Smart Review
รีวิว ASUS ProArt StudioBook 16 OLED (Core i7 + RTX3060) แล็ปท็อปสายสตูดิโอที่ตอบโจทย์ในทุกด้านสำหรับการสร้างสรรค์
รีวิว ASUS ProArt StudioBook 16 OLED แล็ปท็อปสำหรับสายสตูดิโอรุ่นล่าสุดที่มาพร้อมหน้าจอ OLED ขนาด 16″ และฟีเจอร์ที่เพิ่มความสะดวกในการทำงานไปอีกขั้นด้วย ASUS Dial และที่ขาดไม่ได้คือสเปคที่ตอบโจทย์แบบสุด ๆ รุ่นที่เราได้มารีวิวเป็นโมเดล H7600HM ใช้ชิป Intel Core-i7-11800H + RTX3060 ด้วย เรียกว่าจัดเต็มแน่นอน
![รีวิว ASUS ProArt StudioBook 16 OLED](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/12/Review_StudioBook16OLED.jpg)
ใครที่กำลังต้องการอัปเกรดแล็ปท็อปประจำปลายปีสำหรับทำงานด้านคอนเทนต์แบบเต็มรูปแบบ ไม่ควรพลาดรุ่นนี้เลยครับ น่าสนใจแค่ไหน วันนี้ทีมงาน iphone-droid.net รีวิวให้ชมแบบเต็ม ๆ ครับ
สรุปสเปค ASUS ProArt StudioBook 16 OLED (H7600HM)
- ขนาดตัวเครื่อง: 36.20 x 26.40 x 2.14 ซม.
- น้ำหนัก: 2.4 กก.
- หน้าจอ: OLED HDR 16″ ความละเอียด 4K (3840 x 2400) พิกเซล อัตราส่วน 16:10, DCI-P3 100% PANTONE Validated
- หน่วยประมวลผล: Intel Core i7-11800H
- กราฟิก: Nvidia GeForce RTX3060
- RAM: 32GB (LPDDR4X)
- SSD: 1TB NVMe PCIe 3.0
- แบตเตอรี่: 90Wh
- กล้อง: Webcam 720P HD
- ระบบเสียง : Harman/Kardon
- พอร์ตการเชื่อมต่อ
- USB-A 3.2 Gen2 x 2
- USB-C 3.2 Gen2 x 1
- Thunderbolt 4 x 1 (รองรับการเชื่อมต่อข้อมูล, ชาร์จไฟ และ DisplayPort)
- HDMI 2.1 x 1
- พอร์ตหูฟังและไมโครโฟนขนาด 3.5 มม. แจ็ค 2-in-1 x 1
- SD Express 7.0 Card Reader x 1
- เซ็นเซอร์: เซ็นเซอร์วัดแสง, เซ็นเซอร์ลายนิ้วมือ
- การเชื่อมต่อ: Wi-Fi 6(802.11ax) + Bluetooth 5.2 (Dual band) 2 x 2
- ระบบปฏิบัติการ: Windows 10 Home
- สี: Star Black
![รีวิว ASUS ProArt StudioBook 16 OLED](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/12/Review_StudioBook16OLED-43.jpg)
ดีไซน์สำหรับงาน Studio
ขอเริ่มที่ดีไซน์กันก่อนเลยละกันครับ ASUS ProArt StudioBook 16 OLED นี้มาพร้อมกับดีไซน์ทรงพลังแบบเห็นแล้วก็รู้เลยว่ารุ่นนี้ออกแบบมาสำหรับงาน Studio คือไม่ได้เน้นไปที่ความบาง-เบาหรือกะทัดรัดมากนัก เพราะอัดสเปคมาให้แบบสุดจัดครับ ตัวเครื่องเลยมีความบึกบึนหน่อย ๆ มีความหนาประมาณ 2.14 ซม.ครับรุ่นนี้
![รีวิว ASUS ProArt StudioBook 16 OLED](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/12/Review_StudioBook16OLED-08.jpg)
สีสันก็เลือกใช้สี Star Black สีดำที่ให้ความรู้สึกถึงรุ่นโปรมีความคมเข้มและมืออาชีพ ผิวสัมผัสเป็นแบบด้านทั้งหมด ตอบโจทย์การใช้งานเป็นเวลานานไม่มันวาวจนเก็บคราบรอยนิ้วมือจนดูเลอะเทอะไปหมดครับ ที่ฝาหลังจะมีโลโก้ ProArt วางอยู่ตรงกลางแบบเรียบ ๆ
![รีวิว ASUS ProArt StudioBook 16 OLED](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/12/Review_StudioBook16OLED-03-1.jpg)
น้ำหนักของ ASUS ProArt StudioBook 16 OLED รุ่นนี้จะอยู่ที่ 2.4 กก. อย่างที่บอกไปตอนแรกว่ารุ่นนี้ออกแบบมาได้บึกบึนและไม่ได้เน้นไปที่ความบาง-เบามากนัก น้ำหนักอาจจะมากหน่อยเพราะเน้นการทำงานอยู่กับที่ซะส่วนใหญ่ แต่ก็ยังมีน้ำหนักที่สามารถพกพาไปทำงานนอกสถานที่ได้อยู่ครับ
![รีวิว ASUS ProArt StudioBook 16 OLED](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/12/Review_StudioBook16OLED-02.jpg)
หน้าจอ 4K OLED HDR ขนาด 16″
ด้วยตัวเครื่องที่ใหญ่ขนาดนี้หน้าจอก็ใหญ่ตามไปด้วย ASUS ProArt StudioBook 16 OLED รุ่นนี้ได้ขนาดหน้าจอใหญ่ถึง 16″ แสดงผลได้เต็มตาด้วยชนิดหน้าจอแบบ OLED ความละเอียดสูงถึง 4K รองรับการแสดงผลได้แบบ 10 Bit หรือ 1,000 ล้านสีอีกด้วย เรียกว่าเปิดเครื่องมาต้องตะลึงกับความอลังการของหน้าจอเลยจริง ๆ ครับ
![รีวิว ASUS ProArt StudioBook 16 OLED](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/12/Review_StudioBook16OLED-04.jpg)
ตัวหน้าจอ OLED นั้นสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับผู้ใช้งานที่ต้องการความสมจริงของหน้าจอและสีสันที่เที่ยงตรงเป็นอย่างมากเลยล่ะครับ ในเรื่องความตรงของสีรุ่นนี้ยังรองรับมาตรฐาน DCI-P3 100% มาตรฐาน sRGB 133% นอกจากนี้ตัวหน้าจอยังได้รับการการันตีจาก Pantone ระบบสีที่น่าเชื่อถือที่สุดในโลกอีกด้วย สายงานอย่าง ด้านแฟชั่น, กราฟิกดีไซน์, บรรจุภัณฑ์ หรือสถาปัตยกรรม ถูกใจแน่นอนครับ
![รีวิว ASUS ProArt StudioBook 16 OLED](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/12/Review_StudioBook16OLED-07.jpg)
![รีวิว ASUS ProArt StudioBook 16 OLED](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/12/Review_StudioBook16OLED-06.jpg)
หรือถ้าจะเอามาดูวิดีโอ ดูหนังบนความละเอียดสูง ๆ รุ่นนี้ก็ตอบโจทย์ไม่แพ้กัน เพราะ ASUS ProArt StudioBook 16 OLED ใช้อัตราส่วนแบบ 16:10 รองรับการแสดงผล HDR ที่ให้สีสันได้สมจริง สีดำเป็นดำจริง ๆ ความสว่างที่สูงสุดถึง 550 nits ใช้งานในสตูดิโอที่อาจมีแสงที่มากก็ไม่เป็นปัญหาครับ
![รีวิว ASUS ProArt StudioBook 16 OLED](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/12/Review_StudioBook16OLED-05.jpg)
กล้อง Webcam ที่ปลอดภัยกว่า
เหนือหน้าจอเราจะเห็นกล้อง Webcam ของรุ่นนี้ที่มีความละเอียด 720p HD พร้อมกับที่ปิดตัวกล่องแบบ Manual เลยด้วย ใครที่กลัวเรื่องความปลอดภัยก็สามารถเลื่อนปิดได้เลย ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปครับ
![รีวิว ASUS ProArt StudioBook 16 OLED](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/12/Review_StudioBook16OLED-09.jpg)
คีย์บอร์ด Full-Sized พร้อม แป้นตัวเลข
มองลงมาที่ตัวแป้นคีย์บอร์ดกันต่อ ASUS ProArt StudioBook 16 OLED มาพร้อมคีย์บอร์ดแบบ Full-Sized พร้อมแป้นตัวเลขด้วยครับ เหมาะกับการทำงานอย่างมากจริง ๆ ครับ ตัวคีย์บอร์ดนั้นมีการเว้นช่องได้แบบพอดิบพอดี เพราะฉะนั้น เวลาพิมพ์งานก็จะทำได้คล่องตัวแถมตัวปุ่มก็ยังมีแรงดีดรับกับการพิมพ์ได้ดีมากด้วย
![รีวิว ASUS ProArt StudioBook 16 OLED](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/12/Review_StudioBook16OLED-10.jpg)
![รีวิว ASUS ProArt StudioBook 16 OLED](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/12/Review_StudioBook16OLED-11.jpg)
แม้ภายนอกจะดูเหมือนไม่มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้แต่ที่ปุ่ม Power ของ ASUS ProArt StudioBook 16 OLED นั้นมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือซ่อนอยู่ด้วยนะครับ เพื่อให้เราได้ใช้งานปลดล็อคตัวเครื่องได้อย่างสะดวก เปิดเครื่องมาแตะสแกนปุ๊บเข้าหน้าจอได้ทันที
![รีวิว ASUS ProArt StudioBook 16 OLED](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/12/Review_StudioBook16OLED-13.jpg)
ตัวปุ่มลูกศรหรือ Arrow Key เป็นแบบ Full-Sized เช่นเดียวกัน เหมาะมากสำหรับสายครีเอเตอร์ที่ต้องใช้การควบคุมตรงปุ่มนี้อยู่บ่อย ๆ ครับ ส่วนใหญ่แล็ปท็อปมักจะให้ปุ่มลูกศรแบบเล็กเวลาจะกดขยับนิด ขยับหน่อยมันก็อาจจะไม่สะดวกเท่าไหร่ แถมยังมีการทำลวดลายแบบ Carbon Fiber เพิ่มเข้าไปด้วย เท่ไม่หยอกเลยล่ะ
![รีวิว ASUS ProArt StudioBook 16 OLED](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/12/Review_StudioBook16OLED-12.jpg)
ASUS Dial ความพิเศษที่ช่วยให้ทำงานได้สะดวกขึ้นเยอะ
นอกจากปุ่มลูกศรที่เหมาะกับการทำงานแล้ว ASUS ProArt StudioBook 16 OLED ยังมีปุ่มพิเศษอย่าง ASUS Dial เข้ามาช่วยให้เราทำงานได้สะดวกยิ่งขึ้นอีกด้วย ตัว ASUS Dial นี้จะเป็นเหมือนวงแหวนควบคุมที่ให้เรา หมุน กดลงไปได้ ตามคำสั่งที่เราตั้งค่าไว้
![รีวิว ASUS ProArt StudioBook 16 OLED](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/12/Review_StudioBook16OLED-14.jpg)
แน่นอนว่าสายครีเอเตอร์ที่ต้องใช้งานโปรแกรมเฉพาะทาง อาทิ โปรแกรมแต่งรูปอย่าง Photoshop Lightroom หรือโปรแกรมตัดต่ออย่าง Premier Pro ต้องมีคีย์ลัดมากมายให้เลือกใช้ ถ้าเราตั้งค่าตัว ASUS Dial ให้เหมาะกับงานที่ทำก็จะช่วยเราได้อีกเยอะเลย เป็นสายวาดรูปเราตั้ง ASUS Dial ให้เป็นปุ่ม Brush ใน Photoshop เราก็ไม่จำเป็นต้องกดที่ปุ่ม B เหมือนเดิมจะปรับขนาดของแปรงก็ใช้การหมุนแทนที่การกด [ ] ได้ แค่นึกภาพตามก็เห็นถึงความสะดวกแล้วใช่ไหมล่ะครับแบบนี้
![รีวิว ASUS ProArt StudioBook 16 OLED](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/12/Review_StudioBook16OLED-15.jpg)
![รีวิว ASUS ProArt StudioBook 16 OLED](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/12/Review_StudioBook16OLED-16.jpg)
ซึ่งปุ่มนี้จะเข้ามาแทนที่ปุ่มลัดที่เราเคยใช้แบบเดิม ๆ บอกได้เลยว่าถ้าใช้งานจนชำนาญแล้วจะไม่อยากกลับไปใช้แล็ปท็อปรุ่นปกติอีกเลย เพราะมันสะดวกจริง ๆ ASUS Dial เนี่ย
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/12/Review_StudioBook16OLED-17.jpg)
TouchPad รองรับ Stylus ขีดเขียนได้จากตรงนี้เลย
ตัว TouchPad ของ ASUS ProArt StudioBook 16 OLED นั้นมีขนาดใหญ่ใช้งานได้ดีเลย แต่น่าเสียดายที่ไม่รองรับระบบ Force Touch หรือการกดด้วยน้ำหนักแทนการคลิก แต่ก็มีปุ่มกดขนาดใหญ่มาให้ทดแทนที่ด้านล่างครับ ซึ่งปุ่มกดที่ให้มามี 3 ปุ่มแยกเป็น คลิกซ้าย เม้าส์กลาง และคลิกขวาครบเลยด้วย
![รีวิว ASUS ProArt StudioBook 16 OLED](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/12/Review_StudioBook16OLED-19.jpg)
นอกจากนี้ตัว TouchPad นี้ยังรองรับการทำงานร่วมกับปากกา Stylus ด้วย ทำให้เวลาเราใช้งานไม่ว่าจะเป็นการวาด-เขียน หรือแต่งภาพก็ให้ความรู้สึกเหมือนเรามี Pad ขนาดใหญ่ติดมาที่ตัวเครื่องเลย สะดวกเพิ่มไปอีกหนึ่งครับแบบนี้
![รีวิว ASUS ProArt StudioBook 16 OLED](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/12/Review_StudioBook16OLED-18.jpg)
พอร์ตเชื่อมต่อครบ ไม่จำเป็นต้องพึ่ง Dongle
มาดูพอร์ตการเชื่อมต่อกันบ้าง ASUS ProArt StudioBook 16 OLED ให้มาครบเครื่องมาก ๆ เรียกว่าไม่ต้องพึ่ง Dongle หรืออะแดปเตอร์อีกต่อไปที่ฝั่งซ้ายมือจะแบ่งเป็น
- ช่อง Security lock
- พอร์ต USB-A 3.2 Gen 2
- ช่องชาร์จ DC
- พอร์ต HDMI 2.1
- พอร์ต Thunderbolt 4
- พอร์ต USB-C 3.2 Gen 2
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/12/Review_StudioBook16OLED-21.jpg)
ส่วนฝั่งขวามือก็ยังมีพอร์ตเพิ่มเติมอีกดังนี้ครับ
- พอร์ต LAN
- พอร์ต USB-A 3.2 Gen 2
- ช่องหูฟัง 3.5 มม.
- SD Express 7.0 Card Reader
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/12/Review_StudioBook16OLED-20.jpg)
เห็นแค่รายชื่อพอร์ตแบบนี้ก็คงรู้แล้วว่าครบจริง ๆ จะเชื่อมต่อเม้าส์, แฟลชไดร์ฟ, ต่อ LAN หรือเสียบการ์ดก็ไม่ต้องพึ่งอะแดปเตอร์เลย สะดวกมาก ๆ ครับ ถ่ายรูปมาใส่การ์ดทำงานได้ทันที ทำงานเสร็จใส่ External Harddisk ก็ได้อีก
ระบบเสียงชั้นยอดจาก Harman/Kardon
นอกจากหน้าจอจะคมชัดแบบสุด ๆ แล้ว เรื่องเสียงรุ่นนี้ก็ไม่น้อยหน้าเช่นกันเพราะ ASUS ProArt StudioBook 16 OLED มาพร้อมลำโพงจาก Harman/Kardon รองรับคุณภาพระดับ Hi-Res เสียงนี่กระหึ่มถูกใจแน่นอน ใช้ฟังเพลง ดูหนังหรือทำงานด้านเสียงก็คือดีมาก ๆ เลยล่ะครับ
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/12/Review_StudioBook16OLED-23.jpg)
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/12/Review_StudioBook16OLED-22.jpg)
ระบบระบายความร้อนที่ดี
พลิกกลับมาดูที่ด้านล่างตัวเครื่องจะมีช่องระบายอากาศ ซึ่งสอดแทรกลูกเล่นด้วยการใส่ชื่อแบรนด์ StudioBook ไว้ด้วย มั่นใจได้ว่าถ้าทำงานหนัก ๆ ก็จะไม่เก็บความร้อนแน่นอนครับรุ่นนี้
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/12/Review_StudioBook16OLED-24.jpg)
ความทนทานได้มาตรฐานระดับกองทัพ
ปิดท้ายที่เรื่องความทนทาน ASUS ProArt StudioBook 16 OLED ผ่านการทดสอบมากมายจนได้มาตรฐาน MIL-STD 810H หรือเรียกว่าระดับกองทัพเลยด้วย มั่นใจได้เลยไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิสูงหรือต่ำ, ความชื้น, การตกกระแทก รุ่นนี้ก็ทำได้ดีมากตามการทดสอบครับ
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/12/Review_StudioBook16OLED-25.jpg)
โดยรวมดีไซน์ของ ASUS ProArt StudioBook 16 OLED ก็ออกแบบมาได้สมกับการทำงานระดับสตูดิโอครับ ไม่ได้เน้นไปที่ความเบา-บางมากนัก เพราะเน้นการทำงานอยู่กับที่เป็นหลัก แต่หากอยากพกพาก็สามารถใส่กระเป๋าไปได้ด้วยเช่นกัน จุดเด่นที่แล็ปท็อปรุ่นนี้ทำได้เหนือคู่แข่งจริง ๆ คงเป็นเรื่องหน้าจอ 4K OLED ที่สวยคม สีสันตรงเอามาก ๆ และยังมีตัวคัย์บอร์ดกับพอร์ตการเชื่อมต่อที่ครบเหมือนเครื่องคอมตัวใหญ่ ๆ เลย และที่ขาดไม่ได้คือ ASUS Dial ที่เปลี่ยนวิธีการทำงานให้สะดวกขึ้นกว่าเดิมอีกมากเลยจริง ๆ
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/12/Review_StudioBook16OLED-26.jpg)
Windows 10 Home มาตั้งแต่แกะกล่อง พร้อมอัปเดต Windows 11 แน่นอน
มาต่อกันที่เรื่องซอฟต์แวร์ ASUS ProArt StudioBook 16 OLED มาพร้อม Windows 10 Home ตั้งแต่แกะกล่องเลย ไม่ต้องซื้อมาติดตั้งเพิ่ม พร้อมใช้งานได้ทันที และแน่นอนว่าเรายังสามารถอัปเดตเป็น Windows 11 ได้ด้วยในอนาคตครับ
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/12/Review_StudioBook16OLED-27.jpg)
ฟรีสมาชิก Adobe นาน 3 เดือน
นอกจาก Windows แท้แล้ว ASUS ProArt StudioBook 16 OLED ยังมีสมาชิก Adobe Creative Cloud แถมให้อีก 3 เดือนด้วย เหมาะสำหรับสายครีเอเตอร์ที่จำเป็นต้องใช้โปรแกรมของ Adobe อยู่แล้ว ให้มาครบแบบนี้ก็ประหยัดไปได้หลายพันบาทกันเลยทีเดียวครับ
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/12/Review_StudioBook16OLED-28.jpg)
**รับสิทธิ์ได้ที่โปรแกรม MyASUS**
มี Microsoft Office ก็มีด้วย
ไม่ใช่แค่โปรแกรมสายกราฟิกเท่านั้น ASUS ProArt StudioBook 16 OLED ยังมี Microsoft Office แถมมาให้ในเครื่องเลยด้วย สำหรับคนที่ต้องการใช้งาน Office ด้วยก็มีแถมมาให้เป็น Microsoft 365 ฟรี 1 เดือนและ Microsoft Office 2019 (Home & Student) ฟรีตลอดชีพอีกต่างหากครับ
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/12/Review_StudioBook16OLED-36.jpg)
MyASUS ผู้ช่วยสำหรับการทำงานที่ไร้รอยต่อมากขึ้น
ASUS ProArt StudioBook 16 OLED มาพร้อมโปรแกรมพิเศษ MyASUS และ ScreenXpert ที่ช่วยให้เราสามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนทั้ง Android และ iOS เข้ากับโน้ตบุ๊คได้อย่างไร้รอยต่ออีกด้วย เรียกว่าเป็นตัวช่วยให้เราใช้งานอุปกรณ์หลาย ๆ ชิ้นได้คล่องตัวขึ้นไปอีกจริง ๆ ครับ
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/12/Review_StudioBook16OLED-30.jpg)
นอกจากนี้ยังมีโปรแกรม ProArt Community Hub ที่ให้เราได้จัดการระบบของตัวเครื่องเพิ่มเติม หรือตั้งค่าตัว ASUS Dial ได้ด้วย อย่างที่เราเคยบอกไปว่าตัวปุ่มเสริมนี้จะเข้ามาช่วยให้เราทำงานบนโปรแกรมเฉพาะทางได้สะดวกยิ่งขึ้น อยากใช้งานเครื่องมือไหนก็ปรับให้เข้ากับเราได้เลยที่โปรแกรมนี้ครับ
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/12/Review_StudioBook16OLED-31.jpg)
ประสิทธิภาพระดับสตูดิโอที่พกพาได้
ASUS ProArt StudioBook 16 OLED มาพร้อมสเปคที่ตอบโจทย์การใช้งานทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นสายออกแบบ สายตัดต่อ สายกราฟิก สายภาพยนตร์ หรือสถาปัตยกรรมที่ต้องการทั้งความเร็ว แรงในการประมวลผล หรือความเที่ยงตรงของสีสัน เพราะรุ่นนี้ใช้ชิปเซ็ต Intel Core i7-11800H การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX3060 มีแรมมาให้ 32GB และหน้าจอ 4K OLED ที่มีมาตรฐานจาก Pantone เองด้วยแล้ว ให้มาแบบนี้ในทรงแล็ปท็อปก็เหมือนเราได้เครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่พกพาได้เลยล่ะครับ
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/12/Review_StudioBook16OLED-32.jpg)
เท่าที่เราลองใช้งานจริงบอกเลยว่าประสิทธิภาพล้นเหลือมาก ๆ ไม่ว่าจะทำงานด้วยโปรแกรมอะไรก็รวดเร็วทันใจ จะเป็นการทำรูปด้วย Photoshop หรือ Lightroom ด้วยไฟล์ภาพขนาดใหญ่ก็ไม่เจออาการกระตุกหรือโหลดนาน ๆ ให้เสียอารมณ์เลย
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/12/Review_StudioBook16OLED-33.jpg)
เล่นเกมก็ได้เลยสเปคนี้
หรือถ้าอยากลองเล่นเกมแบบจริงจัง ด้วยสเปคระดับนี้ก็สบายมากครับ เท่าที่เราลองกับเกมกราฟิกสูง ๆ อย่าง Marvel Avengers ก็สามารถปรับได้ที่ระดับสูงสุดเลย เล่นได้อย่างลื่น ๆ หรือจะเป็นเกมออนไลน์อย่าง Overwatch ก็ปรับได้ที่ระดับ Ultra เช่นกันครับ แต่เท่าที่ลองในการเล่นเกมแบบจริงจังตัวพัดลมจะทำงานดังพอสมควรหากเล่นเกมกราฟิกจัดเต็มแบบนี้ครับ
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/12/Review_StudioBook16OLED-34.jpg)
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/12/Review_StudioBook16OLED-35.jpg)
ไมโครโฟน 4 ตัว พร้อม AI Noise Canceling
ASUS ProArt StudioBook 16 OLED มาพร้อมไมโครโฟนคุณภาพสูงและ AI Noise-Canceling ที่ช่วยจัดการเสียงรบกวนรอบข้างได้เป็นอย่างดี ในยุคที่หลายคนอาจต้องประชุมออนไลน์บนรุ่นนี้มีฟีเจอร์ ClearVoice Mic ที่ช่วยให้เสียงพูดของเราชัดใส ตอบโจทย์การทำงานในยุคนี้อย่างมากเลยครับ
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/12/Review_StudioBook16OLED-37.jpg)
รองรับกำลังไฟสูงสุด 240W
ปิดท้ายที่เรื่องแบตเตอรี่และระบบชาร์จ อย่างที่เห็นว่า ASUS ProArt StudioBook 16 OLED นั้นถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้จัดเต็มที่สุด การทำงานจริงคงต้องเน้นอยู่กับที่เป็นหลักครับคือพกพาไปทำงานได้ พอถึงที่ก็กางทำงานพร้อมเสียบชาร์จไปในตัวเพื่อรีดประสิทธิภาพออกมาสูงสุด เพราะฉะนั้นการทำงานแบบไร้ที่ชาร์จก็ต้องบอกว่าอย่าคาดหวังว่าจะใช้งานได้นานเป็น 7 – 8 ชม. เหมือนพวกแล็ปท็อปเบา-บางล่ะครับ สัก 3 – 4 ชม.ก็หรูแล้วล่ะครับ
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/12/Review_StudioBook16OLED-38.jpg)
ส่วนกำลังไฟของ ASUS ProArt StudioBook 16 OLED รุ่นนี้ก็ให้ที่ชาร์จมาสูงถึง 240W กันเลย เพราะด้วยสเปคที่ให้มาระดับนี้ ก็ต้องขับกำลังไฟออกมาได้อย่างสุด ๆ ด้วย ซึ่งที่ชาร์จที่ให้มาก็มีขนาดใหญ่แบบจริงจังเลยล่ะครับ แต่ก็คงไม่ใช่ปัญหาในการใช้งานเท่าไหร่ เพราะอย่างที่บอกรุ่นนี้เน้นไปที่การทำงานแบบอยู่กับที่มากกว่าจะพกไปไหนมาไหนตลอดเนาะ
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/12/Review_StudioBook16OLED-39.jpg)
ราคา 74,990 บาท
สำหรับราคาค่าตัวของ ASUS ProArt StudioBook 16 OLED รุ่นที่เรารีวิวโมเดล H7600HM ใช้ชิป Intel Core-i7-11800H + RTX3060 นี้จะเปิดราคามาที่ 74,990 บาท เริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ที่ร้านค้าที่ร่วมรายการและช่องทางออนไลน์ทั้งหลายครับผม
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/12/Review_StudioBook16OLED-42.jpg)
สรุปแล้ว “นี่คือแล็ปท็อปสำหรับสายครีเอเตอร์ระดับโปรตัวจริง”
สรุปแล้ว รีวิว ASUS ProArt StudioBook 16 OLED ก็ถือเป็นแล็ปท็อประดับโปรที่เหมาะกับงานสตูดิโอแบบเต็มขั้น ด้วยสเปคที่ให้มาทั้งหน้าจอ 4K OLED ขนาด 16″ สีสันคมชัด ความเที่ยงตรงสูง ชิปเซ็ต Intel Core i7-11800H พร้อมแรม 32GB มีการ์ดจอแยกตัวแรงอย่าง RTX3060 อีก ทั้งหมดนี้ก็น่าจะตอบโจทย์การทำงานของสายครีเอเตอร์หรือคนที่ต้องการแล็ปท็อปประสิทธิภาพสูงไว้ทำงานในทุกด้านได้แล้ว แถมรุ่นนี้ยังมีฟีเจอร์เด่น ๆ อย่าง ASUS Dial ที่เข้ามาช่วยให้การทำงานกับโปรแกรมเฉพาะสะดวกมากขึ้นหรือจะเป็นตัว TouchPad ที่รองรับการทำงานร่วมกับปากกา Stylus อีกต่างหาก ใครที่กำลังมองหาแล็ปท็อประดับโปรตัวใหม่อยู่ หรือถึงรอบที่จะต้องอัปเกรดแล้ว รุ่นนี้ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้ามเลยครับ เพราะรวมทุกอย่างที่คุณต้องการไว้หมดแล้ว!
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/12/Review_StudioBook16OLED-41.jpg)