Connect with us

ข่าวประชาสัมพันธ์

แนะนำแก็ดเจ็ตไอทีสำหรับสายอาร์ต เสกงานศิลป์เหนือจินตนาการได้ง่ายๆ ด้วยแท็บเล็ตสเปกเด็ดแค่เครื่องเดียว

Published

on

สำหรับคนที่มีใจรักงานอาร์ตและมีความฝันอยากเป็นศิลปินนักวาดภาพ แต่ยังอยู่ในเลเวล beginner อยู่ อาจมีคำถามเกิดขึ้นมามากมาย เช่น ลังเลว่าต้องซื้ออุปกรณ์อะไร ยี่ห้อใดบ้าง ถึงจะทำให้เสกงานศิลป์ในหัวออกมาเป็นรูปเป็นร่างได้สมบูรณ์แบบ ทั้งยังไม่รู้ว่าต้องไปเรียนศิลปะเสริมที่ไหนถึงจะเก่งและมีฝีมือแบบศิลปินชื่อดังที่เรารู้จักกัน คิดไปคิดมายังไงก็คิดไม่ตกจนทำให้หลายคนอาจพับโปรเจ็ค ล้มเลิกความฝันที่จะเป็นนักวาดไปอย่างน่าเสียดายเพราะไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรงไหน แต่แน่นอนว่ายุค 2020s ที่ทุกอย่างย้ายจาก analog ไป digital หมดแล้ว ต้องมีทางออกดีๆ ให้เราได้เลือกเสมอ โดยแก็ดเจ็ตไอทีเพื่อคนรุ่นใหม่อย่างแท็บเล็ต ได้กลายเป็นสมาร์ทดีไวซ์ที่สามารถใช้ทดแทนสมุดวาดภาพหรือผ้าใบวาดภาพได้เป็นอย่างดี ตัดขั้นตอนการแสกนภาพขึ้นบนคอมพิวเตอร์แบบที่ทำกันในยุคแรกๆ แถมยังสามารถทำงานและกิจกรรมอื่นๆ บนเครื่องเดียวกันได้แบบชิลๆ แต่แท็บเล็ตที่มีคุณสมบัติและฟีเจอร์แบบไหน ถึงจะตอบโจทย์โดนใจสายอาร์ตและศิลปินในทุกเลเวล ไปดูให้หายสงสัยกันดีกว่า

1: ดีไซน์จับถนัดมือ วาดได้สบายตา

ก่อนอื่นแท็บเล็ตสำหรับวาดภาพ ควรมีรูปลักษณ์ภายนอกที่เหมาะสมจะรองรับจินตนาการอันไม่สิ้นสุดของเรา การออกแบบจึงเป็นเกณฑ์สำคัญมากเป็นอันดับหนึ่งในการเลือกแท็บเล็ตคู่ใจที่คุณจะพกไปวาดที่ไหนก็ได้ที่จะสปาร์คแรงบันดาลใจของคุณมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องตัวบอดี้ หรือหน้าจอ

อย่างแรกเลยตัวบอดี้ควรจะมีความเหมาะมือ จับถนัดเหมือนสมุดวาดภาพ แม้แท็บเล็ตจะเป็นนวัตกรรมที่มีมานานมากแล้ว แต่ยิ่งวันเวลาผ่านไป แต่ละเจ้าก็ยิ่งหาวิธีที่ทำให้เบาขึ้น และบางขึ้น จนล่าสุดมีความบางเฉียบจนไม่ถึง 1 ซม. และน้ำหนักเบากว่า 1 กก. กันเป็นส่วนใหญ่แล้ว แต่ความบางและเบานั้นไม่ได้ทำให้หน้าจอและพื้นที่วาดภาพเล็กลงไปด้วย เพราะแท็บเล็ตรุ่นพรีเมียมมีหน้าจอกว้างสูงสุด เกือบเท่าแล็ปท็อป 13 นิ้วที่เป็นไซส์มาตรฐาน ล่าสุดที่ออกมาก็คือ HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch ที่มีหน้าจอ 12.6 นิ้ว พร้อมด้วยอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องที่น่าประทับใจเพราะกว้างถึง 90% ของตัวเครื่อง โดยมีน้ำหนักบอดี้เพียง 609 กรัมนั่นเอง

ส่วนการแสดงผลหน้าจอก็มีความสำคัญมากกับงานวาด เพราะจำเป็นต้องมีความละเอียด และสีที่ชัดสมจริง เรียกได้ว่าวาดบนกระดาษออกมาเป็นยังไง วาดบนแท็บเล็ตต้องเป็นอย่างนั้น ประเภทของหน้าจอจะเป็นตัวกำหนดให้รู้ในจุดนี้ได้ หนึ่งในหน้าจอคุณภาพที่หลายคนเคยได้ยินก็คือ OLED ซึ่งเมื่อเทียบกับจอ LCD แล้วสามารถให้ความต่างระดับสี และคอนทราสต์ที่มากกว่า ทำให้ภาพมีความสมจริง อย่าง HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch จะใช้ระบบสีมาตรฐาน DCI-P3 มีความแม่นยำของสี △E <0.5 แสดงว่าสีจะใกล้เคียงกับสีที่ตาของมนุษย์มองเห็นในชีวิตจริงมากที่สุด

2: ปากกาต้องปัง วาดเขียนสุดมันส์ในแท่งเดียว

เมื่อเลือก “ผืนผ้าใบ” ที่เหมาะสมได้แล้ว อาวุธคู่กายของนักวาดก็คืออุปกรณ์การเขียน ในที่นี้ก็คือปากกาอิเล็กทรอนิกส์นั่นเอง แต่เนื่องจากการวาด ลงสี ไปจนถึงลบ ทุกอย่างจะจบในแท่งเดียว ปากกาของเราต้องมีความอัจฉริยะมากพอที่จะเปลี่ยนเครื่องไม้เครื่องมือได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส

สิ่งที่แนะนำมากที่สุดคือการใช้ปากกาที่ตรงยี่ห้อกับแท็บเล็ตนั้นๆ หลายคนอาจจะคิดว่าสามารถซื้อ stylus ราคาไม่แพงมาใช้กับแท็บเล็ตก็ได้ แต่นั่นหมายความว่าอาจจะมีความหน่วง และผู้ใช้จะไม่สามารถปลดล็อคประสิทธิภาพของแท็บเล็ตและปากกาได้ทั้งหมด งานชิ้นหนึ่งอาจจะเสียเวลาในการจิ้มเปลี่ยนเครื่องมือไปมาให้วุ่นวาย ถ้าแท็บเล็ตและปากกามีความเข้ากันได้สูงสุด ตัวปากกาก็จะมีความหน่วงต่ำ แถมการแตะแบบ Double-tap ก็จะช่วยให้เปลี่ยนระหว่างปากกาหรือดินสอ กับยางลบได้ ไม่ว่าจะวาดภาพหรืองานกราฟิกต่างๆ ก็จะลื่นไหล เช่น HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch ตัวล่าสุด ก็ควรจับคู่กับ HUAWEI M-Pencil (2nd generation) ที่อัปเกรดขึ้นจากรุ่นเดิมให้จับถนัดมือ และมีความแม่นยำมากขึ้น

3: ขยายขีดความสามารถของสายอาร์ตได้แบบไร้รอยต่อ

สำหรับนักวาดที่อาจจะใช้โปรแกรมศิลปะแบบแอดวานซ์แล้ว และอาจมีการทำมัลติมีเดีย และกราฟิกควบคู่กันบนแล็ปท็อปไปด้วย แท็บเล็ตจะกลายเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยยกระดับงานให้สะดวกสบายมากขึ้นไปอีก เพราะเมื่องานที่ทำอยู่บนแล็ปท็อปไปปรากฏอยู่บนหน้าจอแท็บเล็ต นั่นหมายความว่าเราจะสามารถใช้ปากกาในการวาด ลาก ย่อ ขยาย สิ่งต่างๆ ที่อยู่บนงานที่ทำอยู่ได้อย่างอิสระ

ฟีเจอร์ที่เป็นประโยชน์ต่อเทคนิคนี้คือการทำแท็บเล็ตให้เป็นหน้าจอที่สอง ซึ่งจะมีชื่อเรียกต่างๆ กันไปในแต่ละอีโคซิสเต็มของสมาร์ทดีไวซ์ อย่างของหัวเว่ยก็จะใช้คำว่า Multi-screen Collaboration หรือ HUAWEI Share โดยการใช้ฟีเจอร์นี้จะแนะนำให้แยกเป็นสองจอในแบบ Mirror Mode ที่แล็ปท็อปและแท็บเล็ตจะแสดงผลเหมือนกัน วิธีนี้ก็จะทำให้สามารถขีดเขียน และปรับงานของเราได้ตามใจชอบ โดยสามารถดูผลลัพธ์บนจอที่ใหญ่กว่าไปด้วยได้ ทั้งยังมีอีก 2 โหมดน่าสนใจคือ Extend Mode ที่แท็บเล็ต จะทำหน้าที่เป็นจอเสริม ขยายขีดความสามารถในการมองเห็น และ Collaborate Mode ที่ทำให้การรับส่งไฟล์ภาพวาดหรือไฟล์เอกสารต่างๆ ระหว่างแท็บเล็ตและแล็ปท็อป ไหลลื่นและลดทอนความยุ่งยากวุ่นวายในการโยนไฟล์ข้ามดีไวซ์ในแบบเดิมๆ

Bonus: แนะนำแอปสายอาร์ตที่ควรมีติดแท็บเล็ต

เมื่อพูดถึงแท็บเล็ตไปแล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างคือแอปพลิเคชันเจ๋งๆ ที่สามารถดาวน์โหลดจากตลาดแอปพลิเคชันที่คุณใช้มาลงในเครื่องได้ ให้สามารถผลิตผลงานได้หลากหลาย โดยมีแอปฯ แนะนำดังต่อไปนี้

  • แอปพลิเคชันสำหรับสายทัศนศิลป์ ใครรักการสร้างสรรค์ภาพที่มีความหมายลึก อยากมีผลงานศิลปะเป็นของตัวเอง หรือแม้กระทั่งเป็น illustrator สามารถดาวน์โหลดแอปวาดภาพที่มีอุปกรณ์ทั้ง ดินสอ ปากกาหมึก สีพ่น หรือพู่กัน แอปเหล่านี้สามารถสร้างผลงานที่ดูเหมือนภาพบนผืนผ้าใบจริง อย่าง Tayasui Sketch, Autodesk SketchBook, Huion Sketch หรือใครอยากฝึกพู่กันจีนสามารถใช้แอปฯ Zen Brush 3 ได้
  • แอปพลิเคชันสำหรับนักวาดการ์ตูน แฟนมังงะ หรืออนิเมะที่นับถือนักวาดการ์ตูนเป็นไอดอลจะต้องได้สนุกกับฟีเจอร์มากมายที่เอื้อสำหรับการวาดการ์ตูน Medibang Paint มีให้พร้อมทั้งแปรง ฟอนต์ และพื้นหลังสำเร็จไว้ให้สร้างสรรค์งานการ์ตูนโดยเฉพาะ ส่วน ibisPaint ช่วยสานฝันของคนรักเว็บตูนที่นอกจากจะสามารถวาดการ์ตูนด้วยเครื่องมือต่างๆ ได้แล้ว ยังเรียนรู้จากงานของคนอื่น และแชร์งานของตนเองในคอมมูนิตี้ของแอปฯ ได้ด้วย
  • แอปพลิเคชันสำหรับมนุษย์ออกแบบ ด้านสายงานสถาปัตย์ หรือมัลติมีเดียก็สามารถใช้แอปพลิเคชันที่ช่วยสร้างผลงานออกแบบที่มีคุณภาพได้เช่นกัน Concepts มอบพื้นที่ให้ผู้ใช้ได้วาด จดโน้ต เขียนโครง และทำสตอรี่บอร์ดเพื่อทำไอเดียให้เป็นจริงได้ไม่ว่าจะงานเดี่ยวหรือทีม ส่วน Canva จะเหมาะกับสายกราฟิก มอบเครื่องมือง่ายๆ แบบสำเร็จรูป พร้อมเทมเพล็ตหลายรูปแบบให้เลือกใช้สำหรับครีเอทีฟมือใหม่ได้พัฒนาฝีมือตนเอง

แอปพลิเคชันดังกล่าวสามารถดาวน์โหลดได้บนตลาดแอปพลิเคชันชั้นนำทั่วไป รวมถึง HUAWEI AppGallery ที่ได้นักพัฒนามากมายมาร่วมสร้างแอปฯ ใหม่ๆ กันอย่างต่อเนื่อง และขอย้ำอีกทีกับโปรสุดคุ้มเมื่อซื้อ HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch ในสี Matte Grey ด้วยราคาเพียง 28,990 บาท ตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายน 2564 ถึงวันที่ 7 กรกฎาคม 2564 รับไปเลยของสมนาคุณจัดเต็มอย่าง HUAWEI Smart Magnetic Keyboard, HUAWEI M-Pencil, HUAWEI Cloud (200GB ระยะเวลา 3 เดือน), HUAWEI VDO (ระยะเวลา 1 เดือน), WPS VIP (ระยะเวลา 3 เดือน) และ FilmoraGo VIP (ระยะเวลา 3 เดือน) มูลค่ารวม 11,517 บาท เมื่อซื้อที่ https://bit.ly/2TyFNa0 รวมถึง HUAWEI Store, JD Central, Lazada, Shopee, HUAWEI Experience Store, และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ

สามารถติดตามรายละเอียดโปรโมชันอื่นๆ ได้ทาง เฟซบุ๊กเพจ Huawei Mobile TH และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้ที่นี่

รายละเอียดเงื่อนไขโปรโมชันเพิ่มเติม http://bit.ly/MatePadProTH

Advertisement

กำลังฮอต

HUAWEI Band 9 ราคาเริ่มต้น 1,299 บาท HUAWEI Band 9 ราคาเริ่มต้น 1,299 บาท
Featured4 วัน ago

5 ข้อควรรู้ก่อนเลือกซื้อสมาร์ทแบนด์ กับความครบเครื่องของ HUAWEI Band 9 สมาร์ทแบนด์ที่เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ทุกรุ่น ดูแลสุขภาพยืนหนึ่งในราคาเริ่มต้น 1,299 บาท

ใครที่อยู่ในช่วงเริ่...

Apple News1 สัปดาห์ ago

AIS เปิดบริการ AIS Care+ with AppleCare Services รายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้ผู้ใช้อุ่นใจมากขึ้น สบายใจที่สุด

AIS คว้า AppleCare S...

Featured4 สัปดาห์ ago

รีวิว vivo Y100 5G สนุกกับสเปกเต็ม 100 ด้วยขุมพลัง SD 4 Gen 2 5G ดีไซน์อัปเกรดสุดพรีเมียม พร้อมชาร์จเร็ว 80W FlashCharge

รีวิว vivo Y100 5G น...

Featured1 เดือน ago

รีวิว realme 12+ 5G | realme 12 Pro+ 5G “Be a Portrait Master” ด้วยกล้อง Periscope ระดับเรือธง | ดีไซน์นาฬิกาหรู | ชาร์จไว 67W SUPERVOOC

รีวิว realme 12+ 5G ...

Featured1 เดือน ago

รีวิว Xiaomi 14 | 14 Ultra เรือธงกล้องเทพในสองขนาด พร้อมการถ่ายภาพและวิดีโอระดับ Next-Generation ของ Leica!

รีวิว Xiaomi 14 Seri...

IT News12 ชั่วโมง ago

หัวเว่ยเชิญนักพัฒนาแอปพลิเคชัน ร่วมมือปั้นเนทีฟ แอปฯ สำหรับระบบปฏิบัติการ HarmonyOS

ณ งาน Huawei Analyst...

Smart Review13 ชั่วโมง ago

รีวิว Redmi Note 13 Pro 5G สมาร์ทโฟนที่ใช้ขุมพลังตัวท็อป SD 7s Gen 2 พร้อมกล้องหลัง 200MP และชาร์จไว 67W 

รีวิว Redmi Note 13 ...

IT News14 ชั่วโมง ago

เอไอเอสจับมือกสทช. ดูแลผู้พิการรอบด้าน ตอกย้ำดิจิทัลเป็นหัวใจการสร้างความเท่าเทียมแก่ทุกกลุ่ม

นายวรุณเทพ วัชราภรณ์...

IT News14 ชั่วโมง ago

Redmi Note 13 Pro 5G วางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการตั้งแต่ 27 เม.ย. 67 เป็นต้นไปในราคาเพียง 12,990 บาท

เสียวหมี่ประกาศวางจำ...

IT News15 ชั่วโมง ago

realme เปิดตัวแบรนด์ช็อป เวอร์ชันล่าสุด “realme Experience Store 3.5”ครั้งแรกของเมืองไทย

ด้วยความมุ่งมั่นนำเส...

Advertisement

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก