Connect with us

Smart Review

รีวิว HUAWEI MatePad 11 แท็บเล็ตตอบโจทย์คนทำงานยุคใหม่ ประสบการณ์ดั่ง PC พร้อมชูโรงจอ 120Hz และทำงานแบบไร้รอยต่อ

Published

on

HUAWEI MatePad 11 แท็บเล็ตตอบโจทย์คนทำงานยุคใหม่ จัดเต็มด้วยหน้าจอ 120Hz FullView Display รองรับการใช้งานทั้ง HUAWEI Smart Magnetic Keyboard และ HUAWEI M Pencil บอกเลยว่าพกแค่เครื่องเดียวก็ใช้งานได้ครบครันและทำงานในระดับโปรได้แบบสบายๆ โดยการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไรบ้าง วันนี้ทีมงาน iphone-droid.net จะรีวิวให้ได้ชมกันครับ

สรุปสเปค HUAWEI MatePad 11

  • ขนาดตัวเครื่อง : 253.8 × 165.3 × 7.25 มม.
  • น้ำหนัก : 485 กรัม
  • หน้าจอแสดงผล HUAWEI FullView Display ชนิด TFT LCD (IPS) ขนาด 10.95 นิ้ว ความละเอียด 2.5K (2560 x 1600 พิกเซล) อัตราส่วน 16:10, 275 PPI, Refresh Rate 120Hz, สัดส่วนพื้นที่หน้าจอ 86% และสี 16.7 ล้านสี
  • หน่วยประมวลผล : Snapdragon 865 Octa Core ความเร็ว 2.84GHz
  • GPU : Adreno 650
  • RAM : 6GB
  • ROM : 128GB เพิ่ม MicroSD card ได้สูงสุด 1TB
  • กล้องถ่ายรูปหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
  • กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
  • ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 2.0
  • รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax, Bluetooth 5.1, พอร์ต USB Type-C และลำโพง 4 ตัว
  • แบตเตอรี่ความจุ 7250mAh รองรับ 22.5W Fast Charge

แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • ตัวเครื่อง HUAWEI MatePad 11
  • สาย USB Type-C
  • อะแดปเตอร์
  • อุปกรณ์เปิดถาดใส่ MicroSD Card
  • HUAWEI M Pencil (มีในกล่องแค่สี Matte Grey)
  • คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
  • ใบรับประกันสินค้า

ดีไซน์บางเบาพกพาสะดวก

ใครที่อยากหาแท็บเล็ตไว้ใช้งานข้างนอกแบบสบายๆ ไม่รู้สึกเกะกะ HUAWEI MatePad 11 นั้นตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี ด้วยน้ำหนักเพียง 485 กรัม และบางเพียง 7.25 มม. เท่านั้น ใส่กระเป๋าไปได้ง่ายๆ แถมการใช้งานทั่วไปเวลาจับถือก็พอดี ไม่รู้สึกใหญ่เกินไปและคล่องตัวมากครับ

นอกจากนี้ สีสันของ HUAWEI MatePad 11 อย่างสีเทา Matte Grey ในรีวิวนี้ก็ทำออกมาได้สวยงาม ดูเรียบหรู มีผิวสัมผัสแบบด้านพร้อมป้องกันรอยนิ้วมือได้ดีเลยทีเดียว ทั้งยังมีอีกสีเป็นสีฟ้าอย่าง Isle Blue ให้เลือกด้วย

หน้าจอ HUAWEI FullView Display พร้อม 120Hz

HUAWEI MatePad 11 มาพร้อมหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ 10.95 นิ้ว คมชัดด้วยความละเอียด 2560 x 1600 พิกเซล ทั้งยังมีค่ามาตรฐานสีสัน DCI-P3 ที่มีความตรง ใครที่ใช้งานตกแต่งบ่อยๆ จะต้องหลงรักแน่นอนครับ แถมยังมีความสว่างสูงสุด 500 นิค ทำให้การใช้งานกลางแจ้งยังคงเห็นได้อย่างชัดเจนเหมือนเดิม

ที่สำคัญ การใช้งานด้านเล่นเกม ก็ยังทำได้ไหลลื่นแน่นอนเพราะรองรับ Refresh Rate สูงสุดถึง 120Hz ซึ่งรุ่นนี้ยังเป็นแท็บเล็ตรุ่นแรกของ HUAWEI ที่มีจอ 120Hz อีกด้วยนะ

หน้าจอแสดงผลของ HUAWEI MatePad 11 ยังมีโหมดถนอมสายตาเพื่อลดแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อดวงตาด้วย โดยผ่านผลการรับรอง TÜV Rheinland แล้วเรียบร้อย ใครที่ชอบอ่าน e-Book หรือใช้สายตาบนหน้าจอทั้งวันก็จำเป็นมากๆ ที่ต้องมีครับ

มาดูรอบเครื่องกันต่อเลยครับ หากเราตั้งตัวเครื่องเป็นแนวตั้งเราจะเห็นกล้องหน้าอยู่ทางฝั่งขวา โดยจะมีไฟ LED บอกสถานะอยู่ข้างๆ ด้วย

ทางซ้ายมีเพียงช่องสำหรับใส่ MicroSD Card ที่เพิ่มความจุได้สูงสุด 1TB

ส่วนทางขวาจะมีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และจะมีไมโครโฟนถึง 3 ตัวมาให้ในด้านนี้

ด้านบนตัวเครื่องมีลำโพง 2 ตัว และปุ่ม Power

ด้านล่างจะมีลำโพง 2 ตัวเช่นกัน โดยตรงกลางจะมีพอร์ต USB Type-C

และที่ด้านหลังจะมีโมดูลกล้อง 1 เลนส์ พร้อมด้วยไฟแฟลช LED ด้านบนกล้อง และไมโครโฟนตัวที่ 4 ที่อยู่ด้านล่างกล้องครับ

ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน

ระบบปฏิบัติการ

ระบบปฏิบัติการของ HUAWEI MatePad 11 แกะกล่องมาเป็น HarmonyOS 2.0 ซึ่งการใช้งานและฟีเจอร์ต่างๆ ที่ให้มา บอกเลยว่าครบครัน จะทำงานหรือใช้งานอื่นๆ ก็ทำได้สะดวกมาก และทำได้ในระดับมืออาชีพเลยทีเดียวครับ ทั้งนี้ หากใครที่ใช้ Ecosystem ของ HUAWEI เองอยู่แล้วก็ยิ่งทวีคูณด้านความสะดวกในการทำงานขึ้นไปอีกขั้น

AppGallery มีแอปให้ครบแน่นอน

AppGallery ที่เป็น Store ของ HUAWEI บอกเลยว่าแอปพลิเคชั่นต่างๆ ที่ใช้งานกันมีมาให้ครบถ้วนครับ ไม่ว่าจะเป็น LINE, Shopee, Lazada รวมไปถึงแอปธนาคาร, การเงิน, โซเชียลต่างๆ ก็เพิ่มเข้ามาแทบทั้งหมดแล้วครับ

Multi-Window สูงสุด 4 หน้าจอพร้อมกัน

เมื่อให้หน้าจอใหญ่มาที่ 10.95 นิ้ว การใช้งานหลายหน้าจอก็ต้องทำงานได้เต็มประสิทธิภาพเช่นกันครับ โดยใน HUAWEI MatePad 11 สามารถเปิดแอปพลิเคชั่นพร้อมกันได้สูงสุดถึง 4 หน้าจอครับ สามารถทำได้โดยการปัดจากฝั่งซ้ายหรือขวาข้างไว้จนหน้าต่างแอปขึ้นมา จากนั้นลากแอปที่ต้องการมาไว้ตรงหน้าจอหลัก ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 หน้าจอในหน้าต่างปกติ เช่น Facebook และบันทึก เป็นต้น

ถ้าเราต้องการเปิดเพิ่มก็ให้เราปัดจากฝั่งซ้ายหรือขวาข้างไว้เหมือนเดิม แต่ครั้งนี้ให้ใช้การกดแทนการลากเพื่อเปิดแอปได้อีก 2 หน้าต่าง (แบบลอย) ขึ้นมาได้อีกครับ ที่สำคัญหน้าต่างของแต่ละแอปสามารถลากไฟล์ไปหากันได้อย่างรวดเร็วด้วย

รองรับ HUAWEI Smart Magnetic Keyboard

HUAWEI MatePad 11 รองรับการใช้งานด้วยคีย์บอร์ด HUAWEI Smart Magnetic Keyboard ที่ใช้งานได้เหมือนกับ PC เลยทีเดียวครับ ซึ่งตัวคีย์บอร์ดรุ่นนี้ออกแบบได้ดีมากๆ มีระยะการกดระหว่างปุ่ม 1.3 มม. ที่พิมพ์ได้อย่างสะดวก แถมยังมีปุ่ม fn เพื่อใช้งานฟังก์ชันลัดต่างๆ บนคีย์บอร์ดได้ครบถ้วน

ทั้งยังสามารถปรับองศาได้ 2 แบบ ได้แก่ 55 องศา และ 65 องศาตามการใช้งานหรือตามที่ถนัดเลย

ใช้งานร่วมกับ HUAWEI M Pencil รุ่นที่ 2 ได้ด้วยเช่นกัน

นอกจากจะต่อกับ HUAWEI Smart Magnetic Keyboard ได้แล้ว ก็ยังรองรับ HUAWEI M Pencil รุ่นที่ 2 ด้วยครับ ซึ่งปากการุ่นนี้ทำได้ยอดเยี่ยม ตอบสนองกับ HUAWEI MatePad 11 ได้เป็นอย่างดี ใครที่ชอบวาดหรือเขียนหรือจดต่างๆ ก็ทำได้ไหลลื่นมากๆ ทั้งยังรองรับแรงกดได้ถึง 4,096 ระดับ มีค่าความหน่วงเพียง 2 มิลลิวินาที โดยการเชื่อมต่อทำได้ง่ายมาก เพียงเปิดบลูทูธที่ตัวเครื่องและแนบติดกับตัวเครื่องก็ใช้งานได้ทันที แถมยังเป็นการชาร์จไปในตัวด้วย

ฟีเจอร์ของ HUAWEI M Pencil รุ่นที่ 2 ก็น่าจะถูกใจคนที่ชอบวาดเขียนแน่นอนครับ เพราะมีเซ็นเซอร์แบบพันรอบ 360 องศาที่หัวปากกา เพื่อให้เราแตะ 2 ครั้งเพื่อเปลี่ยนเครื่องมือได้ทันทีโดยไม่ต้องเลือกให้เสียเวลา เช่น กำลังใช้งานปากกาอยู่ จากนั้นแตะ 2 ครั้งบริเวณหัวปากกาเพื่อเปลี่ยนเป็นยางลบได้ทันที และแตะอีก 2 ครั้งเพื่อกลับไปใช้งานปากกาเพื่อเขียนอีกรอบ เป็นต้น

Huawei Multi-screen Collaboration

อย่างที่เกริ่นไปข้างต้นครับว่าใครที่ใช้อุปกรณ์ของ HUAWEI อื่นๆ อยู่แล้ว เช่น HUAWEI MateBook สามารถเชื่อมต่อกับ HUAWEI MatePad 11 เพื่อใช้งานเป็นอีกหน้าจอได้ทันทีเลย โดยสามารถใช้งานหลักๆ ได้ 2 โหมด ดังนี้

  • Mirror Mode : จะเป็นการแสดงผลเหมือนกับบนหน้าจอของ HUAWEI MateBook และบอกเลยว่าโหมดนี้เหมาะกับคนที่ชอบวาดรูปแน่นอน เพราะถ้าจะใช้ขีดเขียนด้วยเมาส์ก็ลำบาก แต่เราก็สามารถวาดรูปลง HUAWEI MatePad 11 และบันทึกได้เลยทันทีครับ
  • Extend Mode : สำหรับโหมดนี้จะเป็นการให้ HUAWEI MatePad 11 กลายเป็นหน้าจอที่ 2 ของตัว HUAWEI MateBook ครับ

App Multiplier

สำหรับฟีเจอร์นี้จะเป็นการเพิ่มความสะดวกในการรับชมแอปพลิเคชั่นที่เปิด 2 งานจาก 1 แอปได้ทันที เช่น เราเปิดดูสินค้าผ่านทาง LAZADA เมื่อเลือกสินค้าใดสินค้าหนึ่งก็จะแสดงข้อมูลขึ้นมาอีกฝั่งของหน้าจอ โดยที่เรายังคงเลื่อนหาสินค้าในหน้าเดิมได้ตามปกติครับ

ทั้งนี้ หากเราต้องการเทียบสินค้า ก็จะมีฟีเจอร์ใหม่อย่าง Window Lock ที่สามารถล็อกหน้าจอฝั่งหนึ่งไว้ก่อน และใช้งานอีกหน้าจอเหมือนเป็นแอปเดียวตามปกติครับ

โดยแอปพลิเคชันที่รองรับการใช้ App-Multiplier เช่น Rabbit Rewards, Pantip, Lazada, JD Central, Line TV, BBTV CH7, Joox Music, WeChat, Bugaboo.TV, The 1 และ 3BB เป็นต้น

Window Lock

ลำโพง 4 ตัว และไมโครโฟนอีก 4 ตัว ความบันเทิงเต็มรูปแบบ

ส่วนใครที่ชอบความบันเทิง HUAWEI MatePad 11 ก็จัดมาให้เต็มรูปแบบครับ โดยมีลำโพงถึง 4 ตัว รองรับระบบเสียง Quad-Channel แบบ Histen 7.0 Audio พร้อมปรับแต่งโดย harman/kardon บอกเลยว่าสายบันเทิงหรือสายเกมไม่ควรพลาดใช้งานเด็ดขาดเพราะได้เสียงที่กระหึ่มและเบสแน่น แยกเสียงซ้าย/ขวาก็ชัดเจนมากๆ

ที่สำคัญยังมีไมโครโฟนในตัวถึง 4 ตัว ทำให้จับเสียงพูดของเราได้ชัดเจนขึ้น และยังมี AI เพื่อช่วยตัดเสียงรบกวนออกไปได้ด้วย

ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่

หมดเรื่องฟีเจอร์การที่เน้นการทำงานระดับโปรไปแล้ว ใครที่จะพักผ่อนด้วยการเล่นเกมหรือใช้งานหนักๆ ก็หายห่วงเลยครับ เพราะ HUAWEI MatePad 11 จัดขุมพลังเรือธงอย่าง Snapdragon 865 มาให้เลยทีเดียว ซึ่งเพียงพอต่อการเล่นเกมทุกเกมบน Store แน่นอน ทั้งยังมี RAM มาให้ 6GB พร้อม ROM สูงสุด 256GB และสามารถเพิ่ม MicroSD card ได้สูงสุดถึง 1TB ใครจะเก็บภาพหรือวิดีโอก็ทำได้จุใจไม่ต้องกลัวเต็มแน่นอน

ทดสอบการเล่นเกม

Asphalt 9: Legend

สำหรับเกม Asphalt 9: Legend ที่ใช้กราฟิกค่อนข้างสูงก็สามารถปรับภาพได้สูงสุด แถมภายในเกมก็เล่นได้ไหลลื่นมากๆ ไม่มีอาการกระตุกใดๆ ทั้งสิ้น และจอ 120Hz ที่มีมาให้ก็ทำให้เกมดูสมูธขึ้นไปอีกขั้นด้วย

PUBG Mobile

ส่วน PUBG Mobile ก็ปรับภาพได้สูงสุดและเล่นได้ไหลลื่น หน้าจอตอบสนองได้ไวมากๆ ไม่มีดีเลย์ให้เห็น

แบตเตอรี่อึดขั้นสุดอยู่ได้ครบวัน

HUAWEI MatePad 11 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่ให้มาจุกๆ ถึง 7250mAh ใช้งานเต็มที่ได้นานสูงสุดถึง 12 ชั่วโมง ชาร์จแค่ตอนเช้าก็เหลือถึงช่วงค่ำๆ แน่นอนครับ หรือใครชอบดูวิดีโอก็เล่นได้ยาวๆ ถึง 12 ชั่วโมง (แบบ 1080p) หรือใครที่ใช้เว็บเบราว์เซอร์บ่อยๆ ก็ใช้ได้นานถึง 10 ชั่วโมงเลยทีเดียว

นอกจากนี้ HUAWEI MatePad 11 ก็ยังรองรับ HUAWEI SuperCharge  22.5W ถ้าแบตใกล้หมด ชาร์จเพียง 30 นาทีก็ใช้งานต่อได้อีกเกินครึ่งวัน!

กล้องถ่ายรูป

สำหรับกล้องถ่ายรูปของ HUAWEI MatePad 11 ที่อาจไม่ได้เน้นมากเท่าไหร่ก็มีมาให้อย่างละ 1 เลนส์ เป็นกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล และกล้องหลัง 13 ล้านพิกเซลครับ ซึ่งใช้งานทั่วไปได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียวครับ

สรุปการใช้งาน

สำหรับ HUAWEI MatePad 11 บอกเลยว่าใครที่ซื้อมาใช้ทำงานจะตอบโจทย์มากที่สุดครับ เพราะการทำงานทำได้ไหลลื่นมาก รองรับปากกา HUAWEI M Pencil ที่วาดเขียนได้อย่างอิสระ รวมถึงฟีเจอร์ด้านการทำงานที่มีมาให้ครบถ้วน หรือใครที่เป็นสายบันเทิงก็ตอบโจทย์ไม่แพ้กันเพราะมีลำโพงและไมโครโฟนมาให้ถึง 4 ตัว แถมหน้าจอก็ใหญ่ 10.95 นิ้ว ทำให้รับชมวิดีโอได้เต็มตาเลยทีเดียว และยังมีขุมพลังแรงอย่าง Snapdragon 865 ที่เล่นเกมกราฟิกหนักๆ ก็ทำได้สบายๆ

ราคาและวันวางจำหน่าย

HUAWEI MatePad 11 สนนราคาอยู่ที่ 15,990 บาท สำหรับสี Isle Blue และราคา 19,990 บาท สำหรับ (สี Matte Grey และมี HUAWEI M-Pencil 2nd Generation มาภายในกล่อง) โดยสามารถหาซื้อได้แล้วที่ :

โปรโมชั่น

ทั้งนี้ ผู้ที่สั่งซื้อ HUAWEI MatePad 11 ตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม ถึง 15 สิงหาคม 2564 ที่ร้าน HUAWEI Store HUAWEI Experience Store และ ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ จะได้รับของสมนาคุณเป็น “HUAWEI Band 4 Pro” มูลค่า 2,490 บาท (สำหรับคำสั่งซื้อ 100 ท่านแรก) และ HUAWEI Smart Magnetic Keyboard มูลค่า 5,290 บาท ซึ่งใครที่สั่งซื้อสี Matte Grey จะได้รับหูฟัง Huawei FreeLace Pro (สี Spruce Green) มูลค่า 2,999 บาทไปอีกด้วย!

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม : https://bit.ly/MatePad11TH

Advertisement

กำลังฮอต

HUAWEI Band 9 ราคาเริ่มต้น 1,299 บาท HUAWEI Band 9 ราคาเริ่มต้น 1,299 บาท
Featured3 วัน ago

5 ข้อควรรู้ก่อนเลือกซื้อสมาร์ทแบนด์ กับความครบเครื่องของ HUAWEI Band 9 สมาร์ทแบนด์ที่เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ทุกรุ่น ดูแลสุขภาพยืนหนึ่งในราคาเริ่มต้น 1,299 บาท

ใครที่อยู่ในช่วงเริ่...

Apple News1 สัปดาห์ ago

AIS เปิดบริการ AIS Care+ with AppleCare Services รายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้ผู้ใช้อุ่นใจมากขึ้น สบายใจที่สุด

AIS คว้า AppleCare S...

Featured4 สัปดาห์ ago

รีวิว vivo Y100 5G สนุกกับสเปกเต็ม 100 ด้วยขุมพลัง SD 4 Gen 2 5G ดีไซน์อัปเกรดสุดพรีเมียม พร้อมชาร์จเร็ว 80W FlashCharge

รีวิว vivo Y100 5G น...

Featured1 เดือน ago

รีวิว realme 12+ 5G | realme 12 Pro+ 5G “Be a Portrait Master” ด้วยกล้อง Periscope ระดับเรือธง | ดีไซน์นาฬิกาหรู | ชาร์จไว 67W SUPERVOOC

รีวิว realme 12+ 5G ...

Featured1 เดือน ago

รีวิว Xiaomi 14 | 14 Ultra เรือธงกล้องเทพในสองขนาด พร้อมการถ่ายภาพและวิดีโอระดับ Next-Generation ของ Leica!

รีวิว Xiaomi 14 Seri...

IT News7 ชั่วโมง ago

หัวเว่ยเชิญนักพัฒนาแอปพลิเคชัน ร่วมมือปั้นเนทีฟ แอปฯ สำหรับระบบปฏิบัติการ HarmonyOS

ณ งาน Huawei Analyst...

Smart Review8 ชั่วโมง ago

รีวิว Redmi Note 13 Pro 5G สมาร์ทโฟนที่ใช้ขุมพลังตัวท็อป SD 7s Gen 2 พร้อมกล้องหลัง 200MP และชาร์จไว 67W 

รีวิว Redmi Note 13 ...

IT News9 ชั่วโมง ago

เอไอเอสจับมือกสทช. ดูแลผู้พิการรอบด้าน ตอกย้ำดิจิทัลเป็นหัวใจการสร้างความเท่าเทียมแก่ทุกกลุ่ม

นายวรุณเทพ วัชราภรณ์...

IT News9 ชั่วโมง ago

Redmi Note 13 Pro 5G วางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการตั้งแต่ 27 เม.ย. 67 เป็นต้นไปในราคาเพียง 12,990 บาท

เสียวหมี่ประกาศวางจำ...

IT News10 ชั่วโมง ago

realme เปิดตัวแบรนด์ช็อป เวอร์ชันล่าสุด “realme Experience Store 3.5”ครั้งแรกของเมืองไทย

ด้วยความมุ่งมั่นนำเส...

Advertisement

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก