รวม 4 จุดเด่นที่คาดว่า iPhone 16 Pro จะมีเหนือ iPhone 16 ในปีนี้!

iPhone 16 เตรียมเปิดตัวทางการในวันที่ 10 กันยายนนี้แล้ว ข้อมูลส่วนใหญ่ที่ลือกันมาก็น่าจะพอสรุปสเปคหรือไฮไลท์บางอย่างที่ปีนี้ Apple จะมอบให้เราได้บ้างแล้ว ซึ่งปีนี้ก็คาดว่าจะมี 4 รุ่นเหมือนเดิม และทุกปีก็ต้องมีคำถามสำหรับผู้ใช้ว่า เลือกรุ่นไหนดีล่ะแบบนี้ ? วันนี้เราก็จะมาสรุป 4 จุดเด่นที่รุ่น Pro มีเหนือรุ่นปกติจากข่าวลือทั้งหมด มีอะไรบ้าง มาดูกันเลย!

1.iPhone 16 Pro มีหน้าจอใหญ่กว่า!

เรื่องแรกก็คือขนาดหน้าจอครับ ตามข่าวลือส่วนใหญ่ระบุว่า iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max ในปีนี้จะมีการเพิ่มขนาดหน้าจอขึ้นจากเดิม 6.1″ มาเป็น 6.3″ และ 6.7″ มาเป็น 6.9″ ตามลำดับ ซึ่งบน iPhone 16 กับ iPhone 16 Plus คาดว่าจะยังมาพร้อมขนาดจอเท่าเดิมคือ 6.1″ กับ 6.7″ ครับผม

นอกจากนี้ยังมีเรื่อง Refresh rate หรือความลื่นไหลในการตอบสนองที่ iPhone 16 Pro จะได้มาแบบ ProMotion 120Hz ในขณะที่ iPhone 16/16 Plus จะได้มาแค่ 60Hz เหมือนเดิมด้วยนะ!

2.ดีไซน์ไทเทเนียม

เรื่องที่ 2 ก็คือวัสดุและดีไซน์ที่ iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max จะได้วัสดุเป็นไทเทเนียมเช่นเดียวกับ iPhone 15 Pro ของปีที่แล้ว ซึ่งวัสดุนี้น่าจะยังจำกัดอยู่แค่บนรุ่น Pro ไม่ถูกใช้กับรุ่น iPhone 16 ปกติหรือ 16 Plus ในปีนี้ครับ

3.กล้องที่อัปเกรดขึ้น

กล้องก็จะเป็นอีกจุดที่ iPhone 16 Pro นั้นได้อัปเกรดเหนือกว่า iPhone 16 ในปีนี้เช่นกัน เพราะตามข่าวลือระบุว่า iPhone 16 Pro และ 16 Pro Max จะได้กล้องชุดเดียวกัน มีกล้อง Ultra Wide ที่อัปเกรดขึ้นมาเป็น 48MP (จากเดิม 12MP) และมีกล้อง Tele 5x ทั้งคู่ด้วย

ในขณะที่ iPhone 16 และ 16 Plus จะยังคงได้กล้องหลัง 2 ตัวเหมือนเดิม และกล้อง Ultra Wide จะยังมีความละเอียด 12MP ไม่ได้อัปเกรดมาเป็น 48MP ครับ

4.ประสิทธิภาพที่แรงกว่า

และปิดท้ายเรื่องประสิทธิภาพ แม้ข่าวลือจะระบุว่า iPhone 16 ทั้ง 4 รุ่นจะได้ชิป Apple A18 ทั้งหมด แต่ในรุ่น 16 Pro กับ 16 Pro Max ก็จะได้ชิปที่มีชื่อ “Pro” ตามท้ายด้วย นั่นเท่ากับว่าความแรงและ GPU จะมากกว่ารุ่นปกติ (ลือว่าจะรุ่นปกติมี 5-Core GPU รุ่น Pro มี 6-Core GPU)

นอกจากนี้ในเรื่องการประมวลผล AI ชิป A18 Pro ของ iPhone 16 Pro ก็จะได้ Neural Engine ที่ทรงพลังกว่าด้วยเช่นกันครับ

ส่วนจุดที่น่าจะมีเหมือนกันในปีนี้ก็คือเรื่องปุ่ม Action และ ปุ่ม Capture ที่จะมีมาให้ทั้ง 4 รุ่นเลยด้วย ทั้งนี้ต้องย้ำอีกครั้งว่าข้อมูลทั้งหมดนี้ “รวบรวมมาจากข่าวลือและข้อมูลที่หลุดมาก่อนเท่านั้น” ยังไม่ใช่ข้อมูลทางการจาก Apple เปิดตัวจริงอาจแตกต่างจากที่สรุปนี้อีกก็เป็นได้ครับ

ที่มา : 9to5mac