Huawei G7 Plus สมาร์ทโฟนสานต่อความสำเร็จจากรุ่น G7 ดีไซน์สวยงามด้วยโลหะทั้งตัว มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว Full HD และมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง

 สรุปสเปค Huawei G7 Plus |  
- ราคาเปิดตัว 12,990 บาท (มกราคม 2559)
 - ขนาดตัวเครื่อง 152.5 x 76.5 x 7.5 มม.
 - น้ำหนัก 167 กรัม
 - 3G : 850 / 900 / 2100 MHz
 - LTE 4G
 - 2 ซิมการ์ด (Nano SIM + Nano SIM)
 - หน้าจอแสดงผล 5.5 นิ้ว IPS LCD 1080p
 - รันระบบปฏิบัติการ Android 5.1 Lollipop + EMUI 3.1
 - ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 616
 - ซีพียู Octa-core (Quad-core 1.5 GHz Cortex-A53 และ Quad-core 1.2 GHz Cortex-A53)
 - จีพียู Adreno 405
 - แรม 3 GB
 - ความจำภายในตัวเครื่อง 32GB เพิ่มได้ด้วย microSD card สูงสุด 128GB (ใส่ช่องซิม 2)
 - กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ระบบกันภาพสั่นไหว OIS และแฟลช Dual LED แบบ Dual tone
 - กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
 - รองรับ Wi-Fi b/g/n, Bluetooth 4.0
 - รองรับระบบ GPS, A-GPS
 - แบตเตอรี่ 3,000 mAh ถอดเปลี่ยนเองไม่ได้
 - เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
 
 ดีไซน์ ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล |  

Huawei G7 Plus เป็นชื่อรุ่นที่ทำตลาดในเอเชีย ในบางประเทศจะใช้ชื่อรุ่นว่า G8 นั่นเอง โดยรุ่นนี้มีดีไซน์ที่โดดเด่นด้วยตัวเครื่องที่เป็นโลหะทั้งตัว และมีความบางเพียง 7.5 มม. ซึ่งมุมเครื่องจะมีการดีไซน์ให้โค้งมน และขอบจอค่อนข้างบาง จึงทำให้ขนาดตัวเครื่องของรุ่นนี้ดูไม่ใหญ่มาก เมื่อเทียบกับขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้ว
หน้าจอของ G7 Plus มีขนาด 5.5 นิ้ว เป็นแผงหน้าจอ IPS LCD ความละเอียด 1080 x 1920 พิกเซล ให้ความหนาแน่นของจุดพิกเซลประมาณ 401 พิกเซลต่อนิ้ว (PPI) ครอบด้วยกระจก 2.5D Gorilla Glass ซึ่งก็เปนอีกหนึ่งจุดที่ช่วยให้รุ่นนี้ดูสวยเด่นด้วยกระจกขอบโค้งมน และปกป้องรอยขีดข่วน

เหนือหน้าจอมีเลนส์กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล, เซ็นเซอร์วัดแสง และช่องลำโพงสำหรับเสียงสนทนาการโทร

ล่างหน้าจอมีโลโก้ Huawei และเมื่อมองลึกลงไปจะเห็นว่าภายในมีดีไซน์พื้นผิวเป็นลวดลายด้วย

ขอบด้านบนมีมีช่องสำหรับหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม. และไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน ส่วนเส้นคาดขาว ๆ ที่เห็นกันนั้นคือบริเวณเสาอากาศรับสัญญาณ ซึ่งมีอีกที่ขอบด้านล่างตัวเครื่อง เพื่อช่วยในการสลับเพื่อค้นหาสัญญาณที่ดีที่สุด

ขอบด้านล่างที่เห็นเป็น 6 ช่องแรกนั้นเป็นไมโครโฟน ซึ่งดีไซน์ให้คล้ายกับช่องลำโพง ถัดมาเป็นพอร์ตเชื่อมต่อขนาด micro USB สำหรับชาร์จไฟแบตเตอรี่หรือถ่ายโอนข้อมูลผ่านสายเคเบิล และช่องลำโพง ซึ่งย้ายมาไว้ในส่วนนี้เพื่อแก้ปัญหาการบังเสียงจากเดิมในรุ่น G7 จะอยู่ที่ด้านหลังตัวเครื่อง อีกทั้งยังช่วยให้ดูสวยงาม ทันสมัย

ขอบด้านขวาตัวเครื่องมีปุ่มปรับระดับเสียงที่มีลักษณะเป็นปุ่มยาวติดกันระหว่างปุ่มลดเสียงกับเพิ่มเสียง และถัดมาเป็นปุ่ม Power สำหรับปิด/เปิดเครื่องหรือปิด/เปิดหน้าจอ ซึ่งมีการใส่ลวดลายลงในปุ่มนี้ด้วย

ขอบด้านซ้ายมีช่องถาดใส่ซิมจำนวน 2 ช่อง รองรับขนาด Nano SIM ทั้ง 2 ช่อง หรือจะเลือกใส่ microSD card ในช่องซิม 2 ก็ได้ ขนาดความจุสูงสุด 128GB

ด้านหลังของ Huawei G7 Plus มีลักษณะผิวเรียบ และดีไซน์ส่วนบนกับส่วนล่างให้มีในส่วนของลวดลาย โดยไม่สามารถถอดฝาหลังได้เพราะเป็นโหละทั้งตัว ภายในมีแบตเตอรี่ขนาด 3,000 mAh


เลนส์กล้องหลังของ G7 Plus มีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ BSI พร้อมระบบกันภาพสั่นไหว OIS และมีค่ารูรับแสงขนาดใหญ่ f/2.0 เป็นเลนส์กว้างขนาด 28 มม. พร้อมแฟลช Dual LED แบบ True tone ถัดลงมาจะเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
 อินเตอร์เฟซและฟังก์ชั่นการใช้งาน |  

Huawei G7 Plus รันระบบปฏิบัติการ Android 5.1 Lollipop ครอบทับด้วย EMUI เวอร์ชั่น 3.1 ที่มีหน้าตาแบบเรียบ ๆ เฉดสีไอคอนต่าง ๆ ไร้แสงเงา โดยในหน้าล็อคสกรีนสามารถปลดล็อกเข้าใช้งานกล้องถ่ายรูปได้ด้วย
ในหน้าล็อคสกรีนจะมีเอฟเฟ็กต์ขณะปลดล็อคหน้าจอด้วยแสงเปล่งประกาย และมีไอคอนลัดสำหรับเรียกใช้งานแอพโดยไม่ต้องปลดล็อคหน้าจอ ได้แก่ เครื่องบันทึกเสียง, เครื่องคิดเลข, ไฟฉาย และกล้องถ่ายรูป

การจัดการหน้าจอหลักหรือหน้าโฮมสามารถเพิ่มหน้าโฮม, เปลี่ยนวอลเปเปอร์, เพิ่มวิตเจ็ด, เปลี่ยนเอฟเฟ็กการเลื่อนหน้าจอ และจัดเรียงไอคอนแอพพลิเคชั่นได้ 4 x 5 แถว โดยหลังจากดาวน์โหลดหรือติดตั้งแอพพลิเคชั่นเพิ่มเติม ไอคอนจะถูกเรียงไว้ที่หน้าโฮมอัตโนมัติ สามารถลากไอคอนแอพพลิเคชั่นเพื่อรวมกันเป็นโฟลเดอร์ได้ เหมาะกับการรวมแอพไว้เป็นกลุ่มและตั้งชื่อโฟลเดอร์ได้ด้วย หรือจะแตะค้างที่ไอคอนแอพแล้วลากเพื่อลบการติดตั้งก็ได้เช่นกัน ทำได้เฉพาะแอพที่ติดตั้งเพิ่มเติมเอง ส่วนแอพที่มากับระบบไม่สามารถลบออกได้ และเมื่อปัดหน้าจอลงจะมีเมนูค้นหา และแสดงรายการแอพพลิเคชั่นที่ใช้งานล่าสุด

Huawei มีระบบธีมให้เลือกเปลี่ยนหลากหลายแบบ เผื่อใครเบื่อหน้าตาเดิม ๆ ก็สามารถเข้าไปดาวน์โหลดและเปลี่ยนใช้งาน ธีมดาวน์โหลดฟรีครับ

การแจ้งเตือนจะแสดงรายการแบบไทม์ไลน์ เลือกแตะที่รายการเพื่อเปิดู หรือปัดซ้าย/ขวาเพื่อลบกาาแจ้งเตือน และส่วนของ Controal Panel มีเมนูสำหรับจับภาพหน้าจอให้ด้วย

ในส่วนของ Task switcher แสดงรายการแอพพลิเคชั่นที่เปิดใช้งานอยู่ สามารถปัดที่รายการแต่ละอันเพื่อปัดหรือปัดด้านล่างขึ้นเพื่อปิดการใช้งานทั้งหมด

Huawei G7 Plus รองรับ 2 ซิม ใช้งาน 3G ได้ทุกเครือข่าย และใช้งาน 4G LTE ในไทยได้ โดยช่องซิม 1 จะรองรับเครือข่ายทั้ง 3G และ 4G ส่วนช่องซิม 2 จะรองรับเฉพาะ 2G

ฟีเจอร์การควบคุมการเคลื่อนไหวด้วยท่าทางที่มีให้ใช้งานบน G7 Plus ได้แก่
- คว่ำหน้าจอเพื่อปิดเสียงเรียกเข้า หรือเสียงปลุก
 - ยกมือถือแนบหูเพื่อรับสาย หรือโทรออก
 - เขย่าเพื่อจัดเรียงไอคอนหน้าโฮมใหม่
 - แตะค้างที่ไอคอนหรือวิดเจ็ตแล้วเอียงหน้าจอเพื่อเลื่อนไปวางไว้ในหน้าถัดไป
 

ปุ่มนำทางด้านล่างสามารถปรับสลับตำแหน่งหรือเพิ่มเมนูเรียกดูการแจ้งเตือนได้

การใช้งานมือเดียว เป็นการลดขนาดการแสดงผลให้เป็นหน้าต่างขนาดเล็กลง สามารถใช้งานมือเดียวได้

แผงปุ่มไอคอนลัด เป็นการเปิดใช้งานไอคอนที่รวมไอคอนปุ่มนำทางไว้ในปุ่มเดียวและปุ่มนี้จะลอยอยู่บนหน้าจอทุกหน้า

ระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ จดจำได้สูงสุด 5 ลายนิ้วมือ ใช้สำหรับปลดล็อคหน้าจอ และล็อคแอพพลิเคชั่น ซึ่งแตะสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อคหน้าจอได้แม้หน้าจอดับอยู่

Huawei G7 Plus มีแบตเตอรี่ขนาดความจุ 3,000 mAh ฝังมากับตัวเครื่อง มีโหมดสำหรับจัดการพลังงานให้เลือกใช้งานด้วย ได้แก่ โหมดปกติ/โหมดอัจฉริยะ จะมีการปรับการทำงานของซีพียูและจัดการรวมถึงปิดการทำงานเบื้องหลังด้วย ซึ่งก็ใช้งานฟังก์ชั่นได้ปกติทุกผังก์ชั่นแต่จะช่วยยืดระยะการใช้งานได้ยาวนานขึ้น
โหมดประหยัดพลังงานขึ้นสูง จะใช้งานได้เฉพาะฟังก์ชั่นพื้นฐาน เช่น การโทร ข้อความ เป็นต้น และหน้าจอแสดงผลจะเปลี่ยนเป็นขาวดำเพื่อแลกกับการยืดระยะเวลาให้ใช้งานได้นานขึ้น เหมาะสำหรับยามฉุกเฉินที่ไม่สามารถหาที่ชาร์จแบตได้
 ตรวจสอบเซ็นเซอร์ด้วย Android Sensor Box และมัลติทัช |  

- Accelerometer Sensor ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้
 - Light Sensor สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอและแผงปุ่มกดให้เหมาะสม
 - Orientation Sensor ระบบปรับมุมมองการแสดงผลหน้าจออัตโนมัติ
 - Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน
 - Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
 - Magnetic Sensor ตรวจวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก
 - รองรับมัลติทัชสูงสุด 10 จุด
 
 ผลทดสอบคะแนน Benchmark และประสิทธิภาพการทำงาน |  

Huawei G7 Plus รันระบบปฏิบัติการ Android 5.1 Lollipop ซึ่งเป็น 64-bit ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 616 ซีพียู Octa-core (Quad-core 1.5 GHz Cortex-A53 และ Quad-core 1.2 GHz Cortex-A53) ซึ่งเป็นซีพียู 64-bit ทั้งตัวระบบและซีพียูต่างก็เป็น 64-bit ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพสูงสุด กับจีพียู Adreno 405 และแรม 3 GB
ผลการทดสอบ AnTuTu 6.0 ในโหมด 64-bit ซึ่งเป็นการทดสอบการเข้าถึงการทำงานของแรม และประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยประมวลผลกราฟิกหรือจีพียู ทำคะแนนรวมได้ 33,219 คะแนน ระดับคะแนนถือว่าอยู่ในระดับกลาง ๆ

ทดสอบด้วย Geekbench 3 เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการทำงานและการประมวลผลและหน่วยความจำแรม การทดสอบนี้จะทำการประมวลออกมาเป็นตัวเลขแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ Single-Core และ Multi-Core หากได้คะแนนยิ่งสูงประสิทธิภาพการทำงานจะยิ่งดี โดยผลทดสอบของ Huawei G7 Plus ทำคะแนน Single-Core ได้ 685 และ Multi-Core ทำได้ 2,823 คะแนน
 กล้องถ่ายรูป |  

Huawei G7 Plus มีกล้องหลังขนาดความละเอียด 13 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ BSI มีค่ารูรับแสงขนาดใหญ่ f/2.0 เป็นเลนส์กว้างขนาด 28 มม. และระบบกันภาพสั่นไหว OIS พร้อมแฟลช Dual LED แบบ True tone ซึ่งตัวแอพกล้องมีระบบออโต้โฟกัส และแยกจุดโฟกัสออกจากจุดวัดแสงได้

ตัวกล้องรองรับการถ่ายภาพขนาดสูงสุด 4160 x 3120 พิกเซล (ประมาณ 12.98 ล้านพิกเซล) ในอัตราส่วน 4:3 มีระบบแนบตำแหน่งแผนที่ลงในภาพถ่าย, ตรวจจับรอยยิ้ม และการติดตามวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่ด้วยระบบ Focus Tracking


โหมดพาโนรามา
โหมดกล้องที่มีมาให้ใช้งาน ได้แก่ พาโนรามา, HDR, โฟกัสทั้งหมด, ภาพที่ดีที่สุด, ลายนิ้ว และสมุดโน้ตแบบเสียง

ก่อนถ่ายภาพสามารถเลือกใช้งานฟิลเตอร์ได้แบบเรียลไทม์เพื่อดูตัวอย่างก่อนถ่ายจริงได้ด้วย
 
โหมดภาพที่น่าสนใจนอกเหนือไปจากโหมดเซลฟี่หน้าสวย ก็คือ โหมดอาหารน่าอร่อย (Good Food Mode) ซึ่งช่วยให้สัสันของอาหารดูน่าทานมากขึ้นนั่นเอง
ตัวอย่างภาพถ่าย
 
 
 
สรุปจุดเด่น
- ตัวเครื่องแข็งแรงด้วยโลหะ และดีไซน์สวยงาม ตัวเครื่องบาง
 - หน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว IPS LCD 1080p
 - ทั้งระบบปฏิบัติการและชิปประมวผลเป็น 64-bit
 - แรม 3 GB และความจำภายในตัวเครื่อง 32GB เพิ่มได้ด้วย microSD card สูงสุด 128GB (ใส่ช่องซิม 2)
 - กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ระบบกันภาพสั่นไหว OIS และแฟลช Dual LED แบบ Dual tone
 - มีระบบความปลอดภัยด้วยเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
 - รองรับ 2 ซิม ใช้งานได้ทั้ง 3G และ 4G
 
จุดสังเกตเพิ่มเติม
- ไม่รองรับ Wi-Fi ac และไม่มี NFC
 
![]()
ขอขอบคุณ หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย)