Connect with us

IT News

MineHarmony มุ่งสู่การใช้งานเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ด้วยเทคโนโลยี 5G และ AI เร่งการปลดปล่อยสู่ดิจิทัลในอุตสาหกรรมเหมืองแร่

Published

on

หัวเว่ย ผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลก นำ MineHarmony เทคโนโลยีเพื่อการขุดเหมืองอัจฉริยะซึ่งจะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 5Gของหัวเว่ยที่มีความหน่วงต่ำและอัลกอริทึม AIส่งเสริมการขุดเหมืองที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้น เทคโนโลยีดังกล่าวประสบความสำเร็จอย่างดีในประเทศจีนจากการช่วยลดความเสี่ยงในการปฏิบัติงานของพนักงานอย่างมีนัยสำคัญ

การทำเหมืองแร่ทั่วโลกต้องใช้เครื่องจักรและบุคลากรเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขุดเจาะที่มีความละเอียดอ่อนหรือซับซ้อนเป็นพิเศษ ลักษณะการปฏิบัติงานเช่นนี้จึงทำให้เกิดอันตรายและโอกาสที่จะเกิดความสูญเสียแฝงอยู่หลายประการสำหรับทั้งบริษัทและพนักงาน ดังนั้น ในประเทศจีนซึ่งปัจจุบันมีเหมืองแร่อยู่ประมาณ 5,300 แห่ง ได้มีการถกร่วมกันถึงแนวทางล่าสุดเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำเหมืองแร่อัจฉริยะผ่าน “สถาปัตยกรรมอินเทอร์เน็ตอุตสาหกรรม” ที่เชื่อมโยงกับเทคโนโลยี 5G ปัญญาประดิษฐ์และการวิจัยขั้นพื้นฐาน ช่วยสร้างให้เกิดการขุดเหมืองแร่ที่มีความปลอดภัย อัจฉริยะ มีประสิทธิภาพ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

โมฮาน มุนาซิงเฮ ผู้ได้รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพและนักเศรษฐศาสตร์สิ่งแวดล้อม อธิบายว่า “การขุดเหมืองแร่จะมีโอกาสเติบโตในอนาคตอันใกล้ วัตถุประสงค์โดยรวมนี้ไม่ใช่เพื่อทำลายอุตสาหกรรมที่สร้างงานแก่ผู้คนนับล้าน แต่เพื่อเปลี่ยน
แนวทางการผลิตและการบริโภคให้อยู่ในเส้นทางแห่งความยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น นอกจากนี้ เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า หลังการระบาดของโควิด-19 เทคโนโลยีดิจิทัลจะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจโลก โดยเร่งการฟื้นตัวของห่วงโซ่อุปทานซึ่งเคยเสียหายและจะสร้างชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนให้ดียิ่งขึ้น ในฐานะผู้นำ DTระดับโลก หัวเว่ยจะเข้าไปมีบทบาทสำคัญเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้”

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา การทำเหมืองแร่ทางไกลได้กลายมาเป็นข้อตกลงร่วมกันของอุตสาหกรรม อันเป็นผลมาจากความคิดริเริ่มและข้อพิจารณาในการลดความเสี่ยงจากการทำงาน ในการทำเหมืองแร่แบบดั้งเดิม ความปลอดภัยใต้ดินจะต้องอาศัยวิธีการปฏิบัติด้วยตนเอง เช่น ผ่านการควบคุมดูแลของหัวหน้าทีม แม้จะมีความพยายามหลายครั้ง แต่อุบัติเหตุระหว่างการขุดเจาะอุโมงค์ก็เกิดขึ้นมากกว่า 40% ของอุบัติเหตุในเหมืองทั้งหมด ส่วนใหญ่เกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์หรือจากการควบคุมดูแล ในปัจจุบัน เทคโนโลยี 5G ที่มีความหน่วงต่ำ เช่น โซลูชันที่หัวเว่ยได้เปิดตัวนี้ จะช่วยให้ช่างเทคนิคมีความปลอดภัยในการทำงานภายในสำนักงาน โดยยังคงสามารถควบคุมเครื่องขุดเจาะใต้ดินได้จากระยะไกลและแม่นยำมากขึ้น

ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเกี่ยวกับการดำเนินการขุดจากระยะไกลนั้นคือ การแสดงภาพกระบวนการขุดเจาะที่ชัดเจนและเรียลไทม์ ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งยังเกี่ยวข้องกับระบบสายพานลำเลียงใต้ดิน ซึ่งมีความยาวสูงสุดถึง 20 กิโลเมตร และต้องมีการตรวจสอบและเฝ้าติดตามเป็นประจำเพื่อให้มั่นใจว่าการปฏิบัติงานจะดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยเครือข่ายแบนด์วิดธ์ 5Gแบบ Ultra-Highของหัวเว่ยและเทคโนโลยี Uplink-downlink Timeslot Configurationแบบย้อนกลับ ซึ่งให้แบนด์วิดธ์ Uplink ที่มากกว่า 1 จิกะบิตต่อวินาที (Gbit/s) ทำให้ปัจจุบันสามารถใช้งานการเชื่อมต่อวิดีโอเรียลไทม์แบบ HDไร้สายได้หลายช่องทาง

ด้วยการใช้เทคโนโลยี AI และอัลกอริธึมการต่อภาพวิดีโอ ทำให้ฟีดวิดีโอที่แยกจากกันสามารถรวมกันเป็นภาพพาโนรามาเดียวกันได้ นอกจากนี้อัลกอริธึมการกรองฝุ่นจะช่วยให้มั่นใจว่าได้ภาพที่ชัดเจนสูงสุดถึง 20 เมตรแม้ในพื้นที่ที่ล้อมรอบด้วยฝุ่นละอองและหมอก อัลกอริธึม AI ยังสามารถติดตามการทำงานใต้ดินและมีการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์เมื่อตรวจพบความผิดปกติระหว่างการขุดหรือการขนส่ง เพื่อให้มั่นใจถึงการตรวจสอบอัจฉริยะและความปลอดภัยได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงในการปฏิบัติงาน ความสำเร็จเหล่านี้ช่วยลดจำนวนบุคลากรในการตรวจสอบได้มากถึง 20% และลดจำนวนบุคลากรทั่วไปที่ต้องเสี่ยงในการลงไปปฏิบัติงานใต้ดินได้มากกว่า 20%

ทั้งนี้ หัวเว่ยยังมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนด้านอุปกรณ์ เนื่องจากการผลิตใต้ดินมักเกี่ยวข้องกับอุปกรณ์มากกว่า 1,000 ชนิด โดยเกือบครึ่งหนึ่งไม่รองรับการควบคุมระยะไกล การควบคุมจากส่วนกลาง หรือการจัดการจากระยะไกล ซึ่งอุปกรณ์ในจำนวนนี้แบ่งระบบปฏิบัติการออกเป็นมากกว่า 10 ประเภท รวมทั้งยังเป็นโปรโตคอลอินเทอร์เฟซ 500 ประเภท และยังเป็นรูปแบบข้อมูลที่หลากหลาย ทำให้เกิดกระบวนการที่ซับซ้อนและไม่มีประสิทธิภาพเพราะขาดการเชื่อมต่อหรือการทำงานร่วมกัน เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว หัวเว่ยจึงได้สร้าง MineHarmony ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่รวมภาษาของอุปกรณ์และลดความซับซ้อนในการทำงาน โดยจะครอบคลุมอุปกรณ์ทุกขนาดและใช้โปรโตคอลแบบรวมศูนย์กลางเพื่อเปิดใช้งานการแชร์ข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ ตลอดจนการเชื่อมต่อระหว่างเครื่องต่างๆ เป็นโครงข่าย ทำให้การปฏิบัติงานตรวจสอบของบุคลากรภาคพื้นดินสามารถจัดส่งงานได้อย่างชาญฉลาดแบบเรียลไทม์ ซึ่งต้องขอบคุณข้อมูลแบบเรียลไทม์ที่ครอบคลุมเหล่านี้ที่ช่วยให้การผลิตและกระบวนต่างๆ ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และด้วยระบบปฎิบัติการดังกล่าวทำให้สามารถช่วยตรวจจับเหตุการณ์ต่างๆ เช่น ก๊าซล้น จัดระเบียบการอพยพ ปิดอุปกรณ์ทำเหมือง และระบายอากาศภายในเหมือง รวมทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพในการตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินได้ดียิ่งขึ้น

สามารถรับชมวิดีโอเกี่ยวกับเทคโนโลยีการขุดเหมืองแร่อัจฉริยะด้วยเครือข่าย 5G และ AI ได้ที่: VDO: 5G และ AI-Assisted Smarter and Safer Mining Technologies

Advertisement

กำลังฮอต

Featured2 วัน ago

รีวิว Redmi Note 13 Pro 5G สมาร์ทโฟนที่ใช้ขุมพลังตัวท็อป SD 7s Gen 2 พร้อมกล้องหลัง 200MP และชาร์จไว 67W 

รีวิว Redmi Note 13 ...

HUAWEI Band 9 ราคาเริ่มต้น 1,299 บาท HUAWEI Band 9 ราคาเริ่มต้น 1,299 บาท
Featured5 วัน ago

5 ข้อควรรู้ก่อนเลือกซื้อสมาร์ทแบนด์ กับความครบเครื่องของ HUAWEI Band 9 สมาร์ทแบนด์ที่เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ทุกรุ่น ดูแลสุขภาพยืนหนึ่งในราคาเริ่มต้น 1,299 บาท

ใครที่อยู่ในช่วงเริ่...

Apple News1 สัปดาห์ ago

AIS เปิดบริการ AIS Care+ with AppleCare Services รายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้ผู้ใช้อุ่นใจมากขึ้น สบายใจที่สุด

AIS คว้า AppleCare S...

Featured1 เดือน ago

รีวิว vivo Y100 5G สนุกกับสเปกเต็ม 100 ด้วยขุมพลัง SD 4 Gen 2 5G ดีไซน์อัปเกรดสุดพรีเมียม พร้อมชาร์จเร็ว 80W FlashCharge

รีวิว vivo Y100 5G น...

Featured1 เดือน ago

รีวิว realme 12+ 5G | realme 12 Pro+ 5G “Be a Portrait Master” ด้วยกล้อง Periscope ระดับเรือธง | ดีไซน์นาฬิกาหรู | ชาร์จไว 67W SUPERVOOC

รีวิว realme 12+ 5G ...

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก