Connect with us

Smart Review

รีวิว HUAWEI FreeBuds Pro 2 สู่อีกระดับของหูฟังไร้สายเรือธง เข้าถึงคุณภาพเสียงทรงพลังผ่านลำโพงคู่ที่พัฒนาร่วมกับ Devialet ในราคาเพียง 6,499 บาท

Published

on

รีวิว HUAWEI FreeBuds Pro 2 หูฟัง TWS ระดับเรือธงรุ่นล่าสุดจาก HUAWEI ที่มาพร้อมคุณภาพเสียงทรงพลัง ระบบตัดเสียงรบกวนที่ลดได้สูงสุด 47dB และการพัฒนาร่วมกับ Devialet ซะด้วย เรียกว่าครบเครื่องสุด ๆ ในกลุ่มหูฟัง TWS เลยก็ว่าได้ครับ ส่วนเรื่องการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร ดีไซน์หูฟังสวยแค่ไหน ติดตามเต็ม ๆ ได้จากรีวิวนี้เลยครับ!

สรุปสเปค HUAWEI FreeBuds Pro 2

  • ขนาดเคสชาร์จ : 67.9 x 47.5 x 24.5 มม.
  • น้ำหนักเคสชาร์จ : 52.1 กรัม
  • น้ำหนักหูฟัง(ต่อข้าง) : 5.9 กรัม
  • ขนาดไดรเวอร์ : 11 มม. ไดนามิกไดร์เวอร์แบบแม่เหล็ก 4 ชุด (quad-magnet dynamic driver) ไดอะแฟรมระดับไมโครสำหรับเสียงแหลม
  • ระบบตัดเสียงรบกวน : การตัดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟ (Active noise cancellation) / การตัดเสียงรบกวนระหว่างการโทร / ต้านทานเสียงลม / โหมดการรับรู้ (Awareness)
  • ไมโครโฟน : 3 ตัว รองรับการตัดเสียงรบกวนระหว่างการโทร
  • การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.2, พอร์ต USB type-C
  • แบตเตอรี่ : 55 mAh (หูฟัง), 580 mAh (เคสชาร์จ)
  • กันน้ำ : IP54
  • สี : มีให้เลือก 3 สี สีฟ้า Silver Blue, สีเงิน Silver Frost และสีขาว Ceramic White

แกะกล่อง HUAWEI FreeBuds Pro 2

ก่อนอื่นเรามาแกะกล่องดูอุปกรณ์ที่ให้มากันก่อนดีกว่า HUAWEI FreeBuds Pro 2 จะมาพร้อมกล่องสีขาวขนาดมาตรฐานที่หน้ากล่องมีระบุชื่อรุ่นและภาพประกอบชัดเจน พร้อมโลโก้ที่การรองรับมากมายตั้งแต่การรับรอง HWA และคุณภาพเสียง Hi-Res Wireless Dual HD Audio รวมถึงการประกาศตั้งแต่หน้ากล่องเลยว่ารุ่นนี้พัฒนาร่วมกับ Devialet

สีที่เราได้มารีวิวเป็นสี Silver Frost ก็ตรงปกตั้งแต่หน้ากล่องเลยครับ เปิดกล่องออกมาเราจะเจอกับตัวหูฟังที่ห่ออยู่ในซองอย่างดี 

ภายในชั้นต่อไปก็จะมีอุปสรรคเสริมอย่างสายชาร์จและเอกสารคู่มือ สรุปแล้วในกล่องของ HUAWEI FreeBuds Pro 2 ก็มีของมาให้ทั้งหมด 4 อย่างดังนี้ครับ

  1. หูฟังพร้อมเคสชาร์จ HUAWEI FreeBuds Pro 2
  2. สายชาร์จ USB-A to USB-C
  3. EarTips ขนาด S และ L
  4. เอกสารคู่มือและใบรับประกัน

ดีไซน์พรีเมี่ยมมาก สมเป็นรุ่น Pro

เริ่มต้นที่ดีไซน์กันก่อนเลยละกันครับ HUAWEI FreeBuds Pro 2 มาพร้อมดีไซน์ที่ดูพรีเมี่ยมมาก สมกับที่เป็นรุ่น Pro จริง ๆ ครับ ตัวเคสมีขนาดกำลังดี แต่น้ำหนักจะมากหน่อย (52.1 กรัม) มองในแง่ดีก็คือได้ความรู้สึกที่แน่นหนาและไม่ก๊องแก๊ง มาในทรงวงรีที่พกพาได้ง่ายเหมือนรุ่นก่อนครับ

สีที่เราได้มารีวิวคือสีเงิน Silver Frost แม้จะเรียกว่าสีเงินแต่เราว่ามาในโทนเทาซะมากกว่านะ บอดี้จะเป็นผิวด้านแทบทั้งหมดทำให้เราไม่ต้องกังวลว่าจะเลอะคราบรอยนิ้วมือเราได้ง่าย ตรงบริเวณบานพับของฝาเคสจะตัดด้วยผิวมันวาวที่มีโลโก้ของ HUAWEI และ Devialet อยู่อย่างชัดเจนเพื่อเป็นการยืนยันว่า 2 แบรนด์นี้เขาร่วมงานกันจริง ๆ นะ

เปิดฝาเคสออกมาเราจะเจอกับหูฟังที่อยู่ในช่องว่างอย่างเนียนตา มีไฟ LED บอกสถานะแบตเตอรี่โชว์อยู่ตรงกลางเคสชาร์จด้วย ตัวบานพับของหูฟังก็มีความแข็งแรงและปิดได้อย่างแนบสนิทด้วยแม่เหล็กอย่างดีเลยครับ

หูฟังทรง In-Ear สวมใส่ได้แน่นหนา

ตัวหูฟังของ HUAWEI FreeBuds Pro 2 จะมาในทรง In-Ear เช่นเดียวกับรุ่นก่อนหน้ามีก้านหูฟังยื่นออกมาเล็กน้อย ในเรื่องการสวมใส่ก็ถือว่าทำได้ดีเลย ตัว EarTip ที่ให้มาเป็นไซซ์ M หรือขนาดกลางซึ่งเราใส่แล้วรู้สึกว่าพอดีเป๊ะ จึงทำให้ได้ยินเสียงที่ชัดเจนและไม่แน่นหูจนเกินไป อุดช่องว่างที่จะมีเสียงภายนอกมารบกวนได้ดีแต่ก็ไม่อึดอัดแม้จะใส่ไปนาน ๆ ครับ

ที่ก้านหูฟังจะเป็นทรงเหลี่ยมที่ดูแปลกตาไปจากหูฟัง TWS ทั่วไปสักหน่อย แต่เรากลับชอบในทรงนี้เพราะเวลาหยิบเข้า-ออกจากหูจะมีความเหลี่ยมให้เราได้จับถนัด ไม่หลุดมือไปได้ง่าย ๆ ซึ่งตรงก้านนี้ก็ยังมีความสามารถ Touch Control ให้เราได้สั่งงานเพิ่มเติมด้วย ตรงนี้ไว้เราอธิบายอีกทีในหัวข้อการใช้งานละกันเนาะ

มีความสามารถกันน้ำ IP54 ทนเหงื่อ ทนฝนได้

สำหรับความทนทาน HUAWEI FreeBuds Pro 2 ได้มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP54 มาด้วย เราจึงมั่นใจได้ว่าแม้จะใส่ออกกำลังกายที่อาจจะมีเหงื่อออกมา หรือต้องลุยฝุ่นปรอย ๆ ตัวหูฟังก็จะไม่เกิดอันตรายจนพังไปแน่นอนครับ

พอร์ตชาร์จ USB-C พร้อมปุ่ม Connect ด้านข้างเครื่อง

ย้อนกลับมาที่เคสชาร์จอีกที HUAWEI FreeBuds Pro 2 มาพร้อมพอร์ตชาร์จแบบ USB-C ที่ด้านล่างตัวเครื่อง ตรงนี้จะมีไฟ LED สำหรับบอกสถานะแบตเตอรี่อีกตัวสำหรับดูเวลาชาร์จแบตฯครับ

ส่วนที่มุมขวาของตัวเครื่องจะมีปุ่ม Connect ที่เอาไว้ใช้เวลาเราเชื่อมต่อกับหูฟังเครื่องอื่นหรือรีสัญญาณใหม่เวลาที่อยากจะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ใหม่นั่นเองครับ

โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ HUAWEI FreeBuds Pro 2 นั้นอาจจะไม่ได้แตกต่างไปจากรุ่นก่อนมากนัก แต่ก็ยังคงความพรีเมี่ยมของวัสดุและงานประกอบได้อย่างดี ตัวหูฟังยังสวมใส่ได้แน่นหนาและจับถือได้ถนัดอย่างเคย จุดที่เพิ่มมาละดูดีขึ้นก็คงเป็นโลโก้ Devialet ที่เพิ่มความทรงพลังของเสียงให้เห็นแม้จะยังไม่เปิดเพลงฟังก็ตาม!

เชื่อมต่อได้ทันที

มาลองเชื่อมต่อกันเลยดีกว่า HUAWEI FreeBuds Pro 2 ถ้าเราใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนและสมาร์ทดีไวซ์ของ HUAWEI จะมีฟีเจอร์ Pop-up Pairing ซึ่งจะตรวจจับได้อัตโนมัติว่ามีหูฟัง HUAWEI FreeBuds Pro 2 อยู่ในบริเวณใกล้เคียง และรองรับการเชื่อมต่ออัตโนมัติหลังการจับคู่อุปกรณ์ครั้งแรก เรียกว่าแค่เปิดฝาเคสแล้วนำมาใกล้ ๆ ตัวระบบจะตรวจจับและเด้งขึ้นมาถามเราทันทีว่าจะเชื่อมต่อกันเลยไหม ตรงนี้สะดวกสุด ๆ ครับ

แต่ถ้าเป็นสมาร์ทโฟน Android หรือ iOS ทั่วไปก็เชื่อมต่อกันได้ผ่านการตั้งค่า Bluetooth ได้เหมือนกัน ในส่วนของแอปที่จะใช้งานร่วมกับหูฟัง HUAWEI FreeBuds Pro 2 คือ HUAWEI AI Life ซึ่งถ้าเป็นสมาร์ทโฟน HUAWEI อยู่แล้วก็เพียงแค่อัปเดตก็จะพร้อมใช้งานทันที แต่ถ้าเป็นระบบอื่นก็ดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้จากที่นี่เลยครับ

โดยในแอปนี้จะมีข้อมูลของตัวหูฟังทั้งเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่คงเหลือ การตั้งค่าเพิ่มเติมทั้งระบบ Active Noise Cancelling รูปแบบ Equalizer ของหูฟัง หรือฟีเจอร์การสัมผัสที่ตัวหูฟังเราสามารถเลือกปรับได้จากตรงนี้ได้หมดเลยครับ

ควบคุมได้ง่ายผ่านตัวหูฟัง

ส่วนเรื่องการควบคุมอย่างที่บอกไปว่า HUAWEI FreeBuds Pro 2 นั้นมีฟีเจอร์ Gesture มาให้เราใช้งานด้วย วิธีการควบคุมจะแตกต่างจากหูฟัง TWS อื่น ๆ หน่อย เพราะเราจะใช้การบีบที่ก้านหูฟังแทนการแตะสัมผัส วิธีการควบคุมก็มีทั้ง

  • บีบ 1 ครั้ง เพื่อรับสายเรียกเข้า, เล่น-หยุดเพลง
  • บีบ 2 ครั้ง เพื่อปฏิเสธสายเรียกเข้า, เล่นเพลงถัดไป
  • บีบ 3 ครั้ง เพื่อย้อนกลับไปเพลงก่อนหน้า
  • บีบค้าง เพื่อเรียกผู้ช่วยอัจฉริยะ หรือปรับโหมด ANC
  • รูดขึ้น-ลงที่ก้านหูฟัง เพื่อปรับระดับเสียง

ซึ่งเราว่าการควบคุมแบบนี้ก็ดูแปลกแต่ใช้งานได้จริงดี เพราะในการสั่งการเราต้องใช้แรงบีบนิดหน่อย ซึ่งไม่ทำให้เผลอไปกดโดนง่าย ๆ แน่นอน แม้เราจะจับเพื่อเอาหูฟังออกจากหูก็ไม่ต้องเผลอไปวางสาย หรือหยุดเพลงแต่อย่างใด

สัมผัสสุนทรียะแห่งรายละเอียดเสียงด้วยลำโพงคู่ Dual-Speaker True Sound ที่พัฒนาร่วมกับ Devialet

ตั้งค่าทุกอย่างเรียบร้อย ถึงเวลามาลองฟังกันจริงจัง ๆ สักทีครับ HUAWEI FreeBuds Pro 2 มาพร้อม Dual-Speaker True Sound ที่ประกอบด้วยไดนามิกไดรเวอร์ขนาด 11 มม. แบบแม่เหล็ก 4 ชุด (quad-magnet dynamic driver) ซึ่งขับเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เทียบกับรุ่นก่อน (HUAWEI FreeBuds Pro รุ่นแรก) นั้นทำได้ดีขึ้นถึง 30%ให้เสียงเบสทุ้มแน่นและหนัก

เป็นครั้งแรกที่ใช้ Ultra-high-frequency planar diaphragm driver หรือไดอะแฟรมความถี่สูงที่ใช้วัสดุแผ่นฟิล์มสอดไว้ระหว่างแม่เหล็กซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวนำอันทรงพลัง ช่วยเก็บรายละเอียดให้ใกล้เคียงกับเสียงที่แท้จริง เท่าที่เราลองฟังดูก็รู้เลยว่านี่คือคุณสมบัติของหูฟังระดับเรือธงจริง ๆ ครับ ทั้งความแน่นของเสียงและมิติที่ได้ยิน ไม่ธรรมดาเลย

ลำโพงคู่ Dual-Speaker True Sound ใช้เทคโนโลยี cross-over อันล้ำสมัย ที่พัฒนาซาวด์เอฟเฟ็คอัลกอริธึมขึ้นมาโดย HUAWEI เอง เพื่อประสานการทำงานระหว่าง 2 ไดรเวอร์ได้อย่างชาญฉลาดเพื่อส่งมอบประสบการณ์ฟังเสียงเบสได้อย่างสุนทรีย์ ทำให้ HUAWEI FreeBuds Pro 2 สามารถมอบประสบการณ์เสียงที่ครอบคลุมย่านความถี่เสียงตั้งแต่ 14 Hz ถึง 48 kHz ส่งผ่านได้ทุกโน้ตเสียงที่ใบหูมนุษย์จะได้ยินได้ และยังสามารถแปรรายละเอียดเสียงที่ใบหูมนุษย์ไม่สามารถได้ยินออกมาได้อย่างแม่นยำ

นอกจากนี้ยังได้รับการพัฒนาร่วมกับแบรนด์เครื่องเสียงระดับโลกอย่าง Devialet เพื่อมอบประสบการณ์เสียงอะคูสติกที่ปรับจูนอย่างประณีต ให้คนรักเสียงเพลงได้เพลิดเพลินกับการฟังแบบไร้สาย โดยใช้ Bluetooth Codec LDAC และการันตีคุณภาพด้วยการรับรอง HWA ที่มอบคุณภาพเสียง Hi-Res Wireless Dual HD Audio อีกด้วย

HUAWEI FreeBuds Pro 2 ยังมากับเทคโนโลยี Triple adaptive EQ สามารถปรับจูนเสียงได้อัตโนมัติถึง 10 ระดับ ประกอบด้วย Volume EQ ปรับย่านเสียงอัตโนมัติเมื่อมีการเพิ่มเสียงหรือลดเสียง Ear canal structure EQ ปรับจูนเสียงตามโครงสร้างหูของผู้ใช้และลักษณะการสวมใส่หูฟัง และ Wearing status EQ ปรับจูนเสียงตามอิริยาบถของผู้ใช้ เช่น ใส่นั่งทำงาน ใส่เดิน หรือใส่วิ่ง

ระบบ ANC 2.0 ที่เหนือชั้น ตัดเสียงรบกวนสูงสุด 47dB

อีกเรื่องที่หูฟังระดับเรือธงควรต้องมีก็คือระบบตัดเสียงรบกวนหรือ ANC นั่นเอง HUAWEI FreeBuds Pro 2 มาพร้อมเทคโนโลยี Intelligent Dynamic ANC 2.0 ที่สามารถลดเสียงรบกวนได้สูงสุด 47 dB ด้วยไมโครโฟน 3 ตัว ผสานกับเทคโนโลยี ANC 2.0 ทำให้สามารถลดเสียงรบกวนได้ในย่านความถี่ที่กว้างขึ้นในสภาพแวดล้อมทั่วไปตั้งแต่ 50Hz ถึง 3000Hz 

แถมยังตัดเสียงรบกวนรอบข้างอย่างอัจฉริยะ ปรับโหมดให้เหมาะสมตามสถานการณ์การใช้งานได้ แบ่งเป็น 3 โหมด ได้แก่

  • Ultra สำหรับใช้ในที่พลุกพล่าน เช่น บนรถไฟฟ้า ห้างสรรพสินค้า ผับบาร์ คอนเสิร์ต โดยสามารถตัดเสียงรบกวนที่ความถี่ต่ำมากๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • General สำหรับใช้เมื่อนั่งพักผ่อนในร้านกาแฟ ตัดเสียงบรรยากาศโดยรอบ
  • Cozy สำหรับใช้ในสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างเงียบ เช่น ห้องสมุด โดยสามารถลดเสียงที่เกิดจากอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือเครื่องจักร เช่น เครื่องปรับอากาศ หรือคอมพิวเตอร์ เป็นต้น

ทำให้เวลาเราสวมใส่และฟังเพลงหรือดูคอนเทนต์ต่าง ๆ ก็จะได้คุณภาพเสียงที่คมชัด ไม่มีเสียงภายนอกมารบกวนอย่างแน่นอนครับ เท่าที่เราลองใช้งานก็บอกเลยว่าตัดเสียงได้เยี่ยมจริง ๆ

พูดคุยก็ชัดแจ๋ว ด้วยไมโครโฟนถึง 4 ตัว

ในเรื่องการใช้งานคุยโทรศัพท์หรือต้องประชุมออนไลน์ HUAWEI FreeBuds Pro 2 ก็ทำได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้กันเพราะมากับไมโครโฟน 4 ตัว โดยมี 2 ตัวหันออกด้านนอก ทำหน้าที่ตรวจจับและระบุเสียงรบกวนรอบข้างอย่างแม่นยำด้วยเทคโนโลยี Beamforming ส่วนไมโครโฟนอีก 1 ตัวหันเข้าด้านใน เป็นไมโครโฟนแบบ SNR (signal-to-noise ratio) คอยจับสัญญาณเสียงพูดของเราและตัวสุดท้ายเป็น Bone Conduction Microphone ที่สามารถแยกแยะระหว่างเสียงบรรยากาศโดยรอบกับเสียงพูดของเราได้ด้วยการสัมผัสการสั่นของกระดูกและเนื้อเยื่อบริเวณช่องหู ช่วยยกระดับคุณภาพเสียงสนทนาให้ชัดใส ไม่ว่าจะเรียนออนไลน์ ประชุม หรือพรีเซนต์สำคัญครับ

ในด้านของซอฟต์แวร์ HUAWEI ยังมีอัลกอริทึมตัดเสียงรบกวนรอบข้างแบบ Deep Neural Network (DNN) ซึ่งมีฐานข้อมูลเสียงรบกวนจากบรรยากาศรอบข้างมากกว่า 500 สถานการณ์ และเมื่อได้ข้อมูลที่แม่นยำจากความสามารถในการตรวจจับและแยกแยะเสียงของระบบไมโครโฟนทั้ง 4 ตัวข้างต้น ยิ่งส่งผลให้อัลกอริทึมตัดเสียงรบกวนทำงานได้ดี มอบประสบการณ์คุยสายที่คมชัดแม้อยู่ท่ามกลางสถานที่คนพลุกพล่าน ร้านอาหารขนส่งสาธารณะ หรือแม้แต่ข้างเวทีคอนเสิร์ต

แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 30 ชม.

ปิดท้ายที่เรื่องแบตเตอรี่ HUAWEI FreeBuds Pro 2 ทาง HUAWEI เคลมว่าสามารถเล่นเพลงต่อเนื่องนาน 6.5 ชม.เมื่อปิด ANC และนานสูงสุด 30 ชม. เมื่อใช้ร่วมกับเคสชาร์จและเมื่อเปิดโหมด ANC สามารถเล่นเพลงต่อเนื่องนานถึง 4 ชม. และนานสูงสุด 18 ชม.เมื่อใช้ร่วมกับเคสชาร์จ ถือว่าใช้งานได้ยาวนานพอสมควรเลยล่ะครับ

ส่วนเรื่องชาร์จก็มีเทคโนโลยีชาร์จเร็ว ชาร์จเพียง 10 นาที สามารถเล่นเพลงต่อเนื่องได้อีก 2.5 ชม.เลยด้วยครับ นอกจากนี้ตัวเคสชาร์จยังมีระบบชาร์จไร้สายมาให้ด้วยผ่านมาตรฐาน Qi Wireless สมกับเป็นหูฟังระดับเรือธงจริง ๆ เนาะ

ราคาและโปรโมชั่น

HUAWEI FreeBuds Pro 2 เปิดราคามาที่ 6,499 บาท มีให้เลือก 3 สีคือ สีฟ้า Silver Blue, สีขาว Ceramic White และสีเงิน Silver Frost (สีที่เรารีวิว) จะเปิดให้สั่งจองระหว่างวันที่ 27 กรกฎาคม 2565 – 5 สิงหาคม 2565 รับฟรี HUAWEI Band 6 มูลค่า 1,899 บาท และ HUAWEI Music Premium ฟรี 3 เดือน มูลค่า 387 บาท

โดยสามารถสั่งจองได้ที่หน้าร้าน HUAWEI Experience Store ที่ร่วมรายการ รวมถึงช่องทางออนไลน์ HUAWEI Store และร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Shopee, Lazada, JD Central และ Thisshop ครับผม

สรุปแล้ว “นี่คือหูฟัง TWS เรือธงที่เข้าถึงคุณภาพเสียงทรงพลังและน่าใช้ที่สุดในราคาไม่ถึง 6,500 บาท”

สรุปแล้ว HUAWEI FreeBuds Pro 2 ก็ถือว่าเป็นหูฟัง TWS ระดับเรือธงที่จัดเต็มทั้งเทคโนโลยีขั้นสูงที่มอบคุณภาพเสียงอันทรงพลังได้อย่างไม่มีข้อสงสัยเลยจริง ๆ ด้วยไมโครโฟนที่มีมากถึง 4 ตัว เสริมระบบตัดเสียงรบกวน ANC 2.0 ที่ทำได้ทั้งการฟังคอนเทนต์หรือการสนทนา อีกทั้งยังมีซอฟต์แวร์ที่ปรับจูนกันมาพิเศษและได้การร่วมมือกับแบรนด์เครื่องเสียงชั้นนำอย่าง Devialet อีกด้วย เรียกว่าเป็นหูฟังที่ไว้ใจได้ในเรื่องคุณภาพอย่างแท้จริง ใครที่กำลังมองหาหูฟังชั้นยอดสักตัวในงบประมาณ 6,000 – 7,000 บาทอยู่ เราว่า HUAWEI FreeBuds Pro 2 รุ่นนี้จะไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอนครับ

Advertisement

กำลังฮอต

Featured1 วัน ago

รีวิว Redmi Note 13 Pro 5G สมาร์ทโฟนที่ใช้ขุมพลังตัวท็อป SD 7s Gen 2 พร้อมกล้องหลัง 200MP และชาร์จไว 67W 

รีวิว Redmi Note 13 ...

HUAWEI Band 9 ราคาเริ่มต้น 1,299 บาท HUAWEI Band 9 ราคาเริ่มต้น 1,299 บาท
Featured4 วัน ago

5 ข้อควรรู้ก่อนเลือกซื้อสมาร์ทแบนด์ กับความครบเครื่องของ HUAWEI Band 9 สมาร์ทแบนด์ที่เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ทุกรุ่น ดูแลสุขภาพยืนหนึ่งในราคาเริ่มต้น 1,299 บาท

ใครที่อยู่ในช่วงเริ่...

Apple News1 สัปดาห์ ago

AIS เปิดบริการ AIS Care+ with AppleCare Services รายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้ผู้ใช้อุ่นใจมากขึ้น สบายใจที่สุด

AIS คว้า AppleCare S...

Featured1 เดือน ago

รีวิว vivo Y100 5G สนุกกับสเปกเต็ม 100 ด้วยขุมพลัง SD 4 Gen 2 5G ดีไซน์อัปเกรดสุดพรีเมียม พร้อมชาร์จเร็ว 80W FlashCharge

รีวิว vivo Y100 5G น...

Featured1 เดือน ago

รีวิว realme 12+ 5G | realme 12 Pro+ 5G “Be a Portrait Master” ด้วยกล้อง Periscope ระดับเรือธง | ดีไซน์นาฬิกาหรู | ชาร์จไว 67W SUPERVOOC

รีวิว realme 12+ 5G ...

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก