รีวิว HUAWEI MatePad Pro 12.2″ 2025 รุ่นอัปเกรดใหม่ประจำปี 2025 นี้ ด้วยสเปคภายในที่น่าสนใจ ชิปเซ็ต Kirin 9000S ใหม่, กล้องที่ความละเอียดสูงขึ้นเป็น 50MP และมีสีใหม่อย่างสีเขียวนั่นเอง รวมถึงความน่าสนใจเดิมที่เคยมีบนรุ่นก่อนก็ยังครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอ Tandem OLED PaperMatte Display, แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 10100mAh ชาร์จไว 100W
มีซอฟต์แวร์และแอปที่ช่วยให้ทำงานได้ระดับ PC ไม่ว่าจะเป็น WPS PC-level, GoPaint หรือจะเป็นอุปกรณ์เสริมอย่าง Glide Keyboard ด้วย ใช้งานจริงจะน่าสนใจแค่ไหน ติดตามกันได้เลยครับ!
สรุปสเปค HUAWEI MatePad Pro 12.2″ 2025
- หน้าจอ : Tandem OLED PaperMatte ขนาด 12.2”
- ความละเอียด : 2800 x 1840 พิกเซล, ความสว่างสูงสุด 2000nits
- Refresh rate : 144Hz
- CPU : Kirin 9000S Octa-Core
- RAM : 12GB
- ROM : 512GB
- แบตเตอรี่ : 10100mAh
- ระบบชาร์จ : ชาร์จไว 100W HUAWEI SuperCharge
- กล้องหน้า : 8MP f/2.0
- กล้องหลัง : 2 ตัว
- 50MP กล้องหลัก f/1.8
- 8MP กล้อง Ultra Wide f/2.2
- การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 7, Bluetooth 5.2, NearLink และพอร์ต USB-C (USB 3.1 Gen 1)
- ลำโพง : 4 ตัว Stereo Speaker
- ระบบปฏิบัติการ : HarmonyOS 4.3
- ขนาดตัวเครื่อง : 182.53 x 271.25 x 5.5 มม.
- น้ำหนัก : 508 กรัม
- สีสัน : สีเขียว
สีสันใหม่ เขียวละมุน!
มาเริ่มต้นที่ดีไซน์กันก่อนเนาะ และแน่นอนว่าจุดที่แยกแยะ HUAWEI MatePad Pro 12.2″ 2025 กับรุ่นก่อนได้อย่างชัดเจนคือเรื่องของ “สีสัน” นั่นเอง เพราะรุ่นใหม่นี้จะมาพร้อมสีเขียว แทนสีทองเดิม ซึ่งโทนจะเป็นเขียวแบบพาสเทลที่ละมุนมาก ๆ ดูสดใหม่ และเข้าถึงได้อีกหน่อย
ที่ฝาหลังยังมีลวดลายผ้าไหม ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่มของภาพวาดผ้าไหมแบบดั้งเดิม ผ่านกระบวนการชั้นออปติคอลหลายชั้นทำให้เก็บเนื้อสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ เพิ่มลูกเล่นให้ด้านหลังอีกหน่อย ไม่ใช่เรียบ ๆ แบบไม่มีมิติเนอะ
กล้องหลักอัปเกรดใหม่ คมชัดถึง 50MP
ดีไซน์กล้องหลังจะเป็นกล้องคู่อยู่ในฐานกล้องวงกลม เหมือนเดิม วางไว้ที่มุมเครื่อง แต่กล้องรอบนี้อัปเกรดกล้องหลักขึ้นมาเป็น 50MP แล้วนะ ช่วยให้ถ่ายพวกงานเอกสารได้คมชัดมากขึ้น หรืออยากเอามาอัดวิดีโอก็ได้สูงสุด 4K เลยด้วย ส่วนอีกตัวยังเป็นกล้อง Ultra Wide 8MP เหมือนเดิมนะ
หน้าจอ Tandem OLED ที่ดีที่สุดจาก HUAWEI
พลิกกลับมาดูที่หน้าจอกันบ้าง HUAWEI MatePad Pro 12.2″ 2025 ยังได้หน้าจอ Tandem OLED ที่มีเทคโนโลยีการซ้อนพิกเซลระดับนาโน ขนาด 12.2″ อัตราส่วน 3:2 และก็ยังมีการเคลือบด้วย PaperMatte Display ที่ช่วยลดแสงสะท้อนได้เป็นอย่างดี เหมือนรุ่นก่อน
รวมถึงความละเอียดสูง 2.8K (2800 × 1840 พิกเซล) รองรับการแสดงผลสี 1.07 พันล้านสี คอนทราสต์สูงเป็นพิเศษ 2,000,000 : 1 ความสว่างสูงสุด 2000nits และมี Refresh rate 144Hz เช่นกัน
ซึ่งต้องบอกว่าสเปคที่ให้มานี้คือที่สุดของที่สุดแล้วจริง ๆ ครับ ทั้งในเรื่องการแสดงผลที่กว้าง ลดแสงสะท้อน สัมผัสที่ลื่นไหล ไม่ว่าจะใช้นิ้วมือหรือ M-Pencil ก็ตาม ไม่ได้อัปเกรดใหม่ แต่ของเดิมที่ดีมากอยู่แล้ว ก็รับได้แหละเนาะ
เพรียวบาง และน้ำหนักเบา แต่ทรงพลัง
ส่วนเรื่องขนาดและน้ำหนัก ด้วยความที่เป็นทรงเดียวกันเลย เปลี่ยนแค่สีกับสเปคกล้องนิดหน่อย ทำให้ชนาดและน้ำหนักยังเท่าเดิมเป๊ะ เบาแค่ 508 กรัม และบาง 5.5 มม. เพียงพอต่อการพกพาแล้ว
ตำแหน่งปุ่มกดของรุ่นนี้ก็วางตำแหน่งได้ดีเลยครับ วางปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงไว้ที่ด้านบนของตัวเครื่องเมื่อใช้งานแนวตั้ง ส่วนปุ่ม Power ก็จะอยู่ที่ฝั่งซ้ายทำมุมเว้าโค้งลงไปให้เราได้กดได้ง่ายแม้ใช้งานร่วมกับเคสเสริมครับ ซึ่งตัวปุ่ม Power นี้จะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้ด้วยนะ
ด้านบนตัวเครื่องจะมีช่องลำโพงขนาดใหญ่ 2 ชุด และปุ่ม Power ที่มีความเว้าโค้งลงไปอย่างที่บอก ส่วนด้านล่างก็จะมีลำโพงอีก 2 ชุดรวมกันเป็นลำโพง Stereo 4 ตัว เหมือนเคย พอร์ตการเชื่อมต่อของรุ่นนี้ก็จะเป็น USB-C อยู่ตรงกลางเด่น ๆ นั่นแหละครับ
ซึ่งพลังเสียงของ HUAWEI MatePad Pro 12.2″ 2025 นี่ไม่ต้องห่วงเลยครับ เพราะมีเทคโนโลยี HUAWEI SOUND ช่วยให้เสียงเบสที่หนักแน่น เสียงแหลมคมชัด เอามาดูหนังหรือฟังเพลงนี่เต็มอิ่มแน่นอน!
โดยรวมดีไซน์ของ HUAWEI MatePad Prp 12.2″ 2025 ก็มีการปรับเปลี่ยนไม่มากจากรุ่นก่อน ที่เห็นได้ชัดจากภายนอกคงเป็นเรื่องสีสันที่ใช้สีเขียวแล้ว นอกนั้นก็แทบจะเหมือนเดิมเลย ถึงแม้จะบอกว่าส่วนอื่น ๆ จะเหมือนกับรุ่นก่อน แต่ก็ถือเป็นสเปคที่ดีที่สุดของ HUAWEI ตอนนี้แล้ว เท่านี้ก็เพียงพอแล้วล่ะ ว่าไหม!?
Glide Keyboard นวัตกรรมเคสคีย์บอร์ดที่น่าทึ่งสุด ๆ
มาต่อกันที่เรื่องอุปกรณ์เสริม HUAWEI MatePad Pro 12.2″ 2025 ยังรองรับเคส Glide keyboard สุดเอนกประสงค์เหมือนเดิม ซึ่งถือว่าเป็นนวัตกรรมที่ทำให้เราว้าวมาก ๆ ในปีที่แล้ว เป็นดีไซน์ที่ใช้งานได้โปรยิ่งขึ้น และรองรับการใช้งานที่หลากหลายกว่าเดิม
โดยตัวเคสจะใช้แม่เหล็กในการประกบตัวเคสเข้ากับฝาหลังของเครื่องได้เลย ไม่ต้องคอยมาแกะและใส่ให้ยุ่งยาก แถมไม่หนาจนเกินไป เชื่อมต่อกันครั้งแรกก็แค่แปะให้อุปกรณ์จับคู่กัน สะดวกสุด ๆ อีกทั้งยังเชื่อมกันผ่านระบบ NearLink ที่เสถียรมาก ๆ ด้วย
ตัวคีย์บอร์ดเองจะมาพร้อมกับตัวปุ่มที่มีความ Clicky ให้ความรู้สึกเวลาพิมพ์ไม่ต่างจากบนแล็ปท็อปดี ๆ สักเครื่องเลย และที่ขาดไม่ได้คือ TouchPad ที่มีขนาดใหญ่ให้เราใช้งานได้เหมือนแล็ปท็อปจริง ๆ เลย ทีนี้การควบคุมก็จะดูทางการและเข้ามือมากขึ้นไปอีกเนาะ
แล้วทีเด็ดอีกอย่างของ Glide Keyboard นี้ก็คือที่ตัวเคสจะมีช่องเก็บ M-Pencil ในตัวด้วย ทำให้การพกพานั้นสะดวกขึ้นมาก เราสามารถพกอุปกรณ์เสริมทั้ง 2 ชิ้นนี้ไปพร้อมกันแบบที่ไม่ต้องกลัวว่าจะหล่นกลางทาง และที่สำคัญเมื่อเราวาง M-Pencil ไว้ในช่องเก็บ ก็จะเป็นการชาร์จแบตฯไปในตัวด้วยนะ เหมือนกับตอนแปะเข้าที่ตัวเครื่องเลย อันนี้ยอม ดีจริง!
ส่วนขาตั้งที่ด้านหลังจะให้เราปรับองศาได้หลากหลายและแข็งแรงใช้ได้เลยด้วย จะใช้ในรูปแบบแล็ปท็อปมาตรฐาน กางจอออกมา ปรับองศาตามวามเหมาะสม
หรือจะเลือกพับลงไปเพื่อเป็นรูปแบบ Studio ให้พื้นที่เราได้ใช้งานหน้าจอแบบเต็มที่ แต่ก็ยังปรับองศาให้สูงขึ้นมาเล็กน้อย อันนี้เหมาะกับการใช้งานร่วมกับ M-Pencil เลยล่ะ
ด้านขนาดและน้ำหนักตัว Glide Keyboard ก็ทำได้ดีเลย เพราะอย่างที่บอกว่าตัวเคสบางมาก ไม่ทำให้เครื่องดูหนาเทอะทะ มีน้ำหนักประมาณ 420 กรัม ถ้ารวมกับเครื่อง HUAWEI MatePad Pro 12.2″ 2025 อีก 508 กรัม ก็ยังไม่ถึง 1 กก.ด้วยซ้ำ แต่ได้ทั้งจอใหญ่ การทำงานที่ครบรูปแบบ อันนี้ถูกใจสายพกพาแน่นอน
M-Pencil รุ่นที่ 3 เชื่อมต่อผ่านเทคโนโลยี NearLink
ส่วน M-Pencil ที่ใช้งานบน HUAWEI MatePad Pro 12.2″ 2025 นั้น ก็เป็น M-Pencil รุ่นที่ 3 ที่เป็รเทคโนโลยี NearLink เชื่อมต่อยอดเยี่ยม รองรับแรงกดมากถึง 16,xxx ระดับ หายห่วงเรื่องงานวาด งานเขียนไปได้เลย
ความดีงามของ M-Pencil รุ่นที่ 3 นอกจากจะมีเรื่องการเชื่อมต่อที่แม่นยำมากขึ้นแล้ว พอมาใช้งานคู่กับหน้าจอ PaperMatte ที่ลื่นถึง 144Hz แล้ว ยิ่งสมบูรณ์แบบ ช่วยให้เราลงน้ำหนักได้ละเอียดขึ้นมาก เหมาะกับสายวาดที่ต้องการความเที่ยงตรงและทันมือเวลาลงน้ำหนักบนหน้าจอจริง ๆ ครับ
มีแอปที่ช่วยให้ประสบการณ์ระดับ PC มาตั้งแต่แกะกล่อง
ยุคนี้มีฮาร์ดแวร์ดีอย่างเดียวคงไม่ได้ ซอฟต์แวร์ก็ต้องรองรับกันไปด้วยเนอะ ซึ่ง HUAWEI ก็ใส่ใจเรื่องนี้มาก มีแอประดับโปรติดตั้งมาให้พร้อมใช้ ตั้งแต่แกะกล่อง ไม่ต้องดาวน์โหลดเพิ่มเติม แล้วที่สำคัญคือ “ฟรี” ด้วย!
แอป WPS Office แบบ PC-Level
อย่างในด้านการทำงาน Office บน HUAWEI MatePad Pro 12.2″ 2025 ก็มีแอป WPS Office เวอร์ชั่นระดับ PC มาให้เลย! ใช่แล้วครับ อ่านไม่ผิด WPS Office ที่ให้มาบนแท็บเล็ตรุ่นนี้จะเป็นเวอร์ชั่น PC-Level เลย สังเกตได้จากไอคอนที่เป็นสีฟ้า ต่างจากเวอร์ชั่น Mobile ทั่วไปที่จะมีไอคอนสีแดงครับ
การใช้งานต่าง ๆ จะทำได้หลากหลายกว่า ทั้งการแทรกไฟล์ การใส่สูตร หรือรูปแบบการแสดงผลของ UI ที่ปรับให้มีความเป็น PC สูงมาก เห็นแบบนี้พอทำงานร่วมกับเคส HUAWEI Glide Keyboard ก็ยิ่งทำให้เราทำงานพวก Office ได้แบบคล่องตัวมากขึ้น จนใช้งานแทนที่แล็ปท็อปได้เลยจริง ๆ ครับ ตรงนี้ถูกใจคนทำงานแน่นอน
สายจดต้อง HUAWEI Notes!
ส่วนสายจด สายเขียน HUAWEI MatePad Pro 12.2″ 2025 ก็มีแอปแอปพื้นฐานอย่าง HUAWEI Notes ติดตั้งมาในกล่อง เพื่อใช้งานกับ M-Pencil รุ่นที่ 3 ได้ดีพออยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเขียน, วาด, เปิดไฟล์, แก้ไขงานแบบมือโปร ทำได้หมดในแอปเดียวเลย แถมรอบนี้มีฟีเจอร์จัดรูปแบบลายมือเรามาให้ แปลงเป็นตัว Text ได้แบบเก๋ ๆ เลย
GoPaint แอปวาดรูปที่ครบเครื่องที่สุด
แต่เท่านั้นยังไม่พอ เพราะถ้าเป็นสายวาดแบบจริงจัง HUAWEI ก็มีแอป GoPaint มาให้ตั้งแต่แกะกล่องเช่นกัน บอกเลยว่านี่เป็นแอปวาดรูปติดเครื่องที่ดีงามมาก ๆ เพราะเครื่องมือมีมาให้เลือกครบ มีลูกเล่น Gesture ในการใช้งานที่หลากหลาย ถ้าให้พูดง่าย ๆ แอปนี้คือ Procreate สำหรับ HUAWEI เลยนั่นแหละ แต่คือใช้ฟรีเลยนะ แถมพอใช้งานร่วมกับ M-Pencil รุ่นที่ 3 แล้ว ยิ่งลงตัวเข้าไปใหญ่ครับ ทั้งวาดรูปจริงจัง ลงสี หรือตกแต่งภาพก็ได้หมด!
หรืออยากสร้างเป็นภาพเคลื่อนไหว บน GoPaint เวอร์ชั่นใหม่ ก็มีมาให้เราใช้งาน วาดเป็นคลิปสั้น ๆ ได้เลย ยอมใจ ทั้งหมดนี้ฟรีไม่ต้องเสียค่าสมาชิกแต่อย่างใด
รวมทั้งฮาร์ดแวร์ใช้งานได้ยอดเยี่ยมกับซอฟต์แวร์ระดับโปรแล้ว HUAWEI MatePad Pro 12.2″ 2025 ก็ถือว่าครบเครื่องในด้านการทำงานมาก ๆ เลยล่ะ ใช้งานได้ครอบคลุมทั้งงานเอกสารแบบจริงจัง หรืองานภาพ งานวาด เป็นได้มากกว่า PC บางเครื่องในขนาดที่กะทัดรัด พกพาง่ายกว่าจริง ๆ เยี่ยมเลย!
รันด้วยระบบ HarmonyOS 4.3
มาเข้าเรื่องซอฟต์แวร์กันบ้าง HUAWEI MatePad Pro 12.2″ 2025 มาพร้อมระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 4.3 เวอร์ชั่นล่าสุด การใช้งานยังลื่นไหลและ UI ปรับแต่งมาให้มอบประสบการณ์การใช้งานแบบแท็บเล็ตอย่างยอดเยี่ยมเหมือนเคย
มีทั้ง Dock ที่ด้านล่างเพื่อจัดเรียงแอปที่ใช้บ่อย ๆ มี Service Widgets แบบใหม่ ๆ ที่ให้เราเข้าถึงได้ง่ายขึ้น รวมถึงการปรับแต่งพวกโฟลเดอร์ที่อิสระมากขึ้นไปอีก ให้เราได้สามารถปรับแต่งหน้าจอหลักได้หลากหลายตามสไตล์เราได้
แบ่งจอใช้งานได้หลากหลายขึ้นไปอีก
และแน่นอนว่าความได้เปรียบของหน้าจอใหญ่อย่างแท็บเล็ตก็จะได้เรื่องการทำงานที่หลากหลายบนหน้าจอเดียว บน HarmonyOS 4.3 ของ HUAWEI MatePad Pro 12.2″ 2025 นั้นจะให้เราใช้งานหลายแอปได้บนหน้าจอเดียว จะวางแบบเต็มพื้นที่เป็นซ้าย-ขวาแบ่งครึ่ง ๆ เลยก็ได้ หรือจะเลือกเป็นหน้าแอปลอย ๆ บนหน้าจอปรับสัดส่วนตามความเหมาะสมก็สะดวก
หรือถ้าต้องใช้ 3 แอปเลย แต่ไม่ได้อยากเปิดพร้อมกัน ต้องสลับไป-มาบ่อย ๆ รอบนี้ HUAWEI มีตัวเลือกใหม่ในชื่อ Live-Multitask ที่จะย่อแอปที่ยังไม่ได้ใช้ไว้มุม ๆ และแสดงผลแอปหลักไว้ตรงกลางเด่น ๆ ทำให้โฟหัสในแต่ละแอปได้ง่ายขึ้น ในขณะที่ถ้าจะสลับไปอีกแอปก็รวดเร็วไร้รอยต่อนั่นเอง
ใช้งานผ่าน HUAWEI Mobile Services เหมือนเดิม
ส่วนเรื่องบริการ MatePad Pro 12.2″ 2025 ก็ใช้ผ่าน HMS (HUAWEI Mobile Services) เหมือนแท็บเล็ตยุคหลัง ๆ ของ HUAWEI นั่นแหละ เพราะใช้ HarmonyOS แล้วนี่เนาะ ซึ่งเราสามารถดาวน์โหลดแอปผ่าน HUAWEI AppGallery ได้ ดาวน์โหลดไฟล์ APK มาติดตั้งเองผ่าน Petal Search ก็ได้เช่นกัน มาถึงตรงนี้ทั้งแอปบน AppGallery เองหรือเราจะหามาติดตั้งเองจากช่องทางอื่น ๆ ก็ทำได้ง่ายและลงตัวขึ้นเยอะแล้วจริง ๆ ครับ
มี microG Service ทางเลือกสำหรับคนต้องการใช้ GMS
แต่ถ้ายังต้องใช้บริการของ Google จริง ๆ ก็มีทางเลือกกับแอป microG Service ที่สามารถดาวน์โหลดผ่าน HUAWEI AppGallery ได้เหมือนเดิม เมื่อติดตั้งแล้ว เราจะสามารถล็อกอินบัญชี Google ได้ผ่านตัวเครื่องเลย ทำให้เราใช้งานแอปที่ต้องเรียก GMS ได้ทันที อาทิ YouTube, Google Drive, Google Maps, Google Photos หรือ Chrome เป็นต้น ซึ่งการดาวน์โหลดก็สามารถค้นหาได้จาก HUAWEI Gallery เช่นกัน จะมีตัวเลือกให้เรากด Install ได้ทันที อันนี้เป็นทางเลือกใหม่ที่เราว่าสะดวกขึ้นเยอะเลยจริง ๆ
ใช้ชิปเซ็ต Kirin ใหม่ แรงขึ้นอีก!
สำหรับสเปคภายใน HUAWEI MatePad Pro 12.2″ 2025 รุ่นนี้มาพร้อมชิปเซ็ต Kirin 9000S ที่อัปเกรดขึ้นมาจากรุ่นก่อนพอสมควร ความแรงและความลื่นไหล ทำได้น่าสนใจ เท่าที่เราลองใช้งานมา บวกกับ HarmonyOS 4.3 ที่ทำงานได้อย่างลื่นไหล ด้านเครือข่ายก็รองรับ WiFi 7 ใหม่แล้วด้วยนะ
เพื่อให้เห็นภาพว่าความแรงของชิปตัวใหม่นี้ เราลองทดสอบด้วยแอป AnTuTu Benchmark V10 ก็จะได้คะแนนออกมาสูงถึง 991507 แต้มเลย ได้คะแนนครบทุกส่วนแล้วด้วย คะแนนอาจจะไม่ได้สูงปรี๊ดนัก แต่เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนที่ได้ราว 69xxxx แต้ม ถือว่าน่าพอใจสำหรับการอัปเกรดนี้ล่ะเนาะ
แบตเตอรี่ใหญ่ 10,100mAh ใช้งานจุใจเหมือนเดิม
ปิดท้ายที่แบตเตอรี่ HUAWEI MatePad Pro 12.2″ 2025 ได้แบตเตอรี่มา 10,100mAh เท่าเดิม ถือว่าเยอะมาก ๆ อยู่แล้ว เมื่อเทียบกับขนาดหน้าจอ เท่าที่เราลองใช้งานแบบเต็มที่ พกติดตัวไปนั่งทำงานตามร้านกาแฟ ก็ไม่ต้องห่วงมากนักว่าแบตฯจะไม่พอ ใช้ทำงานได้เรื่อย ๆ หรือพักเล่นเกมบ้าง ก็สบาย ๆ ครับแบตเตอรี่ระดับนี้
แต่ถ้าไม่ไหวจริง ๆ แบบทำงานหนักมาก HUAWEI MatePad Pro 12.2″ 2025 ก็รองรับระบบชาร์จไวที่เร็วได้ถึง 100W HUAWEI SuperCharge ด้วย เคลมว่าชาร์จจาก 0 – 85% ได้ในเวลาแค่ 40 นาที และชาร์จเต็ม 100% ได้ในเวลาแค่ 55 นาทีเท่านั้น ใช้งานจริงจังขนาดไหน ขอแค่ชาร์จแป๊บเดียว ก็ลุยต่อได้อีกยาวแล้ว
ราคาและโปรโมชั่น HUAWEI MatePad Pro 12.2″ 2025
สำหรับ HUAWEI MatePad Pro 12.2″ 2025 เปิดราคาไทย 27,990 บาท มีโปรโมชั่นร้อนแรงมาก รับฟรีของสมนาคุณมากมาย ได้แก่
- HUAWEI Glide Keyboard มูลค่า 9,990 บาท
- HUAWEI M-Pencil 3 มูลค่า 4,490 บาท
- HUAWEI WATCH Fit 3 มูลค่า 3,990 บาท
โดยโปรโมชั่นนี้สำหรับผู้สั่งซื้อผ่านในวันที่ 4 – 10 กรกฎาคมเท่านั้นนะครับ
สรุปแล้ว “นี่คือแท็บเล็ต 3 in 1 ให้ประสบการณ์ระดับ PC รุ่นล่าสุดจาก HUAWEI”
สรุปแล้ว HUAWEI MatePad Pro 12.2″ 2025 ก็ถือเป็นแท็บเล็ต 3 in 1 ที่มอบประสบการณ์การใช้งานระดับ PC รุ่นล่าสุดจาก HUAWEI ที่ได้รับการอัปเกรดในเรื่องสเปคให้ถึงใจยิ่งขึ้นด้วยชิป Kirin 9000S ใหม่ ซอฟต์แวร์ที่ปรับจูนได้ลงตัวขึ้นกว่าเก่าเป็น HarmonyOS 4.3 และยังได้สีสันใหม่อย่างสีเขียวนุ่มละมุนด้วย ส่วนด้านอื่น ๆ ที่เคยทำได้ดีก็ยังอยู่ครบในรุ่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ Tandem OLED PaperMatte สวยสด ลดแสงสะท้อนได้ดี บอดี้เพรียวบาง แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 10100mAh หรือจะเป็นอุปกรณ์เสริมที่ยกระดับการใช้งาน HUAWEI Glide Keyboard กับ M-Pencil 3 พร้อมแอปที่ช่วยให้ทำงานได้ระดับโปรยิ่งขึ้นด้วย คิดว่าใครที่กำลังมองหาแท็บเล็ตสักเครื่องมาใช้งานแทนที่แล็ปท็อปแบบจริงจัง ในขนาดที่พกสะดวกกว่า ลื่นไหลกว่า เราว่า HUAWEI MatePad Pro 12.2″ 2025 นี่แหละ ตอบโจทย์นัก!
