Connect with us

Android News

พรีวิว Galaxy Z Fold3 5G และ Z Flip3 5G สองสมาร์ทโฟนจอพับรุ่นใหม่รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมความล้ำและลงตัวมากกว่าเดิม

Published

on

Galaxy Z Fold3 5G และ Galaxy Z Flip3 5G เดินทางมาถึงมือทีมงาน iphone-droid.net เรียบร้อย เราก็ไม่พลาดที่จะลองเล่นแล้วมาพรีวิวให้อ่านกันสักนิดพอหอมปากหอมคอ โดย 2 รุ่นใหม่นี้ก็ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนจอพับได้รุ่นใหม่ที่มาต่อยอดความสำเร็จของรุ่นที่แล้ว ปรับหลาย ๆ อย่างให้ลงตัวมากขึ้นไปอีก

เอาเป็นว่าอย่างเสียเวลามาชมพรีวิวของ Galaxy Z Fold3 5G และ Galaxy Z Flip3 5G กันเลยครับ

Galaxy Z Fold3 5G

เราขอเริ่มที่ Galaxy Z Fold3 5G กันก่อนเลยละกันครับ รอบนี้ Samsung ยังคงใช้ดีไซน์ทรงเดิม มองเผิน ๆ ก็คล้ายรุ่นก่อนเลยคือมาพร้อมทรงแท่งที่สามารถกางออกเป็นแท็บเล็ตไซซ์เล็กได้ Galaxy Z Fold3 5G มาพร้อมหน้าจอนอกขนาด 6.2” และกางออกจะได้ขนาด 7.6”

แต่ถ้าได้ลองสัมผัสที่หน้าจอเราจะเจอกับความลงตัวที่มากขึ้น เพราะรอบนี้ทั้งหน้าจอด้านนอกและด้านในจะมี refresh rate แบบ 120Hz แล้วครับ ทำให้การใช้งานทั้งเวลาพับหรือกางออกดูเป็นทางเดียวกัน ลื่นไหลไปหมด

การแสดงผลก็ดีขึ้นกว่าเดิมด้วย แม้มองเผิน ๆ หน้าจอด้านในจะมีขอบที่บางพอ ๆ กัน ขนาดจอก็เท่ากัน แต่สิ่งที่ Z Fold3 5G อัปเกรดขึ้นมากว่ารุ่นก่อนก็คือการแสดงผลเพราะ Samsung เลือกใช้กล้องใต้หน้าจอเป็นครั้งแรก ทำให้เวลาเราดูคอนเทนต์นั้นเนียนตามากขึ้น เหมือนเราได้เห็นหน้าจอเต็มไปหมด ไม่มีรูกล้องมากวนสายตาแล้วครับ

ซึ่งตำแหน่งของกล้องหน้าก็ยังวางอยู่ที่เดิมแหละครับ ถ้าถามว่ามันหายไปเลยไหม ต้องตอบตรง ๆ ว่ายังพอเห็นอยู่บ้างตามการใช้งาน แต่ก็ลดความเด่นลงไปจากรุ่นก่อนเยอะ ถือเป็นก้าวแรกของการใช้กล้องใต้หน้าจอที่น่าสนใจเลยล่ะครับ

ตัวแผ่นฟิล์มในจอด้านใน Samsung เคลมว่าเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นกว่ารุ่นก่อนถึง 80% น่าจะทนทานต่อการกดได้ดีขึ้น แต่รอยตรงกลางจอก็ยังมีให้เห็นอยู่บ้างครับ

ส่วนหน้าจอด้านนอกยังคงเป็นจอยาว ๆ อัตราส่วน 24.5:9 อยู่และยังมีรูกล้องหน้าให้เห็นชัด ๆ ไปเลยด้วย ตัวกระจกกันรอยรอบนี้อัปเกรดมาเป็น Gorilla Glass Victus เลย ทนขึ้นไปอีก

ขนาดและน้ำหนักถ้าดูตามสเปคจะเห็นว่าลดลงจากรุ่นก่อนอีกนิดหน่อย บางลงและเบาลงด้วย เวลาถือใช้งานก็คล่องตัวขึ้นหน่อย

รอยต่อระหว่างตัวเครื่องเมื่อพับเก็บจะเห็นว่าน้อยลงไปอีก แม้จะไม่ถึงกับปิดสนิทแต่ก็แนบขึ้นกว่าเดิม ลงตัวขึ้นครับ

ปุ่มกดต่าง ๆ ก็อยู่ที่มุมขวาตัวเครื่องเหมือนเดิมครับ ยังคงใช้สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Power ขวามือ พร้อมปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงที่อยู่ถัดขึ้นไป

กลไกการกาง-พับของ Galaxy Z Fold3 5G ก็ยังทำได้ดีเหมือนเดิมครับ ให้เราใช้งานได้หลายมุมมอง ไม่ใช่แค่พับแล้วกางเท่านั้น เราสามารถค้างไว้ในระดับต่าง ๆ ได้ (อารมณ์เหมือนแล็ปท็อป) และตัวกลไกบานพับก็ดูแข็งแรงมาก ไม่รู้สึกหลวมเลย ตรงนี้ Samsung เคลมว่าสามารถพับ-กางได้สูงถึง 200,000 ครั้งเลย

กันน้ำได้ ! ครั้งแรกของสมาร์ทโฟนหน้าจอพับ อีกเรื่องที่เซอร์ไพรส์มาก ๆ ก็คือ Galaxy Z Fold3 5G นั้นมาพร้อมคุณสมบัติกันน้ำมาตรฐาน IPX8 ด้วย สามารถลงน้ำได้ระดับ 1.5 เมตรนาน 30 นาทีเลย หรือจะโดนน้ำกระเด็นใส่ก็ไม่ต้องกลัวแล้วครับแบบนี้

ที่บอกว่าดีไซน์โดยรวมคล้ายรุ่นเดิม แต่ถ้ามาดูที่โมดูลกล้องเราจะพอเห็นความแตกต่างอยู่บ้าง เพราะ Z Fold3 5G จะเปลี่ยนมาใช้ดีไซน์กล้องที่นูนออกมาจากกรอบเลนส์เห็นเลนส์กล้องชัดขึ้น และสีที่เราได้มารีวิวกับ Phantom Green ก็ยิ่งชัดเพราะสีนี้เป็นสีใหม่ด้วย

กล้องหลังของ Galaxy Z Fold3 5G ให้มา 3 ตัวความละเอียด 12MP ทั้งหมดเหมือนเคย แบ่งเป็น Wide + Ultra Wide และ Tele 2x ครับ

ลำโพงของ Z Fold3 5G ยังคงเป็นลำโพงคู่ Stereo ให้เสียงกระหึ่มเหมือนเดิมครับ

ความเด็ดของ Galaxy Z Fold3 5G ที่เป็นการใช้งานแบบต่อเนื่องระหว่างจอเล็กแบบพับและแบบใหญ่ที่กางออก ก็ยังคงยอดเยี่ยม รอบนี้ Samsung มีการปรับซอฟต์แวร์ OneUI 3.1.1 มาใหม่ให้ใช้งานได้ดีขึ้น เหมือนเราใช้แท็บเล็ตจริง ๆ มากขึ้น การแสดงผลและสเกลของ UI ต่าง ๆ 

สำหรับสเปค Galaxy Z Fold3 5G ก็จัดเต็มในแบบที่สุดแล้วด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 888, แรม 12GB ในทุกโมเดล และรอมมีให้เลือก 2 ความจุคือ 256GB และ 512GB ครับ

สรุปสเปค Samsung Galaxy Z Fold3 5G

  • หน้าจอนอก : Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.2” ความละเอียด HD+ (2268 x 853 พิกเซล) refresh rate 120Hz
  • หน้าจอใน : Dynamic AMOLED 2X ขนาด 7.6” ความละเอียด QWGA+ (2208 x 1768 พิกเซล) refresh rate 120Hz
  • CPU : Snapdragon 888 Octa-core 2.84GHz (5nm)
  • GPU : Adreno 660
  • RAM : 12GB
  • ROM : 256GB/512GB
  • แบตเตอรี่ : 4400mAh
  • ระบบชาร์จ : 25W Super Fast Charge
  • กล้องหลัง : 3 ตัว
    • 12MP กล้องหลัก f/1.8, Dual Pixel AF, OIS
    • 12MP กล้อง Ultra Wide f/2.2 มุมกว้าง 123°
    • 12MP กล้อง Tele f/2.4 Optical Zoom 2x
  • กล้องหน้า (หน้าจอนอก) : 10MP f/2.2
  • กล้องหน้า (หน้าจอใน) : กล้องใต้หน้าจอ 4MP f/1.8
  • รองรับการเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac/6e, Bluetooth 5.2, NFC และพอร์ต USB Type-C
  • รองรับปากกา Stylus : S Pen
  • กันน้ำ : มาตรฐาน IPX8
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 11 (One UI 3.1.1)
  • สีสัน : Phantom Black, Phantom Green, Phantom Silver

Galaxy Z Flip3 5G

มาต่อกับรุ่นฝาพับ Galaxy Z Flip3 5G รุ่นนี้ก็ต่อยอดความสำเร็จจาก Z Flip เดิม มีการปรับหลาย ๆ อย่างให้ลงตัวน่าใช้งานมากขึ้น เริ่มที่เรื่องดีไซน์เราจะเห็นว่าสีสันมีความแฟชั่นมากขึ้น ใช้ดีไซน์แบบ Dual-Tone คือมีแถบโมดูลกล้องเป็นสีดำตดกับสีสันของตัวเครื่อง ซึ่งสีที่เราได้มาเป็นสีม่วงแบบพาสเทลออกหวาน ๆ แต่ก็แปลกตาดีไม่น้อยครับ

หน้าจอด้านนอกรอบนี้ขยายใหญ่ขึ้นเกือบ 4 เท่า เป็นจอ 1.9” แล้ว ทำให้เราสามารถใช้ดูข้อมูลได้สะดวกขึ้น เห็นชัด ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งเตือน การควบคุมเครื่องเล่นเพลง หรือจะเซลฟี่โดยใช้จอตรงนี้เป็น Viewfinder ก็สะดวกกว่าเดิมเยอะครับ

ความเด่นของ Galaxy Z Flip3 5G ก็คือการพกพาครับตัวเครื่องเวลาพับเก็บจะมีขนาดที่กะทัดรัดมาก Samsung บอกว่าเทียบเท่ากับสมาร์ทโฟนจอ 4.2” เท่านั้น ทำให้พกพาไปไหนได้สะดวก หนุ่ม ๆ ก็ใส่กระเป๋าเสื้อได้โดยไม่ล้น สาว ๆ ก็ใส่กระเป๋าถือได้แบบพอดี

แต่เมื่อเรากางหน้าจอออกมาเราจะได้สมาร์ทโฟนทรงยาวที่มีขนาดหน้าจอใหญ่ถึง 6.7” กันเลย รอบนี้อัปเกรดหน้าจอขึ้นมาเป็น Dynamic AMOLED 2X ที่มี refresh rate สูง 120Hz แล้วด้วย ทำให้การใช้งานนั้นลื่นไหลขึ้นมากเลยล่ะครับ 

ตำแหน่งปุ่มกดยังวางไว้ได้ดีครับ Galaxy Z Flip3 5G จะมีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงอยู่ที่มุมขวามือของตัวเครื่อง ปุ่ม Power จะมาพร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้วย เพื่อให้เราปลดล็อคได้สะดวกแม้จะพับอยู่ก็ตาม

เช่นเดียวกับ Z Fold3 5G บน Galaxy Z Flip3 5G มาพร้อมความสามารถกันน้ำมาตรฐาน IPX8 เช่นเดียวกัน หายห่วงเรื่องต้องเจอฝนตกหรือน้ำกระเด็นใส่ได้เลยครับ

ตัวกลไกการพับหน้าจอของ Z Flip3 5G นั้นยังออกแบบมาให้ใช้งานได้หลากหลายมุมมองเหมือนเดิม คือไม่ใช่แค่พับและกางออก 2 องศาเท่านั้น แต่เราสามารถปรับมุมได้หลายแบบเพื่อให้ใช้งานร่วมกับแอปต่าง ๆ ที่มีการปรับแต่งมาได้อย่างสมดุล อาทิ แอปกล้องที่เราสามารถใช้จอบนเป็น Viewfinder จอล่างเป็นปุ่มชัตเตอร์

ซอฟต์แวร์ของ Z Flip3 5G ก็ใช้ OneUI 3.1.1 ที่ปรับแต่งมาให้พิเศษร่วมกับทาง Google ในหลาย ๆ แอปเราจะใช้งานได้อย่างลงตัวมากขึ้นไปอีกด้วยครับ

กล้องหลังของ Galaxy Z Flip3 5G ให้มาด้วยกัน 2 ตัวแบ่งเป็นกล้อง Wide + Ultra Wide ทั้งคู่ความละเอียด 12MP เหมือนกันครับ ใช้งานได้ดีในการถ่ายภาพทั่วไปแล้วล่ะครับ

ส่วนเรื่องสเปคภายในรุ่นนี้ก็จัดเต็มไม่แพ้รุ่นพี่เลยเพราะใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 888 เหมือนกัน เพียงแต่แรมลดลงมาเหลือ 8GB รอมมีให้เลือก 128GB และ 256GB ครับผม

สรุปสเปค Samsung Galaxy Z Flip3 5G

  • หน้าจอนอก : Super AMOLED ขนาด 1.9” ความละเอียด 260 x 512 พิกเซล
  • หน้าจอใน : Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.7” ความละเอียด FHD+ (2640 x 1080 พิกเซล) refresh rate 120Hz
  • CPU : Snapdragon 888 Octa-core 2.84GHz (5nm)
  • GPU : Adreno 660
  • RAM : 8GB
  • ROM : 128GB/256GB
  • แบตเตอรี่ : 3300mAh
  • ระบบชาร์จ : 25W Super Fast Charge
  • กล้องหลัง : 2 ตัว
    • 12MP กล้องหลัก f/1.8, Dual Pixel AF, OIS
    • 12MP กล้อง Ultra Wide f/2.2 มุมกว้าง 123°
  • กล้องหน้า : 10MP f/2.4
  • รองรับการเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac/6, Bluetooth 5.1, NFC และพอร์ต USB Type-C
  • กันน้ำ : มาตรฐาน IPX8
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 11 (One UI 3.1.1)
  • สีสัน : Phantom Black, Green, Lavender, Cream

ก็ถือว่าเป็นสองสมาร์ทโฟนจอพับได้รุ่นใหม่ที่อัปเกรดขึ้นมาหลายอย่าง แก้จุดบกพร่องจากรุ่นเดิมไปได้เยอะ เท่าที่ลองสัมผัสบอกเลยว่าลงตัวกว่าเดิม ด้วยดีไซน์ที่เข้าที่เข้าทางขนาดและน้ำหนักที่ลดลง น่าใช้งานมากขึ้นด้วยสเปคที่อัปเกรดมาอย่างจัดเต็ม ทั้งหมดนี้เป็นเพียงพรีวิวคร่าว ๆ ของ Galaxy Z Fold3 5G และ Galaxy Z Flip3 5G หลังจากเราได้ลองสัมผัสเท่านั้นครับ เดี๋ยวขอลองไปใช้งานจริงจัง ๆ อีกสักหน่อยแล้วจะมารีวิวให้ชมกันแบบเต็ม ๆ อีกทีเนาะ เร็ว ๆ นี้แน่นอน

ราคา Galaxy Z Fold3 5G | Galaxy Z Flip3 5G

สำหรับ Galaxy Z Fold3 5G และ Galaxy Z Flip3 5G เปิดราคาทางการในประเทศไทยเรียบร้อยแล้วดังนี้

  • Galaxy Z Fold3 5G (12GB + 256GB) ราคา 57,900 บาท
  • Galaxy Z Fold3 5G (12GB + 512GB) ราคา 61,900 บาท
  • Galaxy Z Flip3 5G (8GB + 128GB) ราคา 34,900 บาท
  • Galaxy Z Flip3 5G (8GB + 256GB) ราคา 36,900 บาท

และก็ได้เปิดจำหน่ายรอบพิเศษแล้วด้วยกับแคมเปญ ที่ซื้อก่อนคุ้มกว่า ‘First to Unfold’ ตั้งแต่วันนี้ – 22 ส.ค. 64 นอกจากที่จะได้เครื่องก่อนเป็นกลุ่มแรกในไทย ในวันที่ 2 ก.ย. 64 เป็นต้นไปแล้ว ยังจะได้รับคูปองเงินสดเพิ่มขึ้นอีก 3,000 บาท รวมเป็นมูลค่า 9,000 บาท เมื่อซื้อ Galaxy Z Fold3 5G หรือมูลค่า 7,500 บาท เมื่อซื้อ Galaxy Z Flip3 5G เมื่อเทียบกับช่วงพรีออเดอร์ (23 ส.ค. – 9 ก.ย.) ที่จะได้เพียง 6,000 และ 4,500 บาทตามลำดับเท่านั้น ไม่รวมถึงการรับฟรีบริการ Samsung Care+ 1 ปี มูลค่า 7,089 บาทอีกด้วย คลิกเข้าไปดูรายละเอียดได้แล้ววันนี้ที่ https://www.samsung.com/th/zfold3/buy

กำลังฮอต

Featured2 สัปดาห์ ago

รีวิว Redmi Note 13 Pro 5G สมาร์ทโฟนที่ใช้ขุมพลังตัวท็อป SD 7s Gen 2 พร้อมกล้องหลัง 200MP และชาร์จไว 67W 

รีวิว Redmi Note 13 ...

HUAWEI Band 9 ราคาเริ่มต้น 1,299 บาท HUAWEI Band 9 ราคาเริ่มต้น 1,299 บาท
Featured2 สัปดาห์ ago

5 ข้อควรรู้ก่อนเลือกซื้อสมาร์ทแบนด์ กับความครบเครื่องของ HUAWEI Band 9 สมาร์ทแบนด์ที่เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ทุกรุ่น ดูแลสุขภาพยืนหนึ่งในราคาเริ่มต้น 1,299 บาท

ใครที่อยู่ในช่วงเริ่...

Apple News3 สัปดาห์ ago

AIS เปิดบริการ AIS Care+ with AppleCare Services รายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้ผู้ใช้อุ่นใจมากขึ้น สบายใจที่สุด

AIS คว้า AppleCare S...

Featured1 เดือน ago

รีวิว vivo Y100 5G สนุกกับสเปกเต็ม 100 ด้วยขุมพลัง SD 4 Gen 2 5G ดีไซน์อัปเกรดสุดพรีเมียม พร้อมชาร์จเร็ว 80W FlashCharge

รีวิว vivo Y100 5G น...

Featured2 เดือน ago

รีวิว realme 12+ 5G | realme 12 Pro+ 5G “Be a Portrait Master” ด้วยกล้อง Periscope ระดับเรือธง | ดีไซน์นาฬิกาหรู | ชาร์จไว 67W SUPERVOOC

รีวิว realme 12+ 5G ...

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก