Xiaomi 17 Ultra เริ่มถูกจับตามองมากขึ้น หลังมีข้อมูลหลุดชุดใหญ่เกี่ยวกับกล้องถ่ายภาพ โดยเฉพาะระบบซูมที่ดูเหมือนจะไม่ธรรมดา เพราะไม่เหมือนเรือธงทั่วไป ล่าสุดมีภาพหน้าจอแอปกล้องหลุดออกมาบน Weibo เผยให้เห็นความลับของฟีเจอร์ใหม่ที่ Xiaomi จะยกระดับการซูมบนสมาร์ตโฟนไปอีกขั้น

จากภาพหลุดดังกล่าว Xiaomi 17 Ultra ยังคงมีระดับซูมมาตรฐานที่คุ้นเคยอย่าง 0.6x, 1x และ 2x แต่ไฮไลต์จริงอยู่ที่กล้องเทเลโฟโต้ ซึ่งรองรับการซูมแบบต่อเนื่อง ตั้งแต่ 3x ไปจนถึง 4.3x หรือคิดเป็นระยะโฟกัสประมาณ 70–100 มม. ที่สำคัญคือซูมได้แบบไหลลื่น ไม่ใช่การสลับเลนส์หรือพึ่งพาดิจิทัลซูมเหมือนที่ผ่านมา
Leica 200MP Continuous Optical Zoom
ในอินเทอร์เฟซยังมีการระบุคำว่า “Leica 200MP Continuous Optical Zoom” ชัดเจน ซึ่งบ่งชี้ว่านี่คือการปรับระยะออปติคอลจริง ไม่ใช่การใช้กล้องหลายตัวมาทดแทนเหมือนเรือธงส่วนใหญ่ในตลาด

หากเทียบกับรุ่นก่อนอย่าง Xiaomi 15 Ultra จะเห็นความแตกต่างชัดเจน เพราะรุ่นนั้นใช้กล้องซูม 2 ตัวแยกกัน คือเลนส์ 50MP ระยะ 70 มม. และเลนส์ 200MP ระยะ 100 มม. โดยช่วงระหว่างนั้นต้องอาศัยดิจิทัลซูมเป็นหลัก แม้แนวทางนี้จะผลิตง่ายและนิยมในสมาร์ตโฟนระดับเรือธง แต่ก็ยังสู้คุณภาพของระบบซูมออปติคอลต่อเนื่องไม่ได้
เทคโนโลยีซูมลักษณะนี้ถือว่าค่อนข้างหายากในโลกสมาร์ตโฟน ปัจจุบันมีเพียงไม่กี่แบรนด์ที่ทำได้จริง หนึ่งในนั้นคือ Sony ที่เริ่มทดลองมาตั้งแต่ Xperia 1 IV ในปี 2022 และพัฒนามาจนถึง Xperia 1 VII รุ่นปี 2025 ที่รองรับซูมออปติคอลต่อเนื่อง 3.5x–7.1x ซึ่งการที่ Xiaomi กระโดดเข้ามาเล่นในสนามนี้ ย่อมทำให้การแข่งขันด้านกล้องดุเดือดขึ้นทันที
Xiaomi 17 Ultra กล้อง 200MP ISOCELL HPE
ยิ่งเมื่อมีข้อมูลระบุว่า Xiaomi 17 Ultra จะใช้เซนเซอร์ซูมความละเอียด 200MP ISOCELL HPE ขนาดใหญ่ถึง 1/1.4 นิ้ว ก็ยิ่งเพิ่มความยืดหยุ่นในการถ่ายภาพระยะไกล เหนือกว่ากล้องเทเลโฟโต้แบบระยะตายตัวของคู่แข่งหลายราย
นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงเลนส์ Leica APO และกล้องหลักเซนเซอร์ขนาด 1 นิ้วรุ่นใหม่ ตอกย้ำชัดเจนว่า Xiaomi วางตำแหน่ง 17 Ultra ให้เป็นเรือธงสายกล้องตัวจริงของปี
ตามข่าวลือ Xiaomi 17 Ultra อาจเปิดตัวในจีนภายในสัปดาห์นี้ และจะตามมาด้วยเวอร์ชันตลาดโลกในภายหลัง หากข้อมูลทั้งหมดเป็นจริง รุ่นนี้อาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของการซูมบนสมาร์ตโฟน และเป็นหนึ่งในมือถือที่สายถ่ายรูปต้องจับตาดู
เรื่องน่าสนใจเพิ่มเติม:
ที่มา: gizmochina