รีวิว Galaxy Z Fold7 “เหนือกว่าที่เคยพับ” แล้วจะไม่ให้รักได้อย่างไร!

โดย Map

รีวิว Galaxy Z Fold7 มาแล้วครับ! เรือธงจอพับรุ่นล่าสุดของ Samsung ในปีนี้ที่ต้องบอกเลยว่า ถูกอัปเกรดมาอย่างชัดเจนจากรุ่นก่อน ๆ โดยเฉพาะเรื่องดีไซน์ที่บางลง เบาลง จนเทียบชั้นสมาร์ทโฟนเรือธง Bar Type ได้แล้ว ปรับขนาดสัดส่วนหน้าจอให้เข้าที่เข้าทางขึ้นอีก สเปคภายในที่อัปเกรดตามกับชิปเซ็ต Snapdragon 8 Elite for Galaxy กล้องที่ได้อัปเกรดในรอบหลายปีเป็น 200MP หรือจะเป็นซอฟต์แวร์ที่ให้ Android 16 (One UI 8.0) เวอร์ชั่นล่าสุดมาก่อนใครอีกด้วย

รีวิว Galaxy Z Fold7

หลังจากที่เราลองถือใช้งานจริงมากกว่าสัปดาห์ ก็บอกเลยว่านี่น่าจะเป็นเรือธงจอพับของ Samsung ที่ทุกคนรอคอยแล้วจริง ๆ ทำไมเราถึงคิดแบบนั้น ติดตามกันได้ที่ รีวิว Galaxy Z Fold7 นี้เลยครับ!

สรุปสเปค Samsung Galaxy Z Fold7

  • หน้าจอนอก : Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.5” ความละเอียด FHD+ (2520 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 21:9
  • หน้าจอใน : Dynamic AMOLED 2X ขนาด 8” ความละเอียด QXGA+ (2184 x 1968 พิกเซล) อัตราส่วน 20:18
  • Refresh rate: 1-120Hz
  • ความสว่างสูงสุด: 2600nits
  • CPU : Snapdragon 8 Elite For Galaxy Octa-Core 4.47GHz (3nm)
  • RAM : 12GB/16GB
  • ROM : 256GB/512GB/1TB
  • แบตเตอรี่ : 4400mAh
  • ระบบชาร์จ : 25W Super Fast Charge
  • กล้องหลัง : 3 ตัว
    • 200MP กล้องหลัก f/1.7, Quad Pixel AF, OIS
    • 12MP กล้อง Ultra Wide f/2.2 มุมกว้าง 123°
    • 10MP กล้อง Tele 3x f/2.4, OIS
  • กล้องหน้า (หน้าจอนอก) : 10MP f/2.2 (มุมกว้าง 85º)
  • กล้องหน้า (หน้าจอใน) : 10MP f/2.2 (มุมกว้าง 100º)
  • รองรับการเชื่อมต่อ : Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4, NFC และพอร์ต USB-C
  • กันน้ำ : มาตรฐาน IP48
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 16 (One UI 8.0)
  • สีสัน : Blue Shadow, Silver Shadow, Jet Black และ Mint (Online Exclusive)
รีวิว Galaxy Z Fold7

ดีไซน์ที่ลงตัว บางกว่าที่เคยพับมา!

เริ่มกันที่ดีไซน์เหมือนทุกทีเนอะ และบอกเลยว่ารอบนี้ดีไซน์นี่แหละคือ “ไฮไลท์หลัก” ของ Galaxy Z Fold7 เลยล่ะครับ แม้ภายนอกจะคล้ายกับรุ่นก่อน คือใช้ทรงเหลี่ยมกระจกหน้า-หลังแบนราบ แต่อย่างที่บอกไป ตัวเครื่องบางและเบาลงมาก แบบที่เรียกว่าท้าชนทุกคู่แข่งที่เคลมว่าเป็น “สมาร์ทโฟนจอพับที่บางและเบาที่สุด” ได้สบาย

รีวิว Galaxy Z Fold7

เพราะตัวเล็กความบางตอนพับจะเหลือเพียง 8.9 มม. ลดลงมาจาก 12.1 มม.ของรุ่นก่อน ต่างกันแบบเห็นได้ชัดเลย หยิบถือแล้วแทบไม่อยากเชื่อว่านี่คือสมาร์ทโฟนจอพับ เพราะนี่คือขนาดแบบเดียวกับเรือธงทรง Bar Type ที่เราคุ้นเคยกันดีเลย แถมดีไซน์ที่เป็นแบบเหลี่ยม ๆ ก็ยังทำให้เวลาอยู่บนมือแล้วรู้สึกถึงความพรีเมี่ยมเอามาก ๆ ด้วย

รีวิว Galaxy Z Fold7
รีวิว Galaxy Z Fold7

ยิ่งตอนกางนี่แทบไม่ต้องพูดถึง บางเหลือแค่ 4.2 มม. บางลงอีก 1.4 มม.เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน บอกเลยว่ายิ่งหลงเข้าไปใหญ่ เพราะนี่เป็นความบางที่จับถือได้สบายมือจริง ๆ ครับ เป็นตัวเลือกความบางแบบที่หาไม่ได้บนแท็บเล็ตจอเล็กที่ไหนแน่นอน หรือถ้าเทียบกับกลุ่มจอพับด้วยกันนี่ก็ถือเป็นความบางอันดับต้น ๆ ของปีนี้แล้วด้วย

รีวิว Galaxy Z Fold7
รีวิว Galaxy Z Fold7

พกพาสะดวกเพราะ เบากว่าที่เคย ๆ พับมา!

ไม่ใช่แค่บางเท่านั้น เพราะยัง “เบา” ลงอย่างเห็นได้ชัด Galaxy Z Fold7 มาพร้อมน้ำหนักตัวเพียง 215 กรัม เบาลงกว่ารุ่นก่อนถึง 24 กรัม อย่าว่าแต่เบาที่สุดใน Galaxy Z Fold เลย รอบนี้เบาที่สุดของสมาร์ทโฟนจอพับแบบพับใหญ่แล้วล่ะครับ

รีวิว Galaxy Z Fold7

อย่างว่างั้นงี้เลยครับ น้ำหนัก 215 กรัมนี้ยังเบากว่า Galaxy S25 Ultra เรือธงของ Samsung เองอีก นอกจากจะถือใช้งานได้สะดวกขึ้นแล้ว เวลาพกติดกระเป๋ากางเกง หรือกระเป๋าเสื้อก็จะได้ความคล่องตัวกว่าเดิมมาก ไม่รู้สึกว่าถ่วงในกระเป๋าเลย เรามาถึงยุคที่จอพับเบากว่าเรือธง Bar Type แล้วอะ สุดยอดจริง ๆ Samsung!

รีวิว Galaxy Z Fold7

หน้าจอนอกอัตราส่วนมาตรฐานขึ้น กว้างขึ้น (อีกครั้ง)

ขอพูดถึงเรื่องหน้าจอบ้างละกันเนอะ ถ้าใครที่ติดตาม Galaxy Z Fold มาตลอด จะเห็นว่า Samsung พยายามปรับแก้ให้การใช้งานจอนอกสะดวกขึ้นในทุก ๆ รุ่น ซึ่งรอบนี้ก็เป็นอีกครั้งที่จอนอกนั้นกว้างออกข้างไปอีก จากเดิมที่ใช้อัตราส่วน 22.1:9 บน Z Fold6 ก็ขยายออกมาเป็น 21:9 แล้วครับ เชื่อว่าใครที่ใช้ Z Fold มาตลอด มาใช้จอของ Z Fold7 จะรู้สึกได้ว่าจอมันกว้างขึ้นจริง แถมขนาดหน้าจอยังขยายใหญ่ขึ้นเป็น 6.5″ ด้วย

รีวิว Galaxy Z Fold7

ความละเอียดก็เยอะขึ้นเป็นจอแบบ FHD+ สักที คมชัดขึ้น ใช้งานได้สะดวกขึ้นเยอะ โดยเฉพาะตอนพิมพ์คีย์บอร์ด ที่ปกติเราอาจจะต้องตั้งใจเป็นพิเศษหากต้องใช้จอนอก เพราะตัวหน้าจอนั้นแคบกว่ารุ่นอื่น ๆ น่ะนะ

รีวิว Galaxy Z Fold7

แต่ถึงจะบอกว่าอัตราส่วนกว้างขึ้นจนเหมือนเป็นสมาร์ทโฟน Bar Type ทั่วไปแล้ว แต่ถ้าเอาตามตรงก็ยังห่างกันอยู่พอสมควร โดยเฉพาะกับเรือธง Galaxy S เอง ที่มีอัตราส่วน 19.5:9 เทียบกับ 21:9 ก็ห่างกันตั้ง 1.5 แหนะ ทำให้หากมาจาก Galaxy S สักรุ่นก็คงรู้สึกว่าจอของ Z Fold7 ยังยาว ๆ อยู่ดีครับเนาะ (รุ่นหน้าจอเขยิบให้กว้างขึ้นอีกไหมนะ รอลุ้น)

รีวิว Galaxy Z Fold7

หน้าจอหลักก็ใหญ่ขึ้นอีกด้วย

แน่นอนว่าพอจอนอกกว้างขึ้น ก็ส่งผลมาถึงจอหลักด้านในด้วย โดย Galaxy Z Fold7 จะได้จอด้านในขนาด 8″ เต็มตาเหมือนแท็บเล็ตไซซ์ย่อมเยา และมีอัตราส่วนจอเป็น 20:18 กว้างออกข้างไปตามจอนอกที่กว้างขึ้นอย่างที่บอก ให้เราใช้งานได้ทั้งแบบแนวตั้งหรือแนวนอนได้อยู่

รีวิว Galaxy Z Fold7

ด้านรอยพับ Samsung บอกว่ารอบนี้มีการอัปเกรดวัสดุของกระจก Ultra Thin Glass ให้หนาขึ้น 2 เท่า รวมถึงตัดเอาแผง Digitizer ที่รองรับปากกา S Pen ออกไปด้วย เพื่อแลกมากับความบางของตัวเครื่องโดยรวม และรอยพับที่รู้สึกได้น้อยลงเวลาสัมผัส ส่วนตัวก็ว่า Make Sense ครับ เพราะก่อนหน้านี้เราไม่ค่อยได้ใช้ S Pen บน Z Fold นัก ได้ความบางมาแทน รับได้อยู่

รีวิว Galaxy Z Fold7

รีวิว Galaxy Z Fold7 ในเรื่องการแสดงผลทั้งจอนอกและจอในยังได้เทคโนโลยี Dynamic AMOLED 2X มาทั้งคู่ รองรับ Refresh rate แบบ LTPO ปรับขึ้น-ลงได้ตั้งแต่ 1-120Hz ได้เหมือนกันด้วย ในเรื่องสีสันคงไม่ต้องพูดเยอะครับ สวยงามตามสไตล์ Samsung แหละ ความสว่างสูงสุดยังได้ที่ 2600nits ทั้งจอนอกและจอหลักเหมือนเดิม แต่เหมือนเดิมที่ว่าก็คือดีมากพอแล้ว

รีวิว Galaxy Z Fold7

โมดูลกล้องที่โดดเด่นขึ้น

พลิกกลับมาดูที่ด้านหลังตัวเครื่องกันบ้าง Galaxy Z Fold7 ยังคงได้กล้องหลังมา 3 ตัวเหมือนเดิม รอบนี้ Samsung เลิกใช้ดีไซน์วงแหวนที่กล้องหลังหนา ๆ และกลับมาใช้แบบเรียบแทบ สวยลงตัวขึ้น แถมพอกล้องไม่ได้ใหญ่แบบกินพื้นที่ไปเต็มส่วนบน ก็ทำให้ตัวเครื่องดูเพรียวบางลงอีกหน่อยด้งยนะ

รีวิว Galaxy Z Fold7

แต่ ๆ ที่บอกว่าเพรียวบางก็คือเครื่องเนอะ เพราะตัวโมดูลกล้องนี้ดูนูนขึ้นชัดเจน เพราะตัวเครื่องที่บางลงมาก แต่กล้องยังเป็นชุดเดิมเกือบหมด โมดูลกล้องก็เลยนูนขึ้นมาแบบชัดเจน บวกกับการใช้ดีไซน์ฐานกล้อง 2 ชั้น เลยทำให้ถ้าสังเกตจริง ๆ จะรู้สึกว่าแอบหนาไปเลย

รีวิว Galaxy Z Fold7

และข้อเสียหลักของความนูนของกล้องออกมาจากตัวเครื่องก็คือเวลาเราวางเครื่องใช้งาน จะรู้สึกถึงความเด้งของตัวเครื่องมากกว่าปกติ เพราะช่องว่างมีเยอะขึ้น ถ้าใช้งานจริง ๆ หาเคสมาใส่ก็คงพอแก้ได้อยู่ แต่ก็คงลดทอนความบางของตัวเครื่องไปด้วยน่ะนะ

รีวิว Galaxy Z Fold7

บานพับแข็งแรงขึ้น แม้ตัวเครื่องบางลง

แม้ตัวเครื่องจะบางและเบาลง แต่ในเรื่องความแกร่ง Galaxy Z Fold7 ก็ทำได้ดีขึ้นด้วย เริ่มจากกรอบเครื่อง Armor Aluminium ที่แข็งแกร่งขึ้น บานพับ Armor FlexHinge ที่บางลงแต่ทนทานขึ้น

รีวิว Galaxy Z Fold7

และอีกจุดที่เราชม Z Fold มาตลอดก็คือตัวบานพับนั้นให้อิสระผู้ใช้ได้มากจริง ๆ เพราะองศาที่กางได้ไม่ใช่แค่กางออก-พับเก็บเท่านั้น เราจะกางจนเกือบสุดไปเลยเพื่อดูคอนเทนต์ หรือจะหุบเข้ามาจนเกือบจะพับเพื่อถ่ายรูปมุมเสยก็ทำได้หมด บานพับแข็งแรงมาก แต่ยัฃให้ความรู้สึกที่ยืดหยุ่นสำหรับการพับ-กางได้ดีจริง ๆ

รีวิว Galaxy Z Fold7

นอกจากนี้ในเรื่องความทนทานของบานพับและวัสดุแล้ว Galaxy Z Fold7 ก็ได้มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP48 ด้วย ให้เราสามารถใช้งานได้อย่างมั่นใจเหมือนเดิม

รีวิว Galaxy Z Fold7

โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ Galaxy Z Fold7 ก็ถือว่าปรับปรุงครั้งใหญ่จริง ๆ ทั้งในเรื่องขนาดความบางและความเบา ที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน ทำให้เราประทับใจขึ้นมาก แก้จุดที่เคยเป็น Pain point หลักได้อย่างหมดจด กลับมาอย่างสมบูรณ์แบบจริง ๆ ล้อไม่ได้แล้วนะว่า หนา หนัก เพราะบางและเบาสุด ๆ แล้ว!

รีวิว Galaxy Z Fold7

รีวิว Galaxy Z Fold7 อัปเกรดกล้องระดับ Ultra!

มาต่อที่เรื่องกล้องเนาะ Galaxy Z Fold7 ปีนี้ได้อัปเกรดกล้องใหม่เสียที หลังจากใช้ชุดเดิมมาหลายรุ่น ซึ่งกล้องทั้งหมดจะมีด้วยกัน 5 ตัว และสเปคคร่าว ๆ ดังนี้เลย

  • กล้องหลัง : 3 ตัว
    • 200MP กล้องหลัก (ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.3″) f/1.7, Quad Pixel AF พร้อม OIS
    • 12MP กล้อง Ultra Wide f/2.2 มุมกว้าง 123°
    • 10MP กล้อง Tele f/2.4 Optical Zoom 3X พร้อม OIS
  • กล้องหน้า (หน้าจอนอก) : 10MP f/2.2 มุมกว้าง 85º
  • กล้องหน้า (หน้าจอใน) : 10MP f/2.2 มุมกว้าง 100º
รีวิว Galaxy Z Fold7

โดยกล้องที่อัปเกรดหลัก ๆ จะเป็นกล้องหลักที่เปลี่ยนจาก 50MP มาใช้เป็นกล้อง 200MP ตัวเดียวกับที่ใช้บน S25 Ultra เลย ทำให้ได้ความคมชัดมากขึ้นถึง 4 เท่า และเก็บแสงได้ดีขึ้นอีก 43% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน ในที่สุดก็ได้กล้องที่สมกับระดับ Ultra แล้วนะปีนี้

รีวิว Galaxy Z Fold7

และกล้องอีกตัวคือกล้องหน้าในหน้าจอ หลังจากที่ฝืนใช้กล้องใต้หน้าจอความละเอียด 4MP ที่คุณภาพไม่ค่อยสู้ดีมานาน ในที่สุดก็กลับไปใช้กล้องแบบเจาะรูเสียที แถมกลับมาครั้งนี้ได้มุมกว้างขึ้นเป็น 100º ด้วย จบปัญหาเดิม ๆ เรื่องเวลาใช้กล้องหน้าด้านในเซลฟี่หรือวิดีโอคอลได้เลย ชัดแจ๋วขึ้นมาเลยล่ะ

รีวิว Galaxy Z Fold7

ได้ ProVisual AI Engine ใหม่ ปรับจูนภาพสมจริงยิ่งขึ้น

ด้านซอฟต์แวร์ ก็จะได้ ProVisual AI Engine เข้ามาประมวลผลภาพเพิ่มเติม แบบเดียวกับ Galaxy S25 Series ซึ่ง โทนในยุคหลัง ๆ ของ Samsung ก็จะมีความสมจริงยิ่งขึ้น ไม่เน้นแต่งภาพให้เว่อเกินจริงแล้ว ได้ภาพดูสวยงามเป็นธรรมชาติมากขึ้น เก็บรายละเอียดของภาพมาได้เยอะกว่าเดิมนั่นเองครับ

รีวิว Galaxy Z Fold7

ในเรื่องของโหมดการถ่ายภาพก็มีมาให้ครบตามมาตรฐานของสมาร์ทโฟน Samsung ในยุคใหม่ทั้ง Portrait, Portrait Video, Night mode, Pro, Dual Record หรือ Single Take เป็นต้น และความดีงามของรุ่นจอพับก็คือมี Flex mode ให้เรากางจอเพื่อใช้งานในองศาต่าง ๆ ได้ ตัว UI จะปรับไปตามท่าทางของเครื่อง หรือจะเลือกใช้งานให้หน้าจอนอกแสดงตัวอย่างให้อีกฝั่งหนึ่งได้เห็นก่อนถ่ายก็ได้เช่นกัน

รีวิว Galaxy Z Fold7

ส่วนคุณภาพที่ได้จากกล้องของ Galaxy Z Fold7 ก็ทำได้ดีขึ้นด้วยฮาร์ดแวร์ที่อัปเกรดอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในกล้องหลัก ที่เก็บแสงได้ดีจริง มิติดีขึ้น บวกกับการประมวลผลแบบใหม่ จะได้ภาพที่มีความเรียล สมจริงกว่าเดิม สีสันตรงขึ้น ระยะกล้องที่ให้มาก็ถือว่าเพียงพอครับใช้ได้ตั้งแต่ Ultra Wide มุมกว้างมาก จนถึงซูมระยะ 3x – 5x ด้วย และรู้สึกได้เลยว่าการประมวลผลผ่าน ProVisual AI Engine รอบนี้ทำงานได้เร็วขึ้นมาก ใช้ได้ครับ ๆ

รีวิว Galaxy Z Fold7 กล้องถ่ายรูป

และกล้องหน้าในหน้าจอหลักที่เราชอบมาก ๆ เพราะรอบนี้ได้กล้องแบบเจาะรูจริง ๆ ถ่ายสวยขึ้นเยอะ มุมก็กว้างอย่างที่บอก ทำให้เราอยากจะเซลฟี่ด้วยกล้องหน้ามากขึ้น ไม่ฝืนใจเหมือนรุ่นก่อน ๆ ที่เป็นกล้องใต้หน้าจอจริง ๆ

วิดีโอถ่ายไฟล์ Log ได้แล้วนะ สูงสุด 8K/30fps

ส่วนเรื่องวิดีโอ Galaxy Z Fold7 ก็ให้เราถ่ายไฟล์ Log ได้แล้ว เช่นเดียวกับ Galaxy S25 Series ที่เปิดตัวไปเมื่อต้นปี บนความละเอียดสูงสุด 8K/30fps เลยด้วยนะ แต่จะจำกัดอยู่แค่กล้องหลักอย่างเดียว ถ้าอยากได้แบบครอบคลุม ก็เลือกไปที่ 4K/60fps ได้ครับ ตรงนี้ได้ครบทุกกล้อง เปิด Log ได้ และขณะถ่ายก็สลับกล้องไป-มาได้หมดเลยด้วย

โดยรวมในเรื่องกล้องก็ถือว่าอัปเกรดมาให้สมกับเป็นรุ่นท็อปสุดหน่อย แม้จะแค่กล้องหลักตัวเดียวก็ตาม แต่ก็ช่วยให้เราถ่ายภาพได้สนุกขึ้น มีมิติและความคมขัดที่ดีขึ้น ตัวซอฟต์แวร์ ProVisual AI Engine ก็เก่งในการคุมโทนภาพให้ดูเป็นธรรมชาติ และสำหรับใครที่เลือกใช้ถ่ายวิดีโอก็คงถูกใจขึ้นด้วยเพราะมีทั้งความละเอียดสูงกับไฟล์ Log ให้เลือกแล้ว

ใช้ One UI 8 บน Android 16 ใหม่ล่าสุดเหนือใคร

ด้านซอฟต์แวร์ Galaxy Z Fold7 ก็มาพร้อม One UI 8 บนพื้นฐาน Android 16 เลย เรียกว่าใหม่ล่าสุดกว่าใครทั้งนั้น มีการปรับปรุงในเรื่องของ UI และความลื่นไหลในการใช้งานให้มากขึ้นกว่า One UI 7 (ที่ลื่นมาก ๆ อยู่แล้ว)

ตัว UI มีการปรับให้เข้ากับการใช้งานของรุ่นจอพับมากขึ้น ในหน้าจอนอกเวลาเราใช้งานก็จะเหมือนสมาร์ทโฟน Galaxy ทั่วไป แต่ถ้ากางหน้าจอออกมาแอประบบจะมีการปรับรูปแบบให้เข้ากับสัดส่วนจอใหญ่มากขึ้น

อย่างแอป Gallery ที่ปกติจะแบ่งพวก Tab ไว้ที่มุมล่างของหน้าจอ แต่พอเรากางจอให้ใหญ่ขึ้น มีพื้นที่มากขึ้นก็จะเลื่อน Tab ไปอยู่ฝั่งซ้ายเหมือนพวกแท็บเล็ตแทน ทำให้มีพื้นที่และเข้าถึงได้สะดวกมากยิ่งขึ้นด้วย

Galaxy Z Fold7 ใช้งานหลายแอปยังสะดวกเหมือนเคย

และความดีงามของ Galaxy Z Fold7 ที่เวลากางออกจะเหมือนเป็นแท็บเล็ตจอเล็กสักเครื่อง ก็ช่วยให้เราสามารถแบ่งหน้าจอทำงานได้อย่างหลากหลาย จะ 2 แอปเป็น 2 ฝั่ง หรือจะรวมกันเป็น 3 แอป 4 แอปพร้อมกันก็ยังได้ Samsung เขาเก่งเรื่องนี้มาอยู่แล้ว แถมทำได้ทุกแอปเลยด้วยนะ

Galaxy AI ยังมีมาให้ใช้ครบ

ด้านฟีเจอร์ Galaxy AI ก็ไม่ต้องห่วงเลยครับ Galaxy Z Fold7 ยังมีมาให้ใช้งานกันครบ ทั้ง ผู้ช่วยการโทร, ผู้ช่วยการเขียน, แปลภาษากับ Interpreter, สรุปความในหน้าเว็บ, ตกแต่งภาพ หรือ Audio Eraser ต่อยอดมาจากตอน S25 Series อย่างครบถ้วน

Photo Assist ลบคน ลบวัตถุ ตกแต่งเนียน

รีวิว Galaxy Z Fold7 ในเรื่องการลบคน ลบวัตถุ ตกแต่งเนียน แม้หลัก ๆ จะไม่ได้เพิ่มเติมเข้ามามากมาย แต่ที่มีให้ก็ถือว่าสมบูรณ์และใช้งานได้อย่างครบถ้วนแล้ว อย่าง Photo Assist ตกแต่งภาพ ที่สามารถลบวัตถุที่ไม่ต้องการออกจากภาพ ลบคนที่เผลอ Photobomb มาในภาพ ซึ่งตอน S25 Series ก็สร้างตำนานความเนียนไว้มาก รอบนี้ Z Fold7 ก็ทำได้ดีไม่แพ้กันครับ

หรือจะเป็น Portrait Studio รอบนี้ก็มีลูกเล่นใหม่ที่เพิ่มการแปลงภาพของน้องหมา น้องแมว เข้ามาแล้ว เป็น 4 จากเดิมที่ทำได้แค่เฉพาะภาพคน เป็น 4 สไตล์ได้แก่ Studio, 3D Cartoon, Fisheye lens และ Oil Painting สนุก น่ารัก น่าสนใจขึ้นมาก

Writing Assist ช่วยเขียน ช่วยแต่งประโยคให้เราอย่างมืออาชีพ

หรือสำหรับสายพิมพ์ สายแชท Writing Assist ก็จะมาจัดการรูปแบบประโยคใหม่ให้ใช้งานจริง ช่วยสร้างประโยคจากคำไม่กี่คำได้เลย กับ 4 รูปแบบคือ มาตรฐาน, อีเมล, โซเชี่ยลมีเดีย, คอมเมนต์ และเรายังสามารถเลือกรูปแบบของประโยคได้อีกว่าจะเป็น ทางการ, สบาย ๆ หรือสุภาพอีกต่างหาก สะดวกสำหรับงานเขียนทุกรูปแบบจริง ๆ เลยล่ะอันนี้

Now Brief ที่เข้าถึงได้มากขึ้น

ตอน S25 Series ที่มาพร้อม One UI 7 มีการเพิ่มฟีเจอร์ Now Brief เข้ามา สรุปสิ่งที่เราควรทำในแต่ละวันให้ ซึ่งรอบนี้ก็จะเข้าถึงหลายแอปมากขึ้น สามารถแนะนำเราได้มากกว่าเวอร์ชั่นก่อน ๆ หาคลิปที่น่าสนใจจาก YouTube มาแนะนำให้เราด้วยนะ

Gemini Live ใหม่ ผ่านกล้องและหน้าจอเรา

หรือผู้ช่วย AI รอบนี้เก่งขึ้นกว่าเดิม เพราะมี Gemini Live ที่สามารถใช้งานร่วมกับกล้องได้แล้ว เราสามารถเปิดกล้องและสอบถามข้อมูล หรือความเห็นกับ Gemini ได้แบบเรียลไทม์ ยกตัวอย่างว่า อยากรู้ว่าสินค้านี้คืออะไร หาซื้อได้ที่ไหน ? แค่ส่องกล้องไป Gemini ก็จะคอยหาข้อมูลมาให้ หรือเราอยากได้วิธีการแต่งตัวให้ตรงธีม Gemini จะคอยแนะนำมาให้ได้เหมือนกัน

หรือถ้าอยากรู้จากในหน้าจอเราเลยล่ะ ? ก็ไม่ต้องห่วง เพราะเราสามารถใช้ Gemini Live ร่วมกับภาพหน้าจอบน Galaxy Z Fold7 ได้ด้วย เผื่อมีข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อมูลที่กำลังดูอยู่พอดี แถมความดีงามก็คือเราสามารถคุยกันในแบบภาษาคุยปกติได้เลย ไม่ต้องตั้งใจสั่งงานเป็นภาษาทางการให้ยุ่งยาก

อัปเกรดสเปค Snapdragon 8 Elite for Galaxy ชิปเซ็ตแรงที่สุดของจอพับ

มาต่อในเรื่องสเปคภายใน Galaxy Z Fold7 ได้อัปเกรดชิปเซ็ตเป็น Snapdragon 8 Elite For Galaxy เคลมว่า CPU เร็วขึ้น 38% NPU ไวขึ้น 41% และ GPU แรงขึ้น 26% แน่นอนว่าชิปนี้คือแรงที่สุดบนสมาร์ทโฟนจอพับตอนนี้แล้ว และ RAM รอบนี้ก็ได้อัปเกรดเพิ่มตัวเลือก 16GB มาให้บนรุ่นความจุสูงสุด 1TB ด้วยนะ

ส่วนผลการทดสอบ เราลองทดสอบกับทั้ง Geekbench 6 และ AnTuTu Benchmark คะแนนก็ออกมาตามนี้เลยครับ

  • AnTuTu Benchmark v10 = 2032722 คะแนน
  • Geekbench 6 = Single-Core 2726 | Multi-Core 9317

ประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีขึ้น

เรื่องผลทดสอบเราคงไม่ต้องห่วงอยู่แล้วเนอะ แค่เห็นชื่อชิปก็สบายใจได้แล้ว แต่ถ้าเอามาลองเล่นเกมจริง ๆ จัง ๆ ดูหน่อยล่ะ จะเป็นอย่างไร เพราะความได้เปรียบของ 2 หน้าจอบน Galaxy Z Fold7 นั้นสร้างประสบการณ์ที่น่าสนใจไม่น้อยเลยจริง ๆ โดยเกมที่เราใช้ทดสอบจะมี 3 เกมได้แก่ Asphalt 9, Hokkai Starrail และ Call of Duty Mobile ครับ

เล่น Asphalt 9 บน Galaxy Z Fold7

เริ่มที่เกมแข่งรถที่เราใช้ทดสอบบนมือถือหลายรุ่นอย่าง Asphalt 9 เราว่านี่คือหนึ่งเกมที่มีการปรับจูนให้เข้ากับมือถือได้เยอะมาก ๆ ทั้งอัตราส่วนการแสดงผล และการตั้งค่า ซึ่งบน Z Fold7 ก็แสดงผลได้เต็มจอทั้งในหน้าจอนอกและหน้าจอใน การตั้งค่ากราฟิกต้องบอกเลยว่า เลือกได้สุดทุกอย่าง ตั้งแต่คุณภาพการแสดงผล ไปจนถึงเฟรมเรตที่ได้ 120fps ด้วย แม้จะเปิดสุดทุกอย่างแล้ว ตัวเกมก็เล่นได้อย่างลื่นไหล ไม่เจออาการกระตุกเลย แถมเอฟเฟกต์ก็จัดเต็มขั้นสุดจริง!

เล่น Honkai Starrail บน Galaxy Z Fold7

ต่อมาเป็นเกมภาพสวยสุด ๆ อย่าง Honkai Starrail ซึ่ง Samsung ใช้เกมนี้โปรโมทบน Z Fold7 ด้วย เรื่องการตั้งค่ากราฟิก ไม่ต้องห่วงครับได้สูงสุดหมดคู่กับเฟรมเรตที่ 60fps เพียงพอต่อการเล่นแล้วแหละ ภาพในเกมสวยงามอลังการมาก ตัวอัตราส่วนของภาพในหน้าจอนอกแสดงผลได้เต็มพื้นที่ดี แต่ในหน้าจอในจะมีขอบดำบน-ล่างเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ติดขัดเวลาเล่นจริงครับ ยังให้ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมทั้ง 2 หน้าจออยู่ดี

เล่น Call of Duty Mobile บน Galaxy Z Fold7

ปิดท้ายที่เกมยิงยอดนิยมอย่าง Call of Duty Mobile ด้วยสเปคระดับนี้เราเลือกการตั้งค่ากราฟิกและเฟรมเรตได้ 2 แบบคือเน้นกราฟิก (Very High+Max) หรือเน้นเฟรมเรต (Medium+Ultra) ในการทดสอบเราเลือกไปที่เฟรมเรตสูงสุดเลย ดันได้ถึง 120fps ครับ ในภาพที่สวยเพียงพอ ความลื่นไหลดีงาม ตอบสนองไว ส่วนการแสดงผลก็ดีทั้ง 2 หน้าจอครับ ถ้าให้ใกล้เคียงกับมือถือทั่วไปเล่นจอนอก หรือถ้าอยากได้เปรียบในเรื่องความกว้างของฉากเวลาเล่น Battle Royale ก็ใช้หน้าจอในได้เลย เพราะได้ภาพกว้างแบบเต็มตัวเลยล่ะ

ตัวเครื่องบางลงมาก แต่แบตเตอรี่ยังเท่าเดิม!

ปิดท้าย รีวิว Galaxy Z Fold7 ด้วยเรื่องแบตเตอรี่ แม้ Galaxy Z Fold7 จะมีตัวเครื่องที่บางลงจากรุ่นก่อนมาก แต่…แบตเตอรี่ภายในยังให้ความจุมาเท่าเดิม ที่ 4400mAh ถือว่าน่าสนใจ เพราะแม้จะไม่ได้เพิ่มขึ้น แต่ไม่ลดลงก็โอเค ในการใช้งานทั่วไป ยังอยู่ในเกณฑ์ดีครับ เท่าที่เราลองใช้งานแบบจริงจังตลอด 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาก็ถือว่าใกล้เคียงกับ Galaxy S25 Ultra ได้อยู่ครับ ต้องยกความดีความชอบให้ชิป Snapdragon 8 Elite กับซอฟต์แวร์ที่จูนมาดีจริง ๆ

ระบบชาร์จก็…ยังได้ 25W เหมือนเดิม

ส่วนเรื่องระบบชาร์จ Galaxy Z Fold7 ยังมีระบบชาร์จไว 25W Super Fast Charge มาให้เท่าเดิม พอเทียบกับความจุแบตฯที่เท่าเดิม ก็ไม่ได้เป็นข้อเสียอะไรครับ คิดว่าเพียงพอนะ ถ้าใช้งานแบบหมดเกลี้ยงจริง ๆ ชาร์จประมาณชม.นิด ๆ ก็กลับมาเต็มแล้ว

โดยรวมในเรื่องประสิทธิภาพของ Galaxy Z Fold7 ก็ถือว่าทำได้น่าประทับใจครับ ด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 8 Elite For Galaxy ที่ขึ้นชื่อว่าแรงที่สุดในกลุ่ม Android ตอนนี้ มาอยู่ร่วมกับซอฟต์แวร์ลื่น ๆ อย่าง One UI 8 ก็แสดงประสิทธิภาพต่าง ๆ ได้อย่างดี แบตเตอรี่ที่ดูจากตัวเลขความจุ 4400mAh อาจจะไม่ได้เยอะมาก แต่ใช้งานจริงก็ถือว่าเพียงพออยู่ หรือจะเป็นเรื่องชาร์จก็ยังเร็วพอที่จะชาร์จกลับมาให้อุ่นใจเนาะ

ราคาเริ่มต้น 67,900 บาท มีให้เลือก 3 ความจุ

สรุปราคา Galaxy Z Fold7 ปิดท้าย รอบนี้ยังคงมีให้เลือก 3 สีหลักคือ Blue Shadow (สีที่รีวิว), Silver Shadow และ Jet Black พร้อม 3 ตัวเลือกความจุ มีราคาต่างกันดังนี้

  • รุ่น 12GB+256GB ราคา 67,900 บาท
  • รุ่น 12GB+512GB ราคา 72,900 บาท
  • รุ่น 16GB+1TB ราคา 85,900 บาท
Samsung Galaxy Z Fold7 (12GB+512GB)

Samsung Galaxy Z Fold7 (12GB+512GB)

Samsung Galaxy Z Fold7 (16GB+1TB)

Samsung Galaxy Z Fold7 (16GB+1TB)

สรุปแล้ว “นี่คือเรือธงจอพับ ที่ Samsung ทำให้ใกล้คำว่า Perfect ได้อีกขั้น”

สรุปแล้ว Galaxy Z Fold7 ก็ถือเป็นเรือธงจอพับรุ่นใหม่ที่ Samsung ทำให้ใกล้คำว่า Perfect ได้อีกขั้น โดยเฉพาะเรื่องดีไซน์ที่ปรับโฉมให้สดใหม่ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น ตัวเครื่องบางและเบาลงแบบที่น่าพกพาขึ้นมาก อัตราส่วนจอนอกที่เข้าใกล้ความเป็นธรรมชาติในการใช้งาน ชิปเซ็ตที่อัปเกรด กล้องที่จริงจังขึ้น รวมถึงซอฟต์แวร์ที่เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดมาจากโรงงานเลย ทั้งหมดที่ว่ามาคือการเปลี่ยนแปลงใหม่ได้อย่างหมดจด แม้จะยังมีจุดที่ต้องปรับปรุงเพิ่มอีก แต่ก็คิดว่ารอบนี้ควรค่าแก่การลองแล้ว ใครที่มีงบไม่จำกัด อยากลองเรือธงจอพับ (ใหญ่) แบบจริงจัง เราว่า Galaxy Z Fold7 นี่แหละ จะตอบโจทย์จนคุณต้องหลงรักมือถือจอพับมากขึ้นแน่นอน!

เรื่องน่าสนใจเพิ่มเติม:

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More