Galaxy Watch8 สมาร์ทวอทช์สุดล้ำจาก Samsung ที่มาพร้อมการอัปเกรดใหม่หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ใหม่ที่บางเฉียบ ฟีเจอร์สุขภาพที่ฉลาดกว่าเดิม เป็นคู่หูสำหรับการฝึกซ้อม และผู้ช่วย AI บนข้อมือที่ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ ในรีวิวนี้จะพาทุกคนไปเจาะลึกทุกซอกทุกมุมว่ามีอะไรเด็ดๆ ซ่อนอยู่บ้าง

สรุปสเปก Galaxy Watch8
- ขนาดตัวเครื่อง: 43.7 x 46.0 x 8.6 มม. (44 มม.) และ 40.4 x 42.7 x 8.6 มม. (40 มม.)
- น้ำหนัก: 34 ก. (44 มม.) และ 30 ก. (40 มม.)
- หน้าจอ: 1.47 นิ้ว ความละเอียด 480 x 480 พิกเซล (44 มม.) และ 1.34 นิ้ว ความละเอียด 438 x 438 พิกเซล (40 มม.)
- วัสดุ: Armor Aluminum
- ระบบปฏิบัติการ: Android Wear OS 6, One UI 8 Watch
- ชิปเซ็ต: Exynos W1000 (Penta-Core, 3 nm)
- หน่วยความจำ: 2GB + 32GB
- เซ็นเซอร์: Accelerometer, Gyro, Heart rate, Barometer, Compass, SpO2, Temperature (skin), BioActive
- การเชื่อมต่อ: Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, Bluetooth 5.3, NFC, GPS (L1+L5)
- แบตเตอรี่: 435mAh (44 มม.) และ 325mAh (40 มม.)
- ความทนทาน: 5ATM + IP68, ML-STD-810H
ดีไซน์ใหม่ Galaxy Watch8 บางเบา จนลืมไปเลยว่าใส่
ต้องบอกเลยว่าครั้งแรกที่เห็น Galaxy Watch8 คือ ว้าวมาก ดีไซน์ใหม่นี้ทำออกมาได้บางเฉียบที่สุดเท่าที่ Galaxy Watch เคยมีมาเลยนะ ใส่แล้วรู้สึกเบา สบายข้อมือสุดๆ ใส่ได้ทั้งวันแบบไม่รู้สึกรำคาญเลยล่ะ แถมยังมาพร้อมดีไซน์กันกระแทก (Cushion design) ที่ช่วยให้เรามั่นใจได้ว่านาฬิกาจะไม่เสียหายจากการกระแทกเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน


และที่ชอบมากๆ อีกอย่างคือเรื่องความสว่างของหน้าจอ ให้ความสว่างสูงสุดถึง 3000 nits ยิ่งเป็นสายทำกิจกรรมกลางแจ้งหรือในแดดจ้าจะได้ใช้ประโยชน์จากความสว่างนี้เต็มที่ ทำให้มองเห็นหน้าจอได้ชัดเจน ไม่ต้องเพ่ง ไม่ต้องหรี่ตาเลยล่ะ โดยหน้าจอมีขนาด 1.47 นิ้ว ความละเอียด 480 x 480 พิกเซล (44 มม.) เป็นแบบ Super AMOLED สีสันสดใสอีกด้วย

รุ่นในรีวิวนี้จะเป็นขนาด 44 มม. เป็นขนาดที่กำลังดีเลยสำหรับข้อมือผู้ชายประมาณนี้ หรือถ้าเป็นข้อมือผู้หญิงเล็กๆ ก็จะมีรุ่น 40 มม. ให้เลือกด้วย และตัวเรือนที่ทุกคนเห็นนี้เป็นสี Graphite เข้าได้กับทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าใส่จะทำงาน หรือใส่เป็นคู่หูติดตามออกกำลังกาย


Watch8 จะมีความแตกต่างในเรื่องของดีไซน์เมื่อเทียบกับ Watch8 Classic ที่ยังคงเอกลักษณ์ขอบนาฬิกาที่หมุนได้อยู่ โดยทั้ง Watch8 และ Watch8 Classic มาพร้อม Dynamic Lug System ที่ช่วยให้สวมใส่กระชับและข้อต่อนาฬิกาเปลี่ยนง่ายขึ้นเยอะเลย ไม่ต้องมานั่งงัดแงะให้เสียเวลาอีกต่อไป

ด้านข้างขวาของตัวนาฬิกาจะมีปุ่มกด 2 ปุ่ม เลือกตั้งค่าได้ว่าอยากให้เป็นปุ่มสำหรับฟังก์ชั่นอะไร โดยค่าเริ่มต้นจะเป็นดังนี้
- ปุ่มบน: กดสองครั้ง – ไปที่แอปล่าสุด หรือ กดค้างไว้ – เพื่อเรียกใช้งานผู้ช่วย AI อย่าง Gemini
- ปุ่มล่าง: กดหนึ่งครั้ง – เพื่อย้อนกลับ
ระหว่างสองปุ่มก็ยังมีรูเล็กๆ ซึ่งเป็นไมโครโฟนในตัว และด้านข้างอีกฝั่งก็จะมีช่องลำโพง


สำหรับวัสดุของตัวนาฬิกาจะเป็น Armor Aluminum และกระจกหน้าจอเป็น Sapphire Crystal มีมาตรฐานกันน้ำระดับ 5ATM + IP68 และได้มาตราฐานความทนทาน ML-STD-810H

One UI ใหม่ ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ
มาถึงเรื่องซอฟต์แวร์กันบ้าง One UI ใหม่! บน Galaxy Watch8 นี่คือการอัปเกรดที่ทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้นไปอีกขั้นเลยนะ โดยมีการปรับปรุง Now Bar, Multi Tiles Info และ Notification โฉมใหม่ ที่ทำให้การดูข้อมูลและการแจ้งเตือนต่างๆ ทำได้สะดวกและรวดเร็วกว่าเดิม ไม่ต้องเข้าหลายแอปฯ ให้ยุ่งยาก แค่เหลือบมองก็รู้เรื่องแล้ว

ไม่เพียงแต่หน้าตาที่ดูสวยงาม น่าใช้งานเท่านั้นนะ แต่ยังใช้งานได้ลื่นไหลด้วย เวลาเราปัดหน้าจอ เลื่อนดูข้อมูลต่างๆ หรือสลับเปิดแอปไปมาคือลื่นไหลมาก รวมถึงฟังก์ชันต่างๆ ก็เข้าถึงง่าย ไม่ซับซ้อนหรือซ่อนอยู่ลึกเกินไป เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับเลยว่า Samsung ทำเรื่องนี้ได้ดีมาก

Galaxy Watch8 กับ 5 สัญญาณสุขภาพสำคัญ ที่ต้องรู้
ขอบอกเลยว่า Galaxy Watch8 ไม่ได้เป็นแค่นาฬิกา แต่เป็นเหมือนผู้ช่วยส่วนตัวด้านสุขภาพของเราเลยนะ สามารถบอก 5 สัญญาณสุขภาพที่สำคัญมากๆ ได้
Bedtime Guidance แนะนำเวลานอน
อย่างแรกที่อยากพูดถึงเลยคือในเรื่องของการนอนนั่นเอง ใครที่มีปัญหานอนไม่หลับ นอนกรน หรืออยากปรับพฤติกรรมการนอนให้ดีขึ้น ฟีเจอร์ Sleep & Snore detection ตอบโจทย์สุดๆ ที่จะช่วยตรวจจับการนอนและการกรนของเราได้


และที่ว้าวไปกว่านั้นคือฟีเจอร์ใหม่ Bedtime Guidance ที่ไม่ได้แค่แนะนำเวลานอน แต่จะเก็บข้อมูลการนอนของเรา 3 วันติดกัน เพื่อคำนวณและแนะนำเวลานอนที่เหมาะสมกับเราที่สุด โดยอ้างอิงจากกลไกทางชีวภาพของการนอนหลับและการตื่น ไม่ว่าจะเป็นแรงกดดันในการนอนหลับ (Sleep Pressure) และจังหวะนาฬิกาชีวภาพ (Circadian Rhythm) คือฉลาดมาก เรียกได้ว่าเป็นเครื่องมือที่ดีที่จะช่วยให้เราจัดการตารางการนอนหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ และส่งเสริมสุขภาพการนอนที่ดีขึ้นจริงๆ


Antioxidant Index ครั้งแรกของโลก
มาต่อกันที่ Antioxidant Index เช็กดัชนีสารต้านอนุมูลอิสระบนข้อมือได้ อันนี้คือฟีเจอร์ใหม่แกะกล่องที่ว้าวสุดๆ และเป็นครั้งแรกของโลกด้วยนะ เราสามารถวัดค่าดัชนีระดับสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกายได้ง่ายๆ แค่วางนิ้วโป้งบนเซ็นเซอร์ค้างไว้ 5 วินาที โดยอนุมูลอิสระเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุเลยนะ ไม่ว่าจะเป็นจากกระบวนการเผาผลาญในร่างกาย มลภาวะ ควันบุหรี่ แสงแดด อาหารปิ้งย่าง ความเครียด หรือแม้แต่การออกกำลังกายหนักเกินไป การรู้ค่า Antioxidant Index จะช่วยให้เราเข้าใจสุขภาพตัวเองมากขึ้น ซึ่งการมีสารต้านอนุมูลอิสระเพียงพอเนี่ยมีประโยชน์เยอะมากนะ เช่น ช่วยชะลอวัย บำรุงผิวพรรณ ลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังต่างๆ อย่างโรคหัวใจและหลอดเลือด มะเร็งบางชนิด อัลไซเมอร์ เบาหวาน และบำรุงสุขภาพตาด้วย เราสามารถรับสารต้านอนุมูลอิสระได้จากผัก ผลไม้ ธัญพืช ถั่ว และเมล็ดพืช โดยเฉพาะผักผลไม้หลากสี เช่น วิตามินซี วิตามินอี เบต้าแคโรทีน และซีลีเนียม ฟีเจอร์นี้จะช่วยเตือนให้เราดูแลตัวเองให้ดีขึ้นได้


Heart Rate และ ECG เตือนหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ
Heart Rate และ ECG (คลื่นไฟฟ้าหัวใจ) ฟีเจอร์จำเป็นสำหรับคนรักสุขภาพเลย โดยใน Watch8 สามารถติดตามอัตราการเต้นของหัวใจได้ตลอดเวลาที่เราสวมใส่ แถมยังสามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบเรียลไทม์ได้ทันทีด้วยนะ นอกจากนี้ยังสามารถทำ ECG เพื่อตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจได้ด้วย ซึ่งถ้าหัวใจเราเต้นเร็วผิดปกติ (มากกว่า 100 ครั้ง/นาที ตอนพัก) นาฬิกาก็จะแจ้งเตือนให้เราทราบทันที ถือเป็นผู้ช่วยสำคัญในการดูแลสุขภาพหัวใจของเราเลย


High Stress Alert เตือนความเครียดสูง
High Stress Alert ฟีเจอร์ช่วยเตือนความเครียดสูง บางทีเราก็ทำงานหนักจนลืมไปเลยว่าตัวเองกำลังเครียดอยู่ ฟีเจอร์ High Stress Alert นี่แหละที่จะมาช่วยเตือนเรา โดยจะแจ้งเตือนเมื่อเรามีความเครียดสูง ซึ่งจะช่วยให้เราได้พักผ่อน ผ่อนคลาย หรือยืดเส้นยืดสายก่อนที่จะนำไปสู่โรคเครียดหรือวิตกกังวลได้ แค่เปิดการตั้งค่า High Stress Alert ไว้ ก็อุ่นใจได้แล้ว

Body Composition เข้าใจร่างกายมากขึ้น
Body Composition ฟีเจอร์ที่ทำให้เรารู้จักร่างกายตัวเองให้ลึกซึ้ง หลายคนอาจจะดูผอม แต่จริงๆ แล้วมีไขมันเยอะกว่ากล้ามเนื้อก็ได้นะ ฟีเจอร์ Body Composition บน Watch8 จะช่วยให้เราวัดมวลกล้ามเนื้อ เปอร์เซ็นต์ไขมัน และปริมาณน้ำในร่างกายได้ ทำให้เรารู้ว่าองค์ประกอบต่างๆ ในร่างกายเราเป็นยังไง การรู้ค่าเหล่านี้จะช่วยให้เราเห็นพัฒนาการของตัวเองในการออกกำลังกายหรือการควบคุมอาหาร อย่างเช่น บางคนน้ำหนักเยอะแต่เป็นเพราะมีมวลกล้ามเนื้อเยอะ ก็จะดูเฟิร์มกว่าคนที่น้ำหนักเท่ากันแต่มีไขมันเยอะ วัดง่ายมากๆ แค่เข้าโหมด Body Composition แล้ววางนิ้วกลางและนิ้วนางแตะที่ปุ่มด้านขวาค้างไว้จนครบ 100% ก็จะขึ้นข้อมูลทั้งหมดเลย ทั้งน้ำหนัก กล้ามเนื้อโครงร่าง มวลไขมัน น้ำในร่างกาย เปอร์เซ็นต์ไขมัน BMI และ BMR


นอกจาก 5 สัญญาณสุขภาพหลักแล้ว Galaxy Watch8 ยังมีฟีเจอร์ล้ำๆ เพิ่มเติมอีกด้วยนะ ไม่ว่าจะเป็น Blood Pressure (วัดความดันโลหิต) ฟีเจอร์นี้บอกเลยว่าสำคัญมากๆ โดยเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุหรือคนที่มีภาวะความดันโลหิตสูง/ต่ำ Watch8 สามารถวัดความดันโลหิตได้ทุกที่ทุกเวลา ทำให้เราอุ่นใจมากขึ้น ไม่ต้องคอยพกเครื่องวัดความดันไปไหนมาไหน แต่ก่อนใช้งานต้องมีการปรับเทียบนาฬิกากับเครื่องวัดความดันจริงก่อนนะ ทำซ้ำ 3 รอบ และควรปรับเทียบอย่างน้อย 4 สัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อความแม่นยำ

Vascular Load ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเห็นในงาน Unpack global ฟีเจอร์นี้จะช่วยติดตามภาวะหลอดเลือดของเรา ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้สุขภาพของหลอดเลือดและวัดปริมาณความเครียดที่เกิดขึ้นกับระบบหลอดเลือด โรคหัวใจเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของโลก การติดตามภาวะหลอดเลือดจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดย Galaxy Watch8 จะทำการวัดค่านี้ตอนเรานอน

ฟีเจอร์นี้จะเริ่มติดตามภาวะหลอดเลือดหัวใจระหว่างการนอนเมื่อเราใส่นาฬิกานอน 3 คืนเพื่อให้ได้ค่า Baseline ของตัวเอง และควร Reset Baseline ทุกครั้งที่ Lifestyle เปลี่ยนแปลง เพื่อให้ค่าแม่นยำที่สุด การรักษาระดับ Vascular Load ให้ดีผ่านการใช้ชีวิตที่มีสุขภาพดีอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจได้

Running Coach โค้ชส่วนตัวสู่เป้าหมายมาราธอน
สำหรับสายวิ่งหรือคนที่อยากเริ่มวิ่งเพื่อสุขภาพ ขอบอกเลยว่า Running Coach บน Galaxy Watch8 คือโค้ชส่วนตัวที่ดีมากที่จะช่วยเทรนเราให้ไปถึงเลเวลมาราธอนได้เลยนะ

เริ่มต้นด้วยการทดสอบวิ่ง 12 นาที เพื่อประเมินระดับความสามารถในการวิ่งของเรา จากนั้นนาฬิกาก็จะกำหนดโปรแกรมการฝึกที่เหมาะสมกับเรา ซึ่งแต่ละคนก็จะได้โปรแกรมฝึกไม่เหมือนกันนะ เพราะความสามารถในการเริ่มวิ่งไม่เท่ากันนั่นเอง ปรับแต่งมาเพื่อแต่ละระดับโดยเฉพาะ ช่วยให้เราพัฒนาทักษะการวิ่งได้อย่างปลอดภัย ไม่บาดเจ็บ

นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการวิ่งของเรา เพื่อสรุปความสามารถและให้คำแนะนำในการพัฒนาต่อไป ไม่ว่าจะเป็น Heart Rate, Vo2Max, Profile, Distance และ Pace มีโค้ชส่วนตัวแบบนี้ ไม่ต้องกลัวการวิ่งอีกต่อไปแล้ว และทำให้การฝึกสนุก ไปถึงเป้าหมายได้ง่ายขึ้นด้วย

Galaxy Watch8 มี GPS ย่านความถี่คู่ โดยนาฬิกาจะใช้ทั้ง L1 และ L5 GPS เพื่อความแม่นยำในการระบุตำแหน่ง ช่วยให้เราบันทึกเส้นทางในการทำกิจกรรมต่างๆ ได้แม่นยำ

ผู้ช่วย AI บนข้อมือ ไม่ต้องหยิบโทรศัพท์
นี่คือไฮไลท์เด็ดที่ทำให้ Galaxy Watch8 แตกต่างออกไป เราสามารถใช้งาน Gemini ผู้ช่วย AI บนข้อมือได้โดยไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าเลย แค่พูด Hey Google หรือกดปุ่มมุมขวาบนของนาฬิกา ก็สามารถถามคำถามหรือสั่งงานต่างๆ ได้ทันที
เช่น ถามว่า “ต้องวิ่งนานแค่ไหนเพื่อเผาผลาญแคลอรี่จากก๋วยเตี๋ยว 1 ชาม” และนาฬิกาก็จะตอบกลับมาว่า “ก๋วยเตี๋ยว 1 ชามจะมีแคลอรี่ประมาณเท่าไหร่ หากต้องการเผาผลาญแคลอรี่เหล่านี้ก็ต้องวิ่งกี่นาทีและที่ความเร็วเท่าไหร่” และเรายังสามารถสั่งต่อได้เลยว่า “โอเค งั้นเริ่มวิ่ง แล้วเปิดเพลงเลย” ซึ่งนาฬิกาก็จะทำตามคำสั่งของเราทันที สะดวกสุดๆ


สำหรับ Galaxy Watch8 รุ่น Bluetooth ต้องเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ที่ใช้งานอินเตอร์เน็ตในระหว่างการใช้งานด้วยนะ เพราะว่า Gemini จำเป็นต้องต่อเน็ตนั่นเอง แต่ถ้าเป็น Watch8 Classic ที่มีรุ่น LTE ก็สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับโทรศัพท์เลย และที่สำคัญคือรองรับภาษาไทยด้วยนะ ใช้งานสะดวกขึ้นเยอะจริงๆ
แบตเตอรี่และการชาร์จ
Galaxy Watch8 ในรุ่น 44 มม. มีแบตเตอรี่ 435mAh จากการใช้งานจริงมาประมาณ 1 สัปดาห์ ใส่ตลอดเวลาทั้งวัน เปิดโหมดออกกำลังกายฟิตเนสประมาณวันละชั่วโมง มีแจ้งเตือนจากแอปต่างๆ รวมถึงใส่นอนด้วย ใช้งานได้นานข้ามวัน และรองรับการชาร์จด้วยแท่นชาร์จไร้สาย

สรุปรีวิว Galaxy Watch8
Galaxy Watch8 ถือเป็นการอัปเกรดครั้งใหญ่ที่น่าสนใจมากๆ ทั้งดีไซน์ใหม่ที่บางกว่าเดิม สว่างสุดๆ และฟีเจอร์สุขภาพที่ล้ำสมัยกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการตรวจจับการนอนกรนพร้อมคำแนะนำการนอน (Bedtime Guidance) การวัดดัชนีสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant Index) ที่เป็นครั้งแรกของโลก การแจ้งเตือนความเครียดสูง (High Stress Alert) และโค้ชการวิ่งส่วนตัว (Running Coach) ที่ช่วยให้เราไปถึงเป้าหมายการวิ่งมาราธอนได้



สรุปแล้ว Galaxy Watch8 เหมาะสำหรับทุกคนเลยนะ ไม่ว่าจะเป็นสายสุขภาพตัวจริงที่อยากดูแลตัวเอง นักวิ่งมือใหม่หรือนักวิ่งที่อยากพัฒนาไปถึงขั้นมาราธอน และคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบเทคโนโลยี ยกระดับการใช้ชีวิตให้สมาร์ทขึ้น มีสุขภาพดีขึ้น และสะดวกสบายมากขึ้นในทุกๆ วัน
Galaxy Watch8 มีให้เลือก 2 ขนาด ได้แก่ 44 มม. Bluetooth สี Graphite ราคา 13,900 บาท และ 40 มม. Bluetooth สี Graphite และ สี Silver ราคา 11,900 บาท