พรีวิวแรกสัมผัส Galaxy S24 Ultra วาร์ปสู่ยุคใหม่ไปกับ Galaxy AI!

Galaxy S24 Series เรือธงรุ่นล่าสุดของ Samsung เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปสด ๆ ร้อน ๆ ทีมงาน iphone-droid.net ก็ได้ลองสัมผัสเครื่องจริงมาแล้วเช่นกัน แน่นอนว่าไม่พลาดทำบทความแรกสัมผัสหลังลองใช้จริงราว 2 ชม.มาฝากอีกเหมือนเคย! (ชมคลิป)

รอบนี้ขอเน้นไปที่ Galaxy S24 Ultra เรือธงรุ่นท็อปสุดเป็นหลักเลยดีกว่า ปีนี้ Samsung เน้นเรื่องซอฟต์แวร์และประสบการณ์ที่แตกต่างด้วยฟีเจอร์ Galaxy AI ใหม่ ๆ และกล้องที่อัปเกรดมาใหม่ด้วย น่าสนใจแค่ไหน ติดตามได้จากบทความนี้เลยครับ

ดีไซน์ Galaxy S24 Ultra

ก่อนจะไปชมเรื่องฟีเจอร์เด่น ๆ ใหม่ เราขอพามาชมดีไซน์ตัวเครื่องสักหน่อยดีกว่า Galaxy S24 Ultra ปีนี้ มีการอัปเกรดหลัก ๆ 2 อย่างคือ ความโค้งที่ลดลงกับวัสดุไทเทเนียม ซึ่งแม้ภายนอกเราจะยังไม่เห็นความต่างกับรุ่นก่อนมากนัก แต่ถ้าได้ลองสัมผัสจะรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงไปพอสมควรเลยล่ะ แล้วมันยังไง ? มาจะเล่าให้ฟัง

เรื่องความโค้งที่ลดลงก่อนละกันเนาะ Galaxy S24 Ultra จะลดความโค้งมนของทั้งด้านหน้า-ด้านข้าง-ด้านหลังลง เริ่มที่ด้านหน้ากับหน้าจอที่ปรับให้เป็นแบบแบน 2D เรียบร้อย เหลือความโค้งเล็ก ๆ ที่มุมกระจกเท่านั้น (จอแสดงผลและส่วนที่เราสัมผัสจะแบนหมดแล้ว)

ขอบจอ (บริเวณสีดำ) ที่มีความโค้งเล็ก ๆ ก็ปรับให้มีขนาดเล็กลง ชิดจอมากขึ้น เพิ่มความเซ็กซี่ในการแสดงผลได้เยอะเลยล่ะครับ สมกับเป็นเรือธงจาก Samsung เสียที

การแสดงผล Galaxy S24 Ultra ยังได้จอ Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.8″ เหมือนเดิม แต่พอลดความโค้งลง ขอบจอชิดขึ้นก็แอบทำให้รู้สึกว่าจอนั้นเต็มตาขึ้นอีกนิดด้วย สีสันสวยงามอลังการไม่เปลี่ยน และปีนี้อัปเกรดความสว่างขึ้นมาเป็น 2600nits แล้วด้วย (จากเดิม 1750nits) เท่าที่เราได้ลอง กลางแจ้งจากเดิมที่ดีงามอยู่แล้ว ก็ยิ่งสบายตาขึ้นไปอีกครับ

ที่ฝาหลังจะเห็นว่ากระจกเป็นแบบแบนราบไปแล้ว ไม่มีมุมโค้งลงไปถึงกรอบเครื่องเลยครับ การวางกล้องยังอยู่ที่มุมซ้ายบนเหมือนเดิม มีวงกลม 5 วงเหมือนเดิม แบ่งเป็นกล้อง 4 ตัวและ Laser AF ซึ่งเดียวรายละเอียดกล้องค่อนมาอธิบายอีกทีละกันเนาะ

ด้วยความที่ด้านหน้า-ด้านหลัง มีความโค้งที่ลดลงชัดเจน ส่วนกรอบเครื่องของ Galaxy S24 Ultra เลยมีพื้นที่มากขึ้นอีกเยอะ เราจะเห็นว่าไม่มีมุมเว้าจากกระจกหน้า-หลังเข้ามาแล้วถ้ามองจากด้านข้างแบบนี้ ซึ่งทำให้เวลาเราจับเครื่องนั้นนิ้วมือเราสามารถแตะกรอบเครื่องได้เต็มมือยิ่งขึ้น และกรอบเครื่องรอบนี้ก็ไม่ใช่วัสดุเดิมแล้วด้วยนะ

เข้าสู่อีกเรื่องที่ Samsung อัปเกรดใหม่บน S24 Ultra กับ “ไทเทเนียม” ใช่แล้วครับ รอบนี้ Samsung เปลี่ยนวัสดุกรอบ Armor Aluminum จากรุ่นก่อนที่ทำได้ดีมาก ๆ อยู่แล้ว มาเป็นกรอบเครื่องไทเทเนียมแล้วครับ จะเห็นว่าผิวสัมผัสเป็นผิวด้านแทนมันวาวแล้ว ตรงนี้เราชอบมาก เพราะจับถือได้ดีแบบไม่ต้องค่อยทำความสะอาดบ่อย ๆ

ปกติแล้ววัสดุไทเทเนียมนั้นจะมีข้อดีกว่าอลูมิเนียมทั้งน้ำหนักและความทนทาน ซึ่งบางแบรนด์อาจจะเลือกเอาความเบามาใช้เป็นจุดเด่น แต่ยังทนทานเท่าเดิม ส่วนของ Samsung เลือกน้ำหนักที่เท่าเดิม แต่เพิ่มความทนทานมากขึ้นแทนครับ ทำให้ S24 Ultra นั้นไม่ได้ขายเรื่องความเบากว่ารุ่นก่อน แต่เรื่องทนกว่าอันนี้ชัดเจน!

ด้านบน-ล่างก็ยังตัดเหลี่ยมเหมือนเดิม มีจุดที่แตกต่างไปบ้างตรงด้านล่างคือช่องลำโพงที่ปรับกลับมาใช้แถบเดียว แทนที่หลาย ๆ ช่อง และตัว S Pen เองก็ปลายด้ามจะมีความเหลี่ยนมากขึ้นกว่าเดิมด้วยครับ

สีสัน Galaxy S24 Ultra

และสีสันปีนี้ Galaxy S24 Ultra ยังมีให้เลือก 4 สี Titanium หลักเหมือนเดิมคือ

• สีม่วง Titanium Violet
• สีเทา Titanium Gray
• สีดำ Titanium Black
• สีเหลือง Titanium Yellow

ซึ่งใน 3 สี Titanium Violet, Titanium Gray และ Titanium Yellow จะมีกรอบตัวเครื่องเป็นสี Titanium (ออกทอง) ทั้งหมด ในขณะที่ Titanium Black จะเป็นสีเดียวที่มีกรอบเครื่องเป็นสีดำครับผม

นอกจากนี้ Samsung ยังมีตัวเลือกสีพิเศษที่สั่งได้เฉพาะบน samsung.com เหมือนเคย รอบนี้มี 3 สีคือ

• สีส้ม Titanium Orange
• สีเขียว Titanium Green
• สีฟ้า Titanium Blue

ซึ่งสีพิเศษอย่างสีส้มจะโดดเด่นด้วยกรอบเครื่องกรอบเลนส์กล้องสีไทเทเนียมตัดกับฝากลังส้มได้ลงตัว

ส่วนอีก 2 สีเขียวและฟ้าจะมีกรอบเครื่องที่แตกต่างเป็นสีดำด้าน ที่ช่วยดึงสีของฝาหลังขึ้นมาได้อีกครับ

ฟีเจอร์ Galaxy AI

อย่างที่บอกว่ารอบนี้ Samsung เน้นในเรื่องซอฟต์แวร์มากเป็นพิเศษ จนใช้ชื่อ Galaxy AI ติดมากับชื่อรุ่นซะเลย โดย Galaxy S24 Ultra ที่มาพร้อม One UI 6.1 จะมีความสามารถหลัก ๆ ใหม่เป็น 3 ด้านคือ การค้นหา, การสื่อสาร และการปรับแต่งภาพ ดังนี้!

Circle to Search

ความสามารถด้านการค้นหาใหม่ที่ Samsung ตั้งชื่อว่า Circle to Search นี้ช่วยให้เราหาสิ่งที่ต้องการได้ง่ายขึ้นมาก เพียงแค่เรากดปุ่มโฮมค้างไว้ และเลือกวงจุดที่อยากค้นหาไม่ว่าจะเป็นสินค้า, รูป, วิดีโอ ระบบก็จะค้นหามาให้เราอย่างรวดเร็วและแม่นยำเลยล่ะครับ

Personal Web Analyst

หรือฟีเจอร์เรื่องการสรุปข้อมูลที่เราบันทึกมาเอง หรือจากหน้าเอกสารที่มีข้อมูลเยอะ ๆ เราสามารถกดสรุปได้ง่าย ๆ ด้วยปุ่ม Galaxy AI (ไอคอนสามดาว) ก็จะมี AI คอยสรุปข่าว (Summarize) สั้น ๆ ให้เลย พร้อมมีฟีเจอร์แปลภาษาได้ทันทีอีกต่างหาก

Call Assist

เรื่องการสื่อสารก็ดูเป็นจุดที่ Samsung พยายามนำเสนอมาบน Galaxy AI พอสมควร รอบนี้เลยเพิ่มฟีเจอร์ Live Traslate ใหม่ให้เราได้แปลภาษาขณะคุยโทรศัพท์ได้แบบเรียลไทม์เลย ตรงนี้ Samsung ใช้ชื่อเรียกว่า Call Assist เราสามารถเลือกภาษาที่แปลได้ขณะโทร ยกตัวอย่างที่เราทดลองมา คู่สายเป็นคนเยอรมันพูดมาเป็นเยอรมันเลยแต่ AI จะแปลมาเป็นไทยให้เราฟังได้ทันที หรือเราพูดไทยกลับไปก็จะแปลงเป็นเยอรมันให้เหมือนกัน ซึ่งบนหน้าจอก็จะมีข้อความที่สนทนาให้อ่านด้วยว่าที่พูดออกไปตรงแค่ไหนเนาะ

Face to Face

หรือ…ถ้าอยู่กันต่อหน้าเลยก็มีฟีเจอร์ Face to Face ให้ใช้ด้วย เราสามารถคุยกับฝั่งตรงข้ามเป็นภาษาไทยและให้ AI แปลเป็นภาษาอื่นได้เลย อย่างในการทดลองนี้เราคุยภาษาไทยกับโมเดลที่พูดภาษาสเปน ก็ถามตอบกันได้เข้าใจและลื่นไหล เพราะ UI ออกแบบมาให้แต่ละฝั่งสามารถเห็นข้อความของตัวเองได้อย่างชัดเจน ไม่ต้องคอยสลับมือถือยื่นไป-มาแล้ว

Chat Assist

ไม่ใช่แค่คุยผ่านเสียงเท่านั้น การพิมพ์แล้วแปลภาษาก็ได้ด้วย Samsung Keyboard ใหม่ เราสามารถพิมพ์ภาษาไทยและให้แปลงเป็นภาษาอื่นได้ทันที และไม่ใช่แค่แปลตรง ๆ เพราะยังมี Writing Style ที่มีตัวเลือกเพิ่มเติม สร้างรูปแบบประโยคแบบ ทางการ, เล่น ๆ, หรือสร้างแคปชั่นไว้ใช้ในโซเชี่ยลพร้อม # ก็ได้อีก

Photo Assist

มาสู่เรื่อง AI กับการแต่งภาพกันบ้าง ฟีเจอร์ใหม่นี้เราสามารถครอปภาพแล้วเพิ่มส่วนที่ขาดหายด้วย AI ได้แล้วนะ เคยไหมที่ถ่ายภาพมาแล้วเอียง แต่พอจะครอปให้ตรงบางส่วนในภาพก็ขาดอีก แต่ถ้าเราปรับภาพด้วย Galaxy AI ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เพราะเสริมด้วย AI เข้าไปแบบเนียนสุด ๆ เลย

หรือถ้าแค่เจนภาพใหม่ยังไม่พอ Galaxy AI ก็ยังสามารถเลื่อน, ย้าย, หมุนวัตถุในภาพได้อีกนะ อย่างในตัวอย่างเราถ่ายแบบที่ยืนยอยู่ด้านล่าง แต่อยากย้ายไปแตะลูกโป่งก็แค่แตะแล้วลากไปลอยอยู่ด้านบนได้เลย เก่งมาก Galaxy AI

กล้อง Galaxy S24 Ultra

มาต่อที่เรื่องกล้อง Galaxy S24 Ultra ยังคงชูจุดเด่นเรื่องกล้องหลัง 4 ตัวครบระยะเหมือนเดิม แต่รอบนี้อัปเกรดกล้องใหม่ดังนี้เลย

• 200MP กล้องหลัก f/1.7 OIS
• 12MP กล้อง Ultra Wide มุมกว้าง 120º f/2.2
• 10MP กล้อง Tele 3x f/2.4 OIS
• 50MP กล้อง Periscope 5x f/3.4 OIS
• 12MP กล้องหน้า f/2.2

หลัก ๆ ยังใช้ทั้ง 4 ตัวคล้ายเดิม กล้องหลักโดดเด่นด้วย 200MP + กล้อง Ultra Wide 12MP + กล้อง Tele 3x 10MP แต่กล้องใหม่ที่อัปเกรดมาคือ Periscope 50MP ที่จัดเต็มความละเอียดเพิ่มขึ้น แต่ระยะ Optical Zoom จะเหลือ 5x แทนครับ

ซึ่งการลดระยะภาพลงนี้ก็ไม่ได้เสียหายครับ เพราะ S24 Ultra ยังมี Galaxy AI คอยปรับจูนภาพหลังถ่ายให้อีกที และยังสามารถซูมได้สูงสุดถึง 100x เหมือนเดิม คมไม่คมดูได้จากตัวอย่างภาพด้านล่างนี้ได้เลย!

และความได้เปรียบของกล้อง Periscope 5x ก็คือสามารถเอามาใช้ถ่าย Portrait ได้ด้วย ทำให้ Galaxy S24 Ultra นั้นสามารถถ่าย Portrait ได้มากถึง 4 ระยะ ตั้งแต่ 1x > 2x > 3x > 5x เลยล่ะครับ

สเปค Galaxy S24 Ultra

มาปิดท้ายกับเรื่องสเปค Galaxy S24 Ultra อัปเกรดชิปเซ็ตใหม่เป็น Snapdragon 8 Gen 3 ที่แรงขึ้นในทุกด้าน Samsung เคลมว่าได้ CPU เร็วขึ้น 18% GPU แรงขึ้น 32% และ NPU (AI) เก่งขึ้นอีก 42% เมื่อเทียบกับ S23 Ultra เลยนะ

แต่เท่านั้นยังไม่พอเพราะแรงขึ้นการจัดการความร้อนก็ดีขึ้นด้วย Galaxy S24 Ultra มีการขยายพื้นที่ของ Vapor Chamber ให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมถึง 1.9 เท่า! ช่วยลดความร้อนสะสมเมื่อใช้งานต่อเนื่องได้ดีขึ้นมาก

อย่างในโซนทดสอบเขามา Galaxy S22 Ultra, S23 Ultra และ S24 Ultra เปิดเกม Genshin Impact เทียบไปพร้อม ๆ กัน จะเห็นว่าฝั่ง S24 Ultra นั้นร้อนน้อยกว่า 2 รุ่นก่อนอย่างชัดเจนจริง ๆ

สรุปสเปค Galaxy S24 Ultra

• หน้าจอ : Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.8″
• ความละเอียดหน้าจอ : WQHD+ (3080 x 1440 พิกเซล) รองรับ HDR10+, ความสว่างสูงสุด 2600nits
• Refresh rate : 1Hz – 120Hz (LTPO)
• ชิปเซ็ต : Snapdragon 8 Gen 3 (4nm)
• RAM : 12GB
• ความจุ : 256GB/512GB/1TB
• แบตเตอรี่ : 5000mAh
• ระบบชาร์จไว : 45W
• กล้องหน้า : 12MP f/2.2
• กล้องหลัง : 4 ตัว
  • 200MP กล้องหลัก f/1.7 พร้อม OIS และ Dual Pixel
  • 12MP กล้อง Ultra Wide มุมกว้าง 120º f/2.2
  • 10MP กล้อง Tele f/2.4, Optical Zoom 3x, OIS
  • 50MP กล้อง Periscope f/3.4, Optical Zoom 10x, OIS
• การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.3, USB Type C, NFC, Wi-Fi 6e
• กันน้ำ-กันฝุ่นมาตรฐาน : IP68
• ระบบปฏิบัติการ : Android 14 (One UI 6.1)

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงพรีวิวแรกสัมผัสของ Galaxy S24 Ultra หลังจากลองสัมผัสมาประมาณ 2 ชม.เท่านั้น ยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องทดสอบ ทั้งประสิทธิภาพจริง, แบตเตอรี่ หรือกล้องในหลายสถานการณ์ แต่เท่าที่ลองก็ถือว่าใช้งานได้น่าสนใจทีเดียว แม้สเปคและดีไซน์จะไม่ต่างกับรุ่นก่อนอย่างผิดหูผิดตา แต่ก็ได้ฟีเจอร์ Galaxy AI ใหม่ ๆ ที่เสริมให้ตัวเครื่องมีความสดใหม่อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวครับ ไว้ได้เครื่องมาทดสอบแบบเต็ม ๆ แล้วคงได้มีรีวิวการใช้งานจริงให้ติดตามกันอีกแน่นอนครับ!

เปิดจองแล้ววันนี้

แต่สำหรับใครที่คิดว่า ติดใจทั้งฟีเจอร์ Galaxy AI และสเปคแล้ว อยากจะจับจองก่อนเลย ก็ไม่ต้องรอนานครับ Galaxy S24 Series ทั้ง 3 รุ่นเปิดจองแล้ววันนี้เลย มีราคาแต่ละรุ่นความจุดังนี้!

Galaxy S24

• ความจุ 8GB + 256GB ราคา 33,900 บาท
• ความจุ 8GB + 512GB ราคา 37,900 บาท

Galaxy S24+

• ความจุ 12GB + 256GB ราคา 38,900 บาท
• ความจุ 12GB + 512GB ราคา 43,900 บาท

Galaxy S24 Ultra

• ความจุ 12GB + 256GB ราคา 46,900 บาท
• ความจุ 12GB + 512GB ราคา 52,900 บาท
• ความจุ 12GB + 1TB ราคา 62,900 บาท

โปรโมชั่น! ได้อัปความจุ 2 เท่าเหมือนเดิม มูลค่าสูงสุด 10,000 บาท เริ่มเปิดจองเลยด้วยครับ