช้งานพบกว่าทำงานได้ลื่นไหลดี สลับแอพไปมาได้ไว และเล่นเกมกราฟิกสวยๆ ได้ลื่นไหลดี
• กล้อง 4 ตัว มีความฉลาดด้วยการทำงานของ AI ยกระดับการถ่ายภาพจากกล้องมือถือให้มีความง่ายและได้ภาพที่สวย โดยไม่ต้องตั้งค่ากล้องให้ยุ่งยาก
• รองรับ 4G พร้อมกันทั้ง 2 ซิมการ์ด
• แบตเตอรี่ขนาด 3750mAh จัดการพลังงานได้ดีมากๆ ใช้งานยาวๆ ตลอดทั้งวัน

จุดสังเกตเพิ่มเติม

• ถาดซิมแบบไฮบริด ต้องเลือกว่าจะใส่ microSD card หรือใส่ซิม 2