รีวิว Alldocube iPlay 70 mini Ultra แท็บเล็ตหน้าจอขนาดเล็กแต่ทรงพลัง เหมาะสำหรับสายเกมที่ต้องการเล่นในเครื่องที่สเปคสูง แต่มาในราคาสุดประหยัด บอกเลยว่าใครที่กำลังมองหาอุปกรณ์ไว้เล่นเกมสักเครื่อง รุ่นนี้ไม่ควรพลาดครับ !
สรุปสเปค Alldocube iPlay 70 mini Ultra
- ขนาดตัวเครื่อง : 208.2 x 129.6 x 7.9 มม.
- น้ำหนัก : 335 กรัม
- หน้าจอแสดงผล IPS ขนาด 8.8 นิ้ว ความละเอียด 2.5K (2560 x 1600 พิกเซล) รองรับ Refresh Rate 144Hz, 343PPI และความสว่างสูงสุด 500 นิต
- CPU : Qualcomm Snapdragon 7+ Gen 3 Octa-core ความเร็วสูงสุด 2.8GHz
- GPU : Adreno 732
- RAM : 12GB
- ROM : 256GB รองรับการใส่ MicroSD Card สูงสุด 1TB
- กล้องหลัง 13MP
- กล้องหน้า 5MP
- ระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย Alldocube OS 3.0L
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6, Bluetooth 5.4 และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่ความจุ 7300mAh รองรับชาร์จ 20W
ดีไซน์ Unibody โลหะพรีเมียม เบาและบาง
ขอพามาดูดีไซน์ของ Alldocube iPlay 70 mini Ultra กันก่อนครับ รุ่นนี้ใช้ดีไซน์แบบ Unibody หรือเป็นวัสดุโลหะแบบชิ้นเดียวกันทั้งหมด ช่วยให้ตัวเครื่องมีความเบาแค่เพียง 335 กรัม และบางแค่ 7.9 มม. เท่านั้นเอง ช่วยให้พกพาได้สะดวกสุดๆ
สีในรุ่นนี้ได้สีเทา Space Gray มีความสวยงามคลาสสิก และเป็นผิวด้านที่ทำให้สะดวกในการใช้งานครับ
มาพร้อม VC ระบบระบายความร้อนขั้นสูงขนาดใหญ่
จากการที่รุ่นนี้เน้นเรื่องการเล่นเกมเป็นหลักมากที่สุด ก็ให้ระบบระบายความร้อนแบบ Vapor Chamber (VC) มาให้ใหญ่พอสมควรที่ขนาด 9,838 ตร. มม. ควบคู่ไปกับแผ่น Graphene ที่ถูกประกบถึง 2 ชั้นที่ขนาด 5382 ตร. มม. + 9350 ตร. มม. ทำให้ภาพรวมและรุ่นนี้ได้ระบบระบายความร้อนที่ใหญ่ถึง 24,570 ตร. มม. เลยทีเดียวครับ
สนุกทุกแมตช์กับ Gaming Set
Alldocube iPlay 70 mini Ultra มาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมในการเล่นเกมอย่าง Alldocube GamePad JoyStick ที่เป็นจอยเชื่อมต่อกับเครื่องโดยตรงเพื่อเปลี่ยนให้เป็นการเล่นเสมือนคอนโซลได้ทันที บอกเลยว่าการใช้งานสะดวกมาก ตอบสนองได้ยอดเยี่ยม และมีปุ่มการควบคุมที่เยอะมาก ทำให้เล่นเกมต่างๆ ได้ถนัดมือมากขึ้นกว่าเดิมแน่นอน เพราะมีทั้งปุ่ม LT/LB/M1 ในฝั่งซ้าย และ RT/RB/M2 ในฝั่งขวา
การใช้งานก็ง่ายมากๆ โดยตัว GamePad JoyStick จะมีพอร์ต USB-C ให้เชื่อมต่อ จากนั้นก็ใช้งานได้เลยครับ
และที่ชอบเลยคือตัว GamePad JoyStick ยังมีพอร์ต USB-C ที่ฝั่งขวาล่างเพื่อให้เราเล่นแล้วชาร์จไปด้วยนั่นเองครับ
หน้าจอใหญ่ คุ้มค่าสำหรับสาย Entertainment
หน้าจอแสดงผลถือว่าคุ้มค่าสำหรับสายที่เน้นเรื่องความบันเทิงเป็นหลัก แต่ต้องการใช้งานแบบมือเดียวได้ดี รุ่นนี้ได้หน้าจอ IPS ขนาด 8.8 นิ้ว ไม่เล็กหรือไม่ใหญ่เกินไป ซึ่งความละเอียดหน้าจอให้มาถึง 2.5K (2560 x 1600 พิกเซล) ให้ทั้งภาพที่เต็มตาและคมชัด
การเล่นเกมก็ยังรองรับ Refresh Rate สูงสุด 144Hz ให้เราได้ปรับเพื่อเล่นเกมได้ไหลลื่นทุกเฟรม และการตอบสนองก็ติดนิ้วขึ้นกว่าเดิม ยิ่งในการเคลื่อนไหวต่างๆ ก็ช่วยในเรื่องลดการเบลอของภาพได้ดีเลยทีเดียวครับ
พาชมรอบเครื่อง
ขอพามาดูรอบเครื่องกับอีกนิด หากเราถือเครื่องแบบแนวตั้งจะได้กล้องหน้ามาให้ 1 เลนส์
ด้านซ้ายจะมีทั้งช่องใส่ MicroSD Card สูงสุด 1TB และไมโครโฟนตัวที่ 1
ด้านขวาจะได้ปุ่ม Power พร้อมด้วยปุ่มปรับระดับเสียงครับ
ฝั่งล่างจะได้พอร์ต USB Type-C และลำโพงสเตอริโอ
ขณะที่ด้านบนจะมีลำโพงตัวสเตอริโอมาให้อีกตัวครับ
และด้านหลังจะมีกล้อง 1 ตัวพร้อมไฟแฟลชมาให้ครับ
ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน
แกะกล่องมาพร้อม Android 14
Alldocube iPlay 70 mini Ultra รันบนระบบปฏิบัติการ Android 14 ซึ่งยังใช้งานได้ดี มีความเสถียร ซึ่งยังมีความปลอดภัยในการใช้งานอยู่เหมือนกันแม้ว่าจะเป็น Android 14 ก็ตาม
ลําโพงคู่พร้อมระบบเสียง DTS
อย่างที่บอกไปว่ารุ่นนี้ให้ลำโพงสเตอริโอแบบคู่ เป็นระบบเสียง DTS เสียงคมชัดรอบทิศทาง เสียงมีมิติ โดยรุ่นนี้จะมีแอปพลิเคชั่น DTS Audio Processing ที่สามารถปรับระบบเสียงให้เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละแบบ คือ ฟังเพลง ดูภาพยนตร์ และเล่นเกม
ทั้งนี้เราก็ยังสามารถปรับ Smart PA Amplifier ได้เองตามความชอบเลยครับ
ยังมีผู้ช่วยอย่าง Gemini มาให้ใช้ !
Alldocube iPlay 70 mini Ultra ยังมีให้เราใช้งานผู้ช่วยอย่าง Google Gemini มาให้ใช้งานกันด้วย สามารถถามคำถาม หรือสั่งเพื่อให้ Gemini ควบคุมแอปในเครื่องได้ด้วย ชเน การตั้งนาฬิากาปลุกได้ด้วยครับ
ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่
ชิปเซ็ตตัวกลางพลังแรง Snapdragon 7+ Gen 3
รุ่นนี้ขับเคบลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล Snapdragon 7+ Gen 3 ซึ่งเป็นชิปตัวกลางที่มีความแรงระดับท็อป มีความเร็ว Clock สูงสุด 2.8GHz ทั้งยังไว้ใจเรื่องความแรงได้อีกเพราะผลิตด้วยขนาด 4nm จาก TSMC ด้วยครับ ชิปรุ่นนี้ยังได้ GPU Adreno 732 ทำให้ปรับกราฟิกของเกมต่างๆ ได้สูงสุด แถมได้ภาพสวยๆ อีกด้วย
มาพร้อม RAM 12GB + 8GB ใช้งานไหลลื่นขึ้นกว่าเดิม
Alldocube iPlay 70 mini Ultra ให้ RAM มาถึง 12GB ซึ่งสามารถขยาย RAM ได้สูงสุดอีก 8GB ทำให้ได้รวม 20GB ช่วยให้เราเล่นเกมไหลลื่นขึ้น สามารถทำงานแบบ Multi Tasking ได้ดีกว่าเดิมครับ
เปิด Gaming Mode อัดฉีดพลังานความแรงให้สูงขึ้น !
จากที่เน้นการเล่นเกมก็มาพร้อมโหมดเกมที่เข้ามาช่วยให้การเล่นเกมทำได้แบบเต็มประสิทธิภาพของเครื่องอย่างแท้จริง รีดประสิทธิภาพของขุมพลัง Snapdragon 7+ Gen 3 ให้ได้มากที่สุดครับ ทั้งนี้เมื่อเราเปิดโหมดนี้ก็ยังช่วยปิดกั้นการแจ้งเตือนได้เพื่อไม่ให้มีอะไรมารบกวนเราระหว่างเล่นเกมด้วยครับ
ทั้งนี้หากเราใช้งาน GamePad JoyStick ในการเล่นเกมก็สามารถกดปุ่ม FN+Y เพื่อเปิดโหมดเกมได้เลยด้วยครับ
ทดสอบเล่นเกมกันหน่อย !
มาถึงตรงนี้เราขอมาทดสอบการเล่นเกมใน Alldocube iPlay 70 mini Ultra กันหน่อย โดยเราได้ทดสอบ 3 เกมหลักบนสมาร์ทโฟน ตั้งแต่ PUBG Mobile, ROV และ Asphalt Legends ซึ่งแต่ละเกมสามารถปรับภาพอะไรได้บ้างหรือเล่นได้ดีหรือไม่ มาดูกันครับ
PUBG Mobile
ประเดิมด้วย PUBG Mobile ก็สามารถเปิดกราฟิกได้ระดับสูงสุดเลย คือ กราฟิกระดับ Ultra HDR + เฟรมเรท Ultra ซึ่งจากที่ลองก็ทำได้ดีมากๆ ไหลลื่นจริง ไม่เจออาการเฟรมดรอปหรือกระชาก
ทั้งนี้ยิ่งได้ GamePad JoyStick ที่เข้ามาช่วยให้การเล่นเกมแนว FPS ได้ถนัดมือกว่าเดิม เพราะไม่ต้องกดปุ่มบนหน้าจอที่ต้องขยับหลายนิ้วเพื่อควบคุมเลยครับ เพียงแค่ใช้ปุ่มที่อยู่บนจอยนี้ก็ทำได้ถนัดมากจริงๆ
ROV
ส่วนเกม ROV ก็สามารถเปิดทุกอย่างได้สูงสุดเช่นกัน การเล่นทำได้ยอดเยี่ยม เฟรมทำได้นิ่ง 60fps ตลอดทั้งเกมเลยด้วยครับ
Asphalt Legends
และท้ายสุดในเกมแข่งรถภาพสวยๆ ก็สามารถเปิดคุณภาพของภาพได้สูง เปิดเฟรมเรท 90fps ได้ด้วยครับ รวมถึงการเปิดเอฟเฟ็กต์ต่างๆ เพื่อให้เล่นได้แบบเต็มอรรถรสก็ทำได้ทั้งหมดเลย
แบตเตอรี่อึด 7300mAh ใช้งานได้เต็มวัน
เห็นขนาดเล็กๆ แบบนี้ แต่ Alldocube iPlay 70 mini Ultra ยังให้แบตเตอรี่มาถึง 7300mAh ใครที่ใช้งานแบบทั่วไป เล่นโซเชียลมีเดียทั่วไปก็อยู่ได้ตลอดวันแน่ๆ ครับ หรือถ้าเล่นเกมก็อยู่ได้ตั้งแต่ 5-7 ชั่วโมง หรือถ้าดูวิดีโอก็นานสุดกว่า 16 ชั่วโมง
สรุปการใช้งาน Alldocube iPlay 70 mini Ultra
Alldocube iPlay 70 mini Ultra เป็นแท็บเล็ตอีกรุ่นที่มาในสเปคที่ได้ความเร็วแรงในขนาดหน้าจอขนาดเหมาะมือมากๆ ตั้งแต่หน้าจอขนาด 8.8 นิ้ว ไหลลื่นแบบ 144Hz ใช้งานติดนิ้ว เล่นเกมได้เต็มที่มากขึ้นจริงๆ ครับ ซึ่งขนาดหน้าจอระดับนี้ก็ยังให้เราถือใช้มือเดียวได้ถนัดมืออยู่ รวมถึงชิปประมวลผลที่ใช้ก็เป็น Snapdragon 7+ Gen 3 ได้ความเร็วแรงตัวท็อปๆ ใน Snapdragon 7 Series ด้วย เล่นหลายเกมได้สบายๆ ปรับกราฟิกได้สุด รวมถึงลำโพงก็ยังได้เป็นสเตอริโอ ดังกระหึ่ม พร้อมด้วยแบตเตอรี่ขนาด 7300mAh ใช้งานได้นานมาก เล่นเกมเกินครึ่งวัน และที่ขาดไม่ได้เลยคือตัวเครื่องที่เบาบางสามารถพกพาไปได้ทุกที่จริงๆ ครับ
ราคาและการวางจำหน่าย
Alldocube iPlay 70 mini Ultra วางจำหน่ายในราคาเพียง 12,990 บาท โดยจะได้รับประกันศูนย์ไทยนาน 12 เดือน โดยหากเสียก็สามารถส่งซ่อมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ได้ทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ ดังนี้
ขั้นตอนการเคลม Offline
- เข้าไปที่ศูนย์บริการ realme service18 สาขา ทั่วประเทศ
- เจ้าหน้าที่ประเมินและส่งซ่อมภายใน 14 วัน *หากเกินจะจัดส่งเครื่องใหม่ให้ (เฉพาะกรณีที่อยู่ในระยะประกัน)
- รอรับสินค้าทีบ้านหรือไปรับเองหน้าสาขา
ขั้นตอนการเคลม Online
- แอด LINE Official : @alldocube.th เพื่อประเมินและยืนยันการเรียกรถ
- ลูกค้าแพคสินค้ารอรถมารับในวันที่กําหนดระยะเวลาการส่งซ่อมประมาณ 7 – 14 วัน
- รอรับสินค้าที่บ้าน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ทั้งนี้ สามารถสอบถามเพิ่มเติมผ่าน Call center realme Service : 082-0629696 (จ.- ศ. 09.00-18.00 น.)
อุปกรณ์ที่จะได้รับในการสั่งซื้อจะมี 4 อย่าง ดังนี้
- ตัวเครื่อง Alldocube iPlay 70 mini Ultra
- เคสใส จํานวน 1 ชิ้น มูลค่า 299 บาท
- หัวชาร์จ Alldocube PD 20W จํานวน 1 ชิ้น มูลค่า 299 บาท
- Alldocube GamePad JoyStick มูลค่า 1,999 บาท
ผู้ที่สนใจสามารถสั่งซื้อได้ผ่านช่องทางด้านล่างนี้ !
ช่องทางการขายหน้าร้าน : True , BaNANA และร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศใกล้บ้าน
ช่องทางการขายออนไลน์
- Alldocube_Official Store (Shopee) : https://th.shp.ee/YP89bXU
- Alldocube Thailand (Lazada) : https://s.lazada.co.th/s.AkLwq
- Alldocube Thailand (TikTok) : https://vt.tiktok.com/ZSHnVXPeWSLko-ADlaT/
