
คลื่นลูกใหม่แห่งวงการดนตรีไทยใช้เทคโนโลยีสุดล้ำจาก Apple คารวะตำนาน และยกระดับประสบการณ์ของเสียงเพลงสู่มิติใหม่
เมื่อเสียงดนตรีที่คุ้นหูดังขึ้นมาอีกครั้งท่ามกลางบรรยากาศภายในสตูดิโอ GMM Grammy แม้จะเป็นท่วงทำนองรู้จักกันดีในหมู่คนไทย แต่ครั้งนี้เสียงที่ได้ยินกลับแตกต่างออกไป ทั้งจังหวะของดนตรีที่อบอุ่น และละเอียดขึ้น เต็มไปด้วยมิติและพลังให้ความรู้สึกที่ไร้กาลเวลาและร่วมสมัยในเวลาเดียวกัน

แน่นอนว่าบทเพลงที่เต็มไปด้วยคุณภาพ เสียง และอารมณ์ เหล่านั้น ล้วนเป็นมาผลงานที่จากฝีมือของวง COCKTAIL หนึ่งในวงร็อกขวัญใจคนไทย ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่มากมายได้เริ่มต้นเส้นทางการเป็นศิลปิน ตั้งแต่ได้เลือกเล่นเครื่องดนตรี จรดปลายปากกาเพื่อเขียนเพลงท่อนแรก ไปจนถึงเปิดแอปพลิเคชัน GarageBand เป็นครั้งแรกในชีวิต

เนื่องในโอกาสที่วง COCKTAIL จะอำลาเวทีและปิดฉากตำนานอย่างงดงามหลังจากร่วมสร้างสรรค์ห้วงดนตรีและเนื้อร้องอันไพเราะมายาวนานกว่า 20 ปีนี้ ทำให้เกิดเป็นโปรเจ็กต์พิเศษที่รวมศิลปินรุ่นใหม่ทั้ง 9 มาร่วมกันถ่ายทอดเพลงสุดไอคอนิกทั้ง 9 แทร็ก ภายใต้ชื่ออัลบั้ม Ours Ever – Tribute to COCKTAIL ผ่านมุมมองตัวเอง และครีเอทเพลงขึ้นมาใหม่อีกครั้งกับวิธีที่ต่างไปจากเดิม เริ่มต้นจากบนเครื่อง Mac
ซึ่งในอัลบั้มพิเศษนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การคารวะให้กับตำนานของวง COCKTAIL เท่านั้น แต่ยังเป็นการนำเพลงเดิมกลับมาตีความใหม่ ผ่านเสียงในมิติของ Spatial Audio และแชร์มุมมองของศิลปินรุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีจาก Mac และ Logic Pro เป็นคู่คิดในด้านครีเอทีฟและการสรรค์สร้างผลงาน

ซึ่งหลังจากที่ศิลปินทั้งหมดได้ผ่านกระบวนการทำเพลงแล้ว ทุกคนต่างเห็นตรงกันว่า ทั้ง Logic Pro และ Spatial Audio ที่เป็นตัวช่วยการโปรดิวซ์ครั้งนี้ทำให้แต่ละเพลงมีชีวิตชีวาอีกครั้งในมิติใหม่ “ทั้งสองตัวช่วยนี้ ทำให้เสียงดนตรีเหมือนเป็นอีกโลกที่เราก้าวเข้าไปได้จริง ๆ และมันยิ่งทำให้คนฟังได้ยินเพลงของพี่ ๆ วง COCKTAIL ในแบบฉบับที่เป็นตัวเรา เหมือนได้ยินเพลงที่อยู่ในหัวของเราไปพร้อม ๆ กัน” TIGGER หนึ่งในศิลปินของโปรเจ็กต์พิเศษนี้กล่าว
เมื่อทำนองที่คุ้นเคยได้ถูกนำมาตีความใหม่อีกครั้ง
โปรเจ็กต์พิเศษนี้เปรียบเหมือนการเดินทางที่แสนอบอุ่นและเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจสำหรับคู่ดูโอ้พี่น้องจากวง Yes Indeed
ที่มีสตูดิโอในบ้านกับบรรยากาศแบบสบาย ๆ รายล้อมไปด้วยกีตาร์ สายเคเบิล และ MacBook Pro เพียงหนึ่งเครื่อง ที่ได้กลายเป็นหัวใจหลักของกระบวนการสร้างสรรค์ทางดนตรีทั้งหมด

พอส — นฤกร อิษฏาวรางกูร นักร้องนำและมือกีตาร์ จากวง Yes Indeed เล่าว่า “เราเริ่มลองผิดลองถูกจาก GarageBand ไปเรื่อย ๆ แต่พอได้ลองใช้ Logic Pro แล้วก็รู้เลยว่ามันใช่เลย ทั้งใช้งานง่าย ทำให้ทุกอย่างดูมีความเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น และต่อยอดได้อีกเยอะมาก ๆ”
พร้อมเสริมว่า “เพลงของ COCKTAIL มีพลังที่สามารถบอกเล่าความรู้สึกและเรื่องราวได้อย่างลึกซึ้ง ซึ่งเราอยากเก็บอารมณ์ของเพลงนั้นไว้ และเติมเอกลักษณ์ของ Yes Indeed เข้าไปให้บรรยากาศมีความล่องลอยเหมือนอยู่ในความฝันมากขึ้น”
ทั้งคู่ทำงานทั้งหมดใน Logic Pro โดยเริ่มตั้งแต่การแยกโครงสร้างของเพลง ‘ช่างมัน’ ของ COCKTAIL ออกมาทั้งหมดก่อน แล้วค่อยสร้างแต่ละชั้นขึ้นมาใหม่ โดยให้ซินธ์มาแทนเสียงกีตาร์ และเปลี่ยนคอร์ดของกีตาร์แนวร็อคให้เป็นเสียงประสานหลายชั้นเข้ามาแทน
“พวกเราอัดไกด์เสียงกีตาร์กับเสียงร้องไว้ใน Voice Memos บน iPhone ก่อน แล้วค่อยใส่ memo ที่ไร้การตัดต่อนั้นเข้ามาใน Logic Pro บน MacBook Pro สิ่งที่ยอดเยี่ยมและพลิกเกมที่สุดคือฟีเจอร์ Stem Splitter ที่ช่วยให้เราแยกองค์ประกอบของเพลงออกมาทำงานได้ ทำให้การรีโปรดิวซ์เพลงใหม่นี้ทั้งสนุกและมีอิสระได้เยอะขึ้นมาก ๆ”
Spatial Audio มอบมิติใหม่ให้กับการเรียงร้อยเพลง indie-rock อันเป็นเอกลักษณ์ของวง โดยเฉพาะเสียงอันอบอุ่นและใกล้ชิดยิ่งขึ้นของกีตาร์อะคูสติก โดย แพนเค้ก — อิษฏารี อิษฏาวรางกูร นักร้องนำของ Yes Indeed เล่าเสริมว่า “เราหยิบเพลงเร็วมาทำให้เป็นเพลงช้า ซึ่ง Spatial Audio มอบพื้นที่ให้เราได้ทดลองเล่นกับเสียงเยอะมาก ๆ เมื่อได้ลองฟังแล้วจะรู้สึกถึงความลึกของเสียง เหมือนดนตรีมีชีวิตจริง ๆ”
ความเปลี่ยนแปลงของเพลง’ช่างมัน’ในเวอร์ชันนี้น่าทึ่งมากๆ โดยเพลงจะยังคงยังคงแก่นอารมณ์ของ COCKTAIL ไว้แต่ผู้ฟังจะได้สัมผัสบรรยากาศและท่วงทำนองที่สบาย ๆ เสมือนล่องลอยในอากาศตามสไตล์ของ Yes Indeed
เชื่อมต่อวัฒนธรรมไทยและความร่วมสมัยในดนตรีสากล

MONICA ศิลปินหญิงเจนใหม่ผู้หลงใหลในดนตรีไทยเดิม เธอคือสะพานที่เชื่อมระหว่างโลกของวัฒนธรรมไทย และโลกของดนตรีระดับสากลที่เธอใฝ่ฝันจะก้าวไปให้ถึง
เธอเลือกเพลง “งานเต้นรำในคืนพระจันทร์เต็มดวง” มาตีความใหม่ให้เป็นเพลงรักที่อบอุ่นและมีเสน่ห์เฉพาะตัว MONICA เล่าว่า “ฉันอยากให้เพลงเล่าเรื่องราวของฉัน โดยการเติมกลิ่นอายฮิปฮอปจังหวะใหม่ และท่อนแอดลิบส์ (ad-libs) แบบไทยที่เป็นซิกเนเจอร์เข้าไปในผสมสลานกับเสียงซินธ์”
MONICA เล่าต่ออีกว่า “ฉันเพิ่งใช้ Mac เป็นครั้งแรก บอกเลยว่าการได้ค้นพบศักยภาพของมันเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นที่สุด มันทำให้ฉันสามารถเปิดหลายแอป creative ทำงานไปพร้อม ๆ กันได้แบบไม่สะดุดเลย ฉันสามารถเปิดทุกสิ่งที่ต้องการ และให้ทุกอย่างทำงานร่วมกันได้อย่างง่ายดาย แล้วชิป M4 Max ก็แรงมาก ไม่ว่าโปรเจ็กต์จะใหญ่แค่ไหนก็เอาอยู่”
สำหรับ MONICA ที่จะต้องออกเดินทางและอยู่ข้างนอกอย่างเป็นประจำเพื่อเข้าร่วมเซสชั่นแต่งเพลง ซ้อมดนตรี และขึ้นโชว์ ความลื่นไหลและโฟลว์การทำงานคือสิ่งที่สำคัญที่สุด พร้อมแชร์ว่า “ฉันเขียนเนื้อเพลงคร่าว ๆ ไว้ใน Notes บน iPhone แล้วซิงก์มันเข้า MacBook ทันทีผ่าน iCloud ซึ่งมันช่วยฉันกับทีมทำงานร่วมกันได้ทันทีอย่างง่ายดาย เหมือนเราพกสตูโอย่อม ๆ ติดตัวไปด้วยทุกที่เลย”
MONICA ยังเล่าต่ออีกว่า “หลังจากได้ลองใช้ซอฟต์แวร์ทำเพลงมาแล้วหลายตัว ฉันพบว่า Logic Pro ได้เปลี่ยนวิธีการทำเพลงฉันไปแล้ว เพราะ EQ ของ Logic Pro มันละเอียดมาก และสามารถกดปุ่มเดียวเพื่อปรับเสียง และเปิดปิดได้อย่างง่ายดาย มันให้เสียงที่เราต้องการได้เป๊ะจริง ๆ แล้วตัว Smart Tempo ก็ยังช่วยให้ทุกอย่างกลมกลืนขึ้น ชอบฟีเจอร์ที่มีเครื่องดนตรีบิวต์อิน และเอฟเฟกต์ plug-in ที่ให้มาด้วยเช่นกัน บอกเลยว่าเป็นแฟนของ Logic Pro อย่างเต็มตัวแล้วต่อจากนี้ เพราะการทำเพลงมันเข้าใจง่ายมากยิ่งขึ้น”
Spatial Audio เป็นยิ่งกว่าเทคโนโลยี และให้พลังพิเศษที่ถ่ายทอดความรู้สึกผ่านเสียงเพลงได้

สำหรับ TIGGER ศิลปินหนุ่มไฟแรง ที่มีเป้าหมายเป็นการสร้างความรู้สึกยูนีค ให้กับบทเพลง “ไม่เป็นรอง” จาก COCKTAIL ที่เขาจะครีเอทขึ้นใหม่ นั้นได้รับแรงบันดาลใจจากการมองผู้คนรอบตัว และอยากให้เสียงดนตรีมีความรู้สึกที่เป็นอะนาล็อก ในโทนอบอุ่น เหมือนล่องลอยอยู่ในจินตนาการและความทรงจำเก่า ๆ
TIGGER เล่าว่า “ในจุดนึงในชีวิตของคุณแม่ เขาเคยเป็นดีเจมาก่อน มันทำให้ผมเติบโตมาท่ามกลางเสียงดนตรีและเสียงเพลงในทุกเจนเนอเรชันของ iPod ผมจำได้ว่า iPod ของผมเต็มไปด้วยเพลงแนวเทคโน แจ๊ส โซล รวมถึงเพลงของไมเคิล แจ็กสัน และศิลปินอีกมากมาย สมัยผมเด็กๆ ผมชอบ Beyoncé มาก และเพลง ‘Love On Top’ ของ Beyoncé ทำให้ผมเปิดโลกและรู้ว่าเพียงแค่เปลี่ยนคีย์ก็สามารถสร้างพลังให้กับเพลงและผู้ฟังได้มากแค่ไหน”
แม้ว่าเขาจะเติบโตในครอบครัวที่มีพ่อแม่เป็นศิลปินชื่อดัง แต่ TIGGER ก็ได้ค้นหาตัวตนพร้อมก้าวเข้าสู่เส้นทางสายดนตรีด้วยการฝึกเล่นเครื่องดนตรีแทบทุกชนิด เพื่อค้นพบและสร้างซาวด์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง
สำหรับ TIGGER การได้ลองทำงานและครีเอทเพลงบน Spatial Audio ในสตูดิโอ นับเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ ในฐานะของคนที่เล่นเครื่องดนตรีหลายชนิด Spatial Audio ช่วยให้การก้าวขีดจำกัดของศักยภาพเป็นเรื่องที่ง่ายดายภายในพริบตา เขากล่าวเสริมว่า “มันทำให้เราเหมือนเราได้ก้าวเข้าไปอยู่ในเพลง อีกทั้งยังสร้างความเป็นไปได้ และความรู้สึกแบบสามมิติที่มันก้องและติดอยู่ในหัวเรา”

เมื่อต้องออกไปทำงานนอกสถานที่ เขาสามารถเช็คงานมิกซ์และเพลงต่าง ๆ ผ่าน MacBook Pro, iPhone iPad Pro ผ่านลำโพงที่ built-in ในแต่ละอุปกรณ์ รวมถึง AirPods Max TIGGER กล่าวทิ้งท้ายว่า “สิ่งที่ทำให้ผมทึ่งสุดๆเลยคือคุณภาพของเสียงที่สม่ำเสมอในทุกอุปกรณ์ และที่สำคัญผมหลงรักการทำเพลง Spatial Audio บนเครื่อง Mac ของผม ที่ให้ผมได้ทดลองเทกซ์เจอร์ใหม่ ๆ และปรับเสียงให้เป็นสามมิติได้ลื่นไหล แรงพอที่จะรองรับทุกไอเดียที่ผมโยนเข้าไปหลายสิบ tracks ทำให้ผมได้โฟกัสกับการสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มที่”
สานต่อแรงบันดาลใจจากอดีต สู่ท่วงทำนองแห่งอนาคต
สำหรับ Yes Indeed, MONICA และ TIGGER โปรเจ็กต์นี้นอกจากจะเป็นความท้าทายแล้วเป็นบททดสอบที่จะสะท้อนตัวตนของพวกเขาในฐานะศิลปิน ผ่านการค้นพบวิธีในการถ่ายทอดศิลปะทางดนตรี ผ่านการสัมผัสประสบการณ์ของพลังเสียงแบบรอบทิศทาง ที่เชื่อมโยงเข้ากับความทรงจำในบทเพลงจากวง COCKTAIL

Yes Indeed กล่าวปิดท้ายว่า “ดนตรีและเสียงเพลงในวันนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับขั้นตอนและอุปกรณ์อีกต่อไป แต่มันอยู่ที่ตัวเราและจินตนาการมากกว่า พวกเราชอบทำเพลงในสตูดิโอของเรามาก แต่บางครั้งแรงบันดาลใจก็เกิดขึ้นได้ตลอดเวลาระหว่างทาง เราแคปเจอร์แต่ละโมเมนต์และไอเดียบน iPad และกลับมาสานต่อบน Mac เพราะเราเลือกที่ใช้อิสระในการสร้างสรรค์อะไรก็ได้บน MacBook Pro ของเรา”

ด้วยพลังของฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และบริการใหม่ๆจาก Apple บวกกับ Spatial Audio ที่เปิดมิติใหม่ของเสียง ศิลปินรุ่นใหม่กลุ่มนี้เป็นผู้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เมื่อสิ่งเหล่านี้อยู่ในมือที่ถูกต้องแล้ว เทคโนโลยีไม่ได้เป็นคนสร้างเสียงเพลง — แต่มันเป็นสิ่งที่ช่วยปลดปล่อยศิลปินให้สามารถแสดงตัวตนได้อย่างเต็มที่และเต็มพลัง ทั้งยังให้ผู้ฟังได้ค้นพบเพลงฮิตในตำนานในรูปแบบใหม่ได้อย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น เปลี่ยนแปลงและยกระดับประสบการณ์การรับฟังบน Apple Music

อัลบั้ม Ours Ever – a Tribute to COCKTAIL พร้อมให้ฟังแล้ววันนี้บน Apple Music ในรูปแบบ Spatial Audio โดยรวม 9 แทร็กเพลงจากศิลปินรุ่นใหม่ภายใต้ค่าย GMM Grammy ได้แก่ Jung PERSES, MEYOU, MONICA, Only Monday, Samui, XX, TIGGER, Yes Indeed และ Bomb at Track แฟน ๆ สามารถเพิ่มอัลบั้มนี้ไว้ใน Apple Music และสัมผัสประสบการณ์เสียงรอบทิศทางได้ผ่านอุปกรณ์ที่รองรับ รวมถึงลงทะเบียนเข้าร่วม Today at Apple รอบพิเศษ เพื่อสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการสร้างสรรค์เพลงในระบบ Spatial Audio บน Logic Pro ไปกับ XX, MONICA และ TIGGER