
จัดมาให้แล้วรีวิว ROG Zephyrus G16 (2025) GU605CW เกมมิ่งโน้ตบุ๊คตัวทรงพลัง เล่นเกมได้เต็มที่ ทำงานกราฟิกก็ไหลลื่น พร้อมผสานดีไซน์ที่มีความทันสมัยเข้าไปด้วย มีทั้งความเบาและบางมากๆ แบบ Ultra Slim เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นในตลาด โดยภายในอัดสเปคมาแน่นๆ ไม่ว่าจะเป็น CPU ตัวท็อป Intel Core Ultra 9 285H รุ่นใหม่ คู่กับการ์ดจอตัวรองท็อปอย่าง NVIDIA GeForce RTX 5080 และยังแสดงผลบนหน้าจอ ROG Nebula Display OLED 2.5K
สรุปสเปค ROG Zephyrus G16 (2025) GU605CW
- ขนาด : 35.4 x 24.6 x 1.49 ~ 1.74 ซม.
- น้ำหนัก : 1.95 กิโลกรัม
- หน้าจอแสดงผล ROG Nebula Display พาเนล OLED ขนาด 16 นิ้ว ความละเอียด WQXGA 2.5K (2560 x 1600 พิกเซล) อัตราส่วน 16:10, 0.2ms Response Time, DCI-P3 100%, Refresh Rate 240Hz รองรับมาตรฐาน Pantone Validated, HDR True Black 500 และความสว่างสูงสุด 500 นิต
- CPU : Intel Core Ultra 9 Processor 285H แบบ 16 คอร์ 16 เธรด, 24MB Cache ความเร็ว 2.9GHz และ Boost สูงสุด 5.4GHz
- GPU : NVIDIA GeForce RTX 5080 Laptop 16GB GDDR7
- NPU : Intel AI Boost NPU (สูงสุด 13TOPS)
- RAM : 64GB LPDDR5X เร็ว 7467MHz
- ความจุ : 1TB PCIe 4.0 NVMe M.2 SSD (เพิ่ม M.2 PCIe ได้อีก 1 ช่อง)
- ระบบปฏิบัติการ : Windows 11 Home
- พอร์ต
- 1x 3.5mm Combo Audio Jack
- 1x HDMI 2.1 FRL
- 2x USB 3.2 Gen 2 Type-A
- 1x USB 3.2 Gen 2 Type-C รองรับ DisplayPort / Power Delivery / G-SYNC
- 1x Thunderbolt 4 รองรับ DisplayPort / Power Delivery (PD)
- card reader (SD) (UHS-II, 312MB/s)
- กล้องหน้า 1080P FHD IR รองรับ Windows Hello
- รอบรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 7(802.11be) (Triple band) 2*2 + Bluetooth 5.4 Wireless Card
- แบตเตอรี่ : 90WHrs, 4S1P, 4-cell Li-ion
อุปกรณ์ภายในกล่อง ROG Zephyrus G16 (2025)
- ตัวเครื่อง ROG Zephyrus G16 (2025)
- อะแดปเตอร์ Rectangle Conn กำลังไฟ 240W AC
- คู่มือการใช้งานเบื้องต้น


ดีไซน์พรีเมียม แข็งแกร่ง เบาบาวกว่าเกมมิ่งโน้ตบุ๊คทั่วไป !
หากพูดถึงโน้ตบุ๊คเล่นเกม หลายคนอาจจะนึกถึงตัวเครื่องที่หนาๆ ตัวเครื่องหนักๆ แต่นี่ไม่ใช่กับ ROG Zephyrus G16 (2025) เลย เพราะทุกอย่างตรงกันข้าม ตั้งแต่ดีไซน์ที่เห็นภายนอกที่มีความสวยงาม พรีเมียมในสีขาว Platinum White ฝาลังของตัวเครื่องจะเป็นผิวด้านด้วยวัสดุอะลูมิเนียมอัลลอยระดับพรีเมียม ทำให้ติดรอยนิ้วมือได้ยาก และก็ไม่เกาะฝุ่นด้วย

ROG Zephyrus G16 (2025) มีความหนาเพียง 1.49 เซนติเมตรเท่านั้น และก็หนักเพียง 1.95 กรัม ซึ่งถ้ามองเป็นเกมมิ่งโน้ตบุ๊คนั้นถือว่าไม่ได้หนักจนเกินไปเลยครับ ทำให้รุ่นนี้มีจุดเด่นความสะดวกในการพกพาอีกด้วย



ที่น่าจะสังเกตเห็นได้คือแถบแสงฝาเครื่องที่เรียกว่า Slash Lighting Array ที่โดดเด่นแบบตัดขวาง และยังเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้แล้วรู้เลยว่านี่คือตระกูล ROG Zephyrus ซึ่งไฟตรงนี้ก็ปรับการกระพริบในรูปแบบต่างๆ ได้ผ่านโปรแกรม Armoury Crate


เสริมด้วยกระเป๋า ROG Sleeve Bag 4.0 ยิ่งพกพาได้สะดวก !
กระเป๋า ROG SLASH Sleeve Bag 4.0 จะเป็นกระเป๋าที่ซื้อแยกเพื่อให้พกพา ROG Zephyrus G16 (2025) ได้อย่างสะดวกและดูมีสไตล์มากขึ้นด้วยครับ มีขนาดใหญ่ เพียงพอสำหรับโน้ตบุ๊ค 16 นิ้ว ซึ่งตัวกระเป๋ามีสีหลักคือสีดำสเตลธ์ พร้อมด้วยลาย ROG SLASH แต่ก็มีแทรกสีฟ้าและชมพู โดยวัสดุก็ทนทานใช้เป็นแบบ Ripstop PU และโพลีเอสเตอร์เคลือบ TPU ทนทั้งรอยขีดข่วนและกันน้ำได้ดีมากๆ ขณะที่ก็มีช่องด้านนอก 1 ช่อง และด้านในอีกหลายช่องเพื่อให้เราใส่อุปกรณ์เสริมต่างๆ ได้ครบถ้วนแน่นอน ที่สำคัญก็ยังมีซับที่มีความนุ่มเพื่อป้องกันตัวเครื่องและอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งหมดที่เราใส่เอาไว้ครับ





ทั้งนี้ก็ยังมีสายสะพายไหล่ที่ปรับได้ ทำให้เราพกพาได้ง่ายกว่าเดิมแน่นอนครับ

ROG Intelligent Cooling ระบบระบายความร้อนขั้นสูงที่สุด
ด้วยความที่เป็นโน้ตบุ๊คสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ ก็ต้องมาพร้อมระบบระบายความร้อนที่ดีที่สุดด้วยการใช้เป็น ROG Intelligent Cooling ที่มีส่วนประกอบที่ทำงานร่วมกันอย่างกลมกลืนและไหลลื่น ไม่ว่าจะเป็น Vapor Chamber ที่ครอบคลุมถึง 44% รวมถึงเทคโนโลยี Dual-Fan หรือพัดลม 2 ตัว เสริมด้วยพัดลม Arc Flow Fans รุ่นที่ 2 แบบใหม่ มีใบพัดที่บางเพียง 0.1 มม. และเพิ่มความโค้งที่ปลายของแต่ละใบพัดถึง 84 ใบ ช่วยให้ใช้พลังงานลดลงถึง 16% สามารถเพิ่มการไหลเวียนของอากาศได้มากขึ้นถึง 11% และท้ายสุดยังมีสารระบายความร้อนแบบโลหะเหลว หรือ Conductonaut Liquid Metal ที่มีประสิทธิภาพในการดึงเอาความร้อนออกจาก CPU ได้ดีที่สุดในปัจจุบันจากผู้ผลิตสารนำความร้อนชั้นนำระดับโลกจากประเทศเยอรมนีอย่าง Thermal Grizzly ช่วยลดอุณหภูมิของ CPU ได้มากถึง 13 องศาเลยทีเดียวครับ

จอภาพเพื่อคอเกม ROG Nebula Display 240Hz คมชัด 2.5K
ROG Zephyrus G16 (2025) ใช้หน้าจอแบบ ROG Nebula Display แบบ OLED ขนาดใหญ่ 16 นิ้ว มีความละเอียด 2.5K อัตราส่วน 16:10 รองรับการสนองที่เร็วถึง 0.2 มิลลิวินาที มีค่ามี DCI-P3 100% ผ่านมาตรฐาน Pantone Validated และมีความสว่างสูงสุด 500 นิต

ที่สำคัญรุ่นนี้ยังรองรับ Refresh Rate สูงถึง 240Hz ทำให้มีความไหลลื่นการใช้งานมากๆ และยังรองรับเทคโนโลยี G-SYNC ของ NVIDIA เพื่อให้ภาพในเกมและจอภาพได้เฟรมและ Hz วิ่งเท่ากัน เพื่อความลื่นไหวของภาพกราฟิกภายในเกม ลดอาการกระตุก และการฉีกขาดของภาพได้ด้วย


คีย์บอร์ด Backlit Chiclet Keyboard RGB
สำหรับคีย์บอร์ดของรุ่นนี้จะได้เป็นแบบ Compact มีปุ่มฟังก์ชันมาให้ใช้งานกันด้วย รวมถึงยังมีปุ่มพิเศษ M1 – M4 ที่แยกออกกมาเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง ปิดไมโครโฟน และปุ่มเปิดโปรแกรม Armoury Crate ทั้งนี้ในการใช้งานก็ได้เสียงที่เบาเป็นพิเศษและยังมีความห่างของแต่ละปุ่ม หรือ Key Cap Gap ถึง 1.7 มม. ทำให้พิมพ์ได้ง่ายด้วยครับ ซึ่งความพิเศษก็เอาใจเกมเมอร์ด้วยการมาพร้อมไฟ RGB ที่สามารถปรับตั้งค่าไฟและการกระพริบต่างๆ ได้ผ่านโปรแกรม Armoury Crate





TouchPad ยังได้ขนาดใหญ่พิเศษให้เราใช้งานได้แบบสะดวกมากๆ และยังรองรับฟีเจอร์ Aura Sync ช่วยให้สามารถจับคู่และปรับสีอุปกรณ์ต่อพ่วงของ ROG ที่มีไฟ RGB ทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย ผ่านโปรแกรม Armoury Crate ที่ติดตั้งมาให้แล้วครับ

พอร์ตต่างๆ รอบเครื่องที่ให้มาครบ
พอร์ตต่างๆ ที่ให้มาใน ROG Zephyrus G16 (2025) บอกเลยว่าครบ พร้อมใช้และเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมได้เยอะมาก ตั้งแต่ฝั่งซ้ายที่มีพอร์ตชาร์จแบบ ASUS Slim Power Jack, HDMI 2.1, Thunderbolt 4 รองรับ DisplayPort / PD (Input 100W :20V/5A), USB 3.2 Gen 2 Type-A 1 ช่อง และช่องเสียบหูฟัง 3.5mm Combo Audio Jack

ขณะที่ด้านขวาเครื่องจะมี USB 3.2 Gen 2 Type-C รองรับ DisplayPort / Power Delivery / G-SYNC, USB 3.2 Gen 2 Type-A อีก 1 ช่อง และช่องอ่าน SD Card (UHS-II)

มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Window 11 Home และโปรแกรม Microsoft ติดตั้งมาให้
สำหรับ ROG Zephyrus G16 (2025) ตั้งแต่ Windows 11 Home มาให้อยู่แล้ว ฟังก์ชันการทำงานครบแน่นอน รวมถึงโปรแกรมการทำงานอย่าง Microsoft Office Home 2024 และ Microsoft 365 Basic ก็มีมาให้เช่นกันครับ เพียงแต่เข้าสู่ระบบจากนั้นก็ใช้งานได้ทันที !

CPU ตัวท็อป Intel Core Ultra 9 เสริมพลังด้วยการ์ดจอ RTX 5080 Laptop
พามาดูเรื่องสเปคความแรงของรุ่นนี้กันต่อเลยครับ ROG Zephyrus G16 (2025) ใช้ CPU Intel Core Ultra 9 285H มี 16 คอร์ (6 P-Cores + 8 E-Cores + 2 LPE-Cores) คู่กับ 16 เธรด พร้อมด้วย 24MB Cache มีความเร็ว Clock ในโหมดประสิทธิภาพสูงที่ 2.9GHz และ Boost ได้สูงสุดถึง 5.4GHz ทั้งนี้ก็ยังมี NPU ภายในที่ให้มา 13TOPS ช่วยเรื่องการทำงานด้าน Copilot+ AI ที่รวดเร็วด้วยเช่นกัน

เมื่อ CPU แรงแล้ว ก็มาคู่กับการ์ดจอแยกตัวรองท็อปอย่าง NVIDIA GeForce RTX 5080 Laptop หน่วยความจำ 16GB GDDR7 บอกเลยว่าสามารถเล่นเกมหลักๆ ระดับ AAA ในยุคนี้ได้ทั้งหมดแน่นอน และปรับกราฟิกได้ระดับสูงด้วย และด้วยความที่เป็นการ์ดจอ Gen ใหม่ก็รองรับ DLSS4 ที่เพิ่มคุณภาพของภาพ เพิ่มเฟรม และลดความหน่วงของภาพลง ทั้งยังได้เทคโนโลยี Super Resolution เพิ่มความคมชัดของภาพในการ Upscaling ขึ้นมาเพื่อให้มีความละเอียดของวิดีโอหรือเกมให้ตรงกับกับหน้าจอมากที่สุด ทั้งนี้ RTX 5080 Laptop ยังมีค่า TGP หรือพลังในการทำงานทั้งหมดสูงสุดที่ 120W

จริงๆ แล้ว Intel Core Ultra 9 285H ยังมีการ์ดจอแบบออนบอร์ดมาด้วย คือ Intel Arc 140T ทำให้เราใช้งาน MUX Switch ได้ในการทำงานและเล่นเกมได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น

ติดตั้ง RAM มาให้ 64GB และ M.2 SSD 1TB
RAM ที่ให้มาในรุ่นนี้อยู่ถึง 64GB (8GB ทั้งหมด 8 ช่อง) โดยเป็น RAM ชนิด LPDDR5X เร็ว 7467MHz ซึ่งเพียงพอแน่นอนสำหรับการเป็นโนเตบุ๊คเกมมิ่ง ทำให้เราเล่นเกมได้สบาย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทำงานแบบ Multi-Tasking ต่างๆ ที่กิน RAM มากกว่าการเล่นเกมก็เพียงพอแน่นอนครับ ทั้งนี้ ความจุที่ใส่เข้ามาให้จะเป็น PCIe 4.0 NVMe M.2 SSD ขนาด 1TB แต่เราก็ยังสามารถเพิ่ม M.2 ได้อีก 1 ช่อง สูงสุด 1TB รวมสูงสุด 2TB เลยครับ

ผลการทดสอบประสิทธิภาพ CPU
CPU-Z : Single Thread 708.8 / Multi Thread 9805.3

ทดสอบประสิทธิภาพแบบเปิด MUX Switch (รันผ่าน RTX 5080 อย่างเดียว)
- CINEBENCH R23 : Single Core 1,922 / Multi Core 21,193
- CINEBENCH R24 : Single Core 120 / Multi Core 1,139


- Fire Strike Extreme : 18,646 แต้ม
- Fire Strike Ultra : 10,934 แต้ม
- Fire Strike : 33,601 แต้ม



- Geekbench 6.4.0 for Windows : Single Core 2,547 / Multi Core 16,299
- PCMark 10 Express : 6,481 แต้ม
- PCMark 10 Extened : 11,679 แต้ม
- PCMark 10 : 8,583 แต้ม




- FF XV 2K : 14,513 แต้ม
- FF XV 4K : 8,204 แต้ม
- FF XV FHD : 17,551 แต้ม



ทดสอบประสิทธิภาพแบบปิด MUX Switch (รันผ่าน RTX 5080 และ Intel Arc 140T ตามการใช้งานต่างๆ)
- CINEBENCH R23 : Single Core 2,130 / Multi Core 22,2176
- CINEBENCH R24 : Single Core 125 / Multi Core 1,142


- Fire Strike Extreme : 20,283 แต้ม
- Fire Strike Ultra : 11,189 แต้ม
- Fire Strike : 33,174 แต้ม



- Geekbench 6.4.0 for Windows : Single Core 2,833 / Multi Core 16,745
- PCMark 10 Express : 6,374 แต้ม
- PCMark 10 Extened : 11,136 แต้ม
- PCMark 10 : 7,673 แต้ม




- FF XV 2K : 14,061 แต้ม
- FF XV 4K : 8,028 แต้ม
- FF XV FHD : 18,358 แต้ม



ขอลองเล่นเกมกันสักหน่อย
Grand Theft Auto V Enhanced
เกมแรกเราเล่น Grand Theft Auto V Enhanced ที่เป็นตัวอัปเกรดด้านกราฟิกขึ้นมาจาก GTA V Legacy เยอะเลยทีเดียวครับ ซึ่งเราปรับภาพทั้งหมดให้สูงสุดแบบ Ultra ทั้งหมด พร้อมปิดการจำกัดเฟรมเรทเอาไว้ เปิด VSync และก็เปิด DLCC แบบ Performance ที่ช่วยเพิ่มเฟรมเรทให้สูงขึ้นกว่าเดิม แต่อาจจะต้องแลกด้วยภาพที่ก้อยลงกว่าเดิมเล็กน้อยครับ ท้ายสุดที่อยากพูดถึงคือการเปิด Ray Tracing ที่การ์ดจอ RTX 5080 Laptop นั้นมี Tensor Core ที่ช่วยการประมวลผลด้านนี้โดยเฉพาะ ดังนั้นก็เปิด Ultra ไปให้สุดได้เลย โดยการเล่นภาพ แสงและเงานั้นสวยงามมากๆ เฟรมไทม์ดี เฟรมเรทลื่นๆ และไม่มีอาการกระตุกอะไรเลยครับ





EA SPORTS FC 25
ส่วนเกม EA SPORTS FC 25 ก็เปิดสุดเหมือนกัน พร้อมเปิด Ray Tracing เอาไว้ด้วย และคุณภาพของภาพระดับ Ultra แน่นอนว่าการความที่ได้การ์ดจอที่ทรงพลังก็ทำให้การเล่นนั้นลื่นมากๆ ภาพก็สวยงาม โดยเฉพาะช่วงของ Cut Scene ต่างๆ ก็ยอดเยี่ยมมากครับ



ลำโพงสเตอริโอคมชัดตามระบบเสียง Dolby Atmos
บอกเลยว่าลำโพงที่ใส่มาในรุ่นนี้ไม่ธรรมดาเลย เพราะให้ระดับเสียงที่สูงขึ้นถึง 47% พร้อมความถี่เบสต่ำถึง 100Hz โดยลำโพงยังเป็นแบบสเตอริโอเสียงดังกระหึ่มด้วยระบบเสียง Dolby Atmos ที่มีเสียงรอบทิศทางเหมือนจริง 5.1.2 ช่วยให้อรรถรสในการเล่นเกมหรือรับชมวิดีโอเต็มอิ่มมากขึ้นแน่นอนครับ ทั้งยังได้ Woofer ขนาดใหญ่กว่าเดิมเพื่อให้เสียงมีมิติมากขึ้นกว่ารุ่นเดิม

กล้องคมชัด 1080p รองรับ Windows Hello
สำหรับกล้องที่ให้มาในรุ่นนี้จะเป็นความละเอียดแบบ Full HD 1080p สามารถวิดีโอคอลงานหรือประชุมได้คมชัดตามมาตรฐาน ทั้งยังมีเซ็นเซอร์อินฟราเรดหรือ IR เพื่อให้ใช้งาน Windows Hello ในการสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคได้ มีทั้งความเสถียร รวดเร็ว และปลอดภัยมากขึ้นกว่าเดิมด้วยครับ

แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน รองรับการชาร์จไว้ด้วย !
ROG Zephyrus G16 (2025) ให้แบตเตอรี่มาที่ 90WHrs ซึ่งก็เยอะพอสมควรในการเป็นโน้ตบุ๊คเกมมิ่งครับ ซึ่งใครที่เอาออกไปทำงานทั่วไปก็ใช้งานได้นานเกินครึ่งวันแน่นอน แต่ถ้าใครนำไปใช้ตัดต่อ แต่งภาพขั้นสูง หรือเล่นเกมจริงๆ ก็อาจจะอยู่ได้สักประมาณ 1 – 2 ชั่วโมงครับ อย่างไรก็ตาม หากเราชาร์จด้วยอะแดปเตอร์ที่ให้มาก็รองรับชาร์จเร็วจาก 0-50% ในเวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น ทำให้ใช้งานได้ต่อเนื่องตลอดวัน

สรุปการใช้งาน ROG Zephyrus G16 (2025)
บอกเลยว่าใครที่ต้องการโน้ตบุ๊คที่ทรงพลังรุ่นหนึ่ง ROG Zephyrus G16 (2025) โมเดล GU605CW นั้นตอบโจทย์แบบขั้นสุดแล้วครับ สุดตั้งแต่เห็นชื่อการ์ดจอที่ใช้งานแล้ว เป็น Gen ใหม่ และแรงระดับท็อปแล้ว รวมถึง CPU ก็ใช้ Intel Core Ultra 9 285H ที่สมน้ำสมเนื้อกันมากๆ เอาแค่ 2 สเปคนี้ก็เล่นเกมหรือทำงานหนักๆ ได้แน่นอนครับ ยังไม่รวมถึงหน้าจอแสดงผลแบบ ROG Nebula Display พาเนล OLED ขนาดใหญ่ 16.0 นิ้ว คมชัดถึง 2.5K ลื่นๆ แบบ 240Hz อีกด้วย ขณะที่ RAM ก็ใส่มาให้แล้วถึง 64GB ทำงานต่างๆ ได้พอแน่นอน และความจุก็ให้มาแล้วที่ 1TB แบบ NVMe M.2 แต่ก็เพิ่มได้อีก 1TB (รวม 2TB) หากยังไม่พอ นอกจากนี้เรื่องของดีไซน์ก็ปรับมาให้ดูทันสมัย เบาและบางกว่าเกมมิ่งโน้ตบุ๊คทั่วไปแน่นอนครับ

ราคา ROG Zephyrus G16 (2025) GU605CW
ROG Zephyrus G16 (2025) GU605CW วางจำหน่ายแล้วในราคา 129,990 บาท
และยังสามารถซื้อกระเป๋าสุดเกมสไตล์เกมมิ่งและปกป้องตัวเครื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ ROG SLEEVE BAG 4.0 ราคา 2,490 บาท ได้ด้วยที่ ASUS Online Store : https://th.asus.click/8b421b หรือชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://th.rog.gg/mzu3kb
การรับประกัน ASUS Exclusive Care
- On-site Service ประกัน 3 ปี แบบ On-site Service ซ่อมถึงที่ภายในประเทศ
- Global warranty ประกัน 3 ปี เข้าศูนย์ได้มากกว่า 80 ประเทศทั่วโลก
- Perfect warranty ประกัน 1 ปี ในกรณีเครื่องเกิดอุบัติเหตุ ครอบคลุมค่าอะไหล่ 80%
