Connect with us

Smart Review

รีวิว HUAWEI MatePad 11.5″ PaperMatte Edition เป็นได้มากกว่า PC ด้วย “PaperMatte Display” | ครบเครื่องด้วยเคสคีย์บอร์ดและ M-Pencil | HUAWEI Notes + WPS Office

Published

on

รีวิว HUAWEI MatePad 11.5″ PaperMatte Edition แท็บเล็ตรุ่นล่าสุดจาก HUAWEI ที่มาพร้อมเทคโนโลยีหน้าจอ PaperMatte Display ขนาด 11.5″ บอกลาแสงจ้าไปได้เลย ซึ่งรุ่นนี้ก็เป็นรุ่นพิเศษที่อัปเกรดหน้าจอขึ้นมาจาก MatePad 11.5″ ที่เคยเปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่แล้วนั่นเอง แต่ไม่ใช่แค่หน้าจออย่างเดียวที่อัปเกรดให้เพราะความจุก็ได้เพิ่มมาเป็น 8GB + 256GB แล้วด้วย เก็บข้อมูลได้มากขึ้น และยังทำงานด้านออฟฟิศผ่าน HUAWEI Notes และ WPS ควบคู่กับเคสคีย์บอร์ดกับปากกา M-Pencil รุ่นที่ 2 ได้ดีเหมือนเดิม

เป็นอีกหนึ่งรุ่นสุดคุ้มจาก HUAWEI ที่มีดีมากกว่าแค่หน้าจอใหม่ แต่สเปคและฟีเจอร์บอกเลยว่าครบเครื่องสุด ๆ ถ้าพร้อมแล้วเรามาติดตามรีวิวของ HUAWEI MatePad 11.5″ PaperMatte Edition นี้กันเลยครับ!

สรุปสเปค HUAWEI MatePad 11.5″ PaperMatte Edition

  • หน้าจอ : PaperMatte Display IPS LCD ขนาด 11.5” 
  • ความละเอียด : 2200 x 1440 พิกเซล, อัตราส่วน 3:2
  • Refresh rate : 120Hz
  • CPU : Snapdragon 7 Gen 1 (4nm)
  • GPU : Adreno 644
  • RAM : 8GB
  • ROM : 256GB
  • แบตเตอรี่ : 7700mAh
  • ระบบชาร์จ : ชาร์จไว 20W
  • กล้องหน้า : 8MP
  • กล้องหลัง : 13MP กล้องหลัก f/1.8
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax, 2.4G/5G – Wi-Fi 2×2 MIMO
  • ลำโพง : 4 ตัว Stereo Speaker
  • ระบบปฏิบัติการ : HarmonyOS 3.1
  • ขนาดตัวเครื่อง : 176.82 x 260.88 x 6.85 มม.
  • น้ำหนัก : 499 กรัม

หน้าจอ PaperMatte Display บอกลาแสงสะท้อนไปได้เลย!

HUAWEI MatePad 11.5″ PaperMatte Edition ชูจุดเด่นมาที่เรื่องหน้าจอซะขนาดนี้ เราขอก็เริ่มที่หน้าจอกันก่อนเลยดีกว่า รุ่นนี้มาพร้อมหน้าจอ PaperMatte Display หรือจอผิวด้านที่ช่วยลดการสะท้อนของแสงที่ตกกระทบได้เป็นอย่างดี ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในที่มีแสงรบกวนเยอะ ๆ เพราะด้วยเทคโนโลยีของรุ่นนี้สามารถตัดแสงรบกวนได้มากถึง 97% ทำให้เราสามารถเพลิดเพลินกับคอนเทนต์ได้ตลอดเวลาแม้อยู่ใต้แสงที่ส่งตรงมาถึงหน้าจอ

โดยจอ PaperMatte Display นั้นใช้เทคโนโลยีพื้นผิวระดับนาโนป้องกันแสงสะท้อนเพื่อสร้างโครงสร้างเล็ก ๆ หลายร้อยล้านชิ้นบนพื้นผิวของกระจก กระจก และจอแสดงผลแบบแบ่งชั้นเรืองแสงได้ในตัว ซึ่งแสดงประสิทธิภาพสีที่น่าประทับใจและภาพที่มีความละเอียดสูง ช่วยยกระดับประสบการณ์เราได้อย่างดีทีเดียว

นอกจากนี้จอของ HUAWEI MatePad 11.5″ PaperMatte Edition ยังได้รับ 3 การรับรองสถาบันชั้นนำจาก SGS Low Visual Fatigue Premium Performance Certification, TÜV Rheinland Low Blue Light (Hardware Solution) Certification และ TÜV Rheinland Reflection Free Certification ทำให้มั่นใจว่าปลอดภัยจากแสงสะท้อนสู่ดวงตาได้อย่างแน่นอน

ในเรื่องการแสดงผลก็ทำได้ดีครับ ให้สีสันที่สวยงามใช้ได้ อีกทั้งยังได้ความละเอียดสูงถึง 2200 x 1440 พิกเซล ช่วยดึงความคมชัดเวลาอ่านตัวหนังสือ หรือวิดีโอความละเอียดสูง ๆ มาได้ครบถ้วน แต่แน่นอนว่าเรื่องสีสัน จอแบบนี้จะไม่ได้สดเท่ากับจอทั่วไป เพราะด้วยชั้นกระจกที่เข้ามาเสริมเพื่อลดแสงสะท้อนนั่นเอง แต่ถ้าใช้งานจริงเราว่าการลดแสงสะท้อนแล้วลดทอนความสดใสของหน้าจอลงไปนิดหน่อย ก็ถือว่ารับได้นะ สบายตาดีครับ

สัมผัสลื่นไหลราวกับกระดาษจริง ๆ

ไม่ใช่แค่ลดแสงสะท้อนได้ดีอย่างเดียว เพราะอีกจุดเด่นของ PaperMatte Display ก็คือเรื่องการสัมผัสที่ทำได้ดีมาก เพราะด้วยผิวด้านของตัวจอ ทำให้ได้สัมผัสที่เนียนนิ้วไปหมดเวลาเราแตะ เลื่อนไปที่หน้าจอ อีกทั้งรุ่นนี้ยังรองรับ Refresh rate สูงถึง 120Hz ด้วย

และยิ่งถ้าใช้งาน M-Pencil รุ่นที่ 2 ร่วมกับหน้าจอ PaperMatte Display นี้เวลาขีดเขียนบนจอจะได้ความรู้สึกเหมือนกระดาษเลย เข้าใจแล้วใช่ไหมว่าทำไมรุ่นนี้ถือมีชื่อตามท้ายว่า PaperMatte Edition

ดีไซน์ Unibody งานประกอบหรูหรา

พลิกมาดูรอบ ๆ ตัวเครื่องกันบ้าง HUAWEI MatePad 11.5″ PaperMatte Edition จะใช้ดีไซน์หรูหราแบบ Metal Unibody เหมือนกับ MatePad 11.5″ เดิม ซึ่งเราชอบงานประกอบของรุ่นก่อนมากอยู่ด้วย เพราะทำได้แน่นหนาและดูดีตามมาตรฐานของ HUAWEI กรอบเครื่องก็เป็นแบบเหลี่ยมที่ดูทันสมัย มาพร้อมความบางและน้ำหนักที่กำลังดี

ความบางของ HUAWEI MatePad 11.5″ PaperMatte Edition จะอยู่ที่ 6.85 มม.และหนักแค่ 499 กรัม ถือใช้งานได้เป็นอย่างดี รวมถึงพกติดกระเป๋าไปใช้งานนอกสถานที่ก็ไม่เป็นภาระกระเป๋าจนเกินไปครับ ด้วยขนาดและน้ำหนักแบบนี้

ส่วนกล้องหลังก็จะให้มาตัวเดียวเหมือนเดิม มีความนูนออกจากตัวเครื่องเล็กน้อยวางอยู่บนฐานกล้องวงรีที่เพิ่มความน่าสนใจให้ดีไซน์ขึ้นอีกพร้อมระบุเลขสเปคว่า 13MP Camera ด้วยครับ

ตำแหน่งปุ่มกดที่วางไว้ดีทั้งการใช้งานแนวตั้งแนวนอน

ตำแหน่งปุ่มกดของรุ่นนี้ก็วางตำแหน่งได้ดีเลยครับ วางปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงไว้ที่ด้านขวามือของตัวเครื่องเมื่อใช้งานแนวตั้ง และจะอยู่ด้านบนถ้าเราใช้งานในแนวนอน พลิกไป-มาก็ใช้งานได้สะดวก ไม่สับสนครับ

ด้านบนตัวเครื่องจะมีช่องลำโพงขนาดใหญ่ 2 ชุด และปุ่ม Power ที่แตะกดได้ง่ายเหมือนกัน ส่วนด้านล่างก็จะมีลำโพงอีก 2 ชุดรวมกันเป็นลำโพง Stereo บน-ล่าง หรือ ซ้าย-ขวาได้เลย พอร์ตการเชื่อมต่อของรุ่นนี้ก็จะเป็น USB-C อยู่ตรงกลางเด่น ๆ นั่นแหละครับ

ลำโพง 4 ตัวเสียง Stereo พร้อมระบบ Histen 8.0 และอัลกอริทึมปรับ EQ เสียง

อย่างที่เห็นลำโพงของ HUAWEI MatePad 11.5″ PaperMatte Edition ให้มาด้วยกัน 4 ตัว วางตำแหน่งได้ดีสมมาตรทั้งซ้าย-ขวาในการใช้งานแนวนอนหรือบน-ล่างในการใช้งานแนวตั้ง มอบมิติเสียงที่ยอดเยี่ยม แถม HUAWEI ยังเพิ่มระบบเสียง Histen 8.0 พร้อมอัลกอริทึมปรับ EQ เสียงร องรบัการปรับจูนเพิ่มเสียงเบสและปรับย่านสนามเสียงที่ดีขึ้น

แถมยังมีเทคโนโลยี AI ตัดเสียงรบกวนจดจำและเรียนรู้ ช่วยให้สามารถตัดเสียงรบกวนและครอบคลุมเสียงมากกว่า 200 ประเภท อาทิ ตัดเสียงรบกวนในห้องประชุม, บ้าน, ในรถยนต์, กลางแจ้ง รวมถึงการตัดเสียงที่ไม่ใช่เสียงพูดได้อย่างแม่นยำ ใครที่ต้องประชุมออนไลน์บ่อย ๆ ก็หายห่วงได้เลยครับ

โดยรวมในเรื่องดีไซน์ HUAWEI MatePad 11.5″ PaperMatte Edition รุ่นนี้ก็ถือว่าทำได้ดีมากครับ ยกเอาจุดเด่นที่เราชอบมาก ๆ ตอนรุ่นปกติมาครบทั้งบอดี้ Metal Unibody ที่เรียบหรูแต่บางเฉียบ น้ำหนักเบา และก็อัปเกรดเทคโนโลยีหน้าจอ PaperMatte Display เข้าไปใหม่เพื่อลดแสงสะท้อน ใช้งานได้สบายตา และร่วมกับ M-Pencil รุ่นที่ 2 ได้ดีขึ้นอีก อันนี้เจ๋งเลย!

ใช้งานร่วมกับ M-Pencil รุ่นที่ 2 ลื่นไหลเหมือนเขียนบนกระดาษ

อย่างที่บอกไปว่าหน้าจอ PaperMatte Display นั้นถูกออกแบบมาให้ใช้งานร่วมกับ M-Pencil รุ่นที่ 2 ได้เป็นอย่างดี จุดประสงค์หลักก็เพื่อให้เราได้ขีดเขียนใกล้เคียงกับบนกระดาษมากขึ้นนั่นแหละ ซึ่งตัว M-Pencil รุ่นที่ 2 นี้ก็จะเป็นเวอร์ชั่นเดียวกับกลุ่ม MatePad Pro เลย เพราะฉะนั้นเรื่องความสามารถไม่ต้องห่วงครับ เขียนได้อย่างลื่นไหล รองรับแรงกดหลายระดับ พร้อมแถบ Touch Control ที่ให้เราสลับเครื่องมือได้อย่างง่ายดายด้วย

ความสามารถอย่าง Pencil Hover ที่เราสามารถใช้ M-Pencil รุ่นที่ 2 มาจ่อที่ไอคอนแอปหรือการใช้งานบางอย่างเพื่อโชว์ Preview ก่อนที่จะเปิดใช้งานจริง ๆ ได้ด้วย ตรงนี้ดูสะดวกดีมาก คล้าย ๆ กับที่เรามีเม้าส์มาจ่อไอคอนเพื่อดูตัวอย่างก่อนใช้งานทำนองนั้นเลย

เชื่อมต่อด้วยอะแดปเตอร์ !?

แต่จุดที่เราแอบติดใจนิด ๆ ก็ยังเป็นเรื่องการเชื่อมต่อของ M-Pencil ที่รุ่นนี้ยังไม่สามารถแปะเข้ากับด้านข้างกับตัวเครื่องเพื่อเชื่อมต่อได้เหมือน MatePad Air หรือ MatePad Pro ซึ่งวิธีการเชื่อมต่อจะต้องพึ่งอุปกรณ์เสริมอย่างอะแดปเตอร์ซะก่อน (โชคดีว่ามีแถมมาให้เลย) โดยตัวอะแดปเตอร์นี้จะเป็นพอร์ต USB-C สามารถเสียบเข้ากับพอร์ตของเครื่องได้ จากนั้นก็แค่เอา M-Pencil มาประกบ จะมี Pop-Up ขึ้นมาแบบเดียวกับอุปกรณ์เสิรมอื่น ๆ ของ HUAWEI

ซึ่งวิธีนี้จะทำแค่เพียงครั้งแรกเท่านั้น เพราะการเชื่อมต่อกันจะผ่าน Bluetooth ครั้งถัดไปเมื่อเปิดเครื่องขึ้นมาก็จะจับคู่กันเองโดยอัตโนมัติครับ เว้นเสียแต่ว่าแบตฯใกล้หมดก็ต้องไปเสียบชาร์จผ่านอะแดปเตอร์อีกทีนั่นล่ะครับ

HUAWEI Notes ประสบการณ์การจดบันทึกที่ล้ำสมัย

อะ…เชื่อมต่อกับ M-Pencil รุ่นที่ 2 ได้แล้วก็ถึงคราวมาลองใช้จริงกันบ้าง ต้องบอกเลยว่า HUAWEI นั้นออกแบบแอป HUAWEI Notes ที่ใช้งานคู่กับ M-Pencil ได้ดีมาก เพราะแอปนี้แอปเดียวก็แทบจะรองรับการทำงานที่ Stylus ควรทำได้ไว้หมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเขียน, วาด, เปิดไฟล์, แก้ไขงานแบบมือโปร ทำได้หมดในแอปเดียวเลย

อย่างการจดบันทึกก็สะดวกด้วย M-Pencil รุ่นที่ 2 ที่รองรับแรงกดหลายระดับ และแน่นอนว่าการตอบสนองกับ PaperMatte Display นี้ก็ทำให้เวลาเราเขียนลงไปนั้นยิ่งความราบรื่นเหมือนเขียนบนกระดาษจริง ๆ อย่างที่บอกไป นอกจากนี้ HUAWEI ยังเพิ่มเสียงตอบรับเวลาเราขีดเขียนบนแอป โดยเลียนแบบเสียงกระดาษกรอบเวลาที่เราเขียนลงบนจอ ก็จะได้ดื่มด่ำไปกับเสียงแตะ เอฟเฟกต์เสียงกรอบแกรบ และความสั่นสะเทือนเพื่อประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมและดื่มด่ำยิ่งขึ้นอีกด้วย

ยิ่งถ้าเป็นสายวาดที่ต้องตวัดเส้นหลาย ๆ ครั้งก็ยิ่งฟินกับเอฟเฟกต์เสียงเข้าไปใหญ่ แถมการตอบสนองก็ทำได้ดีมีหัวปากกาให้เลือกหลายแบบ และอย่างที่บอกว่าตัวปากกนั้นรองรับแรงกดหลายระดับ เวลาจะวาดหรือสเก็ชก็ลงน้ำหนักได้ดี เครื่องมือก็พร้อมใช้งานในนี้ หากต้องการร่างไอเดียคร่าว ๆ หรือลงรายละเอียดจริง ๆ ครับ

การแก้ไขไฟล์ PDF บน HUAWEI Notes ก็ทำได้ด้วย บางครั้งเราได้รับไฟล์งานมาแล้วต้องแก้ไขแบบด่วน ๆ คอมเมนต์หรือแต่งเติมบางอย่างในแอปนี้ก็สามารถเปิดไฟล์ PDF ได้เต็มรูปแบบครับ

หรือสำหรับคนที่ต้องการทำงานที่มากกว่านั้น HUAWEI ก็มีตัวเลือก M-Stylus Zone เป็นที่แนะนำแอปเสริมสำหรับใช้งานได้ด้านต่าง ๆ ครบ ทั้ง การจดโน้ต, เอกสาร, หรือการวาดรูป

ประสบการณ์การทำงานมากกว่า PC เมื่อร่วมกับเคสคีย์บอร์ด!

นอกจากอุปกรณ์เสริมอย่าง M-Pencil รุ่นที่ 2 แล้ว HUAWEI MatePad 11.5″ PaperMatte Edition ยังมีเคสคีย์บอร์ดอย่าง Smart Magnetic Keyboard ให้เราเปลี่ยนร่าง HUAWEI MatePad 11.5″ เป็นแล็ปท็อปย่อม ๆ ได้เลยด้วย

ซึ่งตัวเคสจะแยกเป็น 2 ชิ้นคือเคสที่มีขาตั้งเราสามารถใส่เข้ากับตัวเครื่องได้แบบเคสปกติ ที่ด้านหลังจะมีขาตั้งให้กางออกมาได้ 1 ระดับ ซึ่งใช้งานเป็นเคสอย่างเดียวก็ได้ถ้าไม่ใช้งานร่วมกับคีย์บอร์ดที่แถมมาในกล่องครับ

ส่วนอีกชิ้นจะเป็นตัวคีย์บอร์ดที่สามารถแปะเข้ากับด้านหลังของเคสได้ผ่านแม่เหล็ก เราว่าสะดวกดีเพราะถ้าไม่ใช้งานก็ไม่ต้องพกติดไปด้วย แต่ถ้าอยากใช้งานก็แค่เอามาแปะติดที่ด้านหลังได้เลย ไม่ต้องถอดตัวเครื่องออกมาเพื่อเชื่อมต่อกันอีกที

ซึ่งถ้ารวมร่างกัน 2 ชิ้นก็จะเปลี่ยนตัวเครื่องให้เป็นแล็ปท็อปเครื่องเล็ก ๆ สักเครื่องได้อย่างที่บอกไปเลยครับ และที่ตัวคีย์บอร์ดก็จะสามารถใช้เป็นฝาพับเพื่อปิดหน้าจอเพื่อใช้พกพาแบบปกป้องทั้งเครื่องได้ด้วยครับ

ตัวปุ่มของคีย์บอร์ดก็กดได้ง่าย เว้นระยะได้ดีและมีความ Clicky ดีมาก ให้ความรู้สึกเหมือนพิมพ์บนแล็ปท็อป ทำให้เราใช้งานพิมพ์งานนาน ๆ ได้แบบคล่องตัว ไม่อึดอัดครับ ช่วยให้เราใช้งานแบบ PC-like ไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์งานที่มีคีย์บอร์ดพร้อม การแบ่งหน้าจอใช้งานหลายแอปพร้อมกัน หรือจะเป็นแอปอย่าง WPS Office ที่มีติดมาให้ในเครื่องก็ใช้งานได้เต็มรูปแบบไม่แพ้บนแล็ปท็อปเลยด้วยครับ

และอย่างที่บอกว่าเคส นั้นแบ่งเป็น 2 ส่วนได้คือ เคสพร้อมขาตั้งกับคีย์บอร์ดแบบ Bluetooth นั่นหมายความว่าเราสามารถแยกส่วนกัน เอา MatePad 11.5″ ห่างตัวและใช้คีย์บอร์ดพิมพ์หรือสั่งงานได้ด้วยเช่นกัน เป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยล่ะ ว่าไหม ?

ประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยมด้วย HarmonyOS 3.1

HUAWEI MatePad 11.5″ PaperMatte Edition มาพร้อมระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 3.1 การใช้งานยังลื่นไหลและ UI ปรับแต่งมาให้มอบประสบการณ์การใช้งานแบบแท็บเล็ตอย่างยอดเยี่ยม ทั้ง Dock ที่ด้านล่างเพื่อจัดเรียงแอปที่ใช้บ่อย ๆ, Service Widgets แบบใหม่ ๆ ที่สามารถรวมกลุ่มกันได้ หรือจะเป็นการแบ่งหน้าจอใช้งานหลายแอปได้พร้อมกันก็มีด้วย

แบ่งจอทำงานได้ เพื่อความหลากหลายบนหน้าจอเดียว

และแน่นอนว่าความได้เปรียบของหน้าจอใหญ่อย่างแท็บเล็ตก็จะได้เรื่องการทำงานที่หลากหลายบนหน้าจอเดียว บน HarmonyOS 3.1 ก็มีการปรับเรื่อง Multi-Windows ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นเปิดแอปใดแอปหนึ่งอยู่แล้วอยากใช้งานคู่กับอีกแอปก็เลื่อนหน้าจอไปที่มุมซ้ายบนได้เลยแอปหลักจะพับไปที่มุมและให้เราเลือกแอปต่อไปใช้งานได้ทันที ขยายเต็ม 2 หน้าต่างแล้วจะเลื่อนปรับขนาดทีหลังก็ได้อีกด้วย

ใช้งานผ่าน HUAWEI Mobile Services เหมือนเดิม!

ส่วนเรื่องบริการ MatePad 11.5″ PaperMatte ก็ยังใช้ผ่าน HMS (HUAWEI Mobile Services) เหมือนแท็บเล็ตใหม่ ๆ ของ HUAWEI นั่นแหละ เพราะใช้ HarmonyOS แล้วนี่เนาะ ซึ่งเราสามารถดาวน์โหลดแอปผ่าน HUAWEI AppGallery ได้ ดาวน์โหลดไฟล์ APK มาติดตั้งเองผ่าน Petal Search ก็ได้เช่นกัน มาถึงตรงนี้ทั้งแอปบน AppGallery เองหรือเราจะหามาติดตั้งเองจากช่องทางอื่น ๆ ก็ทำได้ง่ายและลงตัวขึ้นเยอะแล้วจริง ๆ ครับ

หรือถ้าอยากใช้บริการของ GMS (Google Mobile Services) จริง ๆ ก็มีทางเลือกด้วยแอป GBox ที่ให้เราสามารถโหลดแอปอย่าง YouTube, Google Drive, Photos, Maps ผ่าน HUAWEI AppGallery ได้โดยตรง แม้การใช้งานจะเสียเวลาโหลดตอนเข้าแอปนิดหน่อย แต่ก็ใช้งานได้ครบถ้วน ไม่ติดขัดครับ ใครที่สมัคร YouTube Premium ไว้ก็ใช้งานได้ด้วย จะมีจุดสังเกตอยู่บ้างคือบางแอปก็ยังไม่รองรับ อย่าง Gmail หรือ Chrome น่ะนะ

ชิปเซ็ต Snapdragon 7 Gen 1 แรงเหลือ ๆ

มาต่อที่เรื่องประสิทธิภาพ HUAWEI MatePad 11.5″ PaperMatte Edition ก็จัดเต็มไม่น้อยหน้าใครด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 7 Gen 1 ขนาด 4nm แรงเหลือ ๆ สำหรับการทำงานที่ว่ามา ไม่ว่าจะจดโน้ต วาดรูป หรือใช้งานเอกสารไฟล์ขนาดใหญ่ก็ตามครับ

เพื่อให้เห็นภาพอีกหน่อยก็เลยทดสอบประสิทธิภาพมาฝากกัน ได้คะแนนจาก Geekbench 6 ด้าน Single-Core ไปที่ 1074 คะแนน และ Multi-Core อีก 2984 คะแนน

ส่วนฝั่ง AnTuTu Benchmark v10 ได้ไปสูงถึง 694949 คะแนนเลยทีเดียว เรียกว่าอุ่นใจได้ในเรื่องการประมวลผลแล้วล่ะครับ

ความจุ 8GB+256GB ใช้งานสบาย

อีกเรื่องที่ HUAWEI MatePad 11.5″ PaperMatte Edition อัปเกรดมาจากรุ่นปกติก็คือเรื่องความจุ เพราะรุ่นนี้ได้ RAM มาเป็น 8GB และหน่วยความจำภายเพิ่มเป็น 256GB (จากเดิม 6GB+128GB) ทำให้เราทำงานได้หนักขึ้น เก็บไฟล์งานหรือคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้มากขึ้นด้วยเนาะ

เล่นโอเคมากสเปคนี้

ส่วนเรื่องการเล่นเกมเราว่าสเปคที่ให้มานั้นถือว่าไม่ธรรมดาเลย แถมได้ RAM เพิ่มมาเป็น 8GB ก็ช่วยให้ทำงานลื่นไหลมากขึ้นอีกด้วย เกมที่เราจะทดสอบก็คือ Asphalt 9 และ PUBG Mobile ซึ่งทั้งคู่ดาวน์โหลดจาก HUAWEI AppGallery ทั้งหมดครับ

เล่น Asphalt 9 บน HUAWEI MatePad 11.5″ PaperMatte Edition

สำหรับ Asphalt 9 เราสามารถเปิดกราฟิกได้ที่ระดับสูงสุด High Quality และเลือกเปิด 60fps ได้แล้วด้วย เท่ากับเล่นได้ลื่นแบบสุด ๆ แล้วเนาะ เท่าที่เราเล่นก็บอกเลยว่าทำได้ยอดเยี่ยมมาก ทั้งกราฟิกที่สวยอลังการบนหน้าจอขนาดใหญ่เต็มตาได้ภาพที่สวยงามสุด ๆ เฟรมเรตก็ลื่นไหลระดับ 58 – 60fps ชิล ๆ เลย

เล่น PUBG บน HUAWEI MatePad 11.5″ PaperMatte Edition

ส่วนเกม PUBG เราสามารถปรับกราฟิกได้ที่ HDR พร้อมเฟรมเรต Ultra อีก เรียกว่าอยู่ในระดับสูงเลย พอเล่นบนหน้าจอขนาดใหญ่ก็ยิ่งเต็มตาเห็นฉากได้กว้างกว่าบนสมาร์ทโฟน ความลื่นไหลบนจอ PaperMatte ก็มอบประสบการณ์ที่ดีไปอีกแบบ แถมยังมีลำโพงมากถึง 4 ตัวให้ความ Stereo เต็มอิ่ม ได้เปรียบในเรื่องทิศทางเสียงกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปแน่นอนครับ

แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7700mAh

ปิดท้ายที่แบตเตอรี่ HUAWEI MatePad 11.5″ PaperMatte Edition แบตเตอรี่ความจุ 7700mAh มาเลย ถือว่าเยอะเพียงพอต่อการใช้งานมาก ๆ เท่าที่เราลองใช้งานแบบเต็มที่ ก็ถือว่าจัดเต็มเลย ใช้ทำงานหรือความบันเทิงได้เต็ม ๆ วัน โดยไม่ต้องมากังวลว่าแบตฯจะหมดไปกลางคันในขณะที่ใช้งาน แถมได้ชิประดับ 4nm อย่าง Snapdragon 7 Gen 1 ก็จัดการพลังงานได้ดีขึ้นไปอีกด้วย

ชาร์จเร็ว 20W ก็โอเค…

ส่วนระบบชาร์จเร็ว HUAWEI MatePad 11.5″ PaperMatte Edition นั้นได้มาที่ 20W ซึ่งเราว่าเพียงพอต่อการชาร์จกลับแบตฯเยอะ ๆ ระดับนี้คืนมาได้อย่างรวดเร็วแล้ว เล่นให้เต็มที่แล้วรอชาร์จกลับมาไม่นานก็ใช้ต่อได้อีกยาวแล้วครับ ตรงนี้ถูกใจเราจริง ๆ

สำหรับเรื่องประสิทธิภาพก็ถือว่า HUAWEI MatePad 11.5″ PaperMatte Edition ก็ทำได้ประทับใจด้วยชิปเซ็ตตัวแรงระดับ 4nm ที่มอบประสบการณ์ที่ลื่นไหล เล่นเกมหรือทำงานหนักได้สบาย ๆ รอบนี้ได้ความจุเยอะ 8GB+256GB มาให้ใช้มากขึ้น แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่ใช้งานได้ยาวนานไร้กังวล อีกทั้งยังมีระบบชาร์จเร็วระดับ 20W ที่มาเติมเต็มเวลาที่ใช้งานหนัก ๆ แล้วต้องการชาร์จกลับมาอีกด้วย!

ราคาและโปรโมชั่น

HUAWEI MatePad 11.5″ PaperMatte Edition จะวางจำหน่ายในไทยโมเดลเดียวเลยคือ WiFi ความจุ 8GB+256GB ราคาเพียง 14,990 บาท โดยมีโปรโมชั่นเมื่อสั่งซื้อตั้งแต่วันที่ 4 – 25 เมษายนนี้ รับของแถมหลายต่อประกอบด้วย

  • ฟรี เคสคีย์บอร์ดมูลค่า 4,990.-
  • ฟรี M-Pencil รุ่นที่ 2 มูลค่า 4,490.-
  • ฟรี กล่องเก็บแบบพับได้ มูลค่า 1,990.-
  • บริการตรวจตาฟรีที่ร้าน The Next มูลค่า 300.-
  • โปรโมชั่นกรอบเลนส์ + มัลติโค้ด มูลค่า 3,990.-

ช่องทางการสั่งซื้อ (Shopee) : https://bit.ly/4ahyCoJ

สรุปแล้ว “นี่คือแท็บเล็ตที่จะให้คุณได้มากกว่า PC และสเปคสุดคุ้มในราคาหมื่นกลาง”

สรุปแล้ว HUAWEI MatePad 11.5″ PaperMatte Edition ก็ถือเป็นแท็บเล็ตสุดคุ้มในงบหมื่นต้น ๆ เพราะแต่เดิมสเปคของ MatePad 11.5″ เดิมก็ถือว่าให้มาครบเครื่องและคุ้มค่าสุด ๆ แล้วทั้งชิป Snapdragon 7 Gen 1 แบตเตอรี่ 7700mAh หน้าจอ IPS 11.5″ ความละเอียดสูง มารอบนี้อัปเกรดชนิดจอเป็น PaperMatte Display ที่ใช้งานได้ดีขึ้น บอกลาแสงสะท้อนต่าง ๆ ไปได้อย่างดี แถมมอบสัมผัสที่ยอดเยี่ยมทั้งจากนิ้วมือหรือจาก M-Pencil รุ่นที่ 2 ด้วย นอกจากนี้รุ่นนี้ยังได้ความจุที่เพิ่มขึ้นมาเป็น 8GB+256GB ใช้งานได้หลากหลายกว่าเดิม และที่ขาดไม่ได้เลยคือเคสคีย์บอร์ดที่ใช้งานร่วมกันแล้วเปลี่ยนเป็นเครื่อง PC สักเครื่องได้เลย ใครที่กำลังมองหาแท็บเล็ตที่ขีดเขียนได้ดี ใช้งานจริงจังได้ในหลายสถานการณ์กับงบหมื่นกลาง ๆ เราว่า HUAWEI MatePad 11.5″ PaperMatte Edition นี้เป็นตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้ามจริง ๆ ครับ

Smart Review10 ชั่วโมง ago

รีวิว Galaxy Z Fold6 เรือธงจอพับ ที่ปีนี้น่าสนใจขึ้นในทุกมิติ!

รีวิว Galaxy Z Fold6...

IT News11 ชั่วโมง ago

สรุปข่าวรอบสัปดาห์ระหว่างวันที่ 20 – 26 ก.ค. 67

ข่าวเด่นช่วงระหว่างว...

Android News13 ชั่วโมง ago

POCO อินเดียเปิดตัว POCO F6 รุ่นสุดพิเศษ Deadpool Edition พร้อมลวดลายโปรโมทภาพยนตร์ Deadpool & Wolverine!

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา...

Android News13 ชั่วโมง ago

เก็บเงินรอ ! realme 13 5G ผ่านรับรองจากกสทช. ในไทย รวมถึงอีกหลายแห่งทั่วโลกแล้ว

อีกไม่นาน realme 13 ...

Android News14 ชั่วโมง ago

หลุดมาอีก !! จอมหลุดปล่อยภาพหน้าจอ One UI 7.0 ปรับโฉมหน้าต่างแจ้งเตือน l Quick Panel l ไอคอน และอื่นๆ เพียบ

ข่าวลือของ One UI 7 ...

OPPO Reno12 Series 5G x Discovery OPPO Reno12 Series 5G x Discovery
News14 ชั่วโมง ago

OPPO จับมือ Discovery ร่วมถ่ายทอดภาพมรดกโลกอันทรงคุณค่า ผ่าน OPPO Reno12 Series 5G สมาร์ตโฟน AI ระดับเริ่มต้นอันทรงพลัง

OPPO แบรนด์เทคโนโลยี...

Android News15 ชั่วโมง ago

เป็นแบบนี้…จอมแม่นบอก One UI 7 จะไม่มีฟีเจอร์ Dynamic Island บนกล้องหน้า แต่จะโชว์เป็นแคปซูลมุมซ้ายบนแทน!

ข้อมูลของ One UI 7 ข...

How To15 ชั่วโมง ago

[How To] รวมวิธีการใช้งานฟังก์ชันใหม่ของแอปเครื่องคิดเลขใน iOS 18 บน iPhone

บน iOS 18 นอกจากที่จ...

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก