Connect with us

Smart Review

รีวิว ASUS Zenbook 14 OLED (UM3406H) โน้ตบุ๊กพรีเมียมบางเบา ประสิทธิภาพล้ำด้วยโปรเซสเซอร์ AI | AMD Ryzen 8000 Series

Published

on

รีวิว Zenbook 14 OLED (UM3406H) โน้ตบุ๊กพรีเมียมบางเบารุ่นล่าสุดของ ASUS ที่มาได้ขุมพลัง AMD Ryzen 8000 Series พร้อมชิป NPU เพื่อประมวลผลด้าน AI โดยเฉพาะ, น้ำหนักเบาเพียง 1.2 กก., และยังมีหน้าจอ ASUS Lumina OLED Display ขนาด 14″ ความละเอียด 3K อีกต่างหาก ดีไซน์จะสวยแค่ไหน การใช้งานเป็นอย่างไร เรารีวิวให้ชมที่นี่ ติดตามได้เลยครับ!

สรุปสเปค ASUS Zenbook 14 OLED (UM3406H)

  • ขนาดตัวเครื่อง: 31.24 x 22.01 x 1.49 ซม.
  • น้ำหนัก: 1.2 กก.
  • หน้าจอ: OLED 14″ อัตราส่วน 16:10
  • ความละเอียด: 3K (2880 x 1800),รองรับ DCI-P3 color gamut 100%, VESA CERTIFIED Display HDR True Black 500, 1.07 พันล้านสี, ความสว่างสูงสุด 600nits
  • refresh rate: 120Hz
  • หน่วยประมวลผล: AMD Ryzen 7 8840HS
  • กราฟิก: AMD Radeon Graphics
  • RAM: 16GB LPDDR5X
  • SSD: 1TB M.2 NVMe PCIe 4.0 SSD
  • แบตเตอรี่: 75Wh
  • กล้อง: FHD
  • ระบบเสียง : Harman/Kardon
  • พอร์ตการเชื่อมต่อ
    • USB-A 3.2 Gen 1 x 1
    • USB-C 3.2 Gen 2 x 1
    • USB-C 4.0 Gen 3 x 1
    • HDMI 2.1 TMDS x 1 
    • พอร์ตหูฟังและไมโครโฟนขนาด 3.5 มม. แจ็ค 2-in-1 x 1
  • การเชื่อมต่อ: Wi-Fi 6E(802.11ax) (Dual band) 2×2 + Bluetooth 5.3 Wireless Card
  • ระบบปฏิบัติการ: Windows 11 Home
  • สี: Jade Black

แกะกล่อง ASUS Zenbook 14 OLED (UM3406H)

ก่อนจะไปดูความงามของตัวเครื่อง ASUS Zenbook 14 OLED เราขอมาแกะกล่องเช็กของกันก่อนดีกว่าเนาะ ตัวแพ็กเกจของรุ่นนี้ก็ยังเรียบง่าย แต่แฝงดีไซน์ของ Zenbook ยุคใหม่ไว้ครบถ้วน ด้วยลวดลายโลโก้ ASUS ลายเส้นที่ด้านหน้า

ส่วนอุปกรณ์ในกล่องของ ASUS Zenbook 14 OLED (UM3406H) ก็ให้มาทั้งหมด 5 อย่างประกอบด้วย

  • ตัวเครื่อง Zenbook 14 OLED
  • อะแดปเตอร์ชาร์จ 65W
  • อะแดปเตอร์แปลง USB-A to RJ45
  • เอกสารคู่มือและใบรับประกัน
  • ซอง (Sleeve)

ดีไซน์หรูหรา และบางเบา

ได้เวลายลโฉม ASUS Zenbook 14 OLED กันแล้วครับ รุ่นนี้มาพร้อมกับดีไซน์ที่เรียบหรูมาก ๆ แว้บแรกตั้งแต่แกะกล่องออกมาก็รู้ได้ทันทีว่ารุ่นนี้ชูดีไซน์มาเป็นไฮไลท์อันดับต้น ๆ ตัวเครื่องมาในสี Jade Black ที่มีความคมเข้มพร้อมลวดลายเป็นเส้นสายตัดกันเป็นโลโก้ของ ASUS Zenbook เด่น ๆ

งานประกอบเป็นอลูมิเนียมที่ให้ความแน่นหนาเป็นอย่างดี แต่ก็ให้น้ำหนักที่เบาเพียง 1.2 กก. แถมยังมีความบางเพียงแค่ 14.9 มม.เมื่อพับสนิท เรียกว่าเป็นขนาดที่น่าสนใจมาก ใครที่ชอบโน้ตบุ๊กเครื่องเบา ๆ ติดกระเป๋าไปได้ทุกที่จะถูกใจขนาดของ Zenbook 14 OLED รุ่นนี้แน่นอนครับ!

หน้าจอ ASUS Lumina OLED ความละเอียดระดับ 3K

แต่แค่บอดี้สวยหรูยังไม่พอ เพราะ Zenbook 14 OLED ยังมาพร้อม สุดยอดหน้าจอ ASUS Lumina OLED Display เป็นหน้าจอ OLED เกรดคุณภาพสูงที่สุดของ ASUS ขนาด 14″ ใหญ่เต็มตา บนอัตราส่วน 16:10 และอย่างที่เห็นขอบจอนั้นบางเฉียบ จึงทำให้เราได้หน้าจอที่เต็มสุด ๆ แต่ตัวเครื่องไม่ได้ใหญ่ตามไปด้วย

ในเรื่องการแสดงผลก็หายห่วง เพราะได้ความละเอียดระดับ 3K (2880 x 1800) แสดงสีสวยสดใส Refresh rate 120Hz และยังปกป้องดวงตาจากแสงสีฟ้า ผ่านการรองรับจาก TÜV Rheinland ช่วยลดแสงสีฟ้าที่ทำลายดวงตาได้กว่า 70%

พร้อมค่า DCI-P3 Color Gamut 100% DCI-P3 และ VESA Display HDR™ 600 True Black ทำให้หน้าจอของรุ่นนี้แตกต่างจากหน้าจอ OLED ทั่วไปด้วยให้ค่าคอนทราสต์ที่สูงเป็นพิเศษถึง 1,000,000:1, การแสดงช่วงสีที่กว้างเป็นพิเศษ แถมได้ความสว่างสูงสุดมากถึง 600 nits เรียกว่าเป็นจอที่เหมาะกับการทำงานที่เน้นสีสันหรือดูคอนเทนต์จริงจังมากครับ!

ส่วนองศาการกางจอ Zenbook 14 OLED จะสามารถกางได้ถึง 180⁰ เราว่าสะดวกมาก ๆ เพราะไม่จำกัดมุมมองจนเกินไป เผื่ออยากแชร์เนื้อหาให้คนอื่นเห็นแบบเต็ม ๆ ก็กางสุดวางนอนไปได้เลยเนาะ

กล้องหน้า FHD ที่ปลอดภัยกว่าด้วย WebCam Shield

กล้องหน้าของ Zenbook 14 OLED จะมาพร้อมความละเอียด FHD เพียงพอต่อการใช้งานวิดีโอคอลแล้ว และยังมี WebCam Shield หรือตัวฝาสไลด์เปิด-ปิดที่ช่วยในเรื่องความปลอดภัยเมื่อเราไม่ใช้งานก็สามารถปิดไปได้เลย ไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครแฮ็คเข้ามาดูกล้องเราขณะทำงาน หรือเผลอลืมเปิดกล้องไว้ตอนประชุม ถ้าเราปิดด้วยวิธีนี้ยังไงก็ไม่เห็นแน่นอนครับ

คีย์บอร์ดสัมผัสเงียบ พร้อมปุ่มลัดพิเศษ

มาดูเรื่องคีย์บอร์ดกันบ้าง Zenbook 14 OLED มาพร้อมคีย์บอดร์ดแบบ Full Sized ที่มีระยะการเว้นของปุ่มได้ดี ตัวปุ่มมีความ Clicky ดีมาก ๆ แถมยังเงียบไม่ส่งเสียงดังแม้จะใช้งานพิมพ์เร็ว ๆ ก็ตาม ด้านในปุ่มจะมีไฟ Backlit ซ่อนอยู่ด้วย

และด้วยความเป็นโน้ตบุ๊กพลัง AI ที่คีย์บอร์ดของ Zenbook 14 OLED จึงมีปุ่มลัดพิเศษเพื่อเรียก Copilot ออกมาใช้งานได้แบบด่วน ๆ ช่วยให้เราทำงานได้สะดวกขึ้น อยากค้นหาอะไรแบบทันที หรือให้ AI คอยจัดการบางอย่างไม่ให้ค้างคาใจก็กดที่ปุ่มนี้ได้เลยครับ

พอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน

ในส่วนของพอร์ตการเชื่อมต่อของ ASUS ก็ไม่เคยทำให้ผิดหวังให้มาครบเหมือนเดิม ที่ด้านขวามือจะมีพอร์ต HDMI 2.1, ช่องหูฟังและไมโครโฟน 3.5 มม. และพอร์ต USB-C 2 พอร์ตที่แบ่งเป็น USB 4.0 และ USB 3.2 Gen 2 ตามลำดับครับ

ส่วนฝั่งซ้ายมือของตัวเครื่องจะมีพอร์ต USB-A แบบ USB 3.2 Gen 1 มาให้อีกพอร์ตเรียกว่าครบเครื่องของจริง จะต้องเมาส์ต่ออุปกรณ์เสริม หรืออะแดปเตอร์เพิ่มพอร์ต LAN RJ45 ที่แถมมาในกล่องก็ที่พอร์ตนี้ได้เลยครับ

ระบบเสียงจาก Harman/Kardon เช่นเคย

ในเรื่องคุณภาพเสียง Zenbook 14 OLED มาพร้อมระบบเสียงสเตอริโอที่ได้รับการรับรองจาก Harman/Kardon ให้เสียงที่ทรงพลังและสมจริงคมชัด พร้อมระบบ smart amplifier และ ASUS Audio Booster ให้เราได้ดื่มด่ำกับเสียงหลากหลายมิติ แถมยังรองรับระบบเสียงระดับโรงภาพยนตร์อย่าง Dolby Atmos อีกด้วย

แข็งแกร่งสุด ๆ ด้วยมาตรฐานความทนทานระดับกองทัพ

เช่นเดียวกับโน้ตบุ๊กรุ่นอื่น ๆ ของ ASUS ตัวเครื่อง Zenbook 14 OLED ได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมที่มีความแข็งแรงคงทนเป็นพิเศษตรงตามมาตรฐานทางทหารของสหรัฐอเมริกา MIL-STD 810H โดยผ่านการทดสอบที่เข้มงวดซึ่งรวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง ส่งผลดีต่ออายุการใช้งานและความคงทน มั่นใจได้ว่าเราจะสามารถทำงาน เดินทาง หรือพักผ่อนด้วยโน้ตบุ๊กที่พร้อมทุกสถานการณ์จริง ๆ ครับ!

โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ ASUS Zenbook 14 OLED ใหม่นี้ก็สร้างความประทับใจให้เราได้เหมือนเคย ด้วยงานประกอบที่หรูหรา แข็งแกร่ง แต่ก็ยังมาในขนาดที่กะทัดรัดและเบาแค่ 1.2 กก. ชวนให้เราอยากพกพาไปใช้งานด้วยทุกที แถมยังมีหน้าจอที่สวยเด่นระดับ 3K ที่ตื่นตาตื่นใจได้ไม่น้อยอีกต่างหากครับ

ขุมพลัง AMD Ryzen 8000 Series พร้อมความสามารถ AI เต็มสูบ

มาต่อกันที่เรื่องประสิทธิภาพ Zenbook 14 OLED ใหม่นี้มาพร้อมประสิทธิภาพขั้นสูงด้วยโปรเซสเซอร์ใหม่ AMD Ryzen 8000 Series มีชิป NPU (Neural Processing Unit) ที่เป็นหน่วยประมวลผล AI ทำงาน ที่ทำงานร่วมกับ Software ต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ใช้งานได้ราบรื่นยิ่งขึ้น พร้อมทั้งช่วยประหยัดพลังงาน ทำให้สามารถใช้งาน เล่นเกม หรือทำงานสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

โดยรุ่นที่วางจำหน่ายในไทยและเราได้มาเป็นชิป AMD Ryzen 7 8840HS แบบ 8-Core ความเร็ว 3.3GHz (24MB Cache, สูงสุด 5.1 GHz, 16 Threads) ซึ่งชิปตัวนี้จะมี NPU อย่าง AMD Ryzen AI ที่ประมวลผลได้สูงสุด 38 TOPs (เพิ่มจากรุ่นก่อนที่ทำได้สูงสุด 10 TOPS) ส่วนการ์ดจอก็ให้แบบออนบอร์ด AMD Radeon Graphics ครับ ส่วนความจุ รอบนี้ ASUS ไทยวางจำหน่ายในรุ่นความจุเดียวเลยคือ RAM 16GB LPDDR5X + SSD 1TB แบบ M.2 NVMe PCIe 4.0 ครับผม

และอย่างที่บอกว่า Zenbook 14 OLED นั้นออกแบบมาเพื่อทำงานร่วมกับ AI เต็มรูปแบบด้วยการใช้งาน Copilot โปรแกรมแชทอัจฉริยะ ที่ช่วยการทำงานต่าง ๆ ให้ง่าย-สะดวกกว่าเดิมด้วยปุ่มลัด ทำให้เวลาเราจะสั่งงานต่าง ๆ นั้นรวดเร็วดีมาก นอกจากนี้แอปของ Microsoft เองที่ผูกความสามารถร่วมกับ Copilot เอง อาทิ Paint, Snipping Tool, Photo หรือ Clip Champ ก็จะตอบสนองได้ดีขึ้นด้วยเพราะชิป AMD Ryzen 8000 Series นั่นเองครับ

ผลทดสอบน่าพอใจในทุกแอป

เพื่อให้เห็นประสิทธิภาพคร่าว ๆ ของชิป AMD Ryzen 7 8840HS และหน่วยความจำของ Zenbook 14 OLED เราก็มีผลทดสอบจากแอป Benchmark หลายตัวมาให้ดูกันสักหน่อยด้วย ซึ่งบอกเลยว่าคะแนนออกมาไม่ธรรมดาเลยดังนี้ครับ

CPU-Z = Single Thread 671.8 | Multi Thread 6824

CrystalDiskMark = การอ่าน SEQ1M ที่ 5079.73 MB/s | เขียน 3619.69 MB/s

CINEBENCH R23 = Multi Core 15426 | Single Core 1771

PCMark 10 = 7076

มาพร้อม Windows 11 Home และ Microsoft Office Home and Student 2021 ตั้งแต่แกะกล่อง

มาต่อกันที่เรื่องซอฟต์แวร์ Zenbook 14 OLED มาพร้อม Windows 11 Home ที่แน่นอนว่ามี Copilot มาให้ใช้งานควบคู่กันด้วย

นอกจากนี้สาย Microsoft Office ก็ยังมี Microsoft Office Home and Student 2021 ติดมาให้เลยด้วย ช่วยลดค่าโปรแกรมไปได้เยอะเลย เรียกว่าแกะกล่องมาก็พร้อมใช้ทันทีล่ะเนาะแบบนี้

รวมถึงซอฟต์แวร์ที่ช่วยจัดการตัวเครื่องอย่าง MyASUS ที่อัดแน่นไปด้วยเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการปรับปรุงประสิทธิภาพการทํางาน เพิ่มประสิทธิภาพ หรือคอลเล็กชันแอปและเครื่องมือ ASUS ที่มีประโยชน์ ซึ่งช่วยให้เราจัดการตัวเครื่องได้ง่ายขึ้นจากแอปเดียวก็มีมาให้ใช้เช่นเดียวกันครับ

แบตเตอรี่ขนาด 75 Wh พร้อมระบบชาร์จเร็ว ใช้งานได้ตลอดวัน

ปิดท้ายที่เรื่องแบตเตอรี่ Zenbook 14 OLED ได้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 75Wh ให้เราทำงานได้ตลอดวันโดยไม่ต้องเสียบปลั๊ก ASUS เคลมว่าสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องสูงสุด 17 ชม.+ กันเลยทีเดียว แต่ถ้าจำเป็นต้องชาร์จจริง ๆ รุ่นนี้ก็มีเทคโนโลยีชาร์จเร็วที่สามารถชาร์จขึ้นมา 60% ได้ในเวลาเพียง 49 นาที ซึ่งมาตรฐานการชาร์จก็เป็น USB-C Power Delivery หรือ PD 65W ด้วย ชาร์จร่วมกับอุปกรณ์มาตรฐานอื่น ๆ ที่มีได้เลย

วางจำหน่ายแล้ววันนี้เพียง 39,990 บาท

ASUS Zenbook 14 OLED (UM3406) พร้อมวางจำหน่าย ณ ร้านค้าไอทีชั้นนำทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ Official store จากเอซุสแล้ววันนี้ ในราคา 39,990 บาท มาพร้อม Windows 11 Home และ Microsoft Office Home and Student 2021 พร้อมใช้งาน 

และแนะนำบริการหลังการขายใหม่ ‘4A Guarantee’ (Assured Quality, Always-On Support, All-around Coverage และ Added-Value Experience)  ที่พร้อมดูแลลูกค้าอย่างดีที่สุด  โดยลูกค้า Zenbook 14 OLED (UM3406) จะได้รับการรับประกันตัวเครื่อง 3 ปี on-site service,  3 ปี รับประกันระหว่างประเทศ ครอบคลุม 80 ประเทศทั่วโลก และการรับประกันอุบัติเหตุ (Perfect Warranty) 1 ปีแรกอีกด้วย

สรุปแล้ว “นี่คือโน้ตบุ๊กพรีเมี่ยม บางเบา และฉลาดล้ำด้วยชิป AI ใหม่ในราคาไม่ถึง 40,000 บาท”

สรุปแล้ว ASUS Zenbook 14 OLED (UM3406H) รุ่นนี้ก็ถือเป็นโน้ตบุ๊กสายพรีเมี่ยมประจำปี 2024 ที่ออกมาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่อย่างแท้จริง ทั้งชิปประมวลผล AMD Ryzen 8000 Series ที่เอาจริงเอาจังในเรื่องของการประมวลผล AI มากขึ้น ใช้งานร่วมกับ Copilot ได้เป็นอย่างดี มีดีไซน์ที่พรีเมี่ยมแต่บางเบา ด้วยน้ำหนักแค่ 1.2 กก.พกพาสะดวก ได้หน้าจอ OLED 3K ขนาดใหญ่ถึง 14″ ที่สวยคมชัดที่สุดของ ASUS ในตอนนี้ และที่ขาดไม่ได้แบตเตอรี่ที่อึดเพียงพอต่อการใช้งานแบบไม่ต้องพึ่งที่ชาร์จตลอดเวลา ใครที่กำลังมองหาโน้ตบุ๊กที่ตอบโจทย์ยุคแห่ง AI ในงบไม่ถึง 40,000 บาทอยู่ เราว่า Zenbook 14 OLED (UM3406H) รุ่นนี้ก็เป็นตัวเลือกที่น่าลองไม่น้อยเลยล่ะครับ!

Advertisement

กำลังฮอต

HUAWEI Band 9 ราคาเริ่มต้น 1,299 บาท HUAWEI Band 9 ราคาเริ่มต้น 1,299 บาท
Featured3 วัน ago

5 ข้อควรรู้ก่อนเลือกซื้อสมาร์ทแบนด์ กับความครบเครื่องของ HUAWEI Band 9 สมาร์ทแบนด์ที่เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ทุกรุ่น ดูแลสุขภาพยืนหนึ่งในราคาเริ่มต้น 1,299 บาท

ใครที่อยู่ในช่วงเริ่...

Apple News1 สัปดาห์ ago

AIS เปิดบริการ AIS Care+ with AppleCare Services รายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้ผู้ใช้อุ่นใจมากขึ้น สบายใจที่สุด

AIS คว้า AppleCare S...

Featured4 สัปดาห์ ago

รีวิว vivo Y100 5G สนุกกับสเปกเต็ม 100 ด้วยขุมพลัง SD 4 Gen 2 5G ดีไซน์อัปเกรดสุดพรีเมียม พร้อมชาร์จเร็ว 80W FlashCharge

รีวิว vivo Y100 5G น...

Featured1 เดือน ago

รีวิว realme 12+ 5G | realme 12 Pro+ 5G “Be a Portrait Master” ด้วยกล้อง Periscope ระดับเรือธง | ดีไซน์นาฬิกาหรู | ชาร์จไว 67W SUPERVOOC

รีวิว realme 12+ 5G ...

Featured1 เดือน ago

รีวิว Xiaomi 14 | 14 Ultra เรือธงกล้องเทพในสองขนาด พร้อมการถ่ายภาพและวิดีโอระดับ Next-Generation ของ Leica!

รีวิว Xiaomi 14 Seri...

IT News2 นาที ago

หัวเว่ยเชิญนักพัฒนาแอปพลิเคชัน ร่วมมือปั้นเนทีฟ แอปฯ สำหรับระบบปฏิบัติการ HarmonyOS

ณ งาน Huawei Analyst...

Smart Review43 นาที ago

รีวิว Redmi Note 13 Pro 5G สมาร์ทโฟนที่ใช้ขุมพลังตัวท็อป SD 7s Gen 2 พร้อมกล้องหลัง 200MP และชาร์จไว 67W 

รีวิว Redmi Note 13 ...

IT News2 ชั่วโมง ago

เอไอเอสจับมือกสทช. ดูแลผู้พิการรอบด้าน ตอกย้ำดิจิทัลเป็นหัวใจการสร้างความเท่าเทียมแก่ทุกกลุ่ม

นายวรุณเทพ วัชราภรณ์...

IT News2 ชั่วโมง ago

Redmi Note 13 Pro 5G วางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการตั้งแต่ 27 เม.ย. 67 เป็นต้นไปในราคาเพียง 12,990 บาท

เสียวหมี่ประกาศวางจำ...

IT News3 ชั่วโมง ago

realme เปิดตัวแบรนด์ช็อป เวอร์ชันล่าสุด “realme Experience Store 3.5”ครั้งแรกของเมืองไทย

ด้วยความมุ่งมั่นนำเส...

Advertisement

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก