รีวิว OPPO A83 2018 กล้องหลังโหมด Ultra-HD ความละเอียดสูงสุด 50 ล้านพิกเซล

OPPO A83 2018 สมาร์ทโฟนราคาย่อมเยาที่สามารถถ่ายภาพด้วยกล้องหลังในโหมด Ultra-HD ความละเอียดสูงสุดถึง 50 ล้านพิกเซล และเซลฟี่สวยด้วยกล้องหน้า AI Beauty

สรุปข้อมูลและสเปค OPPO A83 2018

• ขนาดตัวเครื่อง 150.5 x 73.1 x 7.7 มิลลิเมตร
• น้ำหนัก 143 กรัม
• หน้าจอขนาด 5.7 นิ้ว 18:9 Super Full Screen HD+
• ระบบปฏิบัติการ Android 7.1 Nougat ครอบด้วย ColorOS 3.2
• ชิพเซ็ต MediaTek MT6763T
• แรม 4GB
• ความจุตัวเครื่อง 64GB ใส่เมมเพิ่มได้สูงสุด 256GB
• กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
• กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
• แบตเตอรี่ 3180mAh

 

แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล

อุปกรณ์ที่มีให้ในกล่อง ได้แก่ ตัวเครื่อง OPPO A83 2018 พร้อมแบตเตอรี่ในตัว, สาย microUSB, อะแดปเตอร์ชาร์จไฟ, คู่มือใช้งาน และเข็มจิ้มถาดใส่ซิม

 

A83 2018 มีดีไซน์ตัวเครื่องโค้งมน Unibody ขึ้นรูปแบบไร้รอยต่อ ขนาดตัวเครื่องพกพาได้ง่าย ไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป โดยผิวสัมผัสไม่ลื่น ช่วยให้การจับใช้งานถนัดในมือเดียว และลดการเกิดคราบรอยนิ้วมือได้

 

หน้าจอแสดงผลมีขนาด 5.7 นิ้ว Full Screen อัตราส่วน 18:9 ขยายพื้นที่ให้ชิดขอบเพื่อให้ได้หน้าจอที่ใหญ่ขึ้น แต่ตัวเครื่องไม่ใหญ่ตาม ความละเอียด 720 x 1440 พิกเซล ครอบด้วยกระจกกันรอยขอบโค้งมน 2.5D

 

เหนือหน้าจอมีเลนส์กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล

 

A83 2018 มีพอร์ตเชื่อมต่อแบบ microUSB และมีช่องหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5mm ใช้งานร่วมกับหูฟังทั่วไปได้

 

ถาดใส่ซิมเป็นแบบ 3 Slot รองรับซิมการ์ดขนาด Nano SIM จำนวน 2 ช่อง และมีช่องสำหรับ microSD card แยกให้ต่างหาก ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของรุ่นนี้ที่ทำให้ใช้งานได้ 2 ซิม พร้อมกับใส่เมมได้ด้วย

 

ด้านหลังมีเลนส์กล้องขนาด 13 ล้านพิกเซล กรอบเลนส์นูนขึ้นมาเหนือฝาหลังเล็กน้อย และมีไฟแฟลช LED สำหรับช่วยถ่ายในที่มืด

 

อินเตอร์เฟซและฟังก์ชั่นการใช้งาน

OPPO A83 2018 รันระบบปฏิบัติการ ColorOS 3.2 บนพื้นฐานระบบปฏิบัติการ Android 7.1 Nougat ซึ่งในเวอร์ชั่นนี้มีการเปลี่ยนแปลงอินเตอร์เฟซให้ดูเรียยง่ายมากขึ้น เมื่อเทียบกับเวอร์ชั่นก่อนหน้า และติดตั้งแอพพลิเคชั่นที่จำเป็นมาให้ในตัวเครื่องเพียงไม่กี่ตัว ทำให้ไม่รก และไม่เปลืองพื้นที่จัดเก็บโดยไม่จำเป็นต่อผู้ใช้งาน

 

ในหน้าจอล็อคสกรีนสามารถตั้งค่าให้เปลี่ยนภาพวอปเปเปอร์ได้ตลอดเวลาทุกครั้งที่เปิดหน้าจอขึ้นมาด้วยฟีเจอร์นิตยสารหน้าจอล็อค (Lockscreen Magazine) โดยจะมีภาพธรรมชาติ และสถานที่สวยๆ ต่างๆ ให้เลือกใช้งานอัตโนมัติ หรือจะเลือกใส่ภาพของเราเองก็ได้เช่นกัน

 

หน้าจอของ A83 2018 มีฟังก์ชั่นตัวกรองแสงสีฟ้าเพิ่มมาให้ด้วย โดยเป็นการปรับโทนสีหน้าจอให้เหมาะสำหรับการเปิดใช้งานในเวลากลางคืน เพื่อถนอมสายตา

 

O-Share ฟีเจอร์​สำหรับส่งไฟล์หากันระหว่างมือถือ OPPO โดยไม่ต้องใช้เน็ตและมีความเร็วมากกว่าการส่งผ่าน Bluetooth ทั่วไปถึง 100 เท่า

 

การแบ่งหน้าจอด้วยฟังก์ชั่น Split Screen ก็สามารถทำได้ในรุ่นนี้ ทำให้สามารถใช้งานแอพพลิเคชั่นได้พร้อมกัน 2 แอพ แต่ก็ยังมีข้อจำกัดแอพพลิเคชั่นที่สามารถแบ่งหน้าจอได้

 

สำหรับคนชอบเล่นโซเชียลที่มีหลายบัญชีก็สามารถโคลนแอพได้ 2 อันเพื่อใช้งานพร้อมกัน 2 บัญชีในเครื่องเดียว ซึ่งรองรับแอพโซเชียลยอดนิยม ไม่ว่าจะเป็น WhatsApp, LINE เป็นต้น

 

ในการเล่นเกมบน A83 2018 ไม่ต้องกังวลเมื่อมีสายเข้าระหว่างการเล่น เพราะมีฟีเจอร์ ที่จะแสดงการแจ้งเตือนเป็นหน้าต่างเล็กๆ ให้เลือกรับสายได้ และยังสามารถเล่นได้ต่อเนื่อง ไม่สะดุดในช่วงเวลาสำคัญของการเล่น

 

นอกจากนี้แล้วยังมี OPPO Game Acceleration ช่วยปรับแต่งการประมวลผลให้การเล่นเกมได้อย่างลื่นไหลด้วย

 

A83 2018 ปลดล็อคหน้าจอด้วยใบหน้า ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการปลดล็อค เพียงยกมือถือมาจ่อที่ใบหน้าของเราก็ปลดล็อคได้ทันที ซึ่งง่ายมากขึ้นหากนิ้วมือเปียกหรือสวมถุงมือแล้วต้องปลดล็อคด้วยการสแกนลายนิ้วมือ

 

กล้องถ่ายรูป

OPPO A83 2018 มีกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ระบบออโต้โฟกัส และมาพร้อมโหมด Ultra-HD สำหรับถ่ายภาพความละเอียดสูงสุดถึง 50 ล้านพิกเซล

 

โหมด Ultra-HD สามารถเลือกใช้งานได้โดยเข้าไปในโหมดมืออาชีพ (Expert) แล้วเลือกแตะไอคอนโหมด Ultra-HD ที่มุมขวาบนของหน้าจอ เพื่อเปิดใช้งานในโหมดนี้ โดยเป็นการถ่ายภาพด้วยความเร็วหลายช็อตแล้วระบบจะนำภาพมาประมวลผลรวมกันเป็นภาพเดียว เพื่อเพิ่มความคมชัดให้กับภาพ เหมาะสำหรับการนำไปใช้งานด้านการพิมพ์ได้ และต้องถือมือถือให้นิ่งขณะถ่ายภาพในโหมดนี้ด้วย เพื่อจะได้ภาพที่มีความคมชัดมากยิ่งขึ้น

ภาพนี้ถ่ายในโหมด Auto ซึ่งจะได้ขนาดภาพเท่ากับความละเอียดกล้อง 4160 x 3120 พิกเซล (ประมาณ 13 ล้านพิกเซล)

 

เมื่อซูมแล้ว Crop ภาพออกมา 100% จากภาพโหมด Auto จะเห็นว่ารายละเอียดของภาพที่ตัดออกมานั้นยังมีรายละเอียดครบ

 

ภาพนี้ถ่ายในโหมด Ultra-HD ซึ่งจะได้ภาพความละเอียดสูงสุด 50 ล้านพิกเซล ความคมชัดและการเก็บรายละเอียดของภาพจะดีขึ้น เนื่องจากเป็นการถ่ายภาพหลายช็อตแล้วนำมารวมเป็นภาพเดียว

 

เมื่อลองซูมและ Crop 100% ภาพที่ถ่ายจากโหมด Ultra-HD จะเห็นว่าให้รายละเอียดของภาพและมีความคมชัดกว่าการถ่ายแบบปกติ ยังดูออกมาว่าจุดที่ซูมเข้าไปดูนั้นคืออะไร ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของหรือข้อความ

 

มาดูอีกภาพที่ถ่ายด้วยโหมด Ultra-HD ในที่ร่ม ซึ่งแสงโดยรอบจะค่อนข้างน้อย แต่กล้องก็ยังเก็บรายละเอียดได้ทั่วทั้งภาพ

 

เมื่อลอง Crop 100% ในจุดต่างๆ ของภาพก็พบว่ากล้องเก็บรายละเอียดเอาไว้ทั่วทั้งภาพจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ส่วนใดของภาพก็ตามทั้งระยะที่ใกล้และระยะที่อยู่ไกลชิดขอบ

 

การถ่ายภาพในโหมด Ultra-HD จะได้ภาพที่มีขนาดใหญ่สูงสุดถึง 50 ล้านพิกเซล และขนาดไฟล์ของภาพก็จะใหญ่ขึ้นตามไปด้วย ซึ่งบางภาพมีขนาดมากกว่า 10MB แต่ก็ไม่ต้องกังวลว่าถ่ายรูปด้วยโหมดนี้แล้วเมมในเครื่องจะเต็ม เพราะความจุ 64GB ของ A83 2018 เพียงพอต่อการใช้งานแน่นอน และยังสามารถใส่เมมได้สูงสุดถึง 256GB

ภาพถ่ายในโหมด Ultra-HD

 

ภาพถ่ายอาหารจากกล้องหลัง

สำหรับภาพถ่ายอาหารจากกล้องหลังของ A83 2018 ภาพที่ได้มีสีสันที่สดขึ้นเล็กน้อย ทำให้อาหารดูน่ากินมากขึ้น และมีความคมชัด เห็นรายละเอียดของอาหารแต่ละชิ้นชัดเจน

 

ภาพถ่ายคนด้วยกล้องหลัง

กล้องหลังยังโหมดสวยงามสำหรับการถ่ายภาพบุคคลแล้วปรับผิวหน้าให้ออกมาสวยเนียนเป็นธรรมชาติได้ 6 ระดับ ถ่ายเสร็จสามารถแชร์โพสต์ลงโซเชียลได้ทันที ไม่ต้องปรับแต่งผ่านแอพอื่นให้ยุ่งยาก

 

นอกจากนี้แล้ว การถ่ายภาพย้อนแสงด้วยโหมด HDR ด้วยกล้องหลังของ A83 2018 ก็ถือว่าทำออกมาได้ดี เก็บรายละเอียดด้านหลังได้ ในขณะที่ใบหน้าก็มีควาทมสว่างชัด หน้าไม่มืด

 

ภาพถ่ายเซลฟี่จากกล้องหน้า

สำหรับกล้องหน้าของ A83 2018 มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 พร้อมโหมดหน้าสวยปรับได้ 6 ระดับหรือจะเลือกให้ระบบปรับให้เองแบบอัตโนมัติตามสภาพแสงขณะถ่ายก็ได้เช่นกันด้วย AI Beauty ซึ่งความฉลาดของเทคโนโลยีนี้สามารถจำแนกเพศ อายุ สีผิว และเชื้อชาติ โดยการตรวจจับใบหน้า 200 จุด แล้วปรับแต่งใบหน้าให้สวยงามอย่างเป็นธรรมชาติในแบบฉบับของแต่ละคน

 

จะเห็นว่าภาพถ่ายในโหมดหน้าสวยผิวหน้าไม่ได้ขาววอก ยังเห็นรายละเอียดบนหน้าชัดเจน ซึ่งถ้าผิวหน้าขาวอยู่แล้วระบบจะมีการปรับผิวไม่ได้ขาวมากจนเกินไปเมื่อเลือกการปรับแบบอัตโนมัติ

 

กล้องหน้าสามารถเซลฟี่ด้วยการทำ Bokeh Effect หน้าชัดหลังเบลอได้ด้วย โดยเลือกแตะใช้งานที่ไอคอนหยดน้ำ ระบบก็จะทำการละลายฉากหลังให้อัตโนมัติ เพื่อให้ได้ภาพเซลฟี่ที่มีความโดดเด่นมากขึ้น

สรุปจุดเด่น

• OPPO A83 2018 เป็นสมาร์ทโฟนที่มีดีไซน์สวยงาม ฟีเจอร์ครบ แรม 4GB และความจุตัวเครื่อง 64GB ใส่เมมเพิ่มได้ 256GB ในระดับราคาย่อมเยาที่ทุกคนสามารถจับต้องได้
• หากเทียบกับระดับราคาของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ กล้องถ่ายรูปถือว่าถ่ายภาพออกมาได้ดี ระบบโฟกัสทำงานได้รวดเร็ว และถ่ายภาพความละเอียดสูงได้ด้วยโหมด Ultra-HD
• ถูกใจคนชอบเซลฟี่ด้วยกล้องหน้า AI Beauty ปรับแต่งใบหน้าให้ออกมาสวย และถ่ายหน้าชัดหลังเบลอได้

จุดสังเกตเพิ่มเติม

• ไม่แถมหูฟัง

สำหรับ OPPO A83 2018 รุ่นแรม 4GB ความจุตัวเครื่อง 64GB วางจำหน่ายแล้วในราคา 7,490 บาท (จากราคา 7,990 บาท) มี 2 สี ได้แก่ น้ำเงิน และแดง ที่ OPPO Brand Shop และร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ นอกจากนี้ก็ยังมีรุ่นแรม 3GB ความจุตัวเครื่อง 32GB และแรม 2GB ความจุตัวเครื่อง 16GB วางจำหน่ายด้วย

ตารางสรุปสเปค OPPO A83 2018 ทั้ง 3 เวอร์ชั่น

แรม 4GB + 64GB	แรม 3GB + 32GB	แรม 2GB + 16GB
ชิพ MT6763T	ชิพ MT6763T	ชิพ MT6763T
กล้องหลัง 13 MP	กล้องหลัง 13 MP	กล้องหลัง 13 MP
กล้องหลัง 8 MP	กล้องหลัง 8 MP	กล้องหลัง 8 MP
โหมด Ultra-HD	โหมด Ultra-HD	ไม่รองรับ
หน้าจอ 5.7 นิ้ว HD+	หน้าจอ 5.7 นิ้ว HD+	หน้าจอ 5.7 นิ้ว HD+
มีสีแดง และฟ้า	มีสีทอง ดำ และฟ้า	มีสีทอง และแดง
6,990 บาท	6,490 บาท	4,990 บาท