มือถือ Samsung วิธีเลือกซื้อ รุ่นที่ดีที่สุด ในปี 2023

มือถือ Samsung รุ่นไหนดี วิธีเลือกซื้อ รุ่นที่ดีที่สุด สำหรับการใช้งานและตอบโจทย์ผู้ใช้แต่ละคนที่กำลังมองหารุ่นราคาประหยัดตั้งแต่หลักพันไปจนถึงรุ่นเรือธงที่มีสเปคจัดเต็มทุกด้าน วันนี้ทีมงาน iphone-droid.net ได้รวบรวมข้อมูลมาให้แล้ว ในปี 2023

ในปี 2023 เราได้เห็น Samsung เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธง นั่นก็คือ Galaxy S23 Series โดยมีรุ่นท็อปอย่าง Galaxy S23 Ultra ราคาเริ่มต้น 43,900 บาท และอีกสองรุ่นทั้ง S23+ และ S23 ก็มีสเปค ฟีเจอร์ต่างๆ รวมไปถึงประสิทธิภาพการทำงานที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน อีกทั้งยังได้หน้าจอที่สว่างสดใส และกล้องถ่ายรูปที่อยู่ในอันดับท็อปๆ ในราคาตัวเครื่องที่ถูกลง

มือถือระดับกลางอย่าง Galaxy A Series ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยในหลายๆ รุ่น ด้วยระดับราคาที่จับต้องกันได้ง่ายมากขึ้นและได้ฟีเจอร์ระดับพรีเมียมหลายอย่างที่เหมือนกับในรุ่นเรือธง ตอบโจทย์การใช้งานที่หลายหลายได้เช่นกัน

Samsung Galaxy S23 Ultra

• รุ่น RAM 8GB + 256GB ราคา 43,900 บาท
• รุ่น RAM 12GB + 512GB ราคา 49,900 บาท
• รุ่น RAM 12GB + 1TB ราคา 59,900 บาท

Galaxy S23 Ultra แน่นอนว่าต้องมาพร้อมกับลิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 2 Mobile Platform ที่ปรับแต่งเองสำหรับ Galaxy โดยเฉพาะ และการปรับปรุงครั้งใหญ่ในเรื่องของกล้องหลักเป็นเซ็นเซอร์ ISOCELL HP2 ความละเอียด 200MP

ฟีเจอร์ด้านการถ่ายวิดีโอก็น่าสนใจ อย่างการมีโหมดวิดีโอ Astro Hyperlapse หรือการปรับปรุงความเสถียรของวิดีโอให้ดีขึ้นกว่ากล้องหลัก 108MP ตัวเก่าด้วยฟีเจอร์ Adaptive VDIS รวมไปถึงแบตใหญ่ 5000mAh ชาร์จเร็ว 45W

• หน้าจอ: 6.8 นิ้ว ความละเอียด 1440 x 3088 พิกเซล Dynamic AMOLED 2X, 120Hz, HDR10+
• ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับด้วย One UI 5.1
• ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2
• GPU: Adreno 740
• RAM: 8GB/12GB
• ความจุเครื่อง: 256GB/512GB/1TB
• microSD card: ไม่รองรับ
• กล้องหลัง 4 ตัว:
  • กล้องหลักความละเอียด 200 ล้านพิกเซล f/1.7
  • กล้อง Periscope ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล f/4.9
  • กล้อง Telephoto ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล f/2.4
  • กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/2.2
• กล้องหน้า: 12 ล้านพิกเซล f/2.2
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จเร็ว 45W

Samsung Galaxy S23+

• รุ่น RAM 8GB + 256GB ราคา 37,900 บาท
• รุ่น RAM 8GB + 512GB ราคา 42,900 บาท

Galaxy S23 ทุกรุ่นจะใช้ชิปเซ็ต Qualcomm ที่ผลิตโดยเฉพาะ ซึ่งมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Snapdragon 8 Gen 2 for Galaxy คือเป็นชิปที่ออกมาให้มีความเร็วสัญญาณนาฬิกาที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 2 รุ่นปกติ

สำหรับกล้องนั้นยังคงมีเซ็นเซอร์ 50MP ซึ่งก็ต้องขอบคุณชิปเซ็ตใหม่ที่ใส่มาให้เพราะทำให้สามารถบันทึกวิดีโอ 8K ที่ 30fps (เพิ่มขึ้นจาก 24fps ของปีที่แล้ว) กล้องอัลตร้าไวด์ 12MP และกล้องเทเลโฟโต้ 10MP ซูมออปติคอลได้ 3x

• หน้าจอ: 6.6 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2340 พิกเซล Dynamic AMOLED 2X, 120Hz, HDR10+
• ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับด้วย One UI 5.1
• ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2
• GPU: Adreno 740
• RAM: 8GB
• ความจุเครื่อง: 256GB/512GB
• microSD card: ไม่รองรับ
• กล้องหลัง 3 ตัว:
  • กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/1.8
  • กล้อง Telephoto ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล f/2.4
  • กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/2.2
• กล้องหน้า: 12 ล้านพิกเซล f/2.2
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 4700mAh ชาร์จเร็ว 45W

Samsung Galaxy S23

• รุ่น RAM 8GB + 128GB ราคา 30,900 บาท
• รุ่น RAM 8GB + 256GB ราคา 33,900 บาท

Galaxy S23 มือถือ Samsung รุ่นเล็กสุดนั้นก็มีสเปคเหมือนกับ S23+ รุ่นพี่ทุกอย่าง ยกเว้นขนาดหน้าจอที่ให้มา 6.1 นิ้ว กะทัดรัด พกพาง่าย โดยสิ่งที่เพิ่มเข้ามาใหม่ในปีนี้ ได้แก่ Vision Booster ซึ่งปรับสีและคอนทราสต์ให้เข้ากับสภาพแสงโดยรอบ และฟีเจอร์ Enhanced Comfort เพื่อลดอาการปวดตา

นอกจากนี้ก็ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 2 for Galaxy และลำโพงเสียงสเตอริโอ Tuned by AKG สำหรับกล้องก็มีเซ็นเซอร์ 50MP และแบตเตอรี่ 3900mAh รองรับชาร์จเร็ว 25W

• หน้าจอ: 6.1 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2340 พิกเซล Dynamic AMOLED 2X, 120Hz, HDR10+
• ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับด้วย One UI 5.1
• ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2
• GPU: Adreno 740
• RAM: 8GB
• ความจุเครื่อง: 128GB/256GB
• microSD card: ไม่รองรับ
• กล้องหลัง 3 ตัว:
  • กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/1.8
  • กล้อง Telephoto ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล f/2.4
  • กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/2.2
• กล้องหน้า: 12 ล้านพิกเซล f/2.2
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 3900mAh ชาร์จเร็ว 25W

Samsung Galaxy Z Fold4

• รุ่น RAM 12GB + 256GB ราคา 59,900 บาท
• รุ่น RAM 12GB + 512GB ราคา 65,900 บาท
• รุ่น RAM 12GB + 1TB ราคา 75,900 บาท

Galaxy Z Fold4 มาพร้อมหน้าจอแสดงผลหลักด้านในแบบ Infinity Flex Display ชนิด Dynamic AMOLED 2X ขนาด 7.6 นิ้ว ความละเอียด QXGA+ รองรับ Adaptive Refresh Rate 1-120Hz ใช้งานร่วมกับ S Pen ได้เช่นเดิม ได้กล้องหน้าแบบใต้หน้าจอที่เพิ่มความละเอียดของ PPI บริเวณกล้องใต้จอให้คมชัดกว่าเดิม และครอบทับด้วยกระจก Ultra-Thin Glass (UTG) ที่พัฒนาให้แข็งแรงมากขึ้น

ตัวเครื่องของ Galaxy Z Fold4 มีน้ำหนักที่เบาลงคือ 263 กรัม และเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่มาพร้อม Android 12L โดยเป็นระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่นพิเศษที่ Google สร้างขึ้นเพื่อประสบการณ์การใช้งานบนหน้าจอใหญ่ รวมถึงอุปกรณ์แบบพับหน้าจอได้

• หน้าจอ: 7.6 นิ้ว ความละเอียด 1812 x 2176 พิกเซล Foldable Dynamic AMOLED 2X, 120Hz, HDR10+
• จอด้านนอก: 6.2 นิ้ว ความละเอียด 904 x 2316 พิกเซล Dynamic AMOLED 2X, 120Hz
• ระบบปฏิบัติการ: Android 12 ครอบทับด้วย One UI 4.1
• ชิปเซ็ต: Snapdragon 8+ Gen 1
• RAM: 12GB
• ความจุเครื่อง: 256GB/512GB/1TB
• microSD card: ไม่รองรับ
• กล้องหลัง 3 ตัว:
  • กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/1.8
  • กล้อง Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/2.4
  • กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/2.2
• กล้องหน้า: 10 ล้านพิกเซล f/2.2 และกล้องใต้จอ 4 ล้านพิกเซล f/1.8
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 4400mAh ชาร์จเร็ว 25W

Samsung Galaxy Z Flip4

• รุ่น RAM 8GB + 256GB ราคา 38,900 บาท
• รุ่น RAM 8GB + 512GB ราคา 44,900 บาท

มือถือ Samsung น้องตลับแป้งที่หลายคนคุ้นเคย มารอบนี้ดีไซน์ของ Galaxy Z Flip4 ภายนอกยังดูคล้ายเดิม แต่ด้วยความที่เป็นหน้าจอ Infinity Flex จะสามารถพับได้ทุกองศาแล้วในรุ่นนี้ ขณะที่ฝาหลังจะใช้กระจก Gorilla Glass Victus+ และยังคงมีมาตรฐานกันน้ำ IPX8 มาให้

รุ่นนี้ Cover screen ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมทำให้เห็นภาพแบบที่ถ่ายได้ชัด ใช้ถ่าย Portrait จากฝา Cover screen ได้เลย โดยกล้องสามารถเปลี่ยนจาก Fit to Screen เป็น Actual Ratio สายทำ Vlog ต้องชอบสิ่งนี้ คือสามารถปรับจากหน้าจอที่เป็น Fit to Screen ไปที่ Actual ratio ได้เลย จะทำให้ Vlogger หรือสายทำคอนเท็นต์ขณะถ่ายรูปหรือวิดีโอนั้นเห็นว่าตนเองอยู่ตรงไหนของเฟรม ช่วยยกระดับของการทำ Vlog ให้ดียิ่งขึ้น

• หน้าจอ: 6.7 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2640 พิกเซล Foldable Dynamic AMOLED 2X, 120Hz, HDR10+
• จอด้านนอก: 1.9 นิ้ว Super AMOLED
• ระบบปฏิบัติการ: Android 12 ครอบทับด้วย One UI 4.1
• ชิปเซ็ต: Snapdragon 8+ Gen 1
• RAM: 8GB
• ความจุเครื่อง: 256GB/512GB
• microSD card: ไม่รองรับ
• กล้องหลัง 2 ตัว:
  • กล้องหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/1.8
  • กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/2.2
• กล้องหน้า: 10 ล้านพิกเซล f/2.4
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 3700mAh ชาร์จเร็ว 25W

Samsung Galaxy A54 5G

• รุ่น RAM 8GB + 128GB ราคา 13,999 บาท

Galaxy A54 5G หน้าจอ Infinity-O Display แบบ Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับ Refresh Rate 120Hz และความสว่างสูงสุด 1,000 นิต ใช้ชิปเซ็ต Exynos 1380 มีแบตเตอรี่ 5000mAh ชาร์จเร็ว 25W และรัน Android 13 ครอบทับด้วย One UI 5.1

ด้านการถ่ายรูปมีกล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอที่ทำได้สูงสุด UHD 4K Auto Focus พร้อมด้วยระบบกันสั่นไหว OIS + เทคโนโลยีกันสั่น VDIS และกล้องหน้าเซลฟี่ 32 ล้านพิกเซล สำหรับการถ่าย Vlog ชัดทั้งหน้าทั้งเสียง

• หน้าจอ: 6.4 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2340 พิกเซล Super AMOLED, 120Hz
• ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับด้วย One UI 5.1
• ชิปเซ็ต: Exynos 1380
• GPU: Mali-G68 MP5
• RAM: 8GB
• ความจุเครื่อง: 128GB/256GB
• microSD card: รองรับ
• กล้องหลัง: 3 ตัว
  • กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/1.8
  • กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/2.2
  • กล้อง Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล f/2.4
• กล้องหน้า: 32 ล้านพิกเซล f/2.2
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จเร็ว 25W

Samsung Galaxy A34 5G

• รุ่น RAM 8GB + 128GB ราคา 11,999 บาท

Galaxy A34 5G มาพร้อมหน้าจอ Infinity-U แบบ Super AMOLED ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับ Refresh Rate 120Hz เหมือนกัน Galaxy A54 5G ภายในใช้ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 1080 มีแบตเตอรี่ 5000mAh ชาร์จเร็ว 25W และรัน Android 13 ครอบทับด้วย One UI 5.1

ตัวเครื่องการันตีคุณภาพให้รองรับการอัปเกรด OS ได้ถึง 4 เจเนอเรชัน รวมไปถึงการอัปเดตระบบความปลอดภัยสูงได้ถึง 5 ปี ซึ่งฟีเจอร์นี้ช่วยให้สามารถเข้าถึงทุกการอัปเดตเพื่อยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น

• หน้าจอ: 6.6 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2340 พิกเซล Super AMOLED, 120Hz
• ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับด้วย One UI 5.1
• ชิปเซ็ต: MediaTek Dimensity 1080
• GPU: Mali-G68 MC4
• RAM: 8GB
• ความจุเครื่อง: 128GB
• microSD card: รองรับ
• กล้องหลัง: 3 ตัว
  • กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล f/1.8
  • กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.2
  • กล้อง Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล f/2.4
• กล้องหน้า: 13 ล้านพิกเซล f/2.2
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จเร็ว 25W

Samsung Galaxy A73 5G

• รุ่น RAM 8GB + 128GB ราคา 17,999 บาท

Galaxy A73 5G มาพร้อมดีไซน์เพรียวบาง โฉบเฉี่ยว พกพาสะดวก และมาตรฐานการทนน้ำ IP67 มีหน้าจอ Super AMOLED ขนาดใหญ่ 6.7 นิ้ว รองรับอัตราการรีเฟรชที่ 120Hz และ5000mAh ชาร์จเร็ว 25W

ด้านการถ่ายรูปและวิดีโอ มีกล้องหลัง 4 ตัว โดยกล้องหลักความละเอียด 108MP และกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 32MP ยังมีฟีเจอร์เด็ดๆ ที่หลายคนชื่นชอบ อย่าง Object Eraser เพื่อลบวัตถุที่ไม่ต้องการออกจากภาพถ่ายได้ทันทีโดยไม่ต้องโหลดแอปฯ อื่นเพิ่ม

• หน้าจอ: 6.7 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล Super AMOLED, 120Hz
• ระบบปฏิบัติการ: Android 12 ครอบทับด้วย One UI 4.1
• ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 778G
• RAM: 8GB
• ความจุเครื่อง: 128GB
• microSD card: รองรับ
• กล้องหลัง 4 ตัว:
  • กล้องหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล f/1.8
  • กล้อง Ultra-wide Angle ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/2.2
  • กล้อง Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล f/2.4
  • กล้อง Depth ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล f/2.4
• กล้องหน้า: 32 ล้านพิกเซล f/2.2
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จเร็ว 25W

Samsung Galaxy A23 5G

• รุ่น RAM 8GB + 128GB ราคา 9,999 บาท

Galaxy A23 5G ใช้ชิป Snapdragon 695 5G ที่มีเทคโนโลยี 6nm หน้าจอใหญ่เต็มตา ขนาด 6.6 นิ้ว ที่สำคัญคือเป็นหน้าจอที่รองรับ Refresh rate 120Hz มาพร้อมระบบปฎิบัติการ Android 12 ครอบทับด้วย One UI 4.1 กล้องหลักมีความละเอียดสูงสุดถึง 50MP และมีระบบกันสั่น OIS ด้วย ส่วนแบตเตอรี่ใหญ่ 5000mAh รองรับ Fast Charging 25W

• หน้าจอ: 6.6 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2408 พิกเซล PLS LCD, 120Hz
• ระบบปฏิบัติการ: Android 12 ครอบทับด้วย One UI 4.1
• ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 695 5G
• GPU: Adreno 619
• RAM: 8GB
• ความจุเครื่อง: 128GB
• microSD card: รองรับ
• กล้องหลัง: 4 ตัว
  • กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/1.8
  • กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล f/2.2
  • กล้อง Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล f/2.4
  • กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล f/2.4
• กล้องหน้า: 8 ล้านพิกเซล f/2.2
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จเร็ว 25W

Samsung Galaxy A04s

• รุ่น RAM 4GB + 64GB ราคา 4,999 บาท

Samsung Galaxy A04s มาพร้อมแบตเตอรี่ 5000mAh รองรับระบบชาร์จไว 15 W Adaptive Fast Charging มีหน้าจอ Gorilla Glass 3 ขนาด 6.5 นิ้ว รูปแบบ Infinity-V ความละเอียดระดับ HD+ ที่ให้ความทนทาน และรองรับอัตรารีเฟรชเรทสูงถึง 90Hz

นอกจากนี้ยังใช้ชิปเซ็ต Exynos 850 เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปได้สบายๆ กล้องหลักมีความละเอียด 50MP ถ่ายรูปสวย รายละเอียดคมชัด มีกล้อง Depth ความละเอียด 2MP ที่มาพร้อมกับความสามารถในการปรับแสงและเอฟเฟกต์เบลอได้

• หน้าจอ: 6.5 นิ้ว ความละเอียด 720 x 1600 พิกเซล PLS LCD, 90Hz
• ระบบปฏิบัติการ: Android 12 ครอบทับด้วย One UI Core 4
• ชิปเซ็ต: Exynos 850
• GPU: Mali-G52
• RAM: 4GB
• ความจุเครื่อง: 64GB
• microSD card: รองรับ
• กล้องหลัง 3 ตัว:
  • เลนส์หลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/1.8
  • เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล f/2.4
  • เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล f/2.4
• กล้องหน้า: 5 ล้านพิกเซล f/2.2
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 5000mAh

วิธีเลือกซื้อ มือถือ Samsung รุ่นไหนดี

1. ประสิทธิภาพ: หากต้องการใช้งานได้ได้อย่างไม่ติดขัด ไม่ว่านจะเล่นโซเชียล ถ่ายรูป เล่นเกม ก็ควรเลือกมือถือที่มี RAM 6GB ขึ้นไป เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งาน
2. ตัวเครื่อง: เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่หลายคนอาจมองข้ามในตอนแรก แต่หลังจากใช้งานแล้วก็มองว่าเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะการกันน้ำ และการเลือกขนาดที่เหมาะกับขนาดมือ ก็จะทำให้การจับถือใช้งานนานๆ แล้วไม่เมื่อยด้วย
3. กล้องถ่ายรูป: สิ่งที่ขนาดไม่ได้ในสมาร์ทโฟนเลยก็คือเรื่องกล้องถ่ายรูป นอกจากจะต้องมีความละเอียด มีเลนส์ครบทุกตัวแล้ว ระบบกันสั่น OIS ก็เป็นสิ่งที่ควรต้องมี เพื่อให้การถ่ายภาพนิ่งหรือวิดีโอนั้นคมชัด ไม่เบลอ
4. หน้าจอแสดงผล: สำหรับการใช้งานที่เน้นความบันเทิงผ่านหน้าจอเป็นหลัก เช่น ดูหนัง ดูคลิป เล่นโซเชียล ก็ต้องเลือกรุ่นที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ โดยแผงหน้าจอ AMOLED ก็จะมีสันสันที่สวยงาม
5. กราฟิกและเกม: สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ออกมาเพื่อการเล่นเกมทั่วไปได้อยู่แล้ว แต่ถ้าต้องการเล่นเกมกราฟิกสูงๆ ก็อาจมองหาชิปเซ็ตระดับกลางขึ้นไป รวมไปถึงหน้าจอที่มีรีเฟรชเรท 90Hz ก็จะทำให้การแสดงผลต่างๆ มีความลื่นไหลมากขึ้น ประสบการณ์การใช้งานบนหน้าจอก็จะเต็มประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

Samsung Galaxy S23 Ultra เป็นเรือธงที่ดีที่สุดของ Samsung ในตอนนี้ และเป็นตัวเลือกแรกๆ สำหรับผู้ใช้ที่เน้นประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด แต่หากไม่ต้องการจ่ายในราคาที่แพงจนเกินไป Galaxy S23+ ก็จะได้หน้าจอที่ใหญ่ในราคาถูกกว่า หรือ S23 ก็ตอบโจทย์สำหรับรุ่นเรือธงเช่นเดียวกันในราคาที่ถูกลง

นอกจากนี้ก็ยังมีรุ่นที่ถูกกว่า Galaxy S23 อย่างในรุ่น S22 ซึ่งเป็นรุ่นเรือธงของปีที่แล้ว ก็ยังคงตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดี มีฟีเจอร์เหนือกว่าซีรีส์อื่นๆ หากใช้งานทั่วไปที่ไม่ได้ต้องการกล้องซูมที่ดีที่สุด รุ่นเรือธงปีที่แล้วก็เป็นตัวเลือกที่ดีเลยครับ

สำหรับตัวเลือกที่ดีที่สุดของผู้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีล้ำๆ ก็ต้องเป็น Galaxy Fold4 แม้จะเปิดตัวในปี 2022 (รอลุ้นรุ่นใหม่ปลายปี 2023) ด้วยความสามารถในการพับหน้าจอได้และการทำงานได้หลากหลายพร้อมกัน กล้องถ่ายรูปที่ดีขึ้น หน้าจอที่สว่างกว่าเดิม แต่ราคาก็สูงตามไปด้วย เริ่มต้น 59,900 บาท ในขณะที่ Galaxy Flip4 เหมาะกับผู้ใช้งานที่เน้นไปทางผู้หญิงมากกว่า ด้วยดีไซน์แน้นแฟชั่น ขนาดที่เล็กกะทัดรัด ราคาเริ่มต้น 38,900 บาท

ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูล มือถือ Samsung ที่ดีที่สุด ในปี 2023 แนะนำให้เลือกรุ่นที่มีฟีเจอร์ครบและเหมาะกับการใช้งานของเราจะดีที่สุด อย่าลืมกดติดตามแฟนเพจ @iPhoneDroid.net และทวิตเตอร์ @iPhone_Droid จะได้ไม่พลาดข่าวสารดีๆ ด้วยนะครับ