รีวิว Huawei GR5 ดีไซน์สวยหรู ฟีเจอร์ครบครัน ในราคาย่อมเยา

Huawei GR5 เป็นสมาร์ทโฟนสเปคระดับกลาง ฟีเจอร์ครบครันไม่แพ้รุ่นเรือธง ด้วยดีไซน์ตัวเครื่องอลูมิเนียม พร้อมระบบความปลอดภัยด้วยเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และกล้องถ่ายรูปขนาด 13 ล้านพิกเซล

สรุปข้อมูล และสเปค Huawei GR5 (Huawei KII-L22)

• ราคาเปิดตัว 8,990 บาท (กุมภาพันธ์ 2559)
• ขนาดตัวเครื่อง 151.3 x 76.3 x 8.15 มม.
• น้ำหนัก 158 กรัม
• 3G / 4G LTE ทุกเครือข่ายในไทย
• 2 ซิมการ์ด (Micro SIM + Nano SIM)
• หน้าจอแสดงผล 5.5 นิ้ว Full HD 1080p
• รันระบบปฏิบัติการ Android 5.1.1 Lollipop ครอบทับด้วย Emotion UI 3.1
• ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 616 MSM8939v2
• ซีพียู Octa-core (Quad-core 1.5GHz Cortex A53 และ Quad-core 1.2GHz Cortex A53)
• จีพียู Adreno 405
• แรม 2 GB
• ความจำภายในตัวเครื่อง 16 GB เพิ่มได้ด้วย microSD card สูงสุด 128 GB
• กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล แฟลช LED
• กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
• รองรับ Wi-Fi 802.11 b/g/n, Bluetooth 4.1
• รองรับระบบ GPS, A-GPS
• แบตเตอรี่ 3,000 mAh ถอดเปลี่ยนเองไม่ได้

 

ดีไซน์ ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล

Huawei GR5 สมาร์ทโฟนที่มีความพรีเมียมในตัว เจาะกลุ่มตลาดวัยรุ่นยุคใหม่และวัยทำงานด้วยดีไซน์ตัวเครื่องทำมาจากอะลูมิเนียม ลงลายฝาหลังแบบขนแปรงขัด และมีความเงาเมื่อแสงตกกระทบ

GR5 มีความหนา 8.15 มม. อาจจะดูหนาไปหน่อยหากเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในปัจจุบันที่เน้นความบาง ซึ่งขอบด้านข้างตัวเครื่องจะสูงกว่าแผงด้านหน้าตัวเครื่องเล็กน้อย โดยภาพตัวของดีไซน์ไม่ต่างไปจากรุ่นอื่น ๆ ของ Huawei มากนัก

 

หน้าจอของ GR5 มีขนาด 5.5 นิ้ว IPS TFT ความละเอียด 1080 x 1920 พิกเซล บริเวณเหนือหน้าจอมีเลนส์กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และช่องลำโพงสำหรับเสียงสนทนา

 

ล่างหน้าจอมีโลโก้ HUAWEI ส่วนปุ่มนำทางจะอยู่บนหน้าจอ

 

ขอบด้านบนตัวเครื่องมีช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม. และไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน

 

ขอบด้านล่างมีช่องไมโครโฟน, พอร์ตเชื่อมต่อขนาด micro USB และช่องลำโพงเสียงมัลติมีเดีย

 

ขอบด้านขวามีปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่ม Power สำหรับปิด/เปิดหน้าจอ หรือปิด/เปิดตัวเครื่อง

 

ขอบด้านซ้ายมีช่องใส่ซิมจำนวน 2 ช่อง และช่องสำหรับ microSD Card แยกต่างหาก ทำให้รุ่นนี้ใส่ได้ 2 ซิม พร้อมกับ microSD card

 

ด้านหลังมีผิวเงาลายขนแปรงขัด ฝาหลังแกะเปิดไม่ได้ ภายในมีแบตเตอรี่ขนาด 3,000 mAh

 

เลนส์กล้องหลังมีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล มีลักษณะนูนขึ้นเหนือฝาหลัง และมีแฟลช LED

 

ถัดลงมาเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วที่สามารถสแกนได้ทุกมุมแบบ 360 องศา และนิ้วเปียกชื้นก็สามารถสแกนได้ นอกจากนี้ก็สามารถแตะสแกนนิ้วได้เลย ไม่ต้องกดเปิดหน้าจอก่อน

 

อินเตอร์เฟซ และฟังก์ชั่นการทำงาน

Huawei GR5 รันระบบปฏิบัติการ Android 5.1.1 Lollipop ครอบทับด้วย EMUI เวอร์ชั่น 3.1 ที่มีหน้าตาแบบเรียบ ๆ เฉดสีไอคอนต่าง ๆ ไร้แสงเงา โดยในหน้าล็อคสกรีนสามารถปลดล็อกเข้าใช้งานกล้องถ่ายรูปได้ด้วย นอกจากนี้ขณะปลดล็อคหน้าจอยังเพิ่มความสวยงามด้วยการจางหน้าจอล็อคตามนิ้วที่ลาก

การปรับแต่งภาพในหน้าล็อกสกรีนก็สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยการปัดขอบด้านล่างขึ้นในหน้าล็อคสกรีนจะมี Lockscreen quick โผล่ขึ้นมา แล้วเลือกเมนู “หน้าปก” ซึ่งสามารถเพิ่มรูปภาพได้เอง และไม่เพียงแต่สามารถตั้งค่าภาพล็อคสกรีนได้ ยังสามารถเรียกใช้งานเครื่องบันทึกเสียง, เครื่องคิดเลข, ไฟฉาย และกล้องถ่ายรูปได้

 

การจัดการหน้าจอหลักหรือหน้าโฮมสามารถเพิ่มหน้าโฮม, เปลี่ยนวอลเปเปอร์, เพิ่มวิตเจ็ด, เปลี่ยนเอฟเฟ็กการเลื่อนหน้าจอ โดยเมื่อปัดหน้าจอลงจะมีเมนูค้นหา และแสดงรายการแอพพลิเคชั่นที่ใช้งานล่าสุด ซึ่งมี Huawei Swype เป็นคีย์บอร์ดที่มากับเครื่อง

 

การแจ้งเตือนจะแสดงรายการแบบไทม์ไลน์ เลือกแตะที่รายการเพื่อเปิดู หรือปัดซ้าย/ขวาเพื่อลบกาาแจ้งเตือน และส่วนของแผงควบคุม Controal Panel

 

Huawei มีระบบธีมให้เลือกเปลี่ยนหลากหลายแบบ เผื่อใครเบื่อหน้าตาเดิม ๆ ก็สามารถเข้าไปดาวน์โหลดและเปลี่ยนใช้งาน ธีมดาวน์โหลดฟรีครับ

 

เมื่อกดปุ่ม Task switcher หรือ Recent App (ปุ่มขวาสุด) จะแสดงรายการแอพพลิเคชั่นที่เปิดใช้งานอยู่ สามารถปัดที่รายการแต่ละอันเพื่อปัดหรือปัดด้านล่างขึ้นเพื่อปิดการใช้งานทั้งหมด

 

Huawei GR5 รองรับการเชื่อมต่อเครือข่ายไร้สายทั้ง 2G/GPRS/EDGE, 3G และ 4G LTE รองรับ LTE Cat. 4 ความเร็วดาวน์โหลดสูงสุด 150 Mbps ซึ่งใช้งาน 4G ในไทยได้ โดยช่องใส่ซิมทั้ง 2 ช่องรองรับเครือข่ายทั้ง 3G และ 4G แต่ต้องเลือกเปิดใช้งานว่าจะให้ใช้งานที่ซิมตัวใดตัวหนึ่งแล้วอีกซิมจะเป็น 2G อัตโนมัติ สามารถสับเปลี่ยนได้จากเมนูตัวเครื่อง

 

GR5 มีแบตเตอรี่ชนิด Li-Po ขนาดความจุ 3,000 mAh ฝังมากับตัวเครื่อง มีโหมดสำหรับจัดการพลังงานให้เลือกใช้งานด้วย ได้แก่ โหมดปกติ/โหมดอัจฉริยะ จะมีการปรับการทำงานของซีพียูและจัดการรวมถึงปิดการทำงานเบื้องหลังด้วย ซึ่งก็ใช้งานฟังก์ชั่นได้ปกติทุกผังก์ชั่นแต่จะช่วยยืดระยะการใช้งานได้ยาวนานขึ้น

โหมดประหยัดพลังงานขึ้นสูง จะใช้งานได้เฉพาะฟังก์ชั่นพื้นฐาน เช่น การโทร ข้อความ เป็นต้น และหน้าจอแสดงผลจะเปลี่ยนเป็นขาวดำเพื่อแลกกับการยืดระยะเวลาให้ใช้งานได้นานขึ้น เหมาะสำหรับยามฉุกเฉินที่ไม่สามารถหาที่ชาร์จแบตได้

 

ระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือของ Huawei GR5 เป็นเวอร์ชั่นรุ่นใหม่ตัวเดียวกับรุ่นเรือธง รองรับการจดจำได้สูงสุด 5 ลายนิ้วมือ ซึ่งจุดเด่นของระบบลายนิ้วมือในรุ่นนี้สามารถตั้งค่าให้แต่ละลายนิ้วมือสามารถแตะปลดล็อคเข้าใช้งานแอพพลิเคชั่นนั้น ๆ ได้ทันที อีกทั้งนิ้วเปียกก็ปลดล็อคได้ แต่ต้องแตะหนักขึ้นเพื่อให้ลายนิ้วมือสัมผัสกับตัวเซ็นเซอร์

 

ฟีเจอร์การควบคุมการเคลื่อนไหว ได้แก่

• พลิก : คว่ำหน้าจอเพื่อปิดเสียงเรียกเข้า หรือเสียงปลุก
• เขย่า : เขย่าเพื่อจัดเรียงไอคอนหน้าโฮมใหม่
• แตะสองครั้ง : เป็นการเคาะหน้าจอ 2 ครั้งเพื่อเปิดหน้าจอ
• วาด : เป็นการกำหนดการวาดตัวอักษรบนหน้าจอขณะปิดอยู่ เพื่อปลดล็อคหน้าจอเข้าใช้งานแอพนั้น ๆ ตามการกำหนดไว้

 

ปุ่มนำทางด้านล่างสามารถปรับสลับตำแหน่งหรือเพิ่มเมนูเรียกดูการแจ้งเตือนได้

 

การใช้งานแบบมือเดียว เป็นการลดขนาดการแสดงผลให้เป็นหน้าต่างขนาดเล็กลง สามารถใช้งานมือเดียวได้ และรองรับการลดขนาดแป้นพิมพ์ รวมไปถึงแป้นตัวเลขในเมนูการโทรด้วย

 

แผงปุ่มไอคอนลัด เป็นการเปิดใช้งานไอคอนที่รวมไอคอนปุ่มนำทางไว้ในปุ่มเดียวและปุ่มนี้จะลอยอยู่บนหน้าจอทุกหน้า

 

ผลทดสอบคะแนน Benchmark และประสิทธิภาพการทำงาน

Huawei GR5 รันระบบปฏิบัติการ Android 5.1.1 Lollipop ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 616 MSM8939v2 ซีพียู 64-bit Octa-core (Quad-core 1.5GHz Cortex A53 และ Quad-core 1.2GHz Cortex A53) กับจีพียู Adreno 405 และแรม 2 GB

ผลการทดสอบ AnTuTu 6.0.4 ในโหมด 64-bit ซึ่งเป็นการทดสอบการเข้าถึงการทำงานของแรม และประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยประมวลผลกราฟิกหรือจีพียู ทำคะแนนรวมได้ 35,516 คะแนน คะแนนถือว่าอยู่ในระดับกลาง ๆ

 

ทดสอบด้วย Geekbench 3 เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการทำงานและการประมวลผลและหน่วยความจำแรม การทดสอบนี้จะทำการประมวลออกมาเป็นตัวเลขแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ Single-Core และ Multi-Core หากได้คะแนนยิ่งสูงประสิทธิภาพการทำงานจะยิ่งดี โดยผลทดสอบของ Huawei GR5 ทำคะแนน Single-Core ได้ 701 และ Multi-Core ทำได้ 3,030 คะแนน

 

กล้องถ่ายรูป

Huawei GR5 มีกล้องถ่ายรูปด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล สามารถแยกจุดวัดแสงออกจากจุดโฟกัสได้ ซึ่งฟีเจอร์นี้ช่วยได้มากเวลาถ่ายภาพเมื่อเลือกจุดโฟกัสแล้วแต่แสงไม่ได้หรือมืดเกินไป และถ่ายภาพได้ขนาดสูงสุด 4160 x 3120 พิกเซล (ประมาณ 12.98 ล้านพิกเซล) ในอัตราส่วน 4:3

 

โหมดถ่ายรูปที่มีให้เลือกใช้งาน ได้แก่ พาโนรามา, HDR, โฟกัสทั้งหมด, ภาพที่ดีที่สุด, ลายน้ำ, สมุดภาพ, อาหารน่าอร่อย (Good Food) และโหมดหน้าสวย ส่วนโหมดวิดีโอนอกจากโหมดอัตโนมัติแล้ว ได้แก่ สโลว์-โม และหน่วงเวลา (วิดีโอแบบเร่งความเร็ว)

 

กล้องถ่ายรูปรองรับการแนบตำแหน่งแผนที่ลงในภาพถ่าย, เลือกแหล่งจัดเก็บรูปภาพได้, ฟังก์ชั่นเพอร์เฟคเซลฟี่, ตรวจจับรอยยิ้ม และระบบติดตามโฟกัสวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่

 

อีกหนึ่งลูกเล่นของกล้องถ่ายรูปคือการใส่ฟิลเตอร์ก่อนถ่ายภาพก็มีให้เลือกใช้งานเช่นกัน ซึ่งสามารถดูตัวอย่างได้ก่อนกดถ่ายภาพ

ตัวอย่างภาพถ่าย

 

สรุปจุดเด่น

• ตัวเครื่องอะลูมิเนียม ดีไซน์สวยงาม หน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว คมชัดระดับ Full HD ในราคาที่จับต้องได้
• ใช้งาน 2 ซิมการ์ด รองรับเครือข่าย 3G / 4G LTE ทุกเครือข่ายในไทย อีกทั้งยังแยกช่องใส่ microSD card มาให้ด้วย
• รันระบบปฏิบัติการ Android 5.1.1 Lollipop ครอบทับด้วย Emotion UI 3.1
• ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 616 MSM8939v2 Octa-core 1.5GHz
• กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล แฟลช LED และกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
• รองรับ Wi-Fi 802.11 b/g/n, Bluetooth 4.1, GPS, A-GPS
• ระบบสแกนลายนิ้วมือทำงานได้รวดเร็ว
• แบตเตอรี่ 3,000 mAh

จุดสังเกตเพิ่มเติม

• ไม่รองรับระบบชาร์จเร็ว และแบตเตอรี่ถอดเปลี่ยนเองไม่ได้
• ในระดับราคาเดียวกัน มีหลายรุ่นจากแบรนด์จีนที่มีสเปคดีกว่า

ขอบคุณ หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย)