Apple เดินเกมใหม่ในการจัดการพลังงานบน iPhone ด้วยฟีเจอร์ Adaptive Power Mode ที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ iOS 26 โดยออกแบบมาให้แบตเตอรี่อยู่ได้นานขึ้นอย่างชาญฉลาด โดยไม่กระทบต่อการใช้งานหลัก ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ Apple ใช้ระบบ AI เข้ามาช่วยควบคุมการใช้พลังงานในระดับซอฟต์แวร์

Adaptive Power Mode คืออะไร?
โหมดประหยัดพลังงานอัตโนมัติ เป็นฟีเจอร์ใหม่ใน iOS 26 ที่ให้ผู้ใช้สามารถเปิดใช้งานได้เองผ่านเมนู Settings > Battery > Power Mode
ความพิเศษของโหมดนี้ คือการทำงานแบบเบื้องหลังที่ช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ เช่น
- ลดความสว่างหน้าจอในบางสถานการณ์
- ปรับลดประสิทธิภาพของแอปหรือกระบวนการบางอย่างที่ไม่จำเป็น
- ควบคุมการอัปเดตหรือแจ้งเตือนเบื้องหลัง
คำอธิบายอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับโหมดประหยัดพลังงานอัตโนมัติใน iOS 26 Beta 1:
เมื่อการใช้แบตเตอรี่ของคุณสูงกว่าปกติ iPhone จะปรับประสิทธิภาพเล็กน้อยเพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานแบต เช่น ลดความสว่างหน้าจอลงเล็กน้อย หรือยอมให้บางกิจกรรมใช้เวลานานขึ้นเล็กน้อย โดยหากแบตเตอรี่เหลือต่ำกว่า 20% ระบบอาจเปิดใช้งานโหมด Low Power Mode โดยอัตโนมัติ
ซึ่งการทำงานเบื้องหลังนี้ไม่ทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกว่า “ช้าลง” หรือ “สะดุด” แบบที่ Low Power Mode เคยเป็น
อัปเดตราคา iPhone ล่าสุด:
- Apple iPhone 16 — ฿ 26,800
฿ 29,778 - Apple iPhone 16 Pro — ฿ 33,690
฿ 40,107 - Apple iPhone 16 Pro Max — ฿ 41,900
฿ 48,721
แตกต่างจาก Low Power Mode อย่างไร?
แม้ชื่อจะดูคล้ายกัน แต่ทั้งสองโหมดมีแนวคิดการทำงานที่ต่างกัน
การใช้งานฟีเจอร์ | Adaptive Power Mode | Low Power Mode |
---|---|---|
การเปิดใช้งาน | ผู้ใช้เปิดเอง | เปิดอัตโนมัติเมื่อแบตต่ำกว่า 20% |
ประสิทธิภาพ | ลดเล็กน้อย ไม่รู้สึกช้าลง | ลดประสิทธิภาพอย่างชัดเจน |
ระยะเวลาการใช้งาน | ยืดแบตในระยะยาว | ยืดแบตในช่วงฉุกเฉิน |
เหมาะกับใคร | ใช้ได้ทุกวัน | ใช้เมื่อจำเป็นเท่านั้น |
iPhone รุ่นไหนรองรับ Adaptive Power Mode?
แม้ว่า iOS 26 จะรองรับ iPhone 11 ขึ้นไป แต่ฟีเจอร์นี้ ใช้ได้เฉพาะบางรุ่น ที่มีชิปประมวลผลระดับสูง และรองรับฟีเจอร์ Apple Intelligence ซึ่งได้แก่
- iPhone 15 Pro
- iPhone 15 Pro Max
- iPhone 16
- iPhone 16 Plus
- iPhone 16 Pro
- iPhone 16 Pro Max
- iPhone 16e
สำหรับ iPhone 14 Pro, 13 Pro หรือรุ่นอื่น ๆ ที่เก่ากว่านี้ จะไม่สามารถใช้งานได้
ทำไมโหมดประหยัดพลังงานอัตโนมัติถึงสำคัญ?
ในยุคที่ iPhone เริ่มบางลง เบาขึ้น แต่มีการใช้งานที่หนักหน่วงมากขึ้น การจัดการแบตเตอรี่จึงกลายเป็นเรื่องสำคัญ โดยโหมด Adaptive Power ช่วยให้ iPhone ฉลาดขึ้น ในการเลือกว่าจะประหยัดพลังงานตอนไหน โดยไม่ต้องรอให้แบตเหลือ 20% แล้วรีบเปิดโหมด Low Power แบบเดิมอีกต่อไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ iPhone 17 Air (ตามข่าวลือ) ที่อาจมาพร้อมดีไซน์บางพิเศษและแบตขนาดเล็ก ฟีเจอร์นี้จะกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน

ตามข่าวลือก่อนหน้านี้ ได้มีการรายงานอ้างการทดสอบภายในของ Apple ว่า ผู้ใช้ประมาณ 60% ถึง 70% จะสามารถใช้งาน iPhone 17 Air ได้ตลอดทั้งวันโดยไม่ต้องชาร์จระหว่างวัน ขณะที่ iPhone รุ่นอื่น ๆ นั้น ตัวเลขอยู่ที่ 80% ถึง 90%
สาเหตุที่แบตเตอรี่ใช้งานได้น้อยลง ส่วนหนึ่งมาจากดีไซน์ที่บางเป็นพิเศษของ iPhone 17 Air ซึ่งมีความหนาเพียง 5.5 มม. และจะกลายเป็น iPhone ที่บางที่สุดเท่าที่เคยมีมา และเพื่อแก้ปัญหานี้ รายงานระบุว่า Apple มีแผนจะวางจำหน่ายเคสแบตเตอรี่เสริม สำหรับ iPhone 17 Air เป็นอุปกรณ์เสริมเพิ่มเติม และโหมดประหยัดพลังงานอัตโนมัติใหม่นี้จะเป็นฟีเจอร์สำคัญสำหรับรุ่นนี้ด้วยนั่นเอง
วิธีเปิดใช้งานโหมด Adaptive Power บน iOS 26
สำหรับผู้ที่ใช้ iPhone รุ่นที่รองรับและติดตั้ง iOS 26 แล้ว สามารถเปิดใช้งานได้ง่าย ๆ ดังนี้
- เข้าไปที่ Settings (การตั้งค่า)
- เลือก Battery (แบตเตอรี่)
- เข้าไปที่ Power Mode
- เลือกโหมด Adaptive Power
ถือเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่แนะนำให้เปิดใช้ทันที โดยเฉพาะถ้าใช้งานมือถือระหว่างวันยาวนาน และไม่ชอบพก Power Bank
สรุป Adaptive Power Mode บน iOS 26 ดีไหม ควรเปิดหรือไม่?
ถ้าใช้ iPhone รุ่นใหม่ (โดยเฉพาะรุ่น Pro และรุ่น 16 ทั้งหลาย) ฟีเจอร์นี้ ถือว่าควรเปิดใช้งานเอาไว้เลย เพราะช่วยให้แบตอยู่ได้นานขึ้นโดยไม่มีผลกระทบต่อความลื่นไหลของระบบ
ข้อดี | ข้อเสีย |
---|---|
แบตอึดขึ้นแบบอัจฉริยะ | ใช้ได้เฉพาะ iPhone รุ่นใหม่ |
ไม่ทำให้เครื่องช้าลง | ต้องเปิดเอง ไม่เปิดอัตโนมัติ |
ใช้ AI ควบคุมการทำงาน | ยังอยู่ในช่วง Beta |
สรุปแล้ว Adaptive Power เป็นอีกหนึ่งก้าวของ Apple ที่ผสาน AI เข้ากับการจัดการพลังงาน เพื่อยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้ iPhone ในยุคที่มือถือฉลาดขึ้นทุกวัน และการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่ากลายเป็นสิ่งสำคัญ ฟีเจอร์นี้จะตอบโจทย์ใครที่อยากให้ “iPhone แบตอึดขึ้น” โดยไม่ต้องแลกกับความเร็วหรือฟีเจอร์ที่ถูกจำกัดแบบเดิมอีกต่อไป
สำหรับ iOS 26 เวอร์ชันตัวเต็มคาดว่าจะเปิดให้อัปเดตอย่างเป็นทางการช่วงเดือนกันยายน ปี 2025 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่จะมีการเปิดตัว iPhone 17 (ตามข่าวลือ)
เรื่องน่าสนใจเพิ่มเติม:
ที่มา: macrumors