มือถือราคา 8,000 บาท รุ่นไหนดี 2025 จอใหญ่ กล้องสวย จัดเต็ม AI

โดย Wattana S.

ยุคนี้ใคร ๆ ก็ต้องการสมาร์ทโฟนที่ คุ้มค่า คุ้มราคา แต่ยังคงอัดแน่นด้วยสเปกที่ตอบโจทย์การใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอขนาดใหญ่ เพื่อความบันเทิงเต็มตา, กล้องถ่ายภาพคมชัดสวยงาม และที่สำคัญที่สุดคือ ฟีเจอร์ AI อัจฉริยะ ที่ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น ซึ่งในงบประมาณ ไม่เกิน 8,000 บาท ในปี 2025 นี้ ตลาดก็ยังคงมีการแข่งขันที่ดุเดือด และมีตัวเลือกที่น่าสนใจมาให้ทุกคนตัดสินใจเลือก

Best smartphones 8000 THB in 2025

อัปเดตราคาล่าสุด มือถืองบ 8,000 บาท ปี 2025

1
Infinix GT 30

Infinix GT 30

10
2
Nothing Phone (3a) Lite

Nothing Phone (3a) Lite

10
3
HONOR 400 Lite

HONOR 400 Lite

9.9
4
OPPO A6 Pro 5G

OPPO A6 Pro 5G

9.9
5
realme 14T 5G

realme 14T 5G

9.8

บทความนี้จะพาทุกคนไปเจาะลึก 5 รุ่นเด่นสุดฮิต ที่ไม่เพียงแต่สเปกแรงเกินราคา แต่ยังเป็นตัวเลือกที่คนกำลังอยากเปลี่ยนมือถือใหม่ต้องห้ามพลาด


เทียบรุ่นเด่น มือถือราคา 8,000 บาท

รุ่นหน้าจอกล้องหลัง (หลัก)ชิปเซ็ตแบตเตอรี่ / ชาร์จเร็ว
OPPO A6 Pro 5G6.57″ AMOLED 120Hz50MPDimensity 63006500mAh / 80W
realme 14T 5G6.67″ AMOLED 120Hz50MPDimensity 63006000mAh / 45W
Nothing Phone (3a) Lite 5G6.77″ AMOLED 120Hz50MPDimensity 7300 Pro5000mAh / 33W
HONOR 400 Lite 5G6.7″ AMOLED 120Hz (3500 nits)108MPDimensity 7025 Ultra5230mAh / 35W
Infinix GT 30 5G6.78″ AMOLED 144Hz64MPDimensity 74005500mAh / 45W

มือถือราคา 8,000 บาท รุ่นเด่น ปี 2025

1. OPPO A6 Pro 5G: แบตอึด ชาร์จไว จอสวยพรีเมียม

OPPO A6 Pro 5G

OPPO A6 Pro 5G คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์คนต้องการแบตเตอรี่ใหญ่และความเร็วในการชาร์จที่ไม่ต้องรอนาน ด้วยความจุแบตเตอรี่ถึง 6500mAh และระบบชาร์จไว 80W SUPERVOOC ทำให้คุณใช้งานต่อเนื่องได้อย่างมั่นใจตลอดวัน

ฟีเจอร์เด่นที่น่าสนใจ:

  • พลังแบตไม่เป็นสองรองใคร: แบตเตอรี่ใหญ่ที่สุดในกลุ่ม 6500mAh และชาร์จเร็ว 80W ทำให้กลับมาเต็ม 100% ได้ในเวลาอันรวดเร็ว เหมาะกับคนใช้มือถือหนักตลอดวัน
  • จอ AMOLED คมชัด สว่างจ้า: หน้าจอ AMOLED 6.57 นิ้ว 120Hz ที่มาพร้อมความสว่างสูงสุดถึง 1400 nits ทำให้ใช้งานกลางแจ้งได้อย่างสบายตา
  • การถ่ายภาพ AI ที่ใช้งานง่าย: กล้องหลัก 50MP ผสานกับ AI ของ ColorOS ที่ช่วยประมวลผลภาพให้สวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องแต่งเพิ่ม
  • เหมาะกับใคร: ผู้ที่ให้ความสำคัญสูงสุดกับ อายุการใช้งานแบตเตอรี่ และ ความเร็วในการชาร์จ รวมถึงผู้ที่ชอบมือถือดีไซน์พรีเมียมจากแบรนด์ที่เชื่อถือได้
  • ซื้อได้ที่: Shopee / Lazada / TikTok
สรุปจุดเด่น OPPO A6 Pro 5G
หน้าจอ: 6.57″ AMOLED FHD+ 120Hz (สูงสุด 1400 nits)
กล้องหลัง: 50MP (Wide) + 2MP (Monochrome)
กล้องหน้า: 16MP
แบตเตอรี่/ชาร์จเร็ว: 6500mAh / 80W SUPERVOOC
ชิปเซ็ต: MediaTek Dimensity 6300 5G
ระบบปฏิบัติการ: ColorOS 15 บน Android 15

2. realme 14T 5G: จอใหญ่ แบตทน สเปกเกมมิ่งเริ่มต้น

realme 14T 5G

realme 14T 5G ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านความคุ้มค่า ด้วยการอัดสเปกที่สมดุลทั้งจอใหญ่ 6.67 นิ้ว, แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6000mAh และชิปเซ็ต Dimensity 6300 ที่พร้อมรับมือกับการเล่นเกมทั่วไปและการใช้งาน AI

ฟีเจอร์เด่นที่น่าสนใจ:

  • จอ Esports AMOLED 120Hz: หน้าจอ AMOLED ขนาดใหญ่ ให้สีสันสดใส ความสว่างสูงสุด 2000 nits พร้อมรีเฟรชเรท 120Hz เหมาะสำหรับสายเกมเมอร์และผู้ที่ชอบดูหนัง
  • กันน้ำ IP69: ฟีเจอร์ที่โดดเด่นมากในราคานี้ มอบความทนทานต่อฝุ่นและน้ำในระดับสูงสุด ทำให้ใช้งานได้อย่างไร้กังวลในทุกสถานการณ์
  • AI Camera และ Dynamic RAM: กล้อง 50MP ที่ใช้ AI ช่วยปรับแต่งภาพ พร้อมระบบ Dynamic RAM Expansion ช่วยให้การสลับแอปและการทำงานหลายอย่างพร้อมกันทำได้อย่างลื่นไหล
  • เหมาะกับใคร: ผู้ที่มองหา สมาร์ทโฟนที่สมดุลในทุกด้าน ทั้งจอสวย แบตอึด เล่นเกมได้ดีในงบจำกัด และต้องการ มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับสูง
  • ซื้อได้ที่: Shopee / Lazada / TikTok
สรุปจุดเด่น realme 14T 5G
หน้าจอ: 6.67″ AMOLED FHD+ 120Hz (สูงสุด 2000 nits)
กล้องหลัง: 50MP (หลัก) + 2MP (Monochrome)
กล้องหน้า: 16MP
แบตเตอรี่/ชาร์จเร็ว: 6000mAh / 45W SUPERVOOC
ชิปเซ็ต: MediaTek Dimensity 6300 5G
ระบบปฏิบัติการ: realme UI 6 บน Android 15

3. Nothing Phone (3a) Lite 5G: ดีไซน์สุดอินดี้ กล้องมี OIS

Nothing Phone (3a) Lite 5G

Nothing Phone (3a) Lite 5G มาพร้อมดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์และระบบปฏิบัติการ Nothing OS ที่สะอาดตา แต่จุดที่ทำให้รุ่นนี้โดดเด่นเหนือคู่แข่งในกลุ่มราคานี้คือ กล้องหลัก 50MP ที่มาพร้อมระบบกันสั่น OIS (Optical Image Stabilization) ซึ่งหายากมากในมือถือราคาระดับนี้

ฟีเจอร์เด่นที่น่าสนใจ:

  • กล้อง 50MP มี OIS: ทำให้การถ่ายภาพและวิดีโอมีความเสถียรและคมชัดมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการถ่ายในที่แสงน้อย
  • Glyph Interface Lite: แม้จะเป็นรุ่น Lite แต่ยังคงมีเอกลักษณ์ของ Nothing ด้วยไฟแจ้งเตือนด้านหลังที่ดูมีสไตล์และน่าดึงดูด
  • Nothing OS AI: ระบบปฏิบัติการที่เน้นความเรียบง่ายและประสบการณ์ AI ที่รวดเร็ว เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ ได้อย่างราบรื่น
  • เหมาะกับใคร: ผู้ที่ต้องการมือถือที่มีดีไซน์ไม่ซ้ำใคร มีกล้องที่ถ่ายภาพนิ่งได้ดีมากด้วย OIS และชอบประสบการณ์การใช้งานซอฟต์แวร์ที่สะอาดและลื่นไหล
  • ซื้อได้ที่: Shopee / Lazada
สรุปจุดเด่น Nothing Phone (3a) Lite 5G
หน้าจอ: 6.77″ AMOLED FHD+ 120Hz (สูงสุด 3000 nits)
กล้องหลัง: 50MP (Wide, OIS) + 8MP (Ultrawide) + 2MP (Macro)
กล้องหน้า: 16MP
แบตเตอรี่/ชาร์จเร็ว: 5000mAh / 33W
ชิปเซ็ต: MediaTek Dimensity 7300 Pro
ระบบปฏิบัติการ: Nothing OS 3.5 บน Android 15

4. HONOR 400 Lite 5G: กล้อง 108MP สว่างที่สุดในปฐพี!

HONOR 400 Lite 5G

หากเป็นสายถ่ายภาพที่เชื่อในพลังของพิกเซลที่สูง HONOR 400 Lite 5G คือคำตอบ ด้วยกล้องหลักความละเอียดสูงถึง 108MP และหน้าจอที่สว่างที่สุดในกลุ่มด้วยค่า 3500 nits ทำให้ภาพถ่ายและหน้าจอโดดเด่นกว่าใคร

ฟีเจอร์เด่นที่น่าสนใจ:

  • กล้องหลัก 108MP: ให้รายละเอียดภาพที่ยอดเยี่ยม สามารถครอปภาพได้โดยที่ความคมชัดยังคงอยู่
  • หน้าจอ 3500 nits: ความสว่างสูงสุดที่เหนือกว่าทุกรุ่น ทำให้การดูคอนเทนต์หรือใช้งานกลางแจ้งสู้แดดได้อย่างแท้จริง
  • ปุ่ม AI Camera และ Magic Portal: มีปุ่มเฉพาะสำหรับเรียกใช้งานกล้องและฟีเจอร์ AI ที่ช่วยในการถ่ายภาพอย่างรวดเร็ว พร้อม Magic Portal ที่ช่วยจัดการสิ่งที่เกี่ยวข้องและงานต่างๆ ด้วย AI
  • เหมาะกับใคร: ช่างภาพมือสมัครเล่นที่ต้องการกล้องความละเอียดสูง และผู้ที่ต้องใช้งานมือถือกลางแจ้งบ่อย ๆ
  • ซื้อได้ที่: Shopee / Lazada / TikTok
สรุปจุดเด่น HONOR 400 Lite 5G
หน้าจอ: 6.7″ AMOLED FHD+ 120Hz (สูงสุด 3500 nits)
กล้องหลัง: 108MP (หลัก) + 5MP (Ultrawide)
กล้องหน้า: 16MP
แบตเตอรี่/ชาร์จเร็ว: 5230mAh / 35W HONOR SuperCharge
ชิปเซ็ต: MediaTek Dimensity 7025 Ultra
ระบบปฏิบัติการ: MagicOS 9.0 บน Android 15

5. Infinix GT 30 5G: มือถือเกมมิ่งตัวจริง หน้าจอ 144Hz

Infinix GT 30 5G

สำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการเฟรมเรตสูงสุดในงบประมาณที่คุ้มค่า Infinix GT 30 5G คือตัวเลือกที่ไม่มีใครเทียบได้ ด้วยหน้าจอ AMOLED 144Hz และชิปเซ็ต Dimensity 7400 ที่ทรงพลังที่สุดในกลุ่มนี้

ฟีเจอร์เด่นที่น่าสนใจ:

  • หน้าจอ 144Hz และ Dimensity 7400: สเปกที่เน้นการเล่นเกมโดยเฉพาะ ให้การตอบสนองที่รวดเร็วและภาพที่ลื่นไหลสูงสุด
  • GT Trigger (ปุ่ม Trigger แบบสัมผัส): ฟีเจอร์ที่ยกมาจากมือถือเกมมิ่งระดับสูง ช่วยเพิ่มความแม่นยำและความสนุกในการเล่นเกม
  • ไฟ RGB LEDs ปรับแต่งได้: ดีไซน์ด้านหลังที่สวยงามพร้อมไฟ RGB ที่แสดงความเป็นเกมมิ่งอย่างชัดเจน
  • เหมาะกับใคร: เกมเมอร์ โดยเฉพาะผู้ที่เน้นเกมที่ต้องการเฟรมเรตสูง และผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพการประมวลผลสูงสุดในงบประมาณนี้
  • ซื้อได้ที่: Shopee / Lazada / TikTok
สรุปจุดเด่น Infinix GT 30 5G
หน้าจอ: 6.78″ AMOLED 144Hz (สูงสุด 4500 nits)
กล้องหลัง: 64MP (OIS) + 8MP (Ultrawide)
กล้องหน้า: 13MP
แบตเตอรี่/ชาร์จเร็ว: 5500mAh / 45W FastCharge
ชิปเซ็ต: MediaTek Dimensity 7400
ระบบปฏิบัติการ: XOS 15 บน Android 15

สรุป รุ่นไหนที่เหมาะกับคุณที่สุด

การเลือกมือถือที่ดีที่สุดขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคน ขอสรุปให้สั้นๆ ตามนี้เลย

  • เน้นแบตอึด ชาร์จไว: เลือก OPPO A6 Pro 5G (6500mAh/80W)
  • เน้นเกมมิ่ง เฟรมเรตสูงสุด: เลือก Infinix GT 30 5G (144Hz/Dimensity 7400/GT Trigger)
  • เน้นกล้องคมชัด มี OIS และดีไซน์สุดคูล: เลือก Nothing Phone (3a) Lite 5G (50MP OIS)
  • เน้นกล้อง 108MP และจอสว่าง: เลือก HONOR 400 Lite 5G (108MP/3500 nits)
  • เน้นความสมดุล แบตใหญ่ และกันน้ำ IP69: เลือก realme 14T 5G (6000mAh/IP69)

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับมือถือในงบประมาณ 8,000 บาท ทุกคนก็สามารถเป็นเจ้าของสมาร์ตโฟน 5G ที่มีหน้าจอสวยงาม, กล้องถ่ายภาพยอดเยี่ยม และฟีเจอร์ AI ที่ช่วยให้การใช้งานในชีวิตประจำวันสะดวกสบายยิ่งขึ้นได้

เรื่องน่าสนใจเพิ่มเติม:

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More