Galaxy Z Fold7, Galaxy Z Flip7 เปิดตัวอย่างเป็นทางการเรียบร้อย! มาพร้อมการอัปเกรดที่น่าสนใจหลายจุด โดยเฉพาะเรื่องดีไซน์ที่โดดเด่นกว่าทุกที ทีมงาน iphone-droid ก็มีโอกาสได้ไปสัมผัสเครื่องจริงมาก่อน และแน่นอนว่าเอาความรู้สึกสัมผัสแรกมาฝากกันอีกเช่นเคย
แต่ละรุ่นเป็นอย่างไรบ้าง ดีไซน์สวยแค่ไหน มีกี่ตัวเลือก ติดตามได้จากบทความพรีวิว Galaxy Z Flip7 และ Z Fold7 นี้เลยครับ!
Galaxy Z Fold7 เหนือกว่าที่เคยพับ
ขอเริ่มจาก Galaxy Z Fold7 พี่(พับ)ใหญ่ ก่อนละกันเนอะ รอบนี้ Samsung เก่งมาก ลดน้ำหนักและปรับขนาดของ Z Fold ลงมาได้อย่างน่าสนใจจริง ๆ จับครั้งแรกก็รู้ได้ทันที ถึงความบาง และความเบากว่าที่แล้วมา อย่างชัดเจน!
ตัวเครื่องมีความบางตอนพับเพียง 8.9 มม.เท่านั้น จับถือแล้วให้ความรู้สึกไม่ต่างจากสมาร์ทโฟน Bar Type ทั่วไปแล้ว เวลาอยู่บนมือต้องบอกเลยว่าเป็นขนาดที่น่าใช้งานมากครับแบบนี้
และที่ชอบมาก ๆ อีกอย่างคือความเหลี่ยมของตัวเครื่องที่ยกมาจาก Z Fold6 รุ่นก่อน ที่พออยู่กับเครื่องที่บางแบบนี้แล้วให้ความรู้สึกที่เซ็กซี่มาก แถมยังทำให้เวลาจับถือหรือตอนจะกางจอออกมาทำได้ถนัดมือมากด้วย
เห็นตอนพับก็ว่าบางมากแล้วใช่ไหมล่ะครับ ถ้าได้กางออกมาอีกจะยิ่งต้องหลงเข้าไปใหญ่ เพราะว่าตัวเลขความบางจะอยู่ที่ 4.2 มม.เท่านั้น เป็นความบางที่จับถือได้สบายมือจริง ๆ ครับ
ซึ่งความบางระดับนี้จะเกือบเท่ากับพอร์ต USB-C แล้วนะ ถ้าจะทำให้บางกว่านี้ได้ คงต้องออกแบบพอร์ตกันใหม่แล้วล่ะมั้ง
แต่เพื่อให้เห็นภาพความบางของ Z Fold7 แบบจริงจัง เราก็เอามาเทียบกับ Galaxy S25 Ultra เรือธง Bar Type ของค่ายดูสักหน่อย จะเห็นว่าตอนพับนั้นแทบไม่ต่างกันเลย ใครที่คิดว่า S25 Ultra บางพอดีแล้ว Z Fold7 ก็บางพอ ๆ กันเลยล่ะ
หรือถ้าเห็นภาพขึ้นกว่าเดิมก็คงต้องเทียบกับ Z Fold6 รุ่นก่อนล่ะเนอะ อันนี้เห็นชัดมาก ทั้งตอนพับที่ตัวเลขบอกไว้ว่า 8.9 มม. vs 12.1 มม. ห่างกัน 3.2 มม.เลยนะ รีดให้บางได้ขนาดนั้น
และตอนกางที่ 4.2 มม. vs 5.6 มม. ก็ยังห่างกัน 1.4 มม.อะนะ ใครที่รอ Galaxy Z Fold เวอร์ชั่นบางเฉียบ ปีนี้ถูกใจแน่ ๆ
ไม่ใช่แค่บาง แต่ยังเบา Galaxy Z Fold7 ลดน้ำหนักให้เป็นร่างทองจริง ๆ ด้วยตัวเลขเพียง 215 กรัม ใช่แล้วครับเบากว่า Z Fold6 อีก 24 กรัมเลย และแน่นอนว่าน้ำหนักนี้ก็เบากว่า Galaxy S25 Ultra ด้วย เวลาถือใช้งานจริงไม่รู้สึกเลยว่านี่คือมือถือจอพับที่ขยายจอออกมาได้ ทึ่ง!
แม้ตัวเครื่องจะบางและเบาลง แต่ Samsung ใจดีขยายขนาดหน้าจอให้ใหม่นะรอบนี้ โดย Galaxy Z Fold7 จะมาพร้อมหน้าจอนอกขนาด 6.5″ ใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นก่อนอีก 0.2″ แต่ทีเด็ดคงเป็นเรื่องอัตราส่วนหน้าจอที่ขยายออกมาเป็น 21:9 แล้ว ใกล้เคียงกับสมาร์ทโฟนทั่วไปมากขึ้น ใช้งานมือเดียวหรือพิมพ์ข้อความถนัดขึ้นจริงแหละ
และพอจอนอกใหญ่ขึ้น จอในก็ได้ขนาดที่เพิ่มขึ้นจาก 7.6″ มาเป็น 8″ ด้วย ทำให้เวลากางจอออกมาใช้งานดูเต็มตาขึ้นอีกหน่อยครับ เรื่องรอยพับยังคงมีให้เห็นบ้าง แต่เท่าที่ลองรูด ๆ ผ่าน ก็รู้สึกได้เลยว่าบางลงครับ ไม่ค่อยรู้สึกถึงรอยพับเท่ารุ่นก่อน ๆ แล้ว อันนี้ก็ต้องชมอีกแหละ
ตัวบานพับของ Galaxy Z Fold7 นั้นยังเป็นจุดเด่นที่เราคิดว่า Samsung ทำได้เหนือกว่าคู่แข่งมาตลอด เพราะทั้งองศาที่ปรับได้มากกว่า ความยืดหยุ่นในการพับ-กาง ที่ไม่ดีด ไม่เด้งเวลาจะกางหรือพับจนสุด อยากปรับในมุมมองไหนก็ได้หมด ดีมาก ๆ ครับ
ดีไซน์ฝาหลังของ Galaxy Z Fold7 ก็ยังมาในทรงเรียบหรูเหมือนเดิม ไม่มีโลโก้ Samsung ที่ฝาหลัง ทิ้งพื้นที่ให้ฝาหลังเรียบ ๆ โชว์สีชัดเจน โมดูลกล้องยังวางไว้ที่มุมซ้ายบนเหมือนเดิม
และตัวกล้องรอบนี้ก็ตัดวงแหวนที่ดุดันออกไปแล้ว เหลือเพียงตัวเลนส์ทรงปกติแทน ความนูนของกล้องก็มีมากหน่อยในรอบนี้ เนื่องจากตัวเครื่องบางลงมากนี่เนอะ
ส่วนสเปคกล้องได้อัปเกรดกล้องหลักมาเป็น 200MP (ตัวเดียวกับ S25 Ultra) แล้ว น่าจะถูกใจหลายคนที่ต้องการความละเอียดสูง ๆ เนาะ ตรงนี้ Samsung เคลมว่าสามารถเก็บแสงได้มากขึ้นกว่าเดิมถึง 43% เลยล่ะ
ซึ่งเมื่อเปิดความละเอียด 200MP เต็มยังสามารถใช้เป็น In-Sensor Zoom ได้ที่ระยะ 4x หรือ 5x ได้เลย ก็คมชัดกว่า 50MP ของ Z Fold6 ถึง 4 เท่าเลยนี่แหละ ดีมาก!
และ…กล้องหน้าใต้หน้าจอในจอหลัก ที่หลายคนบ่นมาตลอดว่าคุณภาพไม่ค่อยดีนัก ในที่สุด Samsung ก็ยอม กลับมาใช้กล้องหน้าแบบเจาะรูสักที ได้ความละเอียด 10MP แม้จะไม่เยอะมาก แต่ก็ได้คุณภาพที่ดีกว่า 4MP ที่อยู่ใต้หน้าจอเยอะล่ะครับ แต่ก็แลกมากับการที่หน้าจอไม่เต็มเหมือนรุ่นก่อน ๆ ล่ะนะแบบนี้
สำหรับสีสันของ Galaxy Z Fold7 รอบนี้จะมีสีหลักให้เลือก 3 สีได้แก่
- สีดำ Jet Black
- สีน้ำเงิน Blue Shadow
- สีเงิน Silver Shadow
ก็เป็นสีเรียบหรูที่ยกมาจากรุ่นก่อน แต่อย่างที่บอกไปครับ พอเครื่องบางลง ก็ทำให้ดูเซ็กซี่ขึ้นในทุกมิติเลยจริง ๆ
Galaxy Z Flip7
มาต่อกันที่รุ่นพับเล็กอย่าง Galaxy Z Flip7 กันบ้าง รอบนี้ไม่ได้เน้นลดขนาด ลดน้ำหนักแบบพี่ Z Fold7 แต่ไปเน้นในเรื่องความเต็มตาของหน้าจอแทน! เห็นได้ชัดเลยใช่ไหมล่ะครับว่าจอนอกของ Z Flip7 รอบนี้เต็มพื้นที่แล้ว ไม่มีขอบดำหนา ๆ แล้ว
ซึ่งขนาดหน้าจอนอกนี้จะมีขนาดใหญ่ถึง 4.1″ ใช้พื้นที่เต็มไปถึงตัวกล้องคู่เลย ให้พื้นที่ในการแสดง Wallpaper ได้อีกเยอะ
พวก Widget ต่าง ๆ ก็ได้ข้อมูลเยอะขึ้น หรือจะเลือกเซลฟี่ด้วยกล้องหลังโดยการเปิดหน้าจอนอกพรีวิว อันนี้ก็จะใหญ่ขึ้นกว่าเดิมแบบสุด ๆ
ซึ่งตัวจอนอกของ Galaxy Z Flip7 รอบนี้ก็อัปเกรดมาเป็นจอ Super AMOLED Refresh rate 120Hz แล้วด้วย ทำให้เวลาเราเล่นจากจอนอกแล้วไปเปิดต่อในจอหลักดูลื่นไหลเท่ากันแล้ว ไม่ขัดตาอีกต่อไป
ไม่ใช่แค่จอนอกที่ใหญ่ขึ้นอย่างเดียว เพราะหน้าจอด้านในของ Galaxy Z Flip7 ก็ขยายขนาดมาเป็น 6.9″ นะ เหนือสิ่งอื่นใดคืออัตราส่วนก็ปรับมาเป็น 21:9 แล้ว ทำให้ดูยิ่งกว้าง (ออกข้าง) เข้าไปใหญ่ มีพื้นที่มากขึ้น ใช้งานร่วมกับแอปต่าง ๆ ได้ลงตัวกว่าเดิม
ขนาดของ Galaxy Z Flip7 แม้จะบอกว่าไม่ได้เน้นความบาง-เบาเท่า Z Fold7 แต่ก็ลดความหนาลงมาเช่นกัน ตอนพับจะเหลือ 13.77 มม. (จาก 14.9 มม.)
และตอนกางก็จะเหลือ 6.5 มม. (จาก 6.9 มม.) ช่วยให้ถือใช้งานได้สะดวกขึ้น ส่วนน้ำหนักยังเท่า ๆ เดิมครับที่ 188 กรัม (รุ่นก่อน 187 กรัม)
ตัวบานพับของ Galaxy Z Flip7 ก็ยังทำได้ถูกใจเรา เหมือนกับ Z Fold7 นั่นแหละครับ พับ-กางได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องกลัวว่าบานพับจะดีดเวลากางออกไปเกือบสุด หรือพับเข้าหากันแล้วจะถ่ายรูปในมุมแปลก ๆ
ส่วนเรื่องกล้อง Galaxy Z Flip7 ยังคงใช้ชุดเดียวกับปีที่แล้ว คือมีกล้องหลัก 50MP + กล้อง Ultra Wide 12MP ซึ่งคิดว่าเพียงพอกับสมาร์ทโฟนสายพับเล็กแบบนี้แล้วล่ะครับ
สำหรับสีสัน Galaxy Z Flip7 ก็เอาใจกลุ่มไฟล์สไตล์ที่ชอบความสนุกกว่า Z Fold7 หน่อย มีให้เลือก 3 สีได้แก่
- สีดำ Jet Black
- สีน้ำเงิน Blue Shadow
- สีแดง Coral Red
ซึ่งเป็น 3 โทนที่แตกต่างกันชัดเจน และสวยสดทุกสีเลยจริง ๆ เนาะ
Galaxy Z Flip7 FE
ยัง…ยังไม่หมดแค่ 2 รุ่นครับ เพราะรอบนี้ Samsung มีน้องเล็ก Galaxy Z Flip7 FE รุ่นย่อมเยาของ Z Flip มาด้วย ซึ่งดูจากหน้าตาแล้วก็คือยกเอาบอดี้ของ Galaxy Z Flip6 เดิมมาเลยนั่นแหละ
ทั้งขนาดตัวเครื่อง วัสดุงานประกอบต่าง ๆ ก็คือ Z Flip6 เป๊ะ ๆ ยังคงมีหน้าจอนอกเป็นทรงโฟลเดอร์ ขนาด 3.4″ เหมือนเดิม Refresh rate 60Hz
ส่วนจอในก็เป็น Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.7″ Refresh rate 120Hz อัตราส่วนยาว ๆ 22:9 ไม่ได้กว้างออกข้างเพิ่มเหมือน Z Flip7 เนาะ
อะ…เพื่อให้เห็นภาพอีกหน่อยว่าหน้าจอทรงเก่ากับทรงใหม่ต่างกันยังไง เราเอาเทียบกับ Z Flip7 ให้ชมสักชุด จะเห็นว่าวางกลุ่มไว้ชัดเจน รุ่นไหนใหม่ รุ่นไหนประหยัดอะเนอะ
กรอบเครื่องอลูมิเนียมผิวด้านเรียบ ๆ มีความหนาตอนพับอยู่ที่ 14.9 มม.และตอนกางที่ 6.9 มม.
และสีสันของ Galaxy Z Flip7 FE ก็จะลดความสดใสลง มาในโทนเรียบง่ายแค่สีขาวกับสีดำเท่านั้นครับ
สเปค Galaxy Z Fold7 | Z Flip7 | Z Flip7 FE
ด้านสเปคของทั้ง 3 รุ่นใหม่นี้ จะใช้ชิปเซ็ตที่แตกต่างกันหมดเลย รวมถึงความจุด้วยดังนี้
- Galaxy Z Fold7 ใช้ชิป Snapdragon 8 Elite For Galaxy | RAM 12GB/16GB | ความจุ 256GB/512GB/1TB
- Galaxy Z Flip7 ใช้ชิป Exynos 2500 | RAM 12GB | ความจุ 256GB/512GB
- Galaxy Z Flip7 FE ใช้ชิป Exynos 2400 | RAM 8GB | ความจุ 128GB/256GB
แม้ชิปเซ็ตจะแตกต่างกันไปหมด แต่ Samsung บอกแล้วว่าทั้ง 3 รุ่นจะมอบประสบการณ์สมาร์ทโฟนจอพับได้อย่างครบถ้วน รวมถึงฟีเจอร์ Galaxy AI ต่าง ๆ ด้วยเช่นกันครับ
ออ…เกือบลืม ด้านซอฟต์แวร์ Galaxy Z Fold7, Z Flip7 รวมถึง Z Flip7 FE จะมาพร้อมกับซอฟต์แวร์ One UI 8 ครอบทับบนระบบปฏิบัติการ Android 16 ทั้งหมดเลยนะครับ ถือว่าเป็นรุ่นล่าสุดตั้งแต่แกะกล่อง ไม่ต้องรออัปเดตแล้วนะ
โดยรวมแล้ว ปีนี้ถืออว่าเป็นการอัปเกรดครั้งใหญ่ของ Galaxy Z Series ในเรื่องดีไซน์จริง ๆ ทั้งการปรับความบาง น้ำหนักที่เบาลงของ Galaxy Z Fold7 การขยายและปรับอัตราส่วนจอของ Galaxy Z Flip7 หรือการเพิ่มรุ่นย่อมเยาอย่าง Galaxy Z Flip7 FE เข้ามาใหม่ ทำให้รู้ว่าถ้า Samsung ตั้งใจจริง ๆ ก็ทำได้หนิ การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เราว่าเป็นการเข้าสู่ยุคใหม่ที่พร้อมชนกับคู่แข่งทั้งหลายที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วแล้วจริง ๆ เนาะ!
ก่อนจากไปเราก็มีสรุปราคาของ Galaxy Z Fold7, Galaxy Z Flip7 และ Galaxy Z Flip7 FE ไว้ให้แบบครบ ๆ ตามภาพด้านล่างเลยครับ!
