News
10 หูฟังไร้สาย ราคาไม่เกิน 1,000 บาท น่าซื้อ น่าใช้ ในปี 2022
แนะนำ 10 หูฟังไร้สาย TWS ราคาไม่เกิน 1,000 บาท มาพร้อมดีไซน์เท่ๆ ทรงสปอร์ต น่าซื้อ น่าใช้ รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ทุกรุ่นผ่าน Bluetooth ทางทีมงาน iphone-droid.net ได้รวบรวมมาให้แล้ว ในปี 2022

หูฟังไร้สาย ราคาไม่เกิน 1,000 บาท ปี 2022
- Xiaomi Haylou GT1 Pro
- AUKEY EP-T21P
- AIWA AT-X80E
- KZ SKS Hybrid
- Jlab GO Air POP
- DIZO GoPods D
- QCY-T13
- Xiaomi Air2 SE
- SoundPEATS
- Edifier X2
สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปแล้ว การเลือกซื้อหูฟังที่มีราคาไม่แพงมากนักก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี และปัจจุบันหูฟังไร้สายก็มีราคาค่อนข้างประหยัด มีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้ได้ใช้งานกันเพียบ แถมบางรุ่นยังมีระบบควบคุมด้วยระบบสัมผัสอีกด้วย
Xiaomi Haylou GT1 Pro

Xiaomi Haylou GT1 Pro หูฟังไร้สายทรงสปอร์ตสำหรับการเล่นเกมด้วย Gaming Mode ที่มีความหน่วงต่ำและให้ระบบเอฟเฟ็กต์เสียงรอบทิศทาง อีกทั้งมีแบตเตอรี่ขนาด 800mAh ใช้งานได้ต่อเนื่องนานสูงสุด 26 ชั่วโมง พร้อมแสดงปริมาณแบตเตอรี่คงเหลือ และสั่งงานได้ด้วยการสัมผัสที่ตัวหูฟัง
ตัวหูฟังมีน้ำหนักเบาเพียง 3.9 ก. ทำให้การสวมใส่รู้สึกสบายมากขึ้น สามารถทนน้ำหรือเหงื่อในระดับ IPX5 และรองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.0 ใช้งานได้ทั้งกับ iPhone, iPad และ Android รวมไปถึงสั่งงานด้วยเสียงกับ Xiaoai, Siri และ Google Assistant
AUKEY EP-T21P

หูฟังไร้สาย AUKEY EP-T21P พร้อมไดรเวอร์แบบไดนามิกขนาด 6 มม. และการแยกสัญญาณรบกวนให้เสียงที่ชัดเจน รับสายและวางสายฟังเพลงและเข้าถึงผู้ช่วยเสียงโดยการแตะที่หูฟังแทนการยกหูโทรศัพท์เมื่ออยู่ในระยะการเชื่อมต่อ โดยรองรับ Bluetooth 5.0 และแบตเตอรี่ใช้งานได้นานสูงสุด 30 ชั่วโมง
ตัวหูฟังสามารถทนน้ำการกันน้ำมาตรฐาน IPX6 เหมาะสำหรับทุกสภาวะ ทนต่อเหงื่อในการออกกำลังกายที่หนักหน่วงและทุกสภาพอากาศ แถมมาพร้อมเคสชาร์จขนาดเล็กและน้ำหนักเบาเพื่อความสะดวกในการพกพาหูฟังและชาร์จได้ทุกที่ทุกเวลา
AIWA AT-X80E

หูฟังไร้สายแบบอินเอียร์ AIWA AT-X80E มีดีไซน์น้ำหนักเบา ทนน้ำทนเหงื่อได้ ควบคุมผ่านระบบสัมผัส สามารถตอบสนองได้อย่างแม่นยำ มีสาย USB Type-C แถมมาให้ภายในกล่อง และรองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.0 รองรับทั้งระบบ iOS และ Android
ตัวหูฟังมีกำลังขับ 3mW ให้เบสหนักแน่น เสียงดังกระหึ่ม สวมใส่สบายในทุกสรีระ สามารถกรองเสียงรบกวนภายนอกได้ และรองรับการสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Siri, Google Assistant ส่วนแบตเตอรี่ที่ตัวหูฟังข้างละ 38mAh และเคสชาร์จ 200mAh
KZ SKS Hybrid

เป็นหูฟังไร้สายที่ใช้ชิป Qualcomm QCC3040 ทำให้รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.2 โดยตัวหูฟังมีน้ำหนักเบาข้างละ 5 กรัมเท่านั้น เมื่อรวมกับเคสชาร์จก็จะมีน้ำหนักเพียง 45 กรัม พกพาติดตัวไปได้ทุกที่ เหมาะกับการใส่ออกกำลังกายหรือฟังเพลงชิวๆ ระหว่างเดินทาง
ตัวหูฟังยังมีดีไซน์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใครอีกด้วย รองรับการแตะสั่งงานด้วยการสัมผัสที่ตัวหูฟัง และสำหรับการเล่นเกมก็มีระบบปรับความหน่วงให้ต่ำเพื่อการตอบสนองเอฟเฟ็กต์เสียงที่รวดเร็วมากขึ้น
Jlab GO Air POP

GO Air POP มีแบตเตอรี่ที่ให้เราใช้งานได้ยาวนานถึง 8 ชั่วโมงในเอียร์บัดแต่ละข้าง และอีก 24 ชั่วโมงจากเคสชาร์จ (รวมกันก็ใช้งานได้ยาวๆ 32 ชั่วโมง) รองรับการเชื่อมต่อแบบคู่ ใช้เอียร์บัดแยกกันหรือใช้ทั้งสองอย่างร่วมกันก็ทำได้ แถมมีไมโครโฟน MEMS ในตัวช่วยให้รับสายได้ทันที
ด้านซอฟต์แวร์ตัวหูฟังก็สามารถปรับเสียงได้ง่ายๆ โดยการแตะผ่านเซ็นเซอร์สัมผัสที่ตัวหูฟัง สามารถเลือกการตั้งค่าเสียงได้ 3 โหมด ได้แก่ JLab Signature, Balanced และ Bass Boost โดยไม่ต้องตั้งค่าผ่านแอปพลิเคชั่นให้ยุ่งยาก
DIZO GoPods D

DIZO GoPods D หูฟังตัวนี้จริงๆ ก็เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่อยู่ใน realme TechLife มาพร้อมไดรเวอร์ขนาดใหญ่ 10 มม. ให้เสียงเบสที่แน่นและหนักแน่นยิ่งขึ้น แถมมีไดอะแฟรมคอมโพสิตโพลีเมอร์ TPU + PEEK ช่วยให้เสียงเบสที่ลึกขึ้นและให้ความรู้สึกสเตอริโอที่ชัดเจนขึ้น
ตัวหูฟังแต่ละข้างมีแบตเตอรี่ 40mAh และเคสสชาร์จ 400mAh ใช้งานได้รวมกันนานสูงสุด 20 ชั่วโมง สามารถทนน้ำได้ที่ระดับ IPX4 และรองรับการแตะสัมผัสที่ตัวหูฟังเพื่อสั่งงานได้ เช่น สัมผัสหูฟังทั้ง 2 ข้างค้างไว้ 2 วินาที เพื่อเข้าหรือออกจากโหมดเกม เป็นต้น
QCY-T13

QCY-T13 เป็นหูฟังที่รองรับการทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟน Android 6.0 ขึ้นไป และ iOS 11 ขึ้นไป โดยการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.1 และใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนาน 5 ชั่วโมงต่อการชาร์จเต็ม และเคสชาร์จที่ให้มาก็สามารถชาร์จเพื่อใช้งานต่อได้รวม 40 ชั่วโมง
ตัวหูฟังมีไมโครโฟนทั้งหมด 4 ตัว สำหรับช่วยการตัดเสียงรบกวนและให้เสียงสำหรับการสนทนาโทรศัพท์ที่คมชัดมากขึ้น มาพร้อมไดรเวอร์ขนาดใหญ่ 7.2 มม. เลือกโหมดการทำงานได้ผ่านแอปพลิเคชั่น หรือสั่งงานผ่านระบบสัมผัสที่ตัวหูฟังก็ได้เช่นกัน
Xiaomi Air2 SE

Xiaomi Air2 SE ตัวหูฟังสามารถใช้งานได้นานต่อเนื่อง 5 ชั่วโมง แต่เมื่อใช้งานร่วมกับเคสชาร์จสามารถใช้งานได้สูงสุด 20 ชั่วโมง และเคสสามารถชาร์จเต็มใน 1.5 ชั่วโมง ผ่านพอร์ต USB Type-C รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.0 ใช้งานได้ทั้ง iPhone, iPad และ Android
ยังมีฟีเจอร์ฉลาดๆ สั่งงานได้ด้วยการแตะสัมผัสที่ก้านหูฟัง สามารถเปิด/ปิดเพลง รับสายและการใช้งานต่างๆได้ การใช้งานสะดวกสบาย หูฟังจะหยุดเล่นเพลงหลังจะได้ถอดหูฟังออก เปิดเล่นเพลงหลังใส่กลับหูฟัง แต่ไม่สามารถใช้กับการดูหนัง
SoundPEATS

SoundPEATS หูฟังเอียบัดไร้สายสำหรับการออกกำลังกาย รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 ทนน้ำได้ที่ระดับ IPX7 และใช้งานได้กันยาวๆ ถึง 20 ชั่วโมง มีไดอะแฟรมขนาด 6 มม.ในตัว ให้เสียงที่คมชัด
ตัวหูฟังมีเซ็นเซอร์ระบบสัมผัสสำหรับแตะสั่งงานในการเปลี่ยนแทร็ก ปรับระดับเสียง การจัดการการโทร และการเปิดใช้งานผู้ช่วยเสียง โดยตัวเคสชาร์จมีแบตเตอรี่ในตัว 380mAh และน้ำหนักรวมกันทั้งหมดอยู่ที่ 33 กรัม พกพาติดตัวได้สะดวก
Edifier X2

Edifier X2 หูฟังที่มาพร้อมการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.1 มีเกมโหมดสำหรับลดความหน่วงเสียงเกม ดีไซน์สำหรับการสวมใส่และมีก้านยื่นออกมาเพื่อรับเสียงให้ดีมากขึ้น โดยตัวหูฟังทนน้ำทนฝุ่นมาตรฐาน IP54 และใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 28 ชั่วโมง
ตัวหูฟังยังมีระบบตัดเสียงรบกวนระหว่างการโทรศัพท์ สามารถสลับการเชื่อมต่อกับหูฟังเพียงข้างเดียวหรือสองข้าง และแตะสั่งงานที่หูฟังได้ ไม่ว่าจะเป็นสั่งให้เล่นเพลง ข้ามเพลง รับสายหรือวางสาย เป็นต้น
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ หูฟังไร้สาย ราคาไม่เกิน 1,000 บาท ประจำเดือนมกราคม 2022 ลองเลือกรุ่นที่เหมาะกับการใช้งานของเราและดีไซน์ที่ถูกใจดูนะครับ