AIS ชวนทีมงาน iphone-droid.net ไปร่วม ทดลองบริการใหม่เกี่ยวกับฟีเจอร์ใหม่ AI Calling ที่กำลังจะเปิดตัวกันเร็ว ๆ นี้ ซึ่งแน่นอนว่า เราไม่พลาดนำข้อมูลที่น่าสนใจจากโปรเจคนี้มาฝากกันเช่นเคย
แต่ก่อนจะไปถึงรายละเอียดของบริการนี้ เราขอมาเสริมในเรื่องของการนำ AI มาขับเคลื่อนสู่ Autonomous Network ของ AIS ใช้กันก่อน จริง ๆ แล้วไม่ได้มีแค่ฟีเจอร์ใหม่นี้อย่างเดียว เพราะก่อนหน้านี้ AIS ก็ได้เริ่มหลาย ๆ โปรเจคที่ใช้งาน AI มาแล้วมากมายด้วยล่ะ
Autonomous Network
ในปีนี้ AIS เดินหน้าเสริมศักยภาพโครงข่ายอัจฉริยะ (Autonomous Network) ยกระดับการให้บริการเครือข่ายอย่างเหนือขีดจำกัดครั้งแรกของไทยและตอกย้ำการเป็นองค์กรเทคโนโลยีโทรคมนาคมอัจฉริยะ (Cognitive Tech-Co) ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีสุดล้ำ ขับเคลื่อนสู่โครงข่ายอัจฉริยะเต็มรูปแบบผ่าน 4 Key Drivers พร้อมตอกย้ำวิสัยทัศน์ AI-Driven Ecosystem ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีแห่งอนาคตผ่านสินค้าและบริการดิจิทัลล้ำสมัย เพื่อส่งมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุด ประกอบด้วย
1. AI for Customer Experience
อย่างแรกคือ AI เพื่อประสบการณ์ที่ดีขึ้นของลูกค้า AIS มีการใช้งาน AI ในการประมวลผลให้ลูกค้าได้ประสบการณ์ที่ดีขึ้น อย่างในแอป myAIS ก็ใช้งานได้ง่ายขึ้น เข้าใจลูกค้า บริการต่าง ๆ ตรงใจ และตอบโจทย์
2. AI for Operation Efficiency
ใช้ AI ในการจัดการระบบต่าง ๆ ให้พร้อมใช้งานเสมอ มีการคาดการณ์ในส่วนต่าง ๆ และหาแผนรับมือล่วงหน้าไว้ หรือการกระจายระบบให้เข้าถึงได้ตลอดเวลา ยกตัวอย่างในสถานการณ์ไม่คาดคิด อย่างช่วงน้ำท่วมในหลายจังหวัด AI ก็คำนวณพื้นที่และช่วยจัดการสัญญาณให้ครอบคลุมที่สุด
3. AI for Sustainability
ใช้ AI เข้ามามีส่วนร่วมในการลดใช้พลังงาน ลดการใช้งานคาร์บอนเพื่อเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมได้ดียิ่งขึ้น หรือรักษ์โลกมากขึ้นนั่นเอง
4. AI for New Service
ปิดท้ายที่เรื่องบริการใหม่ ๆ ด้วย AI ที่เป็นไฮไลท์ในครั้งนี้เลยครับ โดย AIS เตรียมเปิดตัวบริการใหม่อย่าง AI Calling ฟีเจอร์แปลภาษาแบบเรียลไทม์ระหว่างการโทร ภายใต้ความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ระดับโลก ซึ่งสามารถใช้งานได้ทั่วโลกโดยไม่ต้องดาวน์โหลดแอปเพิ่มเติม
ช่วยให้การสื่อสารสะดวกในทุกสถานการณ์ และที่สำคัญ AIS ยังนับเป็นรายแรกของโลกที่เปิดให้บริการแปลภาษาแบบ Voice to voice แบบเรียลไทม์อีกด้วย
เท่าที่ AIS สาธิตให้ดูคือเราสามารถคุยกับคู่สนทนาในภาษาอื่นได้แบบเรียลไทม์ (Voice to Voice) เลยครับ ยกตัวอย่าง เราพูดเป็นภาษาไทยไปเลย จากนั้นคู่สนทนาจะได้ยินเสียงของเราเป็นภาษาอังกฤษทันที (แทบไม่ต้องรอคำนวณหรือแปลเลย) ช่วยให้การสื่อสารกับชาวต่างชาติสะดวกขึ้นมาก ๆ ในการสื่อสาร
ในเคสสาธิตนี้ก็ยกตัวอย่างเป็นชาวต่างชาติที่ติดต่อกับคนขับรถให้มารับ พูดเป็นภาษาอังกฤษมา คู่สนทนาก็ได้ยินเป็นภาษาไทยได้อย่างแม่นยำ และอย่างที่บอกครับว่าแปลได้แบบทันที ไม่มีจังหวะดีเลย์หรือหยุดคิดก่อนแปลเลย อันนี้น่าทึ่งมาก ๆ ครับ
นอกจากนี้ยังมีการสาธิตการแปลภาษาแบบ Voice to Text ด้วย คือมีการแปลภาษาขึ้นมาเป็นซับไตเติ้ลบนหน้าจอได้แบบทันที ไม่ว่าคู่สนทนาจะพูดอะไรมา อย่างในตัวอย่างเป็นการแปลจากภาษาจีนมาเป็นภาษาอังกฤษ ก็ไร้รอยต่อ แทบจะแปลแบบคำต่อคำเลย ช่วยให้สื่อสารกันสะดวกยิ่งขึ้นมาก
ทั้งนี้รูปแบบภาษาที่รองรับช่วงแรกของ Voice to Voice จะรองรับ 3 ภาษาคือ ไทย, อังกฤษ และภาษาจีน ส่วน Voice to Text จะรองรับภาษาอังกฤษและภาษาจีนก่อนครับ ส่วนมือถือที่รองรับในช่วงแรกจะเป็นสมาร์ทโฟน 2 รุ่นของ HUAWEI อย่าง HUAWEI Mate XT และ HUAWEI Mate X6 ที่จะสามารถใช้บริการนี้ได้ก่อนใคร
สำหรับฟีเจอร์ AIS AI Calling นี้เตรียมเปิดให้ลูกค้าใช้งานจริงในช่วงกลางปีนี้ เชื่อว่านี่จะเป็นมิติใหม่ของการสื่อสารสุดล้ำที่ช่วยให้การสื่อสารสะดวก ในทุกสถานการณ์ ก้าวข้ามข้อจำกัดเรื่องภาษาไปเลย
